ตำรวจไทยใจดี

สวัสดีค่ะ ดิฉันเป็นผู้หญิงซึ่งนั่งข้างคนขับในคลิปที่จะให้ดูดังต่อไปนี้ (เรานั่งรถไปสามคนค่ะ มีคุณแม่แฟนนั่งหลัง)

เรื่องราวเป็นตามคลิป ส่วนเรื่องในบันทึกประจำวันนั้นต่างออกไปนิดหน่อย จะค่อยๆเล่าไปตามลำดับนะคะ 5 สิงหาคม  2559

เวลาประมาณ 19.50 น. ดิฉันนั่งรถไปกับแฟนตามถนนประชาอุทิศ เราขับตามรถเก๋งคันหนึ่งซึ่งมีพฤติกรรมขับช้าๆ ไม่สามารถเร่งแซงได้

ถนนเป็น 4 เลน ตามรูปค่ะ ต่อมารถคันนั้นหักออกขวากระทันหันแล้วเร่งจากไป ทำให้มองเห็นแท๊กซี่คันหนึ่งซึ่งกำลังค่อยๆถอยหลัง

แฟนดิฉันจอดรถและบีบแตรยาว ทำให้คนละแวกนั้นหันมามองกัน


รถแทกซี่ดังกล่าวไม่ได้เบรคแม้แต่น้อย แต่ถอยเข้าเลนส์ที่สองที่พวกเราจอดอยู่และชนอย่างรวดเร็ว

บุคคลตามคลิปลงมากล่าวหาว่าฝั่งแฟนดิฉันเป็นผู้ขับรถชนท้าย ทั้งยังยั่วยุให้ลงไปเคลียร์ โดยบอกว่าคนรวยทำอะไรก็ได้ จึงรังแกพวกเค้า

ผู้ขับแท็กซี่หายไปจากที่เกิดเหตุ ทิ้งรถเอาไว้ ทำให้ฝั่งดิฉันต้องรอประกันและตำรวจมาที่เกิดเหตุ รวมทั้งลงไปโบกให้สัญญาณกับรถที่มาด้านหลัง

ขณะที่รอตำรวจและประกันกว่าครึ่งชั่วโมงนั้น ผู้หญิงซึ่งลงมากล่าวหาว่าฝั่งดิฉันเป็นผู้ขับชน ก็มาเคาะกระจกเป็นระยะๆ เพื่อให้ลงไปเคลียร์

(มาตอนนี้เพิ่งนึกแปลกใจ....แฟนเราก็ลงไปโบกรถ ถ่ายรูป และโทรเรียกประกันอยู่นอกรถแท้ๆ ทำไมถึงไม่ไปเคลียร์ ถ้าต้องการเคลียร์จริงๆ)

เมื่อดิฉันและแม่ไม่ยอมลงจากรถ ซึ่งแฟนได้สั่งให้ล็อคประตูเอาไว้ ผู้หญิงคนนั้นจึงไปนอนอยู่ข้างทาง ริมฟุตบาต

ตำรวจมาถึงพร้อมกล่าวว่าคู่กรณีถึงโรงพักนานแล้ว มีเพียงฝั่งดิฉันเท่านั้นที่ไม่ยอมจบหรือยอมแยก เมื่อมองไปข้างทางผู้หญิงคนนั้นก็หายไปแล้ว

เมื่อถึงโรงพักจึงทราบว่าแทกซี่ดังกล่าวนั้น รู้จักกับตำรวจที่นั่น ตำรวจพยายามสอบถามข้อมูล ซึ่งตอนแรกก่อนเข้าโรงพักนั้น คู่กรณีกล่าวว่า

"ผมไม่เคยชนใครมาก่อนเลย....." แต่เมื่อประกันมาถึง และทางฝั่งเราได้นำคลิปไปเปิดให้ร้อยเวรดู ทางฝั่งคู่กรณีกล่าวว่า ตัวเองไม่ได้เป็นผู้ขับ

แต่เค้าทะเลาะกับภรรยา และภรรยาก็มานั่งตัก แต่เป็นผู้ขับถอยชน ซึ่งทางตำรวจได้กล่าวว่า ถ้าเช่นนั้นเค้าก็ยังเป็นฝ่ายผิดอยู่ดี และทำลายทรัพย์สิน

ของผู้อื่น แต่กลับไม่ยอมรับผิดชอบหรือเรียกประกันอะไรเลย อย่างนี้ก็ถือว่าประมาท และคู่กรณียังกล่าวด้วยว่า ทั้งตนและภรรยาได้ดื่มสุราก่อนที่

จะมาเกิดเหตุการณ์ดังคลิป ร้อยเวรสั่งให้เป่าแอลกอฮอล์ แต่ว่า....เครื่องเป่าเสีย คู่กรณีจึงต้องไปตรวจเลือด ที่โรงพยาบาลและรอผลเจ็ดวัน

จากนั้นจึงมาลงบันทึกประจำวันดังภาพ แต่รายละเอียดในบันทึกประจำวันนั้นเนื่องจากแนบรูปไม่เป็น จึงขอคัดออกมาเฉพาะช่วงนะคะ

เข้ามาแก้ไขลบรูปให้นะคะ ไม่ได้มีเจตนาให้ใครเดือดร้อนเพียงแค่ต้องการให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ และนำเสนอคลิป เพื่อเตือนให้ระวังตัว

"ทั้งสองฝ่ายมา สน. แจ้งว่า รถยนต์ของคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายเฉี่ยวชนกัน ได้รับความเสียหายไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

รตอ....สอบถามคู่กรณ๊แล้วได้รับแจ้งว่า ขฯะที่คู่กรณีฝ่ายที่ 1 ขับรถห้างบิ๊กซี  90  เพื่อมุ่งหน้าวัดคู่สร้างไปตามถนนประชาอุทิศ

เมื่อขับมาถึงบริเวณข้างร้านสวาปาม ได้ถูกรถยนต์สาธารณะคันที่คู่กรณีฝ่ายยที่  2 ขับขี่อยู่ข้างหน้า ขับรถถอยหลังชนรถของ

คู่กรณีฝ่ายที่ 1 ทำให้รถทั้งสองคันเสียหาย


สอบถามคู่กรณีฝ่ายที่  2 ยอมรับว่าขณะขับรถอยู่และจอดอยู่กลางถนน เกียร์ออโตเมติกเกิดการชำรุดทำให้รถถอยหลัง

และชนกับรถของคู่กรณีฝ่ายที่  1  เสียหาย และยอมรับผิดว่าเกิดจากความประมาทของตนเอง พนักงานสอบสวนจะได้

นำรถคันดังกล่าวไปตรวจสภาพเพื่อให้ทราบสาเหตุก่อนแล้วจะได้เรียกคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาพบและดำเนินคดีตามกฎหมาย

ต่อไป อ่านให้ฟังแล้วยอมรับว่าถูกต้องจึงลงลายมือชื่อไว้.... "

ร้อยเวรกล่าวกับคู่กรณีว่า ถ้าเป็นเมาแล้วขับจะเป็นเรื่องใหญ่เพราะเป็นคดีอาญาและตอนนี้รณรงค์ด้วย ถ้ารับผิดแต่แรก คงไม่มีปัญหาแล้ว

(แก้ไขข้อความออก เนื่องจากได้มีการพูดคุยกับคุณตำรวจแล้ว)

แม้ว่าฝั่งเราจะแย้งว่าหากไม่มีกล้อง เหตุการณ์นี้คงกลายเป็นประมาทร่วม และฝั่งเราอาจเป็นฝ่ายผิดด้วยซ้ำ นี่อาจคิดได้ว่าเป็นมิจฉาชีพได้เลยนะ

ก็ไม่มีใครพูดอะไร ได้แต่ยิ้มๆตอบกลับมาให้แทน.........

จากเหตุการณ์ครั้งนี้หากฝั่งดิฉันไม่มีกล้อง ก็ไม่แน่ใจเลยว่าจะกลายเป็นอย่างไร สิ่งที่ช่วยพวกเราไว้ในครั้งนี้ก็คือกล้องหน้านั่นเอง

ดิฉันใช้เวลากว่าหนึ่งวันในการขอความช่วยเหลือเพื่อนๆให้ช่วยเบลอหน้าในคลิป เพราะเกรงว่าไม่เบลอหน้าจะมีปัญหา

ขอให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ของทุกคนที่ใช้รถใช้ถนน และติดกล้องกันเถอะค่ะขอบคุณค่ะ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
7 สิงหาคม 2559 : แจ้งความคืบหน้าค่ะ

วันนี้แฟนได้รับโทรศัพท์จากคุณตำรวจความว่า ขอให้ช่วยแก้ข่าวด้วย เนื่องจากเนื้อความที่ดิฉันกล่าวนี้เป็นคนละแง่คนละมุม

ทางตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจกับเรื่องดังกล่าว เพียงแต่รอหลักฐานการตรวจเลือดจากโรงพยาบาล  จากนั้นจึงจะเรียกมาสอบปากคำเพิ่มเติม

เพื่อดำเนินคดีต่อไป  ดิฉันจึงมาแจ้งความคืบหน้า ไว้ ณ.ที่นี้ค่ะ

และขอชี้แจงว่า สิ่งที่โพสต์นี้ มิได้มีเจตนาเพื่อการโจมตี เพียงแต่แสดงความรู้สึกในฐานะประชาชนผู้หนึ่งเท่านั้น

หากมีความคืบหน้า จะมาแจ้งในกระทู้นี้ต่อไป

8 สิงหาคม  2559 เข้ามาแก้ไขกระทู้นี้อีกครั้ง ตอนนี้อย่าเพิ่งว่าคุณตำรวจเค้าเลยนะคะ เค้าทำก็ตามหน้าที่ของเค้า

ในโรงพักเค้าก็ได้ต่อว่าคู่กรณีไปเยอะ เรื่องไม่มีความรับผิดชอบ คำให้การอันไม่สมเหตุสมผลว่าภรรยามานั่งตัก แล้วเป็นผู้ขับ

ตลอดจนทำทรัพย์สินผู้อื่นเสียหายและไม่มีการเรียกประกัน ซึ่งเค้าไม่ชอบพฤติกรรมแบบนี้เลย แล้วตำรวจจึงต้องเรียกให้

ขอให้ทุกคนอ่านอีกแง่มุมหนึ่งก่อนในความเห็นที่ 17 ส่วนแง่มุมของดิฉันนั้นจะมาให้เพิ่มเติมอีกครั้งหลังจากสิ้นสุดคดี

อยากให้ทุกอย่างละเอียดและชัดเจนค่ะ


ขอบคุณค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่