หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] Sequoia National Park ผจญภัยป่าดึกดำดรรพ์กับต้นไม้ที่ใหญ่และอายุยืนที่สุดในโลก
กระทู้รีวิว
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวภูเขา
One Day Trip
พระเจ้าช่วยกล้วยทอด ใครจะไปเชื่ออเมริกาจะร้อนตับแล่บเหมือนเมืองไทยเช่นเมืองที่เราอยู่แบบนี้ เชื่อมั้ยว่าบางวันเกือบ 40และบางวันทะลุ 40 กันเลยทีเดียว ไหนๆก็ร้อนกันซะขนาดนี้ละ
Sequoia National Park คืออุทยานแห่งชาติที่เราจะไปท้าแดดกันในครั้งนี้ แบบเช้ากลับเย็นซะด้วย 6 ชีวิตวัยละอ่อนเหลือน้อย นับอายุแล้วรวมกันเกือบ 300 ก็ไปลุยป่าต้นไม้ยักษ์โบราณที่อายุไม่ต่ำกว่า 2,000 ปี วัยขนาดนี้จะไปดูต้นไม้อายุไม่กี่ปีก็กระไรอยู่ อุทยานแห่งนี้เขาโด่งดังในเรื่องความมหึมาของต้น Red wood สายพันธุ์ Sequoia tree และ General Sherman Tree ต้นไม้ที่ใหญ่และมีอายุยืนยาวที่สุดในโลกและไม่ได้มีแค่ต้นเดียว แต่มีเป็นป่าเลย
เมื่อไปถึงต้องเสียค่าเข้าอุทยานด้วย รถ 1 คันเสีย $30 มอเตอร์ไซค์คันละ $25 ใช้ได้ 7 วัน หรือแบบเที่ยวได้ทั้งปีก็เสีย $50 ภายในอุทยานจะมีจุดท่องเที่ยวรายทาง จุดแรกที่ทุกคนจะได้เจอคือ Tunnel Rock อุโมงค์หินแกรนิตขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ใครผ่านไปมาก็ต้องแวะจอดถ่ายรูปกัน มีทางเดินขึ้นไปยืนบนยอดหินได้ด้วย
ขับรถต่อมาอีกไม่ไกลก็จะถึง Hospital rock ตรงส่วนนี้จะเป็น Picnic area ด้วย ตรงจุดนี้จะมองเห็น Moro Rock หินแกรนิตขนาดใหญ่ที่ดูไปดูมาเหมือนหัวช้างเลย เดินไปนิดหน่อยก็เจอหินขนาดใหญ่ (อีกแล้ว)ในอดีตเคยเป็นที่อาศัยของชาวอเมริกันพื้นเมืองหรืออินเดียแดงไป จะมีภาพเขียนโบราณที่ผนังหินก้อนนี้ และหลุมบนโขดหินที่เขาทำขึ้นไว้ใช้แทนครกเพื่อตำลูกโอ็คสำหรับนำไปประกอบอาหาร และเหตุที่ได้ชื่อนี้เพราะเคยมีนักสำรวจอุทยานแห่งนี้ได้รับบาดเจ็บและชาวอินเดียแดงก็ใช้ถ้ำที่ใต้หินก้อนนี้เป็นที่รักษานักสำรวจคนนั้น จนเขาได้ตั้งชื่อสถานที่แห่งนี้ว่า Hospital rock นั่นเอง ภายในบริเวณนี้มีทางเดินลงไปที่น้ำตกด้วย เสียดายไม่ได้เดินลงไปเพราะทางเดินลงลำบาก
พอเริ่มขับรถลึกเข้าไปก็จะเริ่มเห็นต้นไม้ที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เหมือนถูกโอบล้อมไปด้วยต้นไม้ยักษ์ดึกดำบรรพ์ในยุคจูลาสสิคพารค์ยังไงอย่างงั้นเลย
ที่นี้ก็มาถึง Giant forest museum ตรงนี้จะเป็นจุดรวมของนักท่องเที่ยว เพราะสามารถเดินชมต้น Redwood ที่ยืนต้นอวดศักดา สูงเสียดฟ้ามากมายหลายต้น อีกทั้งยังมีพิพิธภัณฑ์ให้เข้าไปชมประวัติความเป็นมาของที่นี่ได้อีกด้วย
ถัดมาไปต่อกันที่ Auto log ซากต้นไม้ที่ล้มตั้งแต่ปี 1917 ความยาวถึง21 ฟุต ที่รากไม้กลายเป็นประติมากรรมอันสวยงามให้รถเกือบทุกคันต้องแวะจอดและปีนขึ้นไปแอคชั่นถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกกันยกใหญ่
และที่พลาดไม่ได้เลยคือ Moro rock ตั้งแต่ที่ขับรถเข้ามาที่นี่ทุกคนจะต้องเห็นภูเขาลูกนี้ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของที่นี่เลย เขาว่ากันว่าถ้ามาแล้วขึ้นไปไม่ถึงเหมือนมาไม่ถึงที่นี่ เอาก็เอา กะอีแค่บันได 400 ขั้นท่ามกลางอากาศร้อน 40 องศาไปไม่ถึงให้มันรู้ไป ก็ขนาดพ่อลูกคู่นี้กับความรักอันยิ่งใหญ่ของพ่อที่มีต่อลูก ยังยอมแบกลูกที่เดินไม่ได้เดินขึ้นไปสู่ยอดเขาเลย
ในอดีตที่นี่เป็นบันไดไม้ ต่อมาภูมิสถาปนิกของอุทยานก็ได้ออกแบบบันไดหินให้กลมกลืมกับธรรมชาติมากที่สุด ทำเป็นทางขึ้นเพื่อใหชมความงดงามของอุทยานแห่งนี้แบบพาโนรามากันเลยทีเดียว (แก๊งเราไป 6 ถอดใจไม่ขึ้นเลย 1 คน ถอดใจระหว่างทาง 2 เหลือแค่ 3 ขึ้นไปถึงจุดสุดยอด เย้เย้เย้)
และอีกหนึ่งไฮไล์ของที่นี่ก็คือ Tunnel log รถทุกคันจะขับมาที่นี่เข้าแถวรอลอดผ่านอุโมงค์ต้นซาโคยย่ายักษ์ที่ล้มปิดถนนตั้งแต่ปี 1937 และด้วยความชาญฉลาดในการแก้ปัญหาของเจ้าหน้าที่จึงเจาะเป็นอุโมงค์ให้รถวิ่งผ่าน จนกลายเป็นภาพที่ฮิตฮอตของที่นี่กันเลยทีเดียว
ทริปร้อนๆ วันนี้ก็หมดแบบร้อนๆ ไปอีกวัน ตั้งแต่เช้าจรดเย็นทุกรูขุมขนก็ยังรับรู้ถึงไอแดดที่ร้อนระอุอยู่ตลอดเวลา แต่ถึงจะร้อน ป่าจะแล้งไปนิด ก็ยังมีความสวยงามอยู่เสมอ ทุกฤดูมีงามที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะฤดูไหนโลกภายนอกก็ยังคงงดงามอยู่เสมอ
ชื่อสินค้า:
ซาโคยย่า
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
Sequoia National Park ,California. เช้าไป เย็นกลับ สบายๆจากLos Angeles.
Sequoia National Park เขาเล่าว่า ต้น Sequoia เป็นพันธุ์ไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในนี้มีเป็นป่าเลย . National ของอเมริกาส่วนใหญ่จะไม่จัดแต่งอะไรเท่าไหร่ เพราะคนที่เข้าไปก็อยากจะเข้าไปหาธรรมชาติจริงๆ ที่ไม
Mynameis Goog
🌲🌳ต้นไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก (ตามปริมาตร) The General Sherman Tree ยืนตระหง่านท่ามกลางป่า Sequoia ในแคลิฟอร์เนีย🌴🎄
🌲 ต้นไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก (ตามปริมาตร) The General Sherman Tree ยืนตระหง่านท่ามกลางป่า Sequoia ในแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา คือ “สิ่งมีชีวิตแบบลำต้นเดียวที่ใหญ่ที่สุดในโลก” 🌍 แม้จะไม่ใช่ต
เม่าบนยอดดอย
**_18 วัน California – Wyoming – Colorado_** EP1. Sequoia National Park, Maroon Lake
สวัสดีคะทุกคน จากการที่ไม่เคยคิดไม่เคยฝันที่จะไปอเมริกาเลยเพราะว่ามันไกลไม่ชอบนั่งเครื่องบินนานๆ แต่พอได้ลองไปครั้งแรกเมื่อสองปีที่แล้ว กลับเป็นว่าติดใจมากคะ อยากจะไปทุกปี จนสองปีที่ผ่านมาไปมาสามรอบแล
To Travel Is To Live
เลี้ยง "ตั้วเฮีย" กันไหม เตรียมปลดล็อกให้เลี้ยงตั้วเฮียได้ เลี้ยงตั้วเฮียเป็นสัตว์เศรษฐกิจ
เตรียมปลดล็อก “ตั้วเฮีย” เป็นสัตว์เศรษฐกิจ เลี้ยง “ตั้วเฮีย” กันมั้ย? กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชเตรียมปลดล็อก “ตั้วเฮีย” เปิดทางให้สามารถเพาะเลี้ยงขยายพั
ต้นโพธิ์ต้นไทร
🌐"ตัวกินมดซิลกี้" ตัวกินมดที่เล็กที่สุดในโลก แห่งป่าแอมะซอน 🦥
🌐"ตัวกินมดซิลกี้" ตัวกินมดที่เล็กที่สุดในโลก แห่งป่าแอมะซอน 🦥 #ตัวกินมดซิลกี้ (Silky Anteater, Cyclopes didactylus) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีขนาดเล็กที่สุดในตระกูลตัวกินมด 🦥เป็นตัวกิน
เม่าบนยอดดอย
นักล่าปีศาจ ๖
๖ เสียงฝีเท้าหนักกระแทกพื้น ตึง… ตึง… ตึง ดังสะท้อนก้องทั่วผืนป่า ความเงียบสงัดถูกแทนที่ด้วยแรงสั่นสะเทือนที่คืบคลานเข้ามาอย่างเชื่องช้า แต่เต็มไปด้วยอำนาจกดข่ม สมุนปีศาจราวสามสิบตนที
Lady Star 919
Royal National Park - the world's second-oldest national park | พาไปขิงที่อุทยานแห่งชาติที่เก่าแก่อันดับสองของโลก
สวัสดีค่ะ เพื่อน ๆ สำหรับทริปนี้เราก็ดองรีวิวไว้นานเหมือนกันค่ะ เมื่อกระทู้ก่อนนี้เราได้ไปบินทิพย์กันแล้ว กระทู้นี้เราก็ไปเที่ยวทิพย์กันต่อค่ะ คิดถึงบรรยากาศก่อน Covid-19 นะคะ เราสามารถไปไหนมาไหนได้ตา
namkhinggenie
Summer in Kamikochi 2024 Hiking ไป Myojin นอนในอุทยาน Chubu Sangaku National Park ชมวิวเทือกเขาโฮทากะ (Hotaka)
Journey Journal on Kamikōchi (上高地) 2024สวัสดีค่ะเพื่อนๆ... ขออนุญาต เปิดฉากด้วยเจ้าลิงน้อย “ซารุโบโบะ (SARUBOBO / さるぼぼ)” เครื่องรางสุดฮิตของจังหวัดกิฟุ เครื่องรางที่จะนำความโชคดีมาให
Memoriesวันวาน
เดินเขา..นอรเวย์ ...Kjerag, Preikestolen และTrolltunga
พอดีว่าวีซ่าเชงเก้นเหลืออยู่1ปี มีน้องที่เป็นนักเที่ยว Soloระดับเทพจะไปปีนเขาที่นอร์เวย์ ก็เลยขอติดตามไปด้วย ทริปนี้จึงมีกันแค่สองคน...นับว่าโชคดีมากถือเป็นทริปที่ถูกใจสุดๆ น้องเขา plan เอาไว้อย
สมาชิกหมายเลข 7127780
เที่ยวอุทยานประวัติศาสตร์ กราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เยี่ยมชมศาลหลักเมือง @จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
จังหวัดพระนครศรีอยุธยาEP ส่งท้าย หลังจากตั้งกระทู้ที่เกี่ยวเนื่องกันมา 2 กระทู้ ที่พัก https://pantip.com/topic/43576482 ที่กิน https://pantip.com/topic/43582232 คราวนี้ก็มาถึงวัดต่างๆ ที่เราได้แวะ
รวยขึ้นทุกวัน
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวภูเขา
One Day Trip
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 21
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] Sequoia National Park ผจญภัยป่าดึกดำดรรพ์กับต้นไม้ที่ใหญ่และอายุยืนที่สุดในโลก
Sequoia National Park คืออุทยานแห่งชาติที่เราจะไปท้าแดดกันในครั้งนี้ แบบเช้ากลับเย็นซะด้วย 6 ชีวิตวัยละอ่อนเหลือน้อย นับอายุแล้วรวมกันเกือบ 300 ก็ไปลุยป่าต้นไม้ยักษ์โบราณที่อายุไม่ต่ำกว่า 2,000 ปี วัยขนาดนี้จะไปดูต้นไม้อายุไม่กี่ปีก็กระไรอยู่ อุทยานแห่งนี้เขาโด่งดังในเรื่องความมหึมาของต้น Red wood สายพันธุ์ Sequoia tree และ General Sherman Tree ต้นไม้ที่ใหญ่และมีอายุยืนยาวที่สุดในโลกและไม่ได้มีแค่ต้นเดียว แต่มีเป็นป่าเลย
เมื่อไปถึงต้องเสียค่าเข้าอุทยานด้วย รถ 1 คันเสีย $30 มอเตอร์ไซค์คันละ $25 ใช้ได้ 7 วัน หรือแบบเที่ยวได้ทั้งปีก็เสีย $50 ภายในอุทยานจะมีจุดท่องเที่ยวรายทาง จุดแรกที่ทุกคนจะได้เจอคือ Tunnel Rock อุโมงค์หินแกรนิตขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ใครผ่านไปมาก็ต้องแวะจอดถ่ายรูปกัน มีทางเดินขึ้นไปยืนบนยอดหินได้ด้วย
ขับรถต่อมาอีกไม่ไกลก็จะถึง Hospital rock ตรงส่วนนี้จะเป็น Picnic area ด้วย ตรงจุดนี้จะมองเห็น Moro Rock หินแกรนิตขนาดใหญ่ที่ดูไปดูมาเหมือนหัวช้างเลย เดินไปนิดหน่อยก็เจอหินขนาดใหญ่ (อีกแล้ว)ในอดีตเคยเป็นที่อาศัยของชาวอเมริกันพื้นเมืองหรืออินเดียแดงไป จะมีภาพเขียนโบราณที่ผนังหินก้อนนี้ และหลุมบนโขดหินที่เขาทำขึ้นไว้ใช้แทนครกเพื่อตำลูกโอ็คสำหรับนำไปประกอบอาหาร และเหตุที่ได้ชื่อนี้เพราะเคยมีนักสำรวจอุทยานแห่งนี้ได้รับบาดเจ็บและชาวอินเดียแดงก็ใช้ถ้ำที่ใต้หินก้อนนี้เป็นที่รักษานักสำรวจคนนั้น จนเขาได้ตั้งชื่อสถานที่แห่งนี้ว่า Hospital rock นั่นเอง ภายในบริเวณนี้มีทางเดินลงไปที่น้ำตกด้วย เสียดายไม่ได้เดินลงไปเพราะทางเดินลงลำบาก
พอเริ่มขับรถลึกเข้าไปก็จะเริ่มเห็นต้นไม้ที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เหมือนถูกโอบล้อมไปด้วยต้นไม้ยักษ์ดึกดำบรรพ์ในยุคจูลาสสิคพารค์ยังไงอย่างงั้นเลย
ที่นี้ก็มาถึง Giant forest museum ตรงนี้จะเป็นจุดรวมของนักท่องเที่ยว เพราะสามารถเดินชมต้น Redwood ที่ยืนต้นอวดศักดา สูงเสียดฟ้ามากมายหลายต้น อีกทั้งยังมีพิพิธภัณฑ์ให้เข้าไปชมประวัติความเป็นมาของที่นี่ได้อีกด้วย
ถัดมาไปต่อกันที่ Auto log ซากต้นไม้ที่ล้มตั้งแต่ปี 1917 ความยาวถึง21 ฟุต ที่รากไม้กลายเป็นประติมากรรมอันสวยงามให้รถเกือบทุกคันต้องแวะจอดและปีนขึ้นไปแอคชั่นถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกกันยกใหญ่
และที่พลาดไม่ได้เลยคือ Moro rock ตั้งแต่ที่ขับรถเข้ามาที่นี่ทุกคนจะต้องเห็นภูเขาลูกนี้ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของที่นี่เลย เขาว่ากันว่าถ้ามาแล้วขึ้นไปไม่ถึงเหมือนมาไม่ถึงที่นี่ เอาก็เอา กะอีแค่บันได 400 ขั้นท่ามกลางอากาศร้อน 40 องศาไปไม่ถึงให้มันรู้ไป ก็ขนาดพ่อลูกคู่นี้กับความรักอันยิ่งใหญ่ของพ่อที่มีต่อลูก ยังยอมแบกลูกที่เดินไม่ได้เดินขึ้นไปสู่ยอดเขาเลย
ในอดีตที่นี่เป็นบันไดไม้ ต่อมาภูมิสถาปนิกของอุทยานก็ได้ออกแบบบันไดหินให้กลมกลืมกับธรรมชาติมากที่สุด ทำเป็นทางขึ้นเพื่อใหชมความงดงามของอุทยานแห่งนี้แบบพาโนรามากันเลยทีเดียว (แก๊งเราไป 6 ถอดใจไม่ขึ้นเลย 1 คน ถอดใจระหว่างทาง 2 เหลือแค่ 3 ขึ้นไปถึงจุดสุดยอด เย้เย้เย้)
และอีกหนึ่งไฮไล์ของที่นี่ก็คือ Tunnel log รถทุกคันจะขับมาที่นี่เข้าแถวรอลอดผ่านอุโมงค์ต้นซาโคยย่ายักษ์ที่ล้มปิดถนนตั้งแต่ปี 1937 และด้วยความชาญฉลาดในการแก้ปัญหาของเจ้าหน้าที่จึงเจาะเป็นอุโมงค์ให้รถวิ่งผ่าน จนกลายเป็นภาพที่ฮิตฮอตของที่นี่กันเลยทีเดียว
ทริปร้อนๆ วันนี้ก็หมดแบบร้อนๆ ไปอีกวัน ตั้งแต่เช้าจรดเย็นทุกรูขุมขนก็ยังรับรู้ถึงไอแดดที่ร้อนระอุอยู่ตลอดเวลา แต่ถึงจะร้อน ป่าจะแล้งไปนิด ก็ยังมีความสวยงามอยู่เสมอ ทุกฤดูมีงามที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะฤดูไหนโลกภายนอกก็ยังคงงดงามอยู่เสมอ