▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
เที่ยวเชิงอนุรักษ์
ภาพถ่ายทิวทัศน์
เที่ยวภูเขา
พิพิธภัณฑ์
Green Living
[CR] แหล่งอารยธรรมโบราณนานกว่า 3,000 ปี @แม่สรวย
หมู่บ้านนี้ปัจจุบันเป็นแหล่งอาศัยของคนพื้นเมืองเหนือ ที่ยังมีวิถีชีวตในแบบคนพื้นเมืองทางเหนือในเรื่องของอาหารการกิน การแต่งกาย การละเล่น
ความน่าสนใจของหมู่บ้านนี้คือ มีพิพิธภัณฑ์ในหมู่บ้านที่ได้เก็บสะสมของโบราณที่พบบนดอยวง
มีการสันนิษฐานว่ามีอายุมากกว่า 3,000 ปี เรียกได้ว่าเป็นที่อยู่อาศัยมาตั้งแต่ยุคหินกันเลยทีเดียว
นอกจากนั้นยังมีการขุดค้นพบภาชนะ ดินเผา เครื่องเคลือบต่างๆ ดังข้อมูลที่ได้บันทึกไว้ในพิพิธภัณฑ์
เมื่อได้ศึกษาข้อมูลจากพิพิธภัณฑ์แล้ว เราจึงได้เดินทางขึ้นไปสำรวจแหล่งที่พบโบราณวัตถุที่ดอยวง
เราจะเดินทางขึ้นดอยด้วยรถอีแต๋นคู่ใจ บุกเข้าป่ากันไปแบบนี้
ระหว่างทางขึ้นดอย เราได้ไปดูบ่อน้ำอุ่น ซึ่งเป็นตาน้ำร้อน อุณหภูมิประมาณ 60 องศา ผุดออกตรงกลางทุ่งนา
เดินทางกันต่อค่ะ ทางแคบและชันนิดหน่อยค่ะ
ได้ยินเรื่องเล่าจากคนนำทางเล่าว่า มีลุงคนหนึ่งในหมู่บ้านเดินขึ้นดอยมาหาของป่าจนถึงยอดดอย จึงมาเจอกับต้นไม้ใหญ่และได้ขุดเจอของเก่ามากมาย
ยังไม่ทันจะได้หยิบอะไรบรรยากาศจากกลางวันแดดจ้า กลับเป็นหมอกมาปกคลุม มืดฟ้ามัวดิน เสียงนกแตกตื่นบินว่อน ด้วยความตื่นตกใจจึงวิ่งลงดอยไปอย่างรวดเร็ว ข่าวทราบถึงคนในหมู่บ้าน จึงได้จัดทำพิธีขอขมาเจ้าป่า เจ้าเขา จึงใช้สถานที่แห่งนี้เลี้ยงผีกันตลอดมา
ผี ในที่นี้ในความหมายของคนเหนือคือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คอยปกปักรักษาที่ต่างๆ อย่างเช่น ผีต้นน้ำ ที่คอยดูแลแหล่งกำเนิดของน้ำ เป็นต้น
และบ่อยครั้งคนในพื้นที่ก็มักจะเห็นชายร่างกำยำ สูงใหญ่ ใส่ผ้านุ่งแดง ไม่ใส่เสื้อเดินหายเข้าไปในบริเวณนี้อยู่เรื่อยๆ
จขกท ยิ่งฟังก็เริ่มอิน พอมาถึงสถานที่จริงยิ่งทำให้อินหนักไปใหญ่ ทุกย่างก้าวเราต้องระวัง ไม่เดินออกนอกเส้นทาง เพราะตลอดทางเราจะพบเหมือนหินสีออกน้ำตาลแดงๆ โผล่มาเป็นแนวยาว แล้วมีบางที่ได้ถูกทำการขุดเพื่อใช้ในการศึกษามาบ้างแล้ว สันนิษฐานว่าสถานที่นี้น่าจะเป็นสถานที่เก็บอัฐิของผู้ล่วงลับในสมัยก่อน วิธีการเก็บคือใส่ไว้ในไหหิน
จากที่เราเดินอย่างระมัดระวัง สำรวจไปรอบๆ ข้าวกลางวันของเราก็เป็นแบบอาหารพื้นเมืองที่ทำแบบไม่ต้องใช้หม้อ
เมนูอาหารวันนี้ ได้แก่แกงไก่โดยใช้กระบอกไม้ไผ่และมีน้ำพริกถั่วเน่า น้ำพริกตาแดง น้ำพริกน้ำผัก ยำมะเขือเปราะ
แกงปูนากินกับขนมจีน วิธีการทำคือ นำปูนามาทำความสะอาด ใช้เฉพาะส่วนอก โขลกแล้วคั้นเอาแต่น้ำ
แล้วนำปรุงรสด้วยเครื่องแกง รูปร่างหน้าตาอย่างที่เห็นค่ะ อุดมไปด้วยโปรตีน
หลังจากกินอิ่มกัน เราก็กลับค่ะ ขากลับขอเดินนะคะ เพราะขาขึ้นหวาดเสียวมาก ^^
เดินย่อยพอสมควร ใช้เวลาลงดอยมา 30 นาทีถึงตีนดอย เราก็ไปหากาแฟกิน กาแฟที่เราจะไปชิมนี้เป็นกาแฟขี้ชะมด
เมล็ดกาแฟที่นี้ถูกนำมาเปนอาหารของชะมด แล้วชะมดก็อึมาเป็นเมล็ดกาแฟซึ่งไม่ต้องเสียเวลาล้างเมือก
และชมวิวไร่ส้มปลอดสารพิษ
จากนั้นไปต่อที่พิพิธภัณฑ์เล่นได้ ที่มีของเล่นพื้นเมืองกระจุกกระจิก ไว้ฝึกทักษะให้เด็กๆได้เล่นกัน ของเล่นบางอย่างแทบจะไม่มีให้เห็นแล้ว
ที่นี่ยังมีบ้านกว่าง ที่มีการเพาะเลี้ยงด้วงกว่างไว้หลายชนิด ทำให้รู้ว่ากว่าตัวด้วงจะโตใช้เวลาเป็นปีๆ แล้วพอโตมีปีก ผสมพันธ์เขาก็เสียชีวิต
ด้วงกว่างได้กลายเป็นกีฬาสุดฮิตของคนเหนือ นั่นคือ การชนกว่าง มีการจัดการแข่งขันกันอย่างเป็นการเป็นงาน ไว้มีโอกาสได้เห็นจะรีวิวให้ดูนะคะ
จากนั้นก็แวะหาผัก ผลหมากรากไม้กลับบ้านกันแล้วค่ะเพราะฝนฟ้าก็เริ่มตั้งเค้ามาโน่นแล้ว สำหรับวันนี้จบเพียงเท่านี้นะคะ ไว้จะมารีวิวใหม่ในโอกาสต่อไป
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น