กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ11 เตือน พายุรากาซา มรสุมกระหน่ำ ฝนตกหนัก



กรมอุตุฯ ประกาศฉบับที่ 11 เตือน ฤทธิ์ พายุรากาซา มรสุมกำลังแรงขึ้น ฝนตกหนักถึงหนักมาก ระวังอันตราย
เผยพื้นที่ไหนได้รับผลกระทบ น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าหลาก

วันที่ 25 ก.ย.2568 กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศ เรื่อง เรื่อง พายุ “รากาซา” และฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย ฉบับที่ 11 (259/2568) ระบุว่า เมื่อเวลา 01.00 น. ของวันนี้ (25 ก.ย. 68) พายุไต้ฝุ่น “รากาซา” ได้ลดกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนกำลังแรงแล้ว

และเมื่อเวลา 04.00 น. มีศูนย์กลางอยู่บริเวณตอนใต้ของมณฑลกว่างซี ประเทศจีน หรือที่ละติจูด 21.9 องศาเหนือ ลองจิจูด 109.0 องศาตะวันออก ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

คาดว่าจะเคลื่อนเข้าประเทศเวียดนามตอนบนในวันนี้ จากนั้นมีแนวโน้มจะอ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนแผ่เสริมลงมาปกคลุมในช่วงวันที่ 25-26 ก.ย. 68 โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย

จากอิทธิพลของพายุ “รากาซา” ส่งผลให้ร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน รวมถึงมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้นในช่วงวันที่ 25-26 ก.ย. 68 ทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่

ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 25-26 ก.ย. 68

ขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์ กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th
หรือโทร 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ประกาศ ณ วันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2568 เวลา 05.00 น. ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไปในวันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2568 เวลา 11.00 น.






แหล่งที่มา แหล่งข่าว : ข่าวสด
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_9951384
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่