ขออนุญาตตั้งกระทู้แทนคุณ ป้าที่โกรธกริ้วกับคิ้วที่หายไป ที่ได้ตั้งกระทู้ก่อนหน้านี้นะคะ
เนื่องจากสปอยตอนล่าสุดนั้นมาไวมากและมาแบบค่อนข้างคลุมเครือ
ประกอบกับกระแสอาลาโควที่มาแรงแซงทางโค้งอีก (ทั้งฝั่งทวิตเตอร์และ tumblr นี่แฟนอาร์ทกระหน่ำมากมาย)
ทำให้พอ text ตัวเต็มมาจึงแทบไม่มีใครสนเลยค่ะ (จขกท เองก็ด้วย 55)
ซึ่งจริงๆตอนนี้เป็นตอนที่เนื้อเรื่องเริ่มเข้าสู่ประเด็นหลักแล้ว เนื้อหาหนักพอดู พออ่านแล้วรู้สึกสงสารลุงนิดหน่อยแฮะ
แต่ก็ยังหมั่นไส้ความมั่นใจในตัวเองสูงของลุงอยู่ดี 555555
มาต่อเลยนะคะ
เริ่มตอนมา ซินแบดที่กำลังกวาดสายตาไปรอบๆเมืองปัลเทเปีย
พูดถึงสันติภาพที่ไม่มีสงครามมาเกี่ยวข้องอย่างที่ทุกคนใฝ่ฝัน
แต่ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยอุปกรณ์เวทย์มนต์ต่างๆมากมายจากหลายบริษัทการค้า
เดวิดกล่าวว่าซินแบดนั้นช่างพูดมากเสียจริง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่ตอบกลับอยู่เลยแท้ๆ
พอมาตอนนี้กลับคุยด้วยตลอดเวลาเสียอย่างนั้น
เขาถามว่า ซินแบดในตอนนั้นกลัวงั้นเหรอ? ซินแบดตอบกลับว่าเขากลัว
" โลกในตอนนี้นั้นได้ผิดไปจากชะตากรรมที่เคยเห็น " ตัวซินแบดคิดว่าตนเองนั้น
จะสามารถจัดการควบคุมพลังเพื่อทำให้โลกนี้นั้นสะอาดหมดจด
แต่ตอนนี้พลังนั้นกลับกระจายไปทั่วโลก
เดวิดกล่าวเพียงว่า เค้าเข้าใจ นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมตัวเค้านั้นถึงได้
แย่งสติปัญญาจาก
เผ่าอื่น(พูดถึงการสร้างหอคอยควบคุม)
ซินแบดพูดว่าไม่อยากทำเหมือนเดวิด เดวิดพูดต่อไปว่า
เค้าเข้าความรู้สึกของซินแบดดีว่าซินแบดนั้นเจ็บปวดและโดดเดี่ยวแค่ไหน
เนื่องจากซินแบดนั้นเป็นคนเดียวนั้นที่ได้เชื่อมต่อกับอัลม่าทรัน
จึงเข้าใจความเจ็บปวด(ของซินแบด)ที่ไม่สามารถทำอะไรได้เนื่องจากขีดจำกัดในฐานะมนุษย์
ซินแบดถามถึงความต้องการของเดวิด
เดวิดตอบกลับว่าเขานั้นต้องการที่จะเป็น
พระเจ้า
เพราะงั้นถึงต้องการพลังจากวิหารศักสิทธิ์
ซินแบดได้ตอบกลับไปว่า
ตอนนี้พวกเขายังขาดกุญแจที่จะไปสู่พลังอย่างปัญญาแห่งโซโลมอน
ซึ่งซินแบดจะขอใช้เวลาในการรอคอยและเฝ้ามองดูอีกซักนิด
เพื่อต้องการให้ซักวันนึง ทุกคนจะเข้าใจในตัวเขา
จู่ๆเดวิดก็เหมือนไม่พอใจ ถามซินแบดว่ามีสิ่งใดที่ซินแบดยังจะต้องคอยเฝ้าจับตาดูอีก
การสร้างโลกงั้นรึ หรือว่าโชคชะตา
ซินแบดพูดว่าเขาเป็นคนเดียวที่จะสามารถช่วยโลกนี้ไว้ได้
นอกจากนี้ ถึงไม่มีปัญญาแห่งโซโลมอนก็ยังมีหนทางอื่นอีก ?
หลังจากนั้น ขณะที่ซินแบดกำลังหลับ
อัลบะในร่างเด็กก็ปรากฏกายขึ้น เดวิดกล่าวว่า อัลบะในตอนนี้นั้น
เป็นเพียงแค่ตุ๊กตา เพราะแบบนั้นจึงจำเป็นต้องพึ่งตัวเดวิด
อัลบะดูเหมือนจะไม่พอใจในสถานการณ์นี้นัก แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่น
นอกจากการทำตามคำสั่งของเดวิดเพื่อ
" ท่านผู้นั้น "
สองวันหลังจากนั้นปิปิริก้าต้อนรับอาลาดินและคนอื่นๆที่เมืองปัลเทเปีย
(ปิปิริก้าไม่รู้เรื่องที่อาลาดินหายไป)
เมื่ออาลาดินได้พบกับซินแบด
ซินแบดต้อนรับอาลาดิน อาลีบาบาเห็นท่าทีของจาฟาลเมื่อเห็นทั้งคู่ จึงคิดว่าจาฟาลน่าจะรู้เรื่องเหตุการณ์ทั้งหมด
จู่ๆซินแบดก็กล่าวขึ้นมาว่าตนเองนั้น
แพ้แล้ว ถ้าอัลบะไม่สามารถเอาชนะอาลาดินได้
ในฐานะผู้ใช้ภาชนะโลหะ ตัวเขาเองนั้นก็ไม่สามารถทำอะไรได้แล้วเช่นกัน
อาลาดินถามซินแบดว่าซินแบดนั้นสามารถมองเห็นโชคชะตาได้งั้นเหรอ
ซินแบดตอบว่าได้ อาลาดินก็พูดว่าอาลีบาบาคุงเองก็มองเห็นได้เช่นเดียวกัน
(เล่นเอาทุกคนยกเว้นอาลาดินและโมลเซียน่าตกใจ 555)
อาลาดินได้พูดถึงการที่อาลีบาบาได้สร้างบริษัทการค้าและอุปกรณ์เวทย์มนต์ที่ใช้กันทั่วโลกขึ้น
อาลีบาบาพูดว่านั่นเป็นเพราะเกิดจากความสร้างสรรค์และความสามารถในทางการค้าของตนเอง
อาลาดินกล่าวต่อไปว่า
ไม่ใช่อาลีบาบา แต่ผู้ประกอบการค้าทุกคนเองก็สามารถเห็นอนาคตที่สดใสได้เช่นเดียวกัน
อาลาดินได้คิดมาตลอดถึงกระแสที่ไหลเวียนไปของโชคชะตา
ว่ามันไม่ได้เป็นโชคชะตาของโซโลมอนเพียงคนเดียวอีกต่อไป มันมีสิ่งที่ทำให้ทุกอย่างนั้นสามารถมุ่งไปข้างหน้าได้
อาลาดินอธิบายต่อไป สิ่งนั้นคือ
"ความฝันและความหวัง" ของทุกคน
พลังที่ทุกคนได้ใช้มันได้ในการวาดฝันถึงอนาคตสดใสอย่าง
" ฉันต้องการที่จะมีครอบครัวที่มีความสุข " (พูดถึงอาลีบาบา)
ถ้ามีบางคนเช่นซินแบด ที่สามารถมองเห็นโชคชะตาได้
ทุกคนเองก็สามารถเห็นอนาคตของตนเองได้อย่างทีละเล็กทีละน้อยเช่นกัน
ซินแบดกล่าวว่าที่อาลาดินพูดมานั้นก็อาจจะจริง แต่ก็มีบางเรื่องที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้เช่นเดียวกัน
อย่างเรือขนส่งสินค้าระหว่างทางอาจจะล่ม นั่นก็เป็นเพราะความผิดของอาลีบาบา
ซินแบดพูดต่อไปว่า ถึงกระแสที่ไหลเวียนของโชคชะตาที่อาลาดินพูดถึงนั้นจะเป็นถูกต้อง
แต่มันก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่าตัวเขาและอาลาดินนั้นเป็นศัตรูกัน
และจู่ๆซินแบดก็เปลี่ยนเรื่องไปพูดถึงเรื่องการแต่งงานของอาลีบาบา
ซินแบดแสดงความยินดีต่อาลีบาบาอย่างจริงใจ
เมื่อซินแบดอยู่ตัวคนเดียว ได้ขบคิดถึงหลายๆเรื่องที่ได้พูดถึง
โชคชะตาคือแหล่งรวมความหวังของทุกคนงั้นเหรอ? มันไม่มีอะไรนอกจากความฝันไร้เดียงสาสินะ
ซินแบดยังคงคิดว่าตัวเขานั้นเป็นคนเดียวมองเห็นกระแสแห่งโชคชะตาที่แท้จริง
แต่ทำไมทุกคนถึงไม่เข้าใจตัวเขาเสียที
ซินแบดเรียกเดวิด คุยปกติเหมือนอย่างเคย
แต่สิ่งที่เปลี่ยนไป
คือไม่มีเสียงใดตอบกลับมา...
ความรู้สึกหลังอ่านจบ
อย่างที่บอกค่ะ แอบสงสารลุงนิดนึง ตอนที่ลุงบอกว่าอยากให้ทุกคนเข้าใจลุงบ้างงง 5555
ตอนนี้มีสองแนวคิดเกี่ยวกับเรื่องกระแสของลูฟหรือโชคชะตา
ลุงที่เข้าใจว่าตัวเองเห็นเพียงแค่คนเดียว ก็เลยอยากกุมพลังทั้งหมดเป็นคนพาให้โลกไปยังจุดที่ถูกต้อง
กับฝั่งอาลาดินที่ต้องการให้กระแสนั้นเป็นของทุกๆคน ซึ่งคล้ายๆกับแนวคิดของโซโลมอน
ดังนั้นการกระทำของนายอ. ที่ได้ขายอุปกรณ์เวทย์มนต์ไปยังทั่วโลก
เรามองว่าเป็นการแบ่งพลังไปให้ทุกคนอย่างเท่าเทียมกันแฮะ
เพื่อให้คนที่ไม่ใช่นักเวทย์หรือผู้ใช้ภาชนะโลหะสามารถใช้พลังของลูฟได้
(บางทีนี่อาจจะเป็นสิ่งที่อาลาดินเคยพูดถึงว่านายอ. อาจจะมีทางออกดีๆที่ทำไม่ต้องต้องจบลงโดยการต่อสู้กับซินแบด)
แต่ปู่เดวิดนี่ยังไง คือพอเห็นลุงซินแบดอิดออดนิดหน่อยก็ทิ้งกันเลยเรอะ
สรุปท่านผู้นั้นของป้านี่เป็นใครกันแน่ ทำทุกอย่างเพื่อท่านผู้นั้น แต่ก็ไม่ใช่ทั้งเดวิดและซินแบด
แต่ยังยอมทำตามเดวิด แอบสับสนงงงวย = =
ใครมีอะไรเพิ่มเติมได้เลยนะคะ
Magi 316 กระแสแห่งโชคชะตา
เนื่องจากสปอยตอนล่าสุดนั้นมาไวมากและมาแบบค่อนข้างคลุมเครือ
ประกอบกับกระแสอาลาโควที่มาแรงแซงทางโค้งอีก (ทั้งฝั่งทวิตเตอร์และ tumblr นี่แฟนอาร์ทกระหน่ำมากมาย)
ทำให้พอ text ตัวเต็มมาจึงแทบไม่มีใครสนเลยค่ะ (จขกท เองก็ด้วย 55)
ซึ่งจริงๆตอนนี้เป็นตอนที่เนื้อเรื่องเริ่มเข้าสู่ประเด็นหลักแล้ว เนื้อหาหนักพอดู พออ่านแล้วรู้สึกสงสารลุงนิดหน่อยแฮะ
แต่ก็ยังหมั่นไส้ความมั่นใจในตัวเองสูงของลุงอยู่ดี 555555
มาต่อเลยนะคะ
เริ่มตอนมา ซินแบดที่กำลังกวาดสายตาไปรอบๆเมืองปัลเทเปีย
พูดถึงสันติภาพที่ไม่มีสงครามมาเกี่ยวข้องอย่างที่ทุกคนใฝ่ฝัน
แต่ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยอุปกรณ์เวทย์มนต์ต่างๆมากมายจากหลายบริษัทการค้า
เดวิดกล่าวว่าซินแบดนั้นช่างพูดมากเสียจริง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่ตอบกลับอยู่เลยแท้ๆ
พอมาตอนนี้กลับคุยด้วยตลอดเวลาเสียอย่างนั้น
เขาถามว่า ซินแบดในตอนนั้นกลัวงั้นเหรอ? ซินแบดตอบกลับว่าเขากลัว
" โลกในตอนนี้นั้นได้ผิดไปจากชะตากรรมที่เคยเห็น " ตัวซินแบดคิดว่าตนเองนั้น
จะสามารถจัดการควบคุมพลังเพื่อทำให้โลกนี้นั้นสะอาดหมดจด
แต่ตอนนี้พลังนั้นกลับกระจายไปทั่วโลก
เดวิดกล่าวเพียงว่า เค้าเข้าใจ นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมตัวเค้านั้นถึงได้แย่งสติปัญญาจาก
เผ่าอื่น(พูดถึงการสร้างหอคอยควบคุม)
ซินแบดพูดว่าไม่อยากทำเหมือนเดวิด เดวิดพูดต่อไปว่า
เค้าเข้าความรู้สึกของซินแบดดีว่าซินแบดนั้นเจ็บปวดและโดดเดี่ยวแค่ไหน
เนื่องจากซินแบดนั้นเป็นคนเดียวนั้นที่ได้เชื่อมต่อกับอัลม่าทรัน
จึงเข้าใจความเจ็บปวด(ของซินแบด)ที่ไม่สามารถทำอะไรได้เนื่องจากขีดจำกัดในฐานะมนุษย์
ซินแบดถามถึงความต้องการของเดวิด
เดวิดตอบกลับว่าเขานั้นต้องการที่จะเป็นพระเจ้า
เพราะงั้นถึงต้องการพลังจากวิหารศักสิทธิ์
ซินแบดได้ตอบกลับไปว่า
ตอนนี้พวกเขายังขาดกุญแจที่จะไปสู่พลังอย่างปัญญาแห่งโซโลมอน
ซึ่งซินแบดจะขอใช้เวลาในการรอคอยและเฝ้ามองดูอีกซักนิด
เพื่อต้องการให้ซักวันนึง ทุกคนจะเข้าใจในตัวเขา
จู่ๆเดวิดก็เหมือนไม่พอใจ ถามซินแบดว่ามีสิ่งใดที่ซินแบดยังจะต้องคอยเฝ้าจับตาดูอีก
การสร้างโลกงั้นรึ หรือว่าโชคชะตา
ซินแบดพูดว่าเขาเป็นคนเดียวที่จะสามารถช่วยโลกนี้ไว้ได้
นอกจากนี้ ถึงไม่มีปัญญาแห่งโซโลมอนก็ยังมีหนทางอื่นอีก ?
หลังจากนั้น ขณะที่ซินแบดกำลังหลับ
อัลบะในร่างเด็กก็ปรากฏกายขึ้น เดวิดกล่าวว่า อัลบะในตอนนี้นั้น
เป็นเพียงแค่ตุ๊กตา เพราะแบบนั้นจึงจำเป็นต้องพึ่งตัวเดวิด
อัลบะดูเหมือนจะไม่พอใจในสถานการณ์นี้นัก แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่น
นอกจากการทำตามคำสั่งของเดวิดเพื่อ " ท่านผู้นั้น "
สองวันหลังจากนั้นปิปิริก้าต้อนรับอาลาดินและคนอื่นๆที่เมืองปัลเทเปีย
(ปิปิริก้าไม่รู้เรื่องที่อาลาดินหายไป)
เมื่ออาลาดินได้พบกับซินแบด
ซินแบดต้อนรับอาลาดิน อาลีบาบาเห็นท่าทีของจาฟาลเมื่อเห็นทั้งคู่ จึงคิดว่าจาฟาลน่าจะรู้เรื่องเหตุการณ์ทั้งหมด
จู่ๆซินแบดก็กล่าวขึ้นมาว่าตนเองนั้น แพ้แล้ว ถ้าอัลบะไม่สามารถเอาชนะอาลาดินได้
ในฐานะผู้ใช้ภาชนะโลหะ ตัวเขาเองนั้นก็ไม่สามารถทำอะไรได้แล้วเช่นกัน
อาลาดินถามซินแบดว่าซินแบดนั้นสามารถมองเห็นโชคชะตาได้งั้นเหรอ
ซินแบดตอบว่าได้ อาลาดินก็พูดว่าอาลีบาบาคุงเองก็มองเห็นได้เช่นเดียวกัน
(เล่นเอาทุกคนยกเว้นอาลาดินและโมลเซียน่าตกใจ 555)
อาลาดินได้พูดถึงการที่อาลีบาบาได้สร้างบริษัทการค้าและอุปกรณ์เวทย์มนต์ที่ใช้กันทั่วโลกขึ้น
อาลีบาบาพูดว่านั่นเป็นเพราะเกิดจากความสร้างสรรค์และความสามารถในทางการค้าของตนเอง
อาลาดินกล่าวต่อไปว่า
ไม่ใช่อาลีบาบา แต่ผู้ประกอบการค้าทุกคนเองก็สามารถเห็นอนาคตที่สดใสได้เช่นเดียวกัน
อาลาดินได้คิดมาตลอดถึงกระแสที่ไหลเวียนไปของโชคชะตา
ว่ามันไม่ได้เป็นโชคชะตาของโซโลมอนเพียงคนเดียวอีกต่อไป มันมีสิ่งที่ทำให้ทุกอย่างนั้นสามารถมุ่งไปข้างหน้าได้
อาลาดินอธิบายต่อไป สิ่งนั้นคือ "ความฝันและความหวัง" ของทุกคน
พลังที่ทุกคนได้ใช้มันได้ในการวาดฝันถึงอนาคตสดใสอย่าง " ฉันต้องการที่จะมีครอบครัวที่มีความสุข " (พูดถึงอาลีบาบา)
ถ้ามีบางคนเช่นซินแบด ที่สามารถมองเห็นโชคชะตาได้
ทุกคนเองก็สามารถเห็นอนาคตของตนเองได้อย่างทีละเล็กทีละน้อยเช่นกัน
ซินแบดกล่าวว่าที่อาลาดินพูดมานั้นก็อาจจะจริง แต่ก็มีบางเรื่องที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้เช่นเดียวกัน
อย่างเรือขนส่งสินค้าระหว่างทางอาจจะล่ม นั่นก็เป็นเพราะความผิดของอาลีบาบา
ซินแบดพูดต่อไปว่า ถึงกระแสที่ไหลเวียนของโชคชะตาที่อาลาดินพูดถึงนั้นจะเป็นถูกต้อง
แต่มันก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่าตัวเขาและอาลาดินนั้นเป็นศัตรูกัน
และจู่ๆซินแบดก็เปลี่ยนเรื่องไปพูดถึงเรื่องการแต่งงานของอาลีบาบา
ซินแบดแสดงความยินดีต่อาลีบาบาอย่างจริงใจ
เมื่อซินแบดอยู่ตัวคนเดียว ได้ขบคิดถึงหลายๆเรื่องที่ได้พูดถึง
โชคชะตาคือแหล่งรวมความหวังของทุกคนงั้นเหรอ? มันไม่มีอะไรนอกจากความฝันไร้เดียงสาสินะ
ซินแบดยังคงคิดว่าตัวเขานั้นเป็นคนเดียวมองเห็นกระแสแห่งโชคชะตาที่แท้จริง
แต่ทำไมทุกคนถึงไม่เข้าใจตัวเขาเสียที
ซินแบดเรียกเดวิด คุยปกติเหมือนอย่างเคย
แต่สิ่งที่เปลี่ยนไป คือไม่มีเสียงใดตอบกลับมา...
ความรู้สึกหลังอ่านจบ
อย่างที่บอกค่ะ แอบสงสารลุงนิดนึง ตอนที่ลุงบอกว่าอยากให้ทุกคนเข้าใจลุงบ้างงง 5555
ตอนนี้มีสองแนวคิดเกี่ยวกับเรื่องกระแสของลูฟหรือโชคชะตา
ลุงที่เข้าใจว่าตัวเองเห็นเพียงแค่คนเดียว ก็เลยอยากกุมพลังทั้งหมดเป็นคนพาให้โลกไปยังจุดที่ถูกต้อง
กับฝั่งอาลาดินที่ต้องการให้กระแสนั้นเป็นของทุกๆคน ซึ่งคล้ายๆกับแนวคิดของโซโลมอน
ดังนั้นการกระทำของนายอ. ที่ได้ขายอุปกรณ์เวทย์มนต์ไปยังทั่วโลก
เรามองว่าเป็นการแบ่งพลังไปให้ทุกคนอย่างเท่าเทียมกันแฮะ
เพื่อให้คนที่ไม่ใช่นักเวทย์หรือผู้ใช้ภาชนะโลหะสามารถใช้พลังของลูฟได้
(บางทีนี่อาจจะเป็นสิ่งที่อาลาดินเคยพูดถึงว่านายอ. อาจจะมีทางออกดีๆที่ทำไม่ต้องต้องจบลงโดยการต่อสู้กับซินแบด)
แต่ปู่เดวิดนี่ยังไง คือพอเห็นลุงซินแบดอิดออดนิดหน่อยก็ทิ้งกันเลยเรอะ
สรุปท่านผู้นั้นของป้านี่เป็นใครกันแน่ ทำทุกอย่างเพื่อท่านผู้นั้น แต่ก็ไม่ใช่ทั้งเดวิดและซินแบด
แต่ยังยอมทำตามเดวิด แอบสับสนงงงวย = =
ใครมีอะไรเพิ่มเติมได้เลยนะคะ