เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทาง SpaceX ได้ปล่อยคลิปวีดีโอความยาวสองนาทีครึ่ง ในวิดีโอเป็นการทดสอบจรวดท่อนแรกอันเก่า จากศูนย์ของ SpaceX ที่เท็กซัส ความน่าสนใจของวิดีโอนี้ อยู่ที่มันเป็นจรวดขับดันท่อนแรกอันเก่านี่แหละครับ
จรวดขับดันท่อนแรก บนเครื่องยนต์ Nine Merlin 1D ที่ใช้ในการส่งดาวเทียม JCSAT14 เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา แล้วสามารถกลับมาลงจอดบนเรือลอยน้ำอัตโนมัติได้สำเร็จ และเพื่อที่จะประเมินความเป็นไปในการนำกลับมาใช้อีกครั้งอย่างปลอดภัย จึงต้องมีการทดสอบการใช้งานของจรวดขับดันท่อนแรก และนำข้อมูลที่ได้กลับมาวิเคราะห์อีกครั้งหนึ่ง
โดยจรวดท่อนนี้หลังจากทำการลงจอด และเก็บกู้แล้ว ได้มีการนำไปตรวจสอบความเสียหายในโรงเก็บที่ฐานปล่อยจรวดเคนเนดี้ ก่อนที่จะส่งไปตรวจสอบโครงสร้างความเสียหายอย่างละเอียดที่ศูนย์ของ SpaceX ในเมือง McGregor ที่เท็กซัส

ในคลิปนี้เป็นการทดสอบบนแรงขับที่มากกว่า 1 ล้านปอนด์ เป็นเวลานานสองนาทีครึ่ง ซึ่งนานเท่าๆกับการส่งจรวดจริง
แต่จรวดขับดันที่ทดสอบนี้จะไม่ถูกใช้ในการส่งจริง โดยทาง SpaceX มีการวางแผนที่จะใช้จรวดขับดันท่อนแรกอีกอันหนึ่ง ที่ใช้ส่งสัมภาระไปยังสถานีอวกาศ ISS เมื่อวันที่ 8 เมษายน แล้วสามารถกลับลงมายังเรือลอยน้ำอัตโนมัติได้สำเร็จเป็นครั้งแรก ในการปฏิบัติภารกิจอีกครั้งในช่วงใบไม้ผลินี้ และจะเป็นการนำจรวดขับดันท่อนแรกกลับมาใช้อีกครั้งเป็นครั้งแรกด้วย
โครงการปล่อยจรวดจรวดที่ขนส่งสัมภาระให้กับ สถานีอวกาศ ISS
http://pantip.com/topic/35016265
การที่เลือกทดสอบกับจรวดขับดันท่อนแรกที่ถูกใช้ในโครงการ ส่งดาวเทียมสื่อสารของญี่ปุ่น JCSAT14 เพราะ SpaceX มองว่า โครงการส่ง JCSAT14 ถูกใช้งานหนักกว่า บนสภาวะแวดล้อมการทำงานที่หนักหน่วงกว่า เพราะโครงการส่งดาวเทียมนั้น มีระดับวงโคจรที่สูงกว่า ต้องใช้ความเร็ว และความเร่งสูงกว่ามาก ซึ่งถ้าหากว่า จรวดนั้นสามารถผ่านการทดสอบ และอยู่สภาพที่ประเมินได้ว่าสามารถบรรลุเป้าหมายของภารกิจได้แล้ว จรวดขับดันท่อนแรกอีกอันถูกใช้งานในระดับที่ต่ำกว่า ในภารกิจส่งสัมภาระให้กับสถานีอวกาศ ISS ก็น่าจะผ่านภารกิจได้เช่นกัน
โครงการปล่อยจรวดเพื่อส่งดาวเทียม JCSAT14
http://pantip.com/topic/35124582
Hans Koenigsmann รองประธานฝ่ายความน่าเชื่อถือด้านการบินของ SpaceX ระบุว่า ขณะนี้บริษัทกำลังอยู่ระหว่างการเจรจาตกลงกับบริษัทที่จะให้ความไว้วางใจในการขนส่งอุปกรณ์ของพวกเขาไปกับจรวดที่ถูกใช้แล้วของเรา
สำหรับครั้งแรกในการส่ง โดยใช้จรวดขับดันที่ใช้แล้วนี้ SpaceX มองว่าจะสามารถหั่นราคาลงให้เหลือเพียง 1 ใน 3 จาก 61 ล้านดอลล่าส์ได้ ซึ่งเป็นราคาที่ SpaceX ได้ตั้งไว้เมื่อปีที่แล้ว
คงต้องจับตาดูกันต่อไปว่า การใช้จรวดขับดันซ้ำในครั้งที่สอง จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ และใครจะเป็นผู้กล้าที่จะใช้บริการนี้เพราะระบบการขนส่งไปอวกาศเมื่อก่อนนี้ จะเป็นภาระของทางภาครัฐ และเป็นโครงการของภาครัฐเอง แต่ในปัจจุบันบทบาทส่วนใหญ่ตกอยู่กับบริษัทเอกชน ทั้งในการผลิต และการขนส่ง ปัญหาจึงอยู่ที่เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ความเสียหายนี้จะรับผิดชอบกันอย่างไร? แต่หากการนำมาใช้ซ้ำแบบนี้ประสบความสำเร็จ มันจะเป็นการปฏิวัติการเดินทางสู่อวกาศครั้งสำคัญเลยทีเดียว
อ้างอิง
http://spaceflightnow.com/2016/07/29/spacex-fires-previously-flown-rocket-in-major-stride-toward-reusability/
[Falcon-9] ก้าวเล็กๆไปอีกขั้น ยุคอวกาศเชิงพาณิชย์ใกล้ขึ้นอีกหน่อย
จรวดขับดันท่อนแรก บนเครื่องยนต์ Nine Merlin 1D ที่ใช้ในการส่งดาวเทียม JCSAT14 เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา แล้วสามารถกลับมาลงจอดบนเรือลอยน้ำอัตโนมัติได้สำเร็จ และเพื่อที่จะประเมินความเป็นไปในการนำกลับมาใช้อีกครั้งอย่างปลอดภัย จึงต้องมีการทดสอบการใช้งานของจรวดขับดันท่อนแรก และนำข้อมูลที่ได้กลับมาวิเคราะห์อีกครั้งหนึ่ง
โดยจรวดท่อนนี้หลังจากทำการลงจอด และเก็บกู้แล้ว ได้มีการนำไปตรวจสอบความเสียหายในโรงเก็บที่ฐานปล่อยจรวดเคนเนดี้ ก่อนที่จะส่งไปตรวจสอบโครงสร้างความเสียหายอย่างละเอียดที่ศูนย์ของ SpaceX ในเมือง McGregor ที่เท็กซัส
ในคลิปนี้เป็นการทดสอบบนแรงขับที่มากกว่า 1 ล้านปอนด์ เป็นเวลานานสองนาทีครึ่ง ซึ่งนานเท่าๆกับการส่งจรวดจริง
แต่จรวดขับดันที่ทดสอบนี้จะไม่ถูกใช้ในการส่งจริง โดยทาง SpaceX มีการวางแผนที่จะใช้จรวดขับดันท่อนแรกอีกอันหนึ่ง ที่ใช้ส่งสัมภาระไปยังสถานีอวกาศ ISS เมื่อวันที่ 8 เมษายน แล้วสามารถกลับลงมายังเรือลอยน้ำอัตโนมัติได้สำเร็จเป็นครั้งแรก ในการปฏิบัติภารกิจอีกครั้งในช่วงใบไม้ผลินี้ และจะเป็นการนำจรวดขับดันท่อนแรกกลับมาใช้อีกครั้งเป็นครั้งแรกด้วย
โครงการปล่อยจรวดจรวดที่ขนส่งสัมภาระให้กับ สถานีอวกาศ ISS
http://pantip.com/topic/35016265
การที่เลือกทดสอบกับจรวดขับดันท่อนแรกที่ถูกใช้ในโครงการ ส่งดาวเทียมสื่อสารของญี่ปุ่น JCSAT14 เพราะ SpaceX มองว่า โครงการส่ง JCSAT14 ถูกใช้งานหนักกว่า บนสภาวะแวดล้อมการทำงานที่หนักหน่วงกว่า เพราะโครงการส่งดาวเทียมนั้น มีระดับวงโคจรที่สูงกว่า ต้องใช้ความเร็ว และความเร่งสูงกว่ามาก ซึ่งถ้าหากว่า จรวดนั้นสามารถผ่านการทดสอบ และอยู่สภาพที่ประเมินได้ว่าสามารถบรรลุเป้าหมายของภารกิจได้แล้ว จรวดขับดันท่อนแรกอีกอันถูกใช้งานในระดับที่ต่ำกว่า ในภารกิจส่งสัมภาระให้กับสถานีอวกาศ ISS ก็น่าจะผ่านภารกิจได้เช่นกัน
โครงการปล่อยจรวดเพื่อส่งดาวเทียม JCSAT14
http://pantip.com/topic/35124582
Hans Koenigsmann รองประธานฝ่ายความน่าเชื่อถือด้านการบินของ SpaceX ระบุว่า ขณะนี้บริษัทกำลังอยู่ระหว่างการเจรจาตกลงกับบริษัทที่จะให้ความไว้วางใจในการขนส่งอุปกรณ์ของพวกเขาไปกับจรวดที่ถูกใช้แล้วของเรา
สำหรับครั้งแรกในการส่ง โดยใช้จรวดขับดันที่ใช้แล้วนี้ SpaceX มองว่าจะสามารถหั่นราคาลงให้เหลือเพียง 1 ใน 3 จาก 61 ล้านดอลล่าส์ได้ ซึ่งเป็นราคาที่ SpaceX ได้ตั้งไว้เมื่อปีที่แล้ว
คงต้องจับตาดูกันต่อไปว่า การใช้จรวดขับดันซ้ำในครั้งที่สอง จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ และใครจะเป็นผู้กล้าที่จะใช้บริการนี้เพราะระบบการขนส่งไปอวกาศเมื่อก่อนนี้ จะเป็นภาระของทางภาครัฐ และเป็นโครงการของภาครัฐเอง แต่ในปัจจุบันบทบาทส่วนใหญ่ตกอยู่กับบริษัทเอกชน ทั้งในการผลิต และการขนส่ง ปัญหาจึงอยู่ที่เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ความเสียหายนี้จะรับผิดชอบกันอย่างไร? แต่หากการนำมาใช้ซ้ำแบบนี้ประสบความสำเร็จ มันจะเป็นการปฏิวัติการเดินทางสู่อวกาศครั้งสำคัญเลยทีเดียว
อ้างอิง
http://spaceflightnow.com/2016/07/29/spacex-fires-previously-flown-rocket-in-major-stride-toward-reusability/