168. ระหว่างที่ผู้บริหารระดับสูงไม่ยอมตัดสินใจอย่างหนึ่งอย่างใดเกี่ยวกับระดับอัตราแลกเปลี่ยน นอกจากนักเก็งกำไรจะไม่รามือจากการโจมตีค่าเงินบาทแล้ว ยังกลับมาโจมตีต่อด้วยความรุนแรงหนักเข้าไปอีก ในช่วงนี้บรรยากาศภายใน ธปท. ได้แปรเปลี่ยนไปเป็นบรรยากาศของการทำสงครามและจิตวิทยาของผู้บริหารได้กลายเป็นจิตวิทยาสนามรบ นักเก็งกำไรได้กลายเป็นศัตรู มิได้เป็นคู่ค้า เป้าหมายของนโยบายได้แปรเปลี่ยนไปเป็นเป้าหมายในการเอาชนะศัตรูให้จงได้ บรรยากาศดังกล่าวนี้เห็นได้ชัดจากการอ่านเอกสารในช่วงนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันที่ 14 พฤษภาคม
169.ระหว่างวันที่ 13-15 พฤษภาคมนั้นมีการหารือกันบ่อยครั้งในระหว่างผู้บริหารระดับสูงของ ธปท. และเป็นที่น่าสังเกตว่าในช่วงนี้จะมีการบันทึกการหารือกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต่างจากที่เคยปฏิบัติกันมา
170. ในวันที่ 12 พฤษภาคม ถึงแม้ว่ายังมีแรงซื้อในตลาดทันที และในตลาด swap มาก แต่ก็ยังไม่แรงนัก อาจเป็นเพราะกลางวันของวันที่ 12 ในกรุงเทพฯยังเป็นคืนวันอาทิตย์ที่ตลาดนิวยอร์ก ฝ่ายการธนาคารจึงไม่ได้เข้าแทรกแซง ปล่อยให้ธนาคารพาณิชย์มาซื้อเงินเหรียญสหรัฐจากทุนรักษาระดับฯ สูงถึง 881.2ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นจำนวนสูงมากสำหรับทุนรักษาระดับฯ แต่ไม่สูงเท่าใดหากเทียบกับการแทรกแซงของฝ่ายการธนาคารในวันที่ 8 และ 9 พฤษภาคมและวันต่อๆ มา เป็นที่น่าสังเกตว่าฝ่ายการธนาคารมิได้แทรกแซงเลยในวันนี้ ทั้งๆ ที่อัตราแลกเปลี่ยนสูงขึ้นเป็น 25.915 บาท/เหรียญสหรัฐ สูงกว่าราคากลางที่ทุนรักษาระดับฯ ประกาศ (25.85 บาท) (ข้อมูลในวรรคนี้ได้มาจากบันทึกที่ 379/2540 จากผู้อำนวยการฝ่ายการธนาคาร (นายบัณฑิต นิจถาวร) ถึง ผู้ช่วยผู้ว่าการศิริ การเจริญดี ลงวันที่ 22 พฤษภาคม 2540)
171. ในเช้าวันที่ 13 [บันทึกช่วยจำการหารือในครั้งนี้ (บันทึกโดยนายบัณฑิต นิจถาวร) ลงวันที่ 13 พฤษภาคม ระบุว่าเป็น "เช้าวานนี้" คือ วันที่ 12 แต่จากตัวเอกสารทำให้สรุปได้ว่าเป็นการประชุมในวันที่ 13] ได้มีการหารือกันระหว่างผู้ว่าการเริงชัย รองผู้ว่าการชัยวัฒน์ ผู้ช่วยผู้ว่าการศิริ และ ผู้ช่วยผู้ว่าการธัญญาผอ. ฝ่ายฯ บัณฑิต และ หัวหน้าส่วนฯ ไพบูลย์ ที่ประชุมได้ตกลงให้ฝ่ายการธนาคารเข้าแทรกแซงเป็นสองรอบ รอบแรกให้จำกัดวงเงินประมาณ 300 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อทดสอบดูว่ามีแรงต้านมากน้อยขนาดไหน และรอบที่สองให้แทรกแซงเพื่อลดอัตราขายในตลาดไม่ให้ห่างจากอัตราขายของทุนรักษาระดับฯมากนัก นอกจากนี้ในรอบที่สองให้ขอความช่วยเหลือจากธนาคารกลางฮ่องกงตามข้อตกลงที่มีอยู่ด้วย เพื่อเป็นการแสดงน้ำหนักของการแทรกแซงให้มีมากขึ้นปรามนักเก็งกำไร และให้ความมั่นใจแก่นักลงทุน (บันทึกช่วยจำการประชุมหารือ นายบัณฑิต นิจถาวร ผู้จดบันทึก ลงวันที่ 13 พฤษภาคม 2540)ในการแทรกแซงนี้ ธนาคารกลางฮ่องกงเป็นแต่ตัวแทนของ ธปท. ในตลาดฮ่องกง
172. ผลปรากฏว่าการแทรกแซงในตอนเช้าก็มีผลทำให้อัตราแลกเปลี่ยนลงมา แต่พอตอนบ่ายก็กลับสูงขึ้นอีก จำเป็นที่ธนาคารกลางฮ่องกงต้องเข้ามาแทรกแซงเป็นเงินจำนวน 500 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ข้อสรุปของฝ่ายการธนาคารก็คือ “ตลาดยังไม่กลัว”
173. ในวันนี้ทุนรักษาระดับฯ ขายเหรียญสหรัฐ 688.4 ล้านเหรียญสหรัฐ ฝ่ายการธนาคารแทรกแซงในตลาดทันที 2.74 พันล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนตลาดล่วงหน้า 870 ล้านเหรียญสหรัฐ ตลาด swap อีก 5.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ ระดับการแทรกแซงนี้อยู่ในระดับสูงมาก สูงกว่าในวันที่ 8 และ 9 พฤษภาคม
174. ในค่ำวันที่ 13 พฤษภาคม ผอ. ฝ่ายฯ บัณฑิต ได้ร่วมหารือกับ รอง ผอ. ประไพ และหัวหน้าส่วนฯ ไพบูลย์ เพื่อประเมินสถานการณ์ ข้อสรุปสำคัญก็คือ“สถานการณ์ปัจจุบันน่าห่วงใยมากและเข้าขั้นวิกฤต จากที่การโจมตีเงินบาทครั้งนี้เป็นการกระทำที่จงใจจะให้ประสบผลสำเร็จโดยเร็ว โดยมี scale ของการ takeposition ที่สูงมาก เพื่อหวังจะ break ระบบอัตราแลกเปลี่ยนให้ทางการลดค่าเงิน เพื่อการเก็งกำไร โดยอาศัยเงื่อนไขทางเศรษฐกิจของประเทศ บวกกับการปล่อยข่าวลือเกี่ยวกับความแตกแยกทางการเมือง และการเปลี่ยนแปลงนโยบายอัตราแลกเปลี่ยน” (บันทึกช่วยจำการหารือ เช้าวันที่ 14 พฤษภาคม 2540ของผู้บริหารระดับสูง จดบันทึกโดยนายบัณฑิต นิจถาวร ลงวันที่ 14 พฤษภาคม 2540)
175. วันที่ 14 พฤษภาคม 2540 คงเป็นวันที่ผู้บริหารระดับสูงของ ธปท. จะไม่มีวันลืม ในตอนเช้าผู้บริหารระดับสูง (ชุดเดียวกันกับชุดวันที่ 13 และได้เพิ่มนางสาวประไพ สุวรรณรัฐ (รองผู้อำนวยการฝ่ายการธนาคาร) เข้าร่วมด้วย) ประชุมหารือกัน ก่อนเข้าประชุมในตอนเช้า ผอ. ฝ่ายฯ บัณฑิตเริ่มเห็นสัญญาณเตือนภัยจากการเคลื่อนไหวในตลาดแล้ว ตามคำชี้แจงของนายเริงชัยที่ได้ให้กับ ศปร. “ทุกคนตื่นตระหนก และบางคนแทบจะร้องไห้ … [ผอ. ฝ่ายฯบัณฑิต] ได้รายงานสถานการณ์และให้ความเห็นว่า การกระทำของ Hedge Fund ทั้งหลายเป็นการรังแกประเทศไทยในขณะที่เรากำลังดำเนินการแก้ไขปัญหาตามขั้นตอนที่กำหนดไว้”
มีต่อ
12-15 พ.ค. 2540 ไทยปกป้องค่าเงินบาทจนสุดใจ (ตัดมาจากรายงาน ศปร.)
169.ระหว่างวันที่ 13-15 พฤษภาคมนั้นมีการหารือกันบ่อยครั้งในระหว่างผู้บริหารระดับสูงของ ธปท. และเป็นที่น่าสังเกตว่าในช่วงนี้จะมีการบันทึกการหารือกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต่างจากที่เคยปฏิบัติกันมา
170. ในวันที่ 12 พฤษภาคม ถึงแม้ว่ายังมีแรงซื้อในตลาดทันที และในตลาด swap มาก แต่ก็ยังไม่แรงนัก อาจเป็นเพราะกลางวันของวันที่ 12 ในกรุงเทพฯยังเป็นคืนวันอาทิตย์ที่ตลาดนิวยอร์ก ฝ่ายการธนาคารจึงไม่ได้เข้าแทรกแซง ปล่อยให้ธนาคารพาณิชย์มาซื้อเงินเหรียญสหรัฐจากทุนรักษาระดับฯ สูงถึง 881.2ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นจำนวนสูงมากสำหรับทุนรักษาระดับฯ แต่ไม่สูงเท่าใดหากเทียบกับการแทรกแซงของฝ่ายการธนาคารในวันที่ 8 และ 9 พฤษภาคมและวันต่อๆ มา เป็นที่น่าสังเกตว่าฝ่ายการธนาคารมิได้แทรกแซงเลยในวันนี้ ทั้งๆ ที่อัตราแลกเปลี่ยนสูงขึ้นเป็น 25.915 บาท/เหรียญสหรัฐ สูงกว่าราคากลางที่ทุนรักษาระดับฯ ประกาศ (25.85 บาท) (ข้อมูลในวรรคนี้ได้มาจากบันทึกที่ 379/2540 จากผู้อำนวยการฝ่ายการธนาคาร (นายบัณฑิต นิจถาวร) ถึง ผู้ช่วยผู้ว่าการศิริ การเจริญดี ลงวันที่ 22 พฤษภาคม 2540)
171. ในเช้าวันที่ 13 [บันทึกช่วยจำการหารือในครั้งนี้ (บันทึกโดยนายบัณฑิต นิจถาวร) ลงวันที่ 13 พฤษภาคม ระบุว่าเป็น "เช้าวานนี้" คือ วันที่ 12 แต่จากตัวเอกสารทำให้สรุปได้ว่าเป็นการประชุมในวันที่ 13] ได้มีการหารือกันระหว่างผู้ว่าการเริงชัย รองผู้ว่าการชัยวัฒน์ ผู้ช่วยผู้ว่าการศิริ และ ผู้ช่วยผู้ว่าการธัญญาผอ. ฝ่ายฯ บัณฑิต และ หัวหน้าส่วนฯ ไพบูลย์ ที่ประชุมได้ตกลงให้ฝ่ายการธนาคารเข้าแทรกแซงเป็นสองรอบ รอบแรกให้จำกัดวงเงินประมาณ 300 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อทดสอบดูว่ามีแรงต้านมากน้อยขนาดไหน และรอบที่สองให้แทรกแซงเพื่อลดอัตราขายในตลาดไม่ให้ห่างจากอัตราขายของทุนรักษาระดับฯมากนัก นอกจากนี้ในรอบที่สองให้ขอความช่วยเหลือจากธนาคารกลางฮ่องกงตามข้อตกลงที่มีอยู่ด้วย เพื่อเป็นการแสดงน้ำหนักของการแทรกแซงให้มีมากขึ้นปรามนักเก็งกำไร และให้ความมั่นใจแก่นักลงทุน (บันทึกช่วยจำการประชุมหารือ นายบัณฑิต นิจถาวร ผู้จดบันทึก ลงวันที่ 13 พฤษภาคม 2540)ในการแทรกแซงนี้ ธนาคารกลางฮ่องกงเป็นแต่ตัวแทนของ ธปท. ในตลาดฮ่องกง
172. ผลปรากฏว่าการแทรกแซงในตอนเช้าก็มีผลทำให้อัตราแลกเปลี่ยนลงมา แต่พอตอนบ่ายก็กลับสูงขึ้นอีก จำเป็นที่ธนาคารกลางฮ่องกงต้องเข้ามาแทรกแซงเป็นเงินจำนวน 500 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ข้อสรุปของฝ่ายการธนาคารก็คือ “ตลาดยังไม่กลัว”
173. ในวันนี้ทุนรักษาระดับฯ ขายเหรียญสหรัฐ 688.4 ล้านเหรียญสหรัฐ ฝ่ายการธนาคารแทรกแซงในตลาดทันที 2.74 พันล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนตลาดล่วงหน้า 870 ล้านเหรียญสหรัฐ ตลาด swap อีก 5.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ ระดับการแทรกแซงนี้อยู่ในระดับสูงมาก สูงกว่าในวันที่ 8 และ 9 พฤษภาคม
174. ในค่ำวันที่ 13 พฤษภาคม ผอ. ฝ่ายฯ บัณฑิต ได้ร่วมหารือกับ รอง ผอ. ประไพ และหัวหน้าส่วนฯ ไพบูลย์ เพื่อประเมินสถานการณ์ ข้อสรุปสำคัญก็คือ“สถานการณ์ปัจจุบันน่าห่วงใยมากและเข้าขั้นวิกฤต จากที่การโจมตีเงินบาทครั้งนี้เป็นการกระทำที่จงใจจะให้ประสบผลสำเร็จโดยเร็ว โดยมี scale ของการ takeposition ที่สูงมาก เพื่อหวังจะ break ระบบอัตราแลกเปลี่ยนให้ทางการลดค่าเงิน เพื่อการเก็งกำไร โดยอาศัยเงื่อนไขทางเศรษฐกิจของประเทศ บวกกับการปล่อยข่าวลือเกี่ยวกับความแตกแยกทางการเมือง และการเปลี่ยนแปลงนโยบายอัตราแลกเปลี่ยน” (บันทึกช่วยจำการหารือ เช้าวันที่ 14 พฤษภาคม 2540ของผู้บริหารระดับสูง จดบันทึกโดยนายบัณฑิต นิจถาวร ลงวันที่ 14 พฤษภาคม 2540)
175. วันที่ 14 พฤษภาคม 2540 คงเป็นวันที่ผู้บริหารระดับสูงของ ธปท. จะไม่มีวันลืม ในตอนเช้าผู้บริหารระดับสูง (ชุดเดียวกันกับชุดวันที่ 13 และได้เพิ่มนางสาวประไพ สุวรรณรัฐ (รองผู้อำนวยการฝ่ายการธนาคาร) เข้าร่วมด้วย) ประชุมหารือกัน ก่อนเข้าประชุมในตอนเช้า ผอ. ฝ่ายฯ บัณฑิตเริ่มเห็นสัญญาณเตือนภัยจากการเคลื่อนไหวในตลาดแล้ว ตามคำชี้แจงของนายเริงชัยที่ได้ให้กับ ศปร. “ทุกคนตื่นตระหนก และบางคนแทบจะร้องไห้ … [ผอ. ฝ่ายฯบัณฑิต] ได้รายงานสถานการณ์และให้ความเห็นว่า การกระทำของ Hedge Fund ทั้งหลายเป็นการรังแกประเทศไทยในขณะที่เรากำลังดำเนินการแก้ไขปัญหาตามขั้นตอนที่กำหนดไว้”
มีต่อ