[CR] เด็กน้อยน่ารักกับอาจุมม่าจอมเหนื่อยที่ จิ่วจ้ายโกว & หวงหลง 6 วัน 5 คืน

ทริปนี้เรามีกัน 4 คนนะคะ (อาจุมม่า 2 คน เนี๋ยนชิงเหริน 1 คนและเด็กน้อยอีก 1 คน)
v v v v v v v v v v v v v v v v v v v v v v v v v v v v v v v v v v


เราวางแผนกันไว้ว่า
วันที่ 1 เดินทางไปเฉิงตู เที่ยวเฉิงตู    
วันที่ 2 เดินทางไปจิ่วจ้ายโกว
วันที่ 3 เที่ยวจิ่วจ้ายโกวขาขวา
วันที่ 4 เที่ยวจิ่วจ้ายโกวขาซ้ายและเก็บที่เหลือ
วันที่ 5 เที่ยวหวงหลง กลับเฉิงตู
วันที่ 6 ช้อปปิ้งที่เฉิงตู ขึ้นเครื่องกลับไทย
อมยิ้ม01อมยิ้ม01อมยิ้ม01อมยิ้ม01


วันที่ 1
พร้อมกันที่สนามบิน 7 โมงเช้าค่า เราเดินทางจากรุงเทพไปลงสนามบินเฉิงตูด้วยไฟล์ท TG618 ค่า เวลา 10.55 น.
ใช้เวลาในการบิน 2 ชั่วโมงครึ่งค่ะ (แต่ละคนดูหนังกันคนละเรื่อง ถึงสนามบินเฉิงตูหนังก็จบพอดีเลยค่า) ถึงสนามบินเฉิงตูด้วยเวลา 15.05 น. จากสนามบินมี MRT เข้าเมืองนะคะ แต่วันที่ไป MRT ที่สนามบินใช้ไม่ได้นะคะ กำลังปรับปรุงอยู่

จากนั้นรถที่ติดต่อไว้ มารับจากสนามบินไปโรงแรมค่ะ ชื่อ Romantic Holiday Hotel (22 Section 2 of Middle Renmin Road)

โรงแรมที่พักอยู่ในตัวเมืองเฉิงตูเลย ราคาคืนละ 1800 บาทต่อห้องค่ะ ห้องนึงนอน 2 คน (ก็ตกคนละ 900 บาท) จากนั้นเราก็ออกไปเดินเที่ยว เพื่อนเด็กน้อยซาซาที่อยู่เฉิงตูนามว่า เพ่ยเพ่ย จะมารับไปกินข้าวตอน 6 โมงเย็น (แต่มันไม่เย็นนี่สิคะ แดดเปรี้ยงมากค่ะ) เราก็เดินตามทางไปเรื่อยๆ ระหว่างทางเดินถนนเส้นนี้มีธนาคารและโรงแรมเยอะมากค่ะ มี MRT ผ่านด้วย

เดินๆไปก็ไปเจอประตูที่เป็นศิลปะแบบจีนก็แวะถ่ายรูปกันซักหน่อย
    

มีป้ายผังเมืองบอกทางบริเวณนั้นด้วย ใครอยากรู้ว่าบริเวณนั้นมีอะไรให้เที่ยวบ้างก็ส่องเลยค่า

เดินถ่ายรูปกันอยู่ซักพักนึง เพ่ยเพ่ย (เพื่อนเด็กน้อยซาซา) ก็มารับไปไหว้พระแถวถนนคนเดิน (เดินผ่านประตูจีนเข้าไปประมาณ 500 เมตรก็ถึงค่ะ)

หน้าวัดมีเมล็ดทานตะวันขาย เพ่ยเพ่ยแวะซื้อ เรา 4 คน นี่ยังงงค่ะ ว่ามันคืออะไร ที่นี่เค้ากินเมล็ดทานตะวันกันสดๆนะคะ ไม่มีมาคั่วเหมือนบ้านเรา ดอกใหญ่มากกกกกค่า อาจุมม่าเลยซื้อมาสองดอก เพ่ยเพ่ยบอกให้ลองชิม แต่แล้วก็กินกันไม่ได้ค่า (สุดท้ายยกให้แม่ค้าร้านอาหารที่จิ่วจ้ายโกวไปกินค่ะ - -“)

ต่อจากนั้นก็ข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามหาอะไรกินกันที่ถนนคนเดิน ตอนไปเดินนี่คนไม่เยอะมากค่ะ ร้านก็ปิดไปบ้างแล้ว ตามทางก็จะมีของที่ระลึกขายตลอดทาง

แวะพิพิธภัณฑ์ไปดูผ้าหน่อย ข้างในยังมีเครื่องประดับตกแต่งบ้านขายด้วยนะคะ ออกแนวธรรมะหน่อยๆ

เดินเล่นกันมาจนหิวแล้ว เพ่ยเพ่ยก็พามากินข้าวที่ร้านอาหารแถวถนนคนเดิน นี่แค่ออเดิร์ฟนะคะ ยังมีมื้อดึกอีก (แค่ออเดิร์ฟก็กินกันไม่ไหวแล้วค่ะ ) ทั้งหมดนี้คนละชุด พุงจะแตกค่ะงานนี้
กาแฟ
กาแฟ
กาแฟ
กาแฟ
รสชาติอาหารก็มีทั้งเผ็ด จืด หวาน มัน ตามแบบฉบับอาหารจีนเลยค่ะ มาถึงที่แล้วต้องลองกินดูค่ะ

กินข้าวเสร็จ เพ่ยเพ่ยก็พาไปเที่ยวตรอกคนเดินตอนกลางคืน (Kuanxiangzi) อีกค่ะ

ระหว่างทางจะไป Kuanxiangzi เรา 4 คนและเพ่ยเพ่ย เดินผ่านเจอผู้สูงอายุกำลังออกกำลังกาย เพ่ยเพ่ยก็บอกลองไปเต้นตามเค้าสิ มีรึจะเหลือ กินอิ่มมาเต็มที่ก็ต้องหาวิธีย่อยซักหน่อย เรา 4 คนเลยจัดการไปเข้าแถวต่อหลังคนอื่นที่ออกกำลังกายอยู่ ท่าไม่ยากเลยค่า เหมาะแก่ผู้สูงวัยจริงๆ แถมยังมีนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเหมือนกันมาต่อแถวข้างหลังอีก สนุกดีค่ะ ขยับร่างกายซักพักก็เดินไปที่ตรอกกันต่อค่ะ

พอไปถึงตรอก คนเยอะมาก มีทั้งคนจีน แขก ฝรั่ง ร้านอาหารเยอะมากค่ะ ร้านขายของฝากก็เยอะค่ะ




ไปสะดุดกับขนมอย่างนึง เรียกว่าอะไรจำไม่ได้แล้ว มันทำมาจากถั่วค่ะ กินแล้วติดคอมากๆค่า ต้องรีบกินน้ำตามเข้าไปเลย

อาจุมม่าทั้ง 2 รีเควสอยากจะดูงิ้วเปลี่ยนหน้ากาก เพ่ยเพ่ยเลยพาไปนั่งดูในร้านเลย จิบน้ำชาไปด้วย ดูการแสดงไปด้วย ร้านนี้เค้ามีการแสดงหลายอย่างนะคะ เช่น หญิงสาวมาร้องเพลงให้ฟัง การเทน้ำชาจากกาปากยาว การลงโทษเด็กสมัยก่อนของชาวเสฉวน เป็นต้น น่าตื่นตาตื่นใจไปอีกแบบค่ะ


โชว์เปลี่ยนหน้ากาก ทั้งสไปเดอร์แมน แพนด้า มากันหลายหน้าเลยค่ะ

ระหว่างชมการแสดงก็จิบชาหอมมะลิไปด้วยค่ะ ชาเค้าหอมดีนะคะ

นักแสดงลงมาโชว์เทน้ำชาถึงข้างล่างเลยค่ะ


ดูการแสดงจบก็ออกมาเดินในตรอกต่อค่ะ กลางคืนเปิดไฟสีสวยดีค่ะ บรรยากาศดี คนที่มาเดินก็ไม่ได้ลดลงนะคะ

มีร้านขายไอติม ร้านขนมต่างๆ และก็ยังมี starbuck มาเปิดด้วยนะคะ

อันนี้เหมือนน้ำตาลปั้นบ้านเราค่ะ คิวยาวมากๆ น้ำตาลปั้นที่นี่มีให้เป่าลมเข้าไปในตัวน้ำตาลได้ด้วยนะคะ จะได้ดูตัวพองๆ

สำหรับคนที่ชอบสะสมแก้ว ที่นี่ก็มีหลายแบบหลายลายให้เลือกนะคะ

และอีกหนึ่ง landmark ถ้ามาที่ตรอกนี้ต้องมาถ่ายรูป คือมังกรตัวนี้นี่แหละค่ะ

เดินชมบรรยากาศยามค่ำคืนในตรอกคนเดินเสร็จ เพ่ยเพ่ยก็พาไปจัดหนักมื้อดึกแล้วล่ะค่ะ มื้อนี้คือ 烧烤 (shaokao) นั่นก็คือ บาร์บิคิวนั่นเองค่ะ

มีพริกแห้งไว้ให้จิ้มด้วยค่ะ .. รสชาติแปลกไปอีกแบบค่ะ



มีทั้ง หมู เห็ด เป็ด ไก่ เครื่องใน ผัก สั่งมายังกับไม่ได้กินข้าวมาหลายวัน ณ ขณะนี้เวลาประมาณสี่ทุ่มกว่าแล้วค่า (ลงพุงแน่ๆ)

ข้าวโพดเค้าก็เรียงเม็กเสียบใส่ไม้ ขยันน่าดูค่ะ



กินกันอิ่มแล้วก็ถ่ายรูปกันซักหน่อยค่า ..

ยังไม่จบค่ะ ราตรีนี้อีกยาวไกล กินเสร็จประมาณ เกือบ 5 ทุ่ม ไปเดินเล่นกันต่อที่ถนนเลียบแม่น้ำ ชื่อถนนหลานกุ้ยฟาง ถนนเส้นนี้จะมีผับบาร์ตลอดทั้งเส้นเลยค่า ควันบุหรี่เยอะไปหน่อยค่ะ (สำหรับคนที่ไม่ชอบกลิ่นควันบุหรี่แนะนำให้พก mask ไปด้วยค่ะ)


นอกจากนี้ยังมีการฉายรูปหน้ากากบนถนนเป็นสีสันอีกอย่างนึงของที่นี่เลยค่ะ

มาเก็บบรรยากาศยามค่ำคืนริมแม่น้ำกันค่ะ ลมพัดเย็นสบาย มีสะพาน Ancient Anshun ให้เก็บภาพริมแม่น้ำด้วยค่า

ตัวสะพานจะมี 2 ด้าน จะเป็นคนละวิวกันค่า สวยกันคนละแบบ ด้านนึงเป็นวิวแหล่งบันเทิง อีกด้านนึงเป็นวิวเงียบสงบค่ะ

ไปต่อกันที่ แม่น้ำแห่งรัก บริเวณนี้จะมีคนมาถ่ายพรีเวดดิ้งกันเยอะมากค่า ตามรั้ว ตามต้นไม้ประดับด้วยไฟรูปหัวใจ รูปผีเสื้อ แม้กระทั่งทางม้าลายก็ยังเป็นหัวใจเลยค่า ใครจะถ่ายรูปก็ดูรถกันดีๆนะคะ อยู่ๆเค้าจะขับเข้ามาจอด เค้าก็ไม่แคร์อะไรนะคะ จนเพ่ยเพ่ยต้องไปยืนกันรถให้เลยค่า (รถในเมืองจีนขับกันน่ากลัว)

ทางม้าลายรูปหัวใจ น่าจะเอาไว้นอนถ่ายรูปด้วยมากกว่าข้ามถนนนะคะ อมยิ้ม02



แล้ววันนี้ก็จบกันที่เที่ยงคืนค่ะ กลับโรงแรมแล้วก็พักผ่อนค่า วันพรุ่งนี้เราต้องนั่งรถกันอีกนานเลย จากเฉิงตูไปจิ่วจ้ายโกวระยะเวลาโดยประมาณ คือ 10 ชั่วโมงค่ะ

นี่แค่โปรแกรมวันแรกนะคะ อัดแน่นมากๆ (ตอนแรกบอกเที่ยวสบายๆ) ที่เฉิงตูพระอาทิตย์ตกตอน 2 ทุ่มค่ะ เลยทำให้เวลาดึก แต่บรรยากาศดูไม่ดึกตามเวลาเลยค่ะ คนเลยยังออกมาเที่ยวกันเยอะ ด้วยความที่เป็นเมืองท่องเที่ยว ก็จะมีรถเมล์ รถไฟใต้ดินไว้เดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวกค่ะ ในตัวเมืองเฉิงตูยังมีที่เที่ยวอีกเยอะเลยค่ะ แต่ว่าเรา 4 คนเก็บไม่ไหวแล้วค่า ยิ้ม
ชื่อสินค้า:   จิ่วจ้ายโกว หวงหลง เฉิงตู
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่