สวัสดีค่ะเพื่อนๆ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกนะคะ หากมีข้อผิดพลาดประการใด ดิฉันขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
และหากท่านใดมีข้อแนะนำ จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งค่ะ
ขอให้กระทู้นี้ดำเนินไปด้วยความสงบนะคะ
เจ้าของกระทู้ขออนุญาตยังไม่ลงชื่อของโครงการนะคะ เพื่อความสะดวกเรียบร้อยและฝ่ายโครงการจะไม่สามารถนำมาอ้างได้ว่าเจ้าของกระทู้ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง
นำเรื่องค่ะ
เริ่มจากการที่เจ้าของกระทู้และเพื่อนกัลยาณมิตรได้ไปจองบ้านเดี่ยวสองชั้นของโครงการหนึ่งค่ะ (มีโปรเจคเพื่อเปิดบ้านเป็นสถานที่สำหรับปฏิบัติธรรมนั่งสมาธิกับมิตรสหายกัลยาณมิตร) จองหลังแรกไปด้วยเงินจอง10,000บาทและหลังจากนั้นก็จองหลังที่สองอีกโดยวางเงินจองไว้อีก10,000บาท
หลังจากนั้น การกู้บ้านหลังแรกไม่ผ่านค่ะ เพราะเพื่อนคนแรกที่จะกู้นั้นทำงานที่ต่างประเทศ ทางธนาคารจึงไม่อนุมัติ ดังนั้นเพื่อนอีกคนจึงลองยื่นกู้ดูทั้งๆที่มีหนี้คอนโดที่กทม.อยู่แล้ว สรุปคือไม่ผ่านค่ะ ทางโครงการจึงคืนเงินมัดจำ จำนวน10,000บาทสำหรับการจองบ้านหลังแรก
แต่หลังที่สอง ผู้กู้อีกคนมีปัญหาสภาวะทางการเงินและเริ่มถอดใจเพราะเรื่องเอกสารค่ะเลยถอนตัวจากการกู้ค่ะ ทางโครงการไม่ยอมคืนเงินมัดจำให้ โดยให้เหตุผลว่าเขาเสียโอกาสในการขายสินค้า ซึ่งทางเราก็เข้าใจ (แม้ว่าถ้าเราหาคนมากู้แล้วกู้ไม่ผ่านทางโครงการก็ต้องคืนเงินมัดจำให้ตามสัญญาอยู่ดี แต่ณตอนนั้นคือไม่อยากมีปัญหากะโครงการเพราะตั้งใจว่าโปรเจคสถานปฏิบัติธรรมนี้เราจะพยายามทำให้ได้ แล้วเราก็รู้สึกถูกชะตากะที่ๆโครงการตั้งอยู่มากๆ)
หลังจากนั้นสักพัก เพื่อนคนที่อยู่ต่างประเทศย้ายกลับมาทำงานที่ประเทศไทยค่ะ แล้วทำเรื่องยื่นขอกู้อีกครั้ง และกู้ผ่านโดยนัดทำการโอนกันในวันที่22/4/59 เพราะช่วงนั้นทางรัฐบาลมีนโยบายช่วยเรื่องการซื้อบ้านจนถึงสิ้นเดือนเมษายน2559
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาทางเซลจะจี้ให้เรารีบกู้รีบดำเนินการต่างๆโดยที่เราไม่ได้เอะใจเลยค่ะว่าอะไรยังไง และก็มีคนเตือนแล้วว่าอย่าซื้อบ้านโครงการนี้ซึ่งจากที่คุยๆ เราถามหลายรอบมากแต่เขาก็ไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรนักนอกจากเรื่องอุปกรณ์ในห้องน้ำขึ้นสนิมง่าย เราเองก็มองโลกในแง่ดีค่ะว่านิดๆหน่อยๆ ถ้าไม่มีอะไรอย่างอื่นร้ายแรงจริงๆ เดี๋ยวเปลี่ยนเอาละกัน ก็ซื้อเพราะติดที่ชอบทำเลมากจริงๆ(ทำเลเงียบสงบค่ะ)
รีวิวบ้าง ขอความคิดเห็นบ้าง เรื่องบ้านที่ซื้อโครงการ พxxxxxxxx บxxxxx
และหากท่านใดมีข้อแนะนำ จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งค่ะ
ขอให้กระทู้นี้ดำเนินไปด้วยความสงบนะคะ
เจ้าของกระทู้ขออนุญาตยังไม่ลงชื่อของโครงการนะคะ เพื่อความสะดวกเรียบร้อยและฝ่ายโครงการจะไม่สามารถนำมาอ้างได้ว่าเจ้าของกระทู้ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง
นำเรื่องค่ะ
เริ่มจากการที่เจ้าของกระทู้และเพื่อนกัลยาณมิตรได้ไปจองบ้านเดี่ยวสองชั้นของโครงการหนึ่งค่ะ (มีโปรเจคเพื่อเปิดบ้านเป็นสถานที่สำหรับปฏิบัติธรรมนั่งสมาธิกับมิตรสหายกัลยาณมิตร) จองหลังแรกไปด้วยเงินจอง10,000บาทและหลังจากนั้นก็จองหลังที่สองอีกโดยวางเงินจองไว้อีก10,000บาท
หลังจากนั้น การกู้บ้านหลังแรกไม่ผ่านค่ะ เพราะเพื่อนคนแรกที่จะกู้นั้นทำงานที่ต่างประเทศ ทางธนาคารจึงไม่อนุมัติ ดังนั้นเพื่อนอีกคนจึงลองยื่นกู้ดูทั้งๆที่มีหนี้คอนโดที่กทม.อยู่แล้ว สรุปคือไม่ผ่านค่ะ ทางโครงการจึงคืนเงินมัดจำ จำนวน10,000บาทสำหรับการจองบ้านหลังแรก
แต่หลังที่สอง ผู้กู้อีกคนมีปัญหาสภาวะทางการเงินและเริ่มถอดใจเพราะเรื่องเอกสารค่ะเลยถอนตัวจากการกู้ค่ะ ทางโครงการไม่ยอมคืนเงินมัดจำให้ โดยให้เหตุผลว่าเขาเสียโอกาสในการขายสินค้า ซึ่งทางเราก็เข้าใจ (แม้ว่าถ้าเราหาคนมากู้แล้วกู้ไม่ผ่านทางโครงการก็ต้องคืนเงินมัดจำให้ตามสัญญาอยู่ดี แต่ณตอนนั้นคือไม่อยากมีปัญหากะโครงการเพราะตั้งใจว่าโปรเจคสถานปฏิบัติธรรมนี้เราจะพยายามทำให้ได้ แล้วเราก็รู้สึกถูกชะตากะที่ๆโครงการตั้งอยู่มากๆ)
หลังจากนั้นสักพัก เพื่อนคนที่อยู่ต่างประเทศย้ายกลับมาทำงานที่ประเทศไทยค่ะ แล้วทำเรื่องยื่นขอกู้อีกครั้ง และกู้ผ่านโดยนัดทำการโอนกันในวันที่22/4/59 เพราะช่วงนั้นทางรัฐบาลมีนโยบายช่วยเรื่องการซื้อบ้านจนถึงสิ้นเดือนเมษายน2559
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาทางเซลจะจี้ให้เรารีบกู้รีบดำเนินการต่างๆโดยที่เราไม่ได้เอะใจเลยค่ะว่าอะไรยังไง และก็มีคนเตือนแล้วว่าอย่าซื้อบ้านโครงการนี้ซึ่งจากที่คุยๆ เราถามหลายรอบมากแต่เขาก็ไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรนักนอกจากเรื่องอุปกรณ์ในห้องน้ำขึ้นสนิมง่าย เราเองก็มองโลกในแง่ดีค่ะว่านิดๆหน่อยๆ ถ้าไม่มีอะไรอย่างอื่นร้ายแรงจริงๆ เดี๋ยวเปลี่ยนเอาละกัน ก็ซื้อเพราะติดที่ชอบทำเลมากจริงๆ(ทำเลเงียบสงบค่ะ)