ตามชื่อกระทู้เลยนะครับ ผมเห็นหลายคนชอบบอกว่าถ้าต้องการเก็บตังนะต้องหักไปเก็บไว้ก่อน แล้วค่อยเอาที่เหลือมาใช้
คำถาม 1 : แล้วรู้ได้ไงว่าต้องเก็บเท่าไรดี ?
คำตอบที่เห็นบ่อยๆ : 10 - 20 % ของรายได้
คำถาม 2 : แล้วรู้ได้ไงว่ามันเหมาะสมกันเรา ?
คำตอบที่เห็นบ่อยๆ : ไปอ่านเจอมา, เค้าบอกมาอีกที
ลองนึกภาพดูนะคับ
นาย A มีรายได้ 9000 บาทต่อเดือน
ถ้าเก็บ 10 % คือ 900 บาทต่อเดือน
จะเหลือให้ใช้ 8100 บาทต่อเดือน
นาย B มีรายได้ 20000 บาทต่อเดือน
ถ้าเก็บ 10 % คือ 2000 บาทต่อเดือน
จะเหลือให้ใช้ 18000 บาทต่อเดือน
ถ้านาย A และ B ใช้ชีวิตไม่ต่างกันผลที่ได้คือ
แบบที่ 1 ถ้านาย A และ B ใช้เงินพอดีที่ 8100 ต่อเดือน แสดงว่านาย B เสียโอกาสในการเก็บตังเพิ่มอีก 9900 บาทต่อเดือน (เยอะเหมือนกันนะ)
แบบที่ 2 ถ้านาย A และ B ใช้เงินพอดีที่ 18000 ต่อเดือน แสดงว่านาย A จะต้องเป็นหนี้เพิ่มเดือนละ 9900 บาท
เห็นมั้ยคับว่าการเอา % ที่คนอื่นเค้าบอกมาใช้ดื้อๆ มันไม่ให้ผลดีเสมอไป
อีกอย่างในแบบที่ 2 จะเห็นได้ว่า ต่อให้หักออกไปแล้ว ถ้าใช้แหลก สุดท้ายก็ต้องไปเอาไอ้ที่หักออกไปแล้วกลับมาใช้อยู่ดี และผมเชื่อว่าหลายคนที่เริ่มเก็บตังโดยใช้วิธีหักออกไปเก็บดื้อๆ โดยไม่ได้คำนวนหาค่าที่เหมาะสมกับตัวเองก่อน มักจะเจอปัญหานี้ พอเจอหนักๆเข้าก็ท้อและเลิกเก็บไปโดยปริยาย
แล้วจะให้ทำไงละวะ ? อ่านมาถึงตรงนี้แล้วคุณก็คงจะมีคำถามแบบนี้เกิดขึ้นในหัวแน่ๆ เคล็ดลับคือการประมานการค่าใช้จ่ายที่จำเป็นจิงๆก่อน แล้วค่อยหัก
การประมานการค่าใช้จ่ายจะแบ่งออกเป็น 3 ก้อนหลัก
1 รายจ่ายจำเป็นต่อวัน (อันนี้สำคัญมาก) เช่น ค่าข้าว ค่ารถ ค่าขนม ซึ่งต้องเป็นค่าที่จำเป็นจิงๆ แบบว่าถ้าไม่ใช้มีผลกระทบต่อชีวิต อย่างถ้าไม่กินข้าวมันก็หิว แต่ก็ไม่ใช่บุฟเฟต์มื้อละ 400 อันนี้ก็เกินจำเป็นไปเยอะ กินแค่ 30 - 50 บาทก็พอ (ราคานี้แล้วแต่พื้นที่นะ ค่าครองชีพแต่ละที่มันไม่เท่ากัน) พยายามใช้อย่าให้เกินจากนี้รับรองมีเงินเหลือเก็บแน่
2 รายจ่ายจำเป็นต่อเดือน เช่น ค่าหอ ค่าน้ำค่าไฟ
3 รายจ่ายฟุ้มเฟือย เช่น เที่ยว ดูหนัง ไอ้กินบุฟเฟต์มื้อ 400 เอามาลงอันนี้เลย แต่อย่าให้มันเยอะมากนัก ถ้าก้อนนี้ยิ่งเยอะ เงินเก็บก็ยิ่งน้อยนะ แต่ถ้าจะตัดออกเลยเชื่อเถอะคุณอาจตบะแตกก่อน แล้วเดี๋ยวสุดท้ายอาจจะไม่เหลือเงินเก็บอีก
เห็นมั้ยคับไม่มีก้อนไหนซักก้อนที่ผมกำหนด % เพราะอย่างที่บอกรายได้ รายจ่าย การใช้ชีวิตของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน จะมากำหนด % เท่ากันได้ไง
แต่ถ้าคุณคำนวนมาถึงแค่ก้อน 2 ก็ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว หรืออาจติดลบ อาจต้องกลับไปดูก้อนที่ 1 ใหม่ว่ามีอะไรเกินจำเป็นไปรึเปล่า แต่ถ้าคำตอบคือไม่ แสดงว่าคุณควรต้องหารายได้เพิ่มแล้วหละคับ
จบแล้วนะคับ สำหรับมือใหม่หัดเก็บ แบ่งออกเป็น 3 ก้อน แล้วยังมีเงินเก็บเหลือก็เก่งแล้วคับ
สำหรับขั้น Advance ต้องแบ่งให้ได้ 7 ก้อนนะคับ ไม่ต้องตกใจนะ ที่เพิ่มมาคือเอาเงินเก็บมาแบ่งลงทุนจ้า ไปละรอบหน้าค่อยพูดถึงขั้น Advance
เคล็ดลับการเก็บตังที่ดี ไม่ได้อยู่ที่การเก็บก่อนใช้ แต่อยู่ที่การรู้ว่าแต่ละวันเราใช้ได้ไม่เกินเท่าไร
คำถาม 1 : แล้วรู้ได้ไงว่าต้องเก็บเท่าไรดี ?
คำตอบที่เห็นบ่อยๆ : 10 - 20 % ของรายได้
คำถาม 2 : แล้วรู้ได้ไงว่ามันเหมาะสมกันเรา ?
คำตอบที่เห็นบ่อยๆ : ไปอ่านเจอมา, เค้าบอกมาอีกที
ลองนึกภาพดูนะคับ
นาย A มีรายได้ 9000 บาทต่อเดือน
ถ้าเก็บ 10 % คือ 900 บาทต่อเดือน
จะเหลือให้ใช้ 8100 บาทต่อเดือน
นาย B มีรายได้ 20000 บาทต่อเดือน
ถ้าเก็บ 10 % คือ 2000 บาทต่อเดือน
จะเหลือให้ใช้ 18000 บาทต่อเดือน
ถ้านาย A และ B ใช้ชีวิตไม่ต่างกันผลที่ได้คือ
แบบที่ 1 ถ้านาย A และ B ใช้เงินพอดีที่ 8100 ต่อเดือน แสดงว่านาย B เสียโอกาสในการเก็บตังเพิ่มอีก 9900 บาทต่อเดือน (เยอะเหมือนกันนะ)
แบบที่ 2 ถ้านาย A และ B ใช้เงินพอดีที่ 18000 ต่อเดือน แสดงว่านาย A จะต้องเป็นหนี้เพิ่มเดือนละ 9900 บาท
เห็นมั้ยคับว่าการเอา % ที่คนอื่นเค้าบอกมาใช้ดื้อๆ มันไม่ให้ผลดีเสมอไป
อีกอย่างในแบบที่ 2 จะเห็นได้ว่า ต่อให้หักออกไปแล้ว ถ้าใช้แหลก สุดท้ายก็ต้องไปเอาไอ้ที่หักออกไปแล้วกลับมาใช้อยู่ดี และผมเชื่อว่าหลายคนที่เริ่มเก็บตังโดยใช้วิธีหักออกไปเก็บดื้อๆ โดยไม่ได้คำนวนหาค่าที่เหมาะสมกับตัวเองก่อน มักจะเจอปัญหานี้ พอเจอหนักๆเข้าก็ท้อและเลิกเก็บไปโดยปริยาย
แล้วจะให้ทำไงละวะ ? อ่านมาถึงตรงนี้แล้วคุณก็คงจะมีคำถามแบบนี้เกิดขึ้นในหัวแน่ๆ เคล็ดลับคือการประมานการค่าใช้จ่ายที่จำเป็นจิงๆก่อน แล้วค่อยหัก
การประมานการค่าใช้จ่ายจะแบ่งออกเป็น 3 ก้อนหลัก
1 รายจ่ายจำเป็นต่อวัน (อันนี้สำคัญมาก) เช่น ค่าข้าว ค่ารถ ค่าขนม ซึ่งต้องเป็นค่าที่จำเป็นจิงๆ แบบว่าถ้าไม่ใช้มีผลกระทบต่อชีวิต อย่างถ้าไม่กินข้าวมันก็หิว แต่ก็ไม่ใช่บุฟเฟต์มื้อละ 400 อันนี้ก็เกินจำเป็นไปเยอะ กินแค่ 30 - 50 บาทก็พอ (ราคานี้แล้วแต่พื้นที่นะ ค่าครองชีพแต่ละที่มันไม่เท่ากัน) พยายามใช้อย่าให้เกินจากนี้รับรองมีเงินเหลือเก็บแน่
2 รายจ่ายจำเป็นต่อเดือน เช่น ค่าหอ ค่าน้ำค่าไฟ
3 รายจ่ายฟุ้มเฟือย เช่น เที่ยว ดูหนัง ไอ้กินบุฟเฟต์มื้อ 400 เอามาลงอันนี้เลย แต่อย่าให้มันเยอะมากนัก ถ้าก้อนนี้ยิ่งเยอะ เงินเก็บก็ยิ่งน้อยนะ แต่ถ้าจะตัดออกเลยเชื่อเถอะคุณอาจตบะแตกก่อน แล้วเดี๋ยวสุดท้ายอาจจะไม่เหลือเงินเก็บอีก
เห็นมั้ยคับไม่มีก้อนไหนซักก้อนที่ผมกำหนด % เพราะอย่างที่บอกรายได้ รายจ่าย การใช้ชีวิตของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน จะมากำหนด % เท่ากันได้ไง
แต่ถ้าคุณคำนวนมาถึงแค่ก้อน 2 ก็ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว หรืออาจติดลบ อาจต้องกลับไปดูก้อนที่ 1 ใหม่ว่ามีอะไรเกินจำเป็นไปรึเปล่า แต่ถ้าคำตอบคือไม่ แสดงว่าคุณควรต้องหารายได้เพิ่มแล้วหละคับ
จบแล้วนะคับ สำหรับมือใหม่หัดเก็บ แบ่งออกเป็น 3 ก้อน แล้วยังมีเงินเก็บเหลือก็เก่งแล้วคับ
สำหรับขั้น Advance ต้องแบ่งให้ได้ 7 ก้อนนะคับ ไม่ต้องตกใจนะ ที่เพิ่มมาคือเอาเงินเก็บมาแบ่งลงทุนจ้า ไปละรอบหน้าค่อยพูดถึงขั้น Advance