ว่าจะเขียนประเด็นนี้นานแล้วค่ะ แต่ก็ได้แต่...ว่าจะๆๆๆๆ ...ไม่ได้ลงมือเขียนสักที เหตุที่ไม่เขียนเพราะว่ามันต้องเขียนเอี่ยวเกี่ยวกับลูกตัวเองด้วย แต่สุดท้ายคำว่า ว่าจะๆๆ ก็ได้หายไป เมื่อได้อ่านข่าว
น้องผู้ชายอายุ 16 จ้างวานเพื่อนมาฆ่าพ่อบังเกิดเกล้าของตัวเอง เพราะโกรธที่พ่อทุบตีเขามาตั้งแต่เด็ก อ่านแล้วสะเทือนใจอย่างที่สุด คิดว่าคนเป็นพ่อแม่ได้อ่านแล้วก็คงสะเทือนใจเช่นกัน เลยเป็นที่มาของกระทู้นี้ค่ะ
เพื่อเป็นการปูพื้น ขออนุญาตเล่านิดนึงก่อนว่า จขกท.มีลูกชายคนเดียวค่ะ ปัจจุบันลูกอายุ 9 ขวบ จขกท. กับสามี ตัดสินใจเลี้ยงกันเองตั้งแต่ลูกเกิด ไม่ได้เอาไปให้ปู่ย่าตายายเลี้ยงที่บ้านต่างจังหวัด...การเลี้ยงลูกเองใน กทม. แบบครอบครัวเดี่ยวหัวเดียวกระเทียมลีบที่มีกันแค่ 3 คน พ่อ-แม่-ลูก นั้น ใครๆ ก็รู้ว่าไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งเป็นมนุษย์เงินเดือนด้วยแล้ว การจะหาเงินกัดฟันมาจ้างพี่เลี้ยงลูกและค่าใช้จ่ายต่างๆ ยิ่งไม่ใช่เรื่องง่ายใหญ่เลย เช่นกันค่ะ การหา “ต้นแบบ” ดีๆ ให้ลูกก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ กล้วยๆ เช่นกัน นอกจากพ่อของลูก และคนสำคัญอื่นๆ ที่ไม่ได้กล่าวถึงในที่นี้แล้ว มีนักแสดง 2 คนค่ะ ที่ จขกท. เลือกมาเป็น Role Model ให้ลูก ....... 2 คนที่ว่านี้ ก็คือ “ณเดชน์” กับ “เจมส์ มาร์” สามีแห่งชาติ เอ๊ย ลูกชาย-หลานชายแห่งชาติ ของเรานั่นเองค่ะ
ขอบคุณรูปจาก IG แม่แก้วค่ะ
ทำไมต้องเป็นณเดชน์ คำตอบคือ ถ้าใครเป็นเป็นแฟนพันทิป เป็นแฟน (เก่า) กระทู้สัมภาษณ์ Exclusive และเป็นแฟน “ณเดชน์” จะรู้ดีว่า จขกท. เป็น “ต่อน” ของผู้ชายคนนี้มานานมากแค่ไหนแล้ว ดูจากประวัติการสัมภาษณ์เฉพาะแค่ในพันทิปก็น่าจะรู้แล้วว่า เป็น ต่อน... no ติ่ง...ขนาดไหน (
http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/2012/08/A12478125/A12478125.html ) และถ้าใครได้อ่านหนังสือ “ณเดชน์ในดวงใจ” ที่เขียนโดย “แม่แก้ว” คุณแม่ของณเดชน์แล้ว ก็คงจะจำคำนิยมที่ จขกท. เขียนไว้ในหนังสือส่วนหนึ่งได้ว่า
“เสียดายที่ณเดชน์เกิดช้าไป ในเมื่อมีสามีแบบณเดชน์ไม่ทันแล้ว ก็จะขอเลี้ยงลูกแบบณเดชน์ให้ได้” (คอยดู 5555)
5555 หลายคนอาจคิดว่าเขียนเล่นๆ ขำๆ แต่ จขกท.พูดจริงทำจริง เลี้ยงลูกแบบณเดชน์จริงๆ ค่ะ
ณเดชน์ เริ่มเป็น "ตัวอย่างที่ดี" ให้ลูกมาตั้งแต่ ปี 2553 ตั้งแต่ลูกอายุ 2-3 ขวบ จนถึงปัจจุบัน ปีนี้เป็นปีที่ 7 ปีแล้วค่ะที่ลูกมี “พี่ณเดชน์” อยู่ในชีวิต เมื่อก่อนลูกเป็นหอบและภูมิแพ้ แพ้ง่ายเหมือนพี่ณเดชน์ จากที่เคยเป็นขั้นรุนแรง มาถึงทุกวันนี้ลูกแทบไม่หอบและแพ้อะไรง่ายๆ แล้ว ที่อาการดีขึ้นได้ก็ด้วยคำแนะนำโดยตรงจากปาก”แม่แก้ว” และพี่ณเดชน์เองที่เห็นใจคนเป็นหอบเหมือนกัน ใครไม่มีลูกเป็นหอบ หรือไม่เคยเป็นหอบ ไม่รู้หรอกค่ะว่ามันทรมานแค่ไหน (เคยหอบค่ะ เลยรู้ซึ้ง) ขอขอบพระคุณแม่แก้วไว้อย่างสูงมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
ส่วน เจมส์ มาร์ นั้น มาตอนปี 2556 ช่วงลูกชายอายุ 4-5 ขวบค่ะ ตอนนั้นลูกชายประสบอุบัติเหตุรถสิบล้อชน พร้อม จขกท. ทุกคนในรถสลบหมด รวมทั้ง จกทท.ด้วย เหลือลูกชายไม่สลบ จึงเห็นเหตุการณ์และรับรู้ทุกอย่างอยู่คนเดียว เหตุการณ์นี้ทำให้ลูกฝังใจฝันร้ายจนต้องพาไปพบจิตแพทย์เป็นปีๆ ตอนนี้เองค่ะที่ “ชายพีร์” ได้รับเลือกให้มาอยู่ในชีวิตลูก เพราะชายพีร์ถูกข้าศึกยิงเครื่องบินตก และชายพีร์ก็เป็นต้นแบบที่ดีให้กับ “ประณต” ด้วย (ช่วงนั้นลูกชายมีความรักเหมือนประณตพอดี) จากชายพีร์ก็กลายเป็น “พี่เจมส์ มาร์” ค่ะ แล้วก็มี “พ่อเหม” และ “คุณหมอศตวรรษ” ตามมาเป็นต้นแบบให้ลูกอีกในเวลาต่อมา ทุกวันนี้ลูกชายมี "ภาษากาย" หลายอย่างเหมือนพี่เจมส์ มาร์มาก ส่วนจะ มีอะไรบ้างนั้น เดี๋ยวค่อยๆเล่าสอดแทรกไปในเนื้อหานะคะ
ทำไมต้องเป็น “ณเดชน์” กับ “เจมส์ มาร์” ด้วย
คำตอบนี้ ไม่จำเป็นต้องตอบใช่ไหมคะ ทุกคนคงรู้คำตอบกันดีอยู่แล้ว แต่สาเหตุหนึ่งที่เลือก 2 คนนี้มา เป็นเพราะลูกมีปัญหาเรื่องสมาธิค่ะ พอลูกพ่นหอบกับเครื่องพ่นหอบมากๆ สมาธิลูกจะสั้นแบบสมาธิสั้นเทียม ณเดชน์นั้น ผ่านเครื่องพ่นหอบและมีปัญหาเรื่องสมาธิ (ตอนเด็ก) เหมือนกัน ถ้าสังเกตจะเห็นว่าเมื่อก่อนณเดชน์ซนมาก แต่ก็นิ่งได้ในเวลาที่ควรนิ่ง นิ่งได้อย่างน่าทึ่งเสียด้วย ตรงข้ามกับ เจมส์ มาร์ ซึ่งนิ่งมาก นิ้งนิ่ง แต่พอเวลาให้ทำอะไรก็ทำได้ แถมทำได้ดีเสียด้วย ทั้งที่ตอนเด็ก เจมส์เป็นเด็กที่ซนมาก (ตอนนี้ก็แอบซน) เลยอยากรู้ว่าโตมาเขานิ่งได้ยังไง ตอนนี้ลูกชายนิ่งขึ้นเยอะแล้วค่ะ
ที่สำคัญเหนืออื่นใด เจมส์ มาร์ มีณเดชน์ เป็น ไอดอลค่ะ งานนี้ลูกชายเลยมีไอดอลซ้อนดับเบิ้ลไอดอลเลย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ไอดอล 2 คนนี้จะดีไปเสียทั้งหมด ในสายตาของเราสองแม่ลูกนะคะ อะไรดี บุ๋มก็ว่าดี แต่อะไรไม่ดี บุ๋มก็ว่าไม่ดี เดี๋ยวลองมาดูกันค่ะว่า มีอะไร ที่ลูกตัดสินว่า ไม่ควรทำตามอย่าง 2 คนนี้บ้าง และมีอะไรที่เอาไปจาก 2 คนนี้แล้วลูกทำได้แล้วได้ผลดีบ้าง มาติดตามกันเลยค่ะ
คำเตือน - กระทู้นี้เขียนยาก+น่าจะยาวเอาการ ขอกำลังใจจากคนอ่านเป็น "รูป" ของทั้งสองคนได้มั้ยคะ จะรูปเดี่ยวก็ได้ รูปคู่ก็ได้ จะได้มีกำลังใจเขียน แฮ่ (เสียงเจมส์ มาร์)
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับรูปและการติดตามอ่านค่ะ
ปลาดาว คูกิมิยะ มาร์
Exclusive สัมภาษณ์ พ่อแม่เขาเลี้ยงลูกยังไงนะถึงดีอย่างนี้...มาเลี้ยงลูกให้เป็น Excellent boy แบบ ณเดชน์ + เจมส์ มาร์ กัน
เพื่อเป็นการปูพื้น ขออนุญาตเล่านิดนึงก่อนว่า จขกท.มีลูกชายคนเดียวค่ะ ปัจจุบันลูกอายุ 9 ขวบ จขกท. กับสามี ตัดสินใจเลี้ยงกันเองตั้งแต่ลูกเกิด ไม่ได้เอาไปให้ปู่ย่าตายายเลี้ยงที่บ้านต่างจังหวัด...การเลี้ยงลูกเองใน กทม. แบบครอบครัวเดี่ยวหัวเดียวกระเทียมลีบที่มีกันแค่ 3 คน พ่อ-แม่-ลูก นั้น ใครๆ ก็รู้ว่าไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งเป็นมนุษย์เงินเดือนด้วยแล้ว การจะหาเงินกัดฟันมาจ้างพี่เลี้ยงลูกและค่าใช้จ่ายต่างๆ ยิ่งไม่ใช่เรื่องง่ายใหญ่เลย เช่นกันค่ะ การหา “ต้นแบบ” ดีๆ ให้ลูกก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ กล้วยๆ เช่นกัน นอกจากพ่อของลูก และคนสำคัญอื่นๆ ที่ไม่ได้กล่าวถึงในที่นี้แล้ว มีนักแสดง 2 คนค่ะ ที่ จขกท. เลือกมาเป็น Role Model ให้ลูก ....... 2 คนที่ว่านี้ ก็คือ “ณเดชน์” กับ “เจมส์ มาร์” สามีแห่งชาติ เอ๊ย ลูกชาย-หลานชายแห่งชาติ ของเรานั่นเองค่ะ
ขอบคุณรูปจาก IG แม่แก้วค่ะ
ทำไมต้องเป็นณเดชน์ คำตอบคือ ถ้าใครเป็นเป็นแฟนพันทิป เป็นแฟน (เก่า) กระทู้สัมภาษณ์ Exclusive และเป็นแฟน “ณเดชน์” จะรู้ดีว่า จขกท. เป็น “ต่อน” ของผู้ชายคนนี้มานานมากแค่ไหนแล้ว ดูจากประวัติการสัมภาษณ์เฉพาะแค่ในพันทิปก็น่าจะรู้แล้วว่า เป็น ต่อน... no ติ่ง...ขนาดไหน ( http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/2012/08/A12478125/A12478125.html ) และถ้าใครได้อ่านหนังสือ “ณเดชน์ในดวงใจ” ที่เขียนโดย “แม่แก้ว” คุณแม่ของณเดชน์แล้ว ก็คงจะจำคำนิยมที่ จขกท. เขียนไว้ในหนังสือส่วนหนึ่งได้ว่า
“เสียดายที่ณเดชน์เกิดช้าไป ในเมื่อมีสามีแบบณเดชน์ไม่ทันแล้ว ก็จะขอเลี้ยงลูกแบบณเดชน์ให้ได้” (คอยดู 5555)
5555 หลายคนอาจคิดว่าเขียนเล่นๆ ขำๆ แต่ จขกท.พูดจริงทำจริง เลี้ยงลูกแบบณเดชน์จริงๆ ค่ะ
ณเดชน์ เริ่มเป็น "ตัวอย่างที่ดี" ให้ลูกมาตั้งแต่ ปี 2553 ตั้งแต่ลูกอายุ 2-3 ขวบ จนถึงปัจจุบัน ปีนี้เป็นปีที่ 7 ปีแล้วค่ะที่ลูกมี “พี่ณเดชน์” อยู่ในชีวิต เมื่อก่อนลูกเป็นหอบและภูมิแพ้ แพ้ง่ายเหมือนพี่ณเดชน์ จากที่เคยเป็นขั้นรุนแรง มาถึงทุกวันนี้ลูกแทบไม่หอบและแพ้อะไรง่ายๆ แล้ว ที่อาการดีขึ้นได้ก็ด้วยคำแนะนำโดยตรงจากปาก”แม่แก้ว” และพี่ณเดชน์เองที่เห็นใจคนเป็นหอบเหมือนกัน ใครไม่มีลูกเป็นหอบ หรือไม่เคยเป็นหอบ ไม่รู้หรอกค่ะว่ามันทรมานแค่ไหน (เคยหอบค่ะ เลยรู้ซึ้ง) ขอขอบพระคุณแม่แก้วไว้อย่างสูงมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
ส่วน เจมส์ มาร์ นั้น มาตอนปี 2556 ช่วงลูกชายอายุ 4-5 ขวบค่ะ ตอนนั้นลูกชายประสบอุบัติเหตุรถสิบล้อชน พร้อม จขกท. ทุกคนในรถสลบหมด รวมทั้ง จกทท.ด้วย เหลือลูกชายไม่สลบ จึงเห็นเหตุการณ์และรับรู้ทุกอย่างอยู่คนเดียว เหตุการณ์นี้ทำให้ลูกฝังใจฝันร้ายจนต้องพาไปพบจิตแพทย์เป็นปีๆ ตอนนี้เองค่ะที่ “ชายพีร์” ได้รับเลือกให้มาอยู่ในชีวิตลูก เพราะชายพีร์ถูกข้าศึกยิงเครื่องบินตก และชายพีร์ก็เป็นต้นแบบที่ดีให้กับ “ประณต” ด้วย (ช่วงนั้นลูกชายมีความรักเหมือนประณตพอดี) จากชายพีร์ก็กลายเป็น “พี่เจมส์ มาร์” ค่ะ แล้วก็มี “พ่อเหม” และ “คุณหมอศตวรรษ” ตามมาเป็นต้นแบบให้ลูกอีกในเวลาต่อมา ทุกวันนี้ลูกชายมี "ภาษากาย" หลายอย่างเหมือนพี่เจมส์ มาร์มาก ส่วนจะ มีอะไรบ้างนั้น เดี๋ยวค่อยๆเล่าสอดแทรกไปในเนื้อหานะคะ
ทำไมต้องเป็น “ณเดชน์” กับ “เจมส์ มาร์” ด้วย
คำตอบนี้ ไม่จำเป็นต้องตอบใช่ไหมคะ ทุกคนคงรู้คำตอบกันดีอยู่แล้ว แต่สาเหตุหนึ่งที่เลือก 2 คนนี้มา เป็นเพราะลูกมีปัญหาเรื่องสมาธิค่ะ พอลูกพ่นหอบกับเครื่องพ่นหอบมากๆ สมาธิลูกจะสั้นแบบสมาธิสั้นเทียม ณเดชน์นั้น ผ่านเครื่องพ่นหอบและมีปัญหาเรื่องสมาธิ (ตอนเด็ก) เหมือนกัน ถ้าสังเกตจะเห็นว่าเมื่อก่อนณเดชน์ซนมาก แต่ก็นิ่งได้ในเวลาที่ควรนิ่ง นิ่งได้อย่างน่าทึ่งเสียด้วย ตรงข้ามกับ เจมส์ มาร์ ซึ่งนิ่งมาก นิ้งนิ่ง แต่พอเวลาให้ทำอะไรก็ทำได้ แถมทำได้ดีเสียด้วย ทั้งที่ตอนเด็ก เจมส์เป็นเด็กที่ซนมาก (ตอนนี้ก็แอบซน) เลยอยากรู้ว่าโตมาเขานิ่งได้ยังไง ตอนนี้ลูกชายนิ่งขึ้นเยอะแล้วค่ะ
ที่สำคัญเหนืออื่นใด เจมส์ มาร์ มีณเดชน์ เป็น ไอดอลค่ะ งานนี้ลูกชายเลยมีไอดอลซ้อนดับเบิ้ลไอดอลเลย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ไอดอล 2 คนนี้จะดีไปเสียทั้งหมด ในสายตาของเราสองแม่ลูกนะคะ อะไรดี บุ๋มก็ว่าดี แต่อะไรไม่ดี บุ๋มก็ว่าไม่ดี เดี๋ยวลองมาดูกันค่ะว่า มีอะไร ที่ลูกตัดสินว่า ไม่ควรทำตามอย่าง 2 คนนี้บ้าง และมีอะไรที่เอาไปจาก 2 คนนี้แล้วลูกทำได้แล้วได้ผลดีบ้าง มาติดตามกันเลยค่ะ
คำเตือน - กระทู้นี้เขียนยาก+น่าจะยาวเอาการ ขอกำลังใจจากคนอ่านเป็น "รูป" ของทั้งสองคนได้มั้ยคะ จะรูปเดี่ยวก็ได้ รูปคู่ก็ได้ จะได้มีกำลังใจเขียน แฮ่ (เสียงเจมส์ มาร์)
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับรูปและการติดตามอ่านค่ะ
ปลาดาว คูกิมิยะ มาร์