ไปทำไมโพธารามไม่มีไรหรอก?
คำถามที่เราถูกตั้งคำถาม
คำตอบของเราตอนนั้นคือ เราเลือกไปเพราะความที่ไม่มีอะไรของโพธารามนี่แหละ
หลังจากได้ไปมาแล้ว เราขอเปลี่ยนคำตอบใหม่ โพธารามเป็นเมืองที่เหมือนจะไม่มีอะไรแต่มันมีอะไรให้น่าค้นหา
มันไม่ต้องมีเหตุผลอะไรมากมายเลยที่เราเลือกจะไปที่นี่ มันเริ่มจากกลางดึกในคืนก่อนหน้านั้น ที่เกิดความคิดที่ว่าอยากจะไปเดินเล่นถ่ายรูปชุมชนเก่าๆ แล้วโพธารามก็ผุดเข้ามาในหัวเราแค่นั้นเอง
::: ไปเพราะไม่มีอะไร :::
เช้า 19 ก.ค. 59 เราเลือกมุ่งหน้าสู่โพธารามด้วยรถไฟฟรีขบวน 261 กรุงเทพ – หัวหิน ใช้เวลาเดินทาง 2ชม. ชิวๆก็ถึงแล้ว ยิ่งวันนี้เป็นวันหยุดยาวช่วงเทศกาลเข้าพรรษาด้วยแล้ว รถคงโล่งนั่งสบายๆใส่หูฟัง ฟังเพลงที่ลิสท์ไว้ มองออกไปนอกหน้าต่างโดยที่เราไม่ต้องคิดหรือโฟกัสกับอะไรเป็นพิเศษแค่นี้ ความสุขก็เกิดขึ้นตั้งแต่เริ่มทริป แต่ภาพตัดมา เราตื่นสาย วิ่งตาเหลือกจาก MRT ไปสถานีรถไฟ รับตั๋วเสร็จ กระโดดขึ้นรถไฟเงยหน้ามาพบกับโลกแห่งความจริงและเพื่อนร่วมทาง เป็นไงล่ะยืนชิวๆไป 2ชม. ภาพที่คิดวาดฝันไว้หายไปกับตา จริงๆเราลืมคิดไปว่านี่มันขบวนยอดฮิตขบวนนึงเลย แน่นอนล่ะช่วงหยุดยาวแบบนี้คนต้องเยอะเป็นพิเศษอยู่แล้ว เพราะใครๆก็เลือกที่จะมุ่งหน้าไปเมืองตากอากาศชายทะเลอย่างหัวหินกันหมด
::: ความสุขระหว่างราง :::
นอกจากวิวข้างทางแล้วอีกสิ่งหนึ่งที่สร้างรอยยิ้มและความสุขระหว่างทางให้กับเราและคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นคือ รอยยิ้ม เสียงหัวเราะและความไร้เดียงสาของน้องผู้หญิงคนนี้แหละ
หันกลับไปอีกฝั่ง ก็เป็นคู่รักที่ออกมาเที่ยวด้วยกัน อิจและเซงมาก
ถามซิเราเหรอ? ปล่าวหรอก ป้าที่นั่งข้างๆคู่นั้นต่างหาก : )
ระยะเวลา 2ชม.นั้นผ่านไปเร็วกว่าที่คิด แปปเดียวเราก็มาถึงโพธารามแล้ว
รถไฟเข้าเทียบชานชาลาและเคลื่อนตัวออกไปช้าๆ เราลองนับจำนวนคนที่ลงที่สถานีนี้ ได้3คน รวมตัวเราแล้ว
อีก2คนนั้นเป็นน้องๆผู้หญิงที่มาเที่ยวเหมือนกันกับเรา เราได้คุยและทักทายกันเพียงเล็กน้อยแล้วเราก็แยกตัวออกมา
[CR] ::: โพธารามต้องตั้งใจมา ::: เมืองทางผ่าน ที่มีดีกว่าจะแค่ผ่านไป
ไปทำไมโพธารามไม่มีไรหรอก?
คำถามที่เราถูกตั้งคำถาม
คำตอบของเราตอนนั้นคือ เราเลือกไปเพราะความที่ไม่มีอะไรของโพธารามนี่แหละ
หลังจากได้ไปมาแล้ว เราขอเปลี่ยนคำตอบใหม่ โพธารามเป็นเมืองที่เหมือนจะไม่มีอะไรแต่มันมีอะไรให้น่าค้นหา
มันไม่ต้องมีเหตุผลอะไรมากมายเลยที่เราเลือกจะไปที่นี่ มันเริ่มจากกลางดึกในคืนก่อนหน้านั้น ที่เกิดความคิดที่ว่าอยากจะไปเดินเล่นถ่ายรูปชุมชนเก่าๆ แล้วโพธารามก็ผุดเข้ามาในหัวเราแค่นั้นเอง
::: ไปเพราะไม่มีอะไร :::
เช้า 19 ก.ค. 59 เราเลือกมุ่งหน้าสู่โพธารามด้วยรถไฟฟรีขบวน 261 กรุงเทพ – หัวหิน ใช้เวลาเดินทาง 2ชม. ชิวๆก็ถึงแล้ว ยิ่งวันนี้เป็นวันหยุดยาวช่วงเทศกาลเข้าพรรษาด้วยแล้ว รถคงโล่งนั่งสบายๆใส่หูฟัง ฟังเพลงที่ลิสท์ไว้ มองออกไปนอกหน้าต่างโดยที่เราไม่ต้องคิดหรือโฟกัสกับอะไรเป็นพิเศษแค่นี้ ความสุขก็เกิดขึ้นตั้งแต่เริ่มทริป แต่ภาพตัดมา เราตื่นสาย วิ่งตาเหลือกจาก MRT ไปสถานีรถไฟ รับตั๋วเสร็จ กระโดดขึ้นรถไฟเงยหน้ามาพบกับโลกแห่งความจริงและเพื่อนร่วมทาง เป็นไงล่ะยืนชิวๆไป 2ชม. ภาพที่คิดวาดฝันไว้หายไปกับตา จริงๆเราลืมคิดไปว่านี่มันขบวนยอดฮิตขบวนนึงเลย แน่นอนล่ะช่วงหยุดยาวแบบนี้คนต้องเยอะเป็นพิเศษอยู่แล้ว เพราะใครๆก็เลือกที่จะมุ่งหน้าไปเมืองตากอากาศชายทะเลอย่างหัวหินกันหมด
::: ความสุขระหว่างราง :::
นอกจากวิวข้างทางแล้วอีกสิ่งหนึ่งที่สร้างรอยยิ้มและความสุขระหว่างทางให้กับเราและคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นคือ รอยยิ้ม เสียงหัวเราะและความไร้เดียงสาของน้องผู้หญิงคนนี้แหละ
หันกลับไปอีกฝั่ง ก็เป็นคู่รักที่ออกมาเที่ยวด้วยกัน อิจและเซงมาก
ถามซิเราเหรอ? ปล่าวหรอก ป้าที่นั่งข้างๆคู่นั้นต่างหาก : )
ระยะเวลา 2ชม.นั้นผ่านไปเร็วกว่าที่คิด แปปเดียวเราก็มาถึงโพธารามแล้ว
รถไฟเข้าเทียบชานชาลาและเคลื่อนตัวออกไปช้าๆ เราลองนับจำนวนคนที่ลงที่สถานีนี้ ได้3คน รวมตัวเราแล้ว
อีก2คนนั้นเป็นน้องๆผู้หญิงที่มาเที่ยวเหมือนกันกับเรา เราได้คุยและทักทายกันเพียงเล็กน้อยแล้วเราก็แยกตัวออกมา