บทสัมภาษณ์มหาเทพเนเกรา หนึ่งในแข้งต่างชาติที่มีผลงานที่ดีของไทยลีก อยู่เมืองไทยนานๆนะเนเกรา

เมืองไทย คือ แดนสวรรค์...บ้านเมืองสวยงาม สงบเรียบร้อย อาหารอร่อย และ เนเกรา ก็ได้มาอยู่กับหนึ่งในสโมสรฟุตบอลที่ดีที่สุดของประเทศนี้ แต่ฉากแรกกับเมืองทองฯ กลับไม่สวยงาม
“วันที่เข้าห้องแต่งตัวสโมสรวันแรก มันเรียบง่าย ทุกอย่างดูปกติ… แต่ไม่รู้ซิ ผมบอกไม่ถูกเหมือนกัน ผมรู้สึกไม่ค่อยอบอุ่น”
“นักเตะในทีมก็เข้ามาทักทายผมตามมารยาทปกตินะ พวกเขามีความเป็นมืออาชีพสูง แต่ผมสัมผัสไม่ได้ถึงมิตรภาพที่ลึกซึ้งเท่าไหร่ มีแค่ ตอง (กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์) และ มิคกี้ (ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์) ที่ดูเป็นมิตรมากๆ”


“ผู้รู้สึกแย่จริงๆที่ตัดสินใจลงสนามทั้งๆที่รู้ว่าตัวเองยังไม่ฟิต ผมลงเล่นแมตช์สุดท้ายให้ โอเอสเต ตอนเดือนพฤศจิกายน และจากนั้นเดือนธันวาคม กับ มกราคม ผมหยุดพักผ่อน พาลูกสาวของผมไปเที่ยวกันอย่างเดียวเท่านั้น”
“ผมบอกทางสโมสรว่าผมยังไม่ฟิตนะ และผมยังไม่พร้อมที่จะลงเล่น แต่พวกเขาบอกผมว่าวิธีทางเดียวที่จะพัฒนาความฟิตได้ คือ ต้องมีเกมลงเตะ หลังจากนั้นผมก็ได้ลงเล่นเกมพบกับทีมจากมาเลเซีย (ยะโฮร์ ดารุล ต๊ะซิม) กับ เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี ในเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ผมรู้ว่าแฟนบอลเมืองทองฯ ไม่ชอบการเล่นฟุตบอลของผมนัก ผมก็เข้าใจได้เพราะไม่ฟิตจริงๆ แต่มันก็ไม่ได้เลวร้ายสักทีเดียวเมื่อเทียบกับสภาพร่างกายของผมในตอนนั้น”
“ผมคิดว่าช่วงเวลา 1 เดือนกว่าๆที่เมืองทอง คือ ช่วงเวลาที่ย่ำแย่ที่สุดในชีวิตนักฟุตบอลของผม เพราะมัน คือ การออกนอกประเทศ โดยที่ผมไม่สามารถแสดงตัวตนที่แท้จริงของผมออกมาได้ นั่น คือ สิ่งที่เลวร้าย ผมรู้ว่าผมทำได้ดีกว่าที่เห็น แต่ผมทำไม่ได้ ณ ขณะนั้น”  
“ประธานสโมสร (พงษ์ศักดิ์ ผลอนันต์)  เรียกผมไปที่ออฟฟิศ (ที่สยามสปอร์ต) เขาบอกว่าผมจะไม่ได้อยู่ที่นี่ (เมืองทองฯ) อีกต่อไป”

พระเจ้าอาจไม่ได้ขีดโชคชะตาให้ จูเนียร์ เนเกรา เป็นกิเลนผยอง...แต่ลิขิตให้เขาเป็นโลมาสีน้ำเงินที่ยิ่งใหญ่
“ท่านประธานบอกว่าผมว่าผมไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีม แต่ชีวิตนอกสนามของผมลงตัวแล้วทุกอย่าง ผมบอกกับเขาว่าผมยังเหลือสัญญา และถามเขาว่าจะทำยังไง เพราะผมต้องการอยู่ที่นี่ (เมืองไทย) เรื่องนอกสนามผมปรับตัวได้ดี เช่นเดียวกับภรรยา และลูกสาวของผมที่เข้าโรงเรียนไปแล้ว”
“เขาบอกว่าให้ผมไปพัทยาฯ ผมนิ่ง ไม่โต้ตอบ และไม่ปฏิเสธใดๆ ผมตอบตกลงไปทันทีในสัญญายืมตัว เพราะผมต้องการพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าความจริงผมทำอะไรได้บ้าง” และผมไม่เคยเคืองแค้นอะไรเมืองทองฯ เลย พวกเขาเป็นทีมที่ยอดเยี่ยม มันเป็นเพียงวิถีของฟุตบอลอาชีพ”
“ผมรู้ว่าแฟนบอลไม่ชอบการเล่นฟุตบอลของผม เพราะสิ่งที่ผมแสดงให้พวกเขาเห็นมันไม่ดีพอ มันก็เท่านั้น”
ฉากแรกในห้องแต่งตัวที่พัทยา ยูไนเต็ด ช่างแตกต่าง เขารู้สึกได้ถึงมิตรภาพและการต้อนรับที่อบอุ่นจากเพื่อนร่วมทีม… รอมยิ้ม การเข้ามาทักทาย คำพูด และความรู้สึกที่ถ่ายทอดให้กัน มันทำให้เขารู้สึกอุ่นใจกับทีมใหม่ แม้ย้ายมาด้วยสัญญายืมตัว
“วันแรกที่ผมไปพัทยาฯ ผมรู้สึกเหมือนผมอยู่ที่นั่นมาสัก 10 เดือนแล้ว” เนเกรา เล่าถึงวันแรกในห้องแต่งตัวที่พัทยา
“การทำงานในสนามนั้น เรื่องความสัมพันธ์ที่ยอดเยี่ยมนอกสนาม มันเป็นสิ่งที่สำคัญมาก และนั่น คือ เหตุผลที่ทำให้ ผลงานของพัทยา ยูไนเต็ด ดีอย่างที่เห็นทุกวันนี้"
“พอผมได้พบกับ ซุนนี่ สะอั๊ด หรือ (อันโตนิโอ) พีน่า ความรู้สึกที่เราถ่ายทอดให้กัน มันเหมือนกับ เราต่างฝ่ายต่างพร้อมช่วยเหลือ ซึ่งกันและกัน ทั้งในและนอกสนาม ทั้งที่พวกเราเพิ่งเจอกันครั้งแรก ทั้งรอยยิ้ม และวิธีการพูด”


จูเนียร์ เนเกรา เริ่มต้นกับพัทยา ยูไนเต็ด ด้วยสถิติการยิงประตูอันน่าเหลือเชื่อ กลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดของทีม และเล่นเข้าขากับ ซุนนี่ สะอั๊ด ได้อย่างลงตัว จนทำให้เขามีชีวิตที่สมบูรณ์ ทั้งในและนอกสนาม เหมือนกับสมัยที่เขาย้ายไปอยู่กับ โคนินไคลจ์เด้ เบียร์ช็อต ในเบลเยี่ยม อีกครั้ง  
“สิ่งสำคัญ คือ ทุกวันนี้ภรรยาและลูกสาวของผมอยู่กันอย่างมีความสุขที่เมืองไทย นี่เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่ทำให้ผมมีฟอร์มการเล่นที่ดี ผมมีสมาธิโฟกัสกับฟุตบอลได้อย่างเต็มที่”
“ผมมักรู้สึกแย่เสมอที่ต้องเดินทางไปแข่งขันฟุตบอลกับทีม โดยที่ทิ้งให้ลูกและภรรยาผมอยู่ลำพัง เพราะฉะนั้นในทุกๆ วันหยุดผมจะกลับมาอยู่กับพวกเธอ พาเธอไปเที่ยวสวนสนุก เราเรียนรู้สถานที่ต่างๆ ที่เมืองไทยไปพร้อมๆกัน และผมก็ชอบเซอร์ไพรส์ซื้อของเล่นให้เธอเสมอ”
“พ่อของผมเป็นพ่อที่สุดยอด และผมก็อยากจะเป็นคุณพ่อที่ดีเหมือนกับเขา แม้ท่านจากเราไปตั้งแต่ 2 ปีก่อนแล้วก็ตาม”
แนะนำ

ขณะนี้ เนเกรา กลายเป็นยอดดาวยิงของไทยลีก ยิงไป 16 ประตูในลีก และฟุตบอลถ้วยอีก 4 ประตู รวมเป็น 20 ลูก เป็นปีที่ยิงได้มากที่สุดในชีวิตการค้าแข้งตลอดชีวิตที่ผ่านมา โดยขณะนี้เพิ่งผ่านครึ่งทางของฤดูกาล 2016 ไม่นานเท่านั้น… เขามีสัญญากับพัทยา ยูไนเต็ด จนจบฤดูกาลนี้ เขาไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่วันนี้เขามั่นใจว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องกับการมาอยู่ที่เมืองไทย สถานที่ทำให้เขาและคนรักข้างกายต่างมีความสุข
“พระเจ้าได้มอบสิ่งที่ดีที่สุดให้ผมเสมอ” เนเกรา กล่าวทิ้งท้าย

เอาใจช่วยเนเกรา ให้ประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในชีวิต
อยู่เมืองไทยไปนานๆนะเนเกรา

ที่มา fourfourtwo.com ติดตามอ่านฉบับเต็มได้ที่
http://www.fourfourtwo.com/th/features/chiiwitkhngcchuueniiyr-enekraa-eda-aefmilii-aemn?page=0%2C1#w5pgE4Y0rybJAfrJ.99
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่