ขอบคุณสิ่งรอบกายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้คนหรือธรรมชาติที่โอบกอดเราไว้อยู่
ขอบคุณการเดินทาง ที่มักจะสอนเราอยู่เสมอในทุกๆก้าวที่เดิน
ผมเป็นคนนึงที่ชอบในการท่องเที่ยว ชอบไปเจอสถานที่ใหม่ๆ ..ชีวิตคนเรามันก็มีแค่เนี้ยแหละ
ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบก็พอแล้ว
..ครั้งนี้ผมได้ไปจังหวัดน่านมา เป็นจังหวัดที่เรียบๆ สงบ อากาศดี ชิวมากก
วันแรก ผมก็ไปขึ้นรถไฟฟรีที่หัวลำโพง (มีรอบ13.45 - รอบเดียวต่อวัน) เพื่อจะไปลงที่ เด่นชัย จังหวัดแพร่
ครั้งนี้ผมไปกันสามคน พอไปถึงที่นั่งก็มีลุงอีกคนนั่งอยู่ พอได้คุยกันไปกันมา สรุปลุงแกก็ไปลงเด่นชัยเหมือนกัน คุยกันสนุกดี
พอชมวิว2ข้างทางไปได้เรื่อยๆ ก็มีลุงมาขายขนมถังแตกอันละ10บาท ตอนแรกก็ใจแข็งจะประหยัดๆ หันหน้าหนีลุงแกและ แต่ลุงก็บอกว่า "อะๆ 2อัน15บาท" ผมก็ใจอ่อนหันไปซื้อด้วยความที่ลดราคา 5555 แต่พอจ่ายตังไป20ปุ๊บ ลุงแกบอกว่า "ไหนๆแล้วก็สามอัน20บาทละกัน" ผมก็ได้แต่งทำหน้างงแล้วก็มองลุงแกก็เดินจากไป (สรุปกูเสียเงินไปตอนไหนวะเนี่ย) 5555
จากนั้นก็นั่งต่อกันไปยาวๆ เอ้อ ลืมบอกว่ารถไฟเลทไปชั่วโมงนึงแหนะ จากที่จะถึงตอนเกือบเที่ยงคืน เลยเป็นตี1เลย 5555
แต่พอเราถึงสถานีเด่นชัยกันแล้ว ก็ต้องต่อรถตู้ข้างสถานีเพื่อไปที่จะไปน่าน แต่มันดันมีรอบตี2 ก็เลยต้องเดินไปหาไรกินที่เซเว่นตอนตี1กันครับโผ้มมม
แว๊บแรกที่เข้าไปในเซเว่น รู้สึกเลยว่า กูมาถึงเหนือแล้วเว้ยยย เพราะ... พนักงานพูดภาษาเหนือกัน 55555 (ตื่นเต้นทำไมวะ)
พอหาไรกินกันเรียบร้อยก็กลับมาขึ้นรถตู้
รถโล่งมากมีกัน3คน นั่งสบายเลยย ก็เลยถามพี่คนขับคุยว่า "น่านมีที่เที่ยวอะไรสวยๆบ้างพี่" พี่เขาก็เลยแนะนำให้เที่ยวจากทางใต้ของจังหวัดแล้วค่อยๆไล่ขึ้นมาไปทางเหนือ จะได้เก็บหมด. 555 ไอพวกเราก็ไม่มีแพลนอะไรอยู่แล้ว กะมาแบบมั่วๆไปเรื่อยอะ ก็เลยตกลงตามพี่ไป
สรุปก็เลยได้ไปที่ "อุทยานแห่งชาติศรีน่าน >ดอยเสมอดาว<" เป็นที่แรก (เอ้อ ค่ารถตู้100ครับผม)
และแล้วก็มาถึง อ.เวียงสา ตอนตี4กว่า แต่ก็ยังไม่ถึงดอยเสมอดาวนะ ต้องต่อรถ "เมล์เขียว" ไปอีก (40บาท)
แต่รถออก6โมง เวลายังเหลือเยอะแยะ พวกเราเลยไปเดินเล่นตลาดกัน
ก็เลยได้มากินอย่างที่เห็น ตัวละ2บาท น้ำเต้าหู้ถุงละ5บาท (ราคาน่ารักๆ)
.....พอถึงเวลาก็ขึ้นรถไปดอยเสมอดาวกันนนนน
(พอดีเป็นวันศุกร์ได้เห็นเด็กๆใส่ชุดพื้นเมืองกันเลย ^^)
นั่งรถซึบซับบรรยากาศข้างทางมาเรื่อยๆจนมาถึง อำเภอนาน้อย แต่...ก็ยังไม่ถึงดอยเสมอดาว เพราะต้องหารถขึ้นไปบนดอยอีกที
พอลงรถมาปุ๊ปก็มีคนดิ่งเข้ามาหาเลย "ถามว่าไปไหนกัน" พวกผมก็บอกว่า "ดอยเสมอดาวพี่" น้าเขาก็เลยแนะนำว่ามีรถพาขึ้นไปให้นะ เหมากันขึ้นไปได้
ไอสายประหยัดแบบพวกผมก็ไม่ต้องห่วงครับ อย่าพึ่งรีบตัดสินใจ เลยบอกว่าเดี๋ยวขอคิดก่อนครับ
ก็เลยไปนั่งคิด นั่งหาไรกินกันที่เซเว่นแถวนั้น ว่าจะหารถโบกไปได้ไหม แต่ระหว่างทางเดินไปเซเว่นก็เจอ "รถรับ-ส่งนักเรียน" มาได้จังหวะพอดี 5555
เลยโบกถามพี่เขาเลยว่าจะหารถโบกขึ้นไปดอยยากไหมพี่ ..พี่เขาก็บอกไม่ยากหรอก แต่พอได้คุยกันไปกันมา เขาเสนอให้เช่ามอไซด์พี่เขาขับขึ้นไปไหม (เพราะมันสะดวก เวลาจะขับไปไหนมาไหนเองได้) ก็เลยตกลงที่ราคา 2คัน 2วัน 600บาท เพราะอีกวันกะจะไปอีกดอยด้วย
ได้รถแล้วก็ขับขึ้นดอยกันเล้ย สายแว๊นมาเองครับผ้มมมม 5555555
แล้วเราก็มาถึงที่หมายแรก (ตั้งแต่ขึ้นรถไฟมาจนตอนนี้ยังไม่ได้นอนเลยว๊อย55555) แต่ดูวิวสิ หายเหนื่อยเลย มีความสุขจริงๆ อากาศสดชื่น
ใครว่าเที่ยวหน้าฝนไม่ดี มันได้อย่างเสียอย่างนะ ข้อดีคือเราจะได้เที่ยวแบบคนไม่พลุกพล่าน ชิวๆ แต่ข้อเสียก็คืออุทยานส่วนใหญ่จะไม่ค่อยเปิดให้เดินสำรวจธรรมชาติกัน อย่างที่ที่ผมไปมา ผมก็ไม่ได้นอนที่ดอยเสมอดาวนะ เพราะอุทยานปิดปรับปรุงพื้นที่ เลยได้มานอนที่ "ผาชู้" แทน (แต่2ที่นี้อยู่ในอุทยานแห่งชาติศรีน่านเหมือนกันครับ) อ่านๆมานี่งงไหม ผมพึ่งเคยเขียนครั้งแรก ทนๆอ่านกันต่อไปน้อ 55555
นี่สินะ ฝนตกไม่ทั่วฟ้า 5555555
นอนเต้นท์กันนน (ราคาค่าเข้าอุทยานรวมกับค่าเต้นท์ หารกันสามคนเหลือคนละ 128บาทเอง มั้ง) 5555 ถูกดีจริงๆ
พอตกดึกก็จัดซักหน่อย " ข้าวปลากระป๋อง " หิววว 5555
ที่จริงกะจะดูดาวตอนดึกๆซะหน่อย แต่ฟ้าดันไม่เปิดเลยอดดูเลยยยย
ตื่นเช้ามาพร้อมกับอากาศเย็นๆ วิวสวยๆ แล้วโคตรมีความสุขเลย
#แต่เนื่องจากสภาพมอไซด์ที่ไม่ค่อยจะดี จากที่จะไปเที่ยวอีกดอยต่อ พวกผมเลยเปลี่ยนใจไปคืนเราเขาแทน และขอคืนเงินด้วย (เก๋า) 555555 ก็เลยเกิดแผนใหม่ขึ้นมา ว่าเข้าไปในตัวเมืองกัน
เพราะจะมีถนนคนเดินนนน (อยากไปอู้กำเมืองแล้ว)
ไม่รอช้าครับ หลังจากขับมอไซด์ลงมาแล้ว ก็โบกรถเข้ามาเมืองกันเลย
แล้วก็ได้พ่อแม่ลูกน่ารักๆ มารับเรา พี่ผช.เค้ามีผลงานร้องเพลงด้วยนะ ฝากซะเลยละกัน555
พอถึงเมืองก็ตรงเข้ามาแผนที่ก่อนเลย เอาไว้เลือกว่าจะไปไหนดี
พอกำลังจะเดินไปหาที่พัก ก็ได้มาเจอกับพี่2คนนี้ เขาก็สายเรา เขาเลยแนะนำที่พักที่เดียวกับพี่เขา แล้วก็ได้คุยกันตามประสาคนเที่ยว ว่าไปไหนกันมาบ้างเนี่ย ฉันไปตรงนั้นตรงนี้มา หนาวมากแก สนุกมาก (เสียงพี่ผญ.) 55555 พูดและคิดถึง
เราก็ได้และเฟสกัน เผื่อไว้คุยกันว่าจะไปเที่ยวด้วยกันได้ เพราะเอาจริงๆพี่เขาก็ยังไม่มีแผนแน่นอนว่าจะไปไหนเหมือนกัน 55555
สรุป ..เราเลยตกลงว่าเดี๋ยวค่ำๆไปเดินถนนคนเดินกัน ไว้ค่อยไปนั่งคุยกันยาวๆ
พอเข้าที่พักอะไรเรียบร้อย ก็เลยเช่าจักรยานมาขับกัน (ค่าห้อง3คน-400บาท) (จักรยานคันละ50บาท)
น่านเป็นจังหวัดที่มีวัดเยอะ แต่พวกผมไม่ใช่ผู้ชายสายวัดเท่าไหร่เลยไม่ค่อยเข้ากัน 5555
วัดพระธาติเขาน้อย จุดชมวิวเห็นได้ทั้งตัวเมือง
ปั่นจักรยานจากตัวเมืองมาวัดก็ว่าไกลแล้ว เจอบันไดทางขึ้นวัดเข้าไป 555555
ข้าวสอย 35 บาท (เกิดมาพึ่งเลยได้ลอง)
แนะนำถ้ามาตัวเมืองต้องไปฟังน้องๆเขาอธิบายภาพจิตรกรรมฝาผนังกันครับ ..น้องพูดภาษาเหนือแล้วน่ารักมาก ^^
และก็ต้องไม่พลาด "ปู่ม่าน ย่าม่าน" ภาพกระซับรักบรรลือโลกที่เลื่องลือกัน
กำแพงเมืองน่าน
แม่น้ำน่าน
แต่พอดีผมมีเพื่อนอยู่ที่น่านเหมือนกัน ก็เป็นอะไรที่จะพลาดไม่ได้ ..ตรงดิ่งไปหาบ้านเพื่อนกันเลยครับ 5555555
(เสียดายเพื่อนยังไม่กลับมา เลยได้ถ่ายรูปกับแม่ไปก่อน แม่น่ารักมากให้กินส้มโอฟรีอีก)
พอตกเย็นถนนคนเดินก็เริ่มจะคึกคักกันแล้ว
ประหยัดมาแทบตาย สุดท้ายก็มาลงที่ของกิน 5555555555555
หลังจากกินกันเสร็จก็ไปเดินเล่นกันต่อ ..เดินไปเดินมาก็ไปเจอกลุ่มพวกพี่เขาเล่นดนตรีกัน ได้เจอกันคนแนวคิดเดียวกัน คุยกันถูกคอ
นั่งร้องเพลง ฟังพี่เขาเล่าเรื่องเมืองน่านให้ฟัง ทำให้รู้ว่าคนบางคนหลงรักเมืองนี้มาก จากที่มาเที่ยวแค่ไม่กี่วัน กลับกลายเป็นได้แฟนเป็นคนที่นี่รู้จักกัน3วันแต่งงานกัน ผมก็ถามว่าทำไม พี่เขาบอกแค่ว่า "คนมันจะใช่ยังไงก็ใช่" บางทีเวลาที่รู้จักกันมาตั้งนานแต่สุดท้ายก็เลิกกันก็มีเยอะแยะไป (จนตอนนี้พี่เขาก็ยังขายโปสเตอร์เมืองน่านอยู่ที่ถนนคนเดิน ใครไปก็ไปอุดหนุนกันได้ คุยเป็นกันเอง)
ขอนำเสนอบทเพลง - หนุ่มสุพรรณ(แต่ร้องที่น่าน)
เสน่ห์เมืองน่าน ต๊ะต่อนยอนสไตล์
..ครั้งนี้ผมได้ไปจังหวัดน่านมา เป็นจังหวัดที่เรียบๆ สงบ อากาศดี ชิวมากก
วันแรก ผมก็ไปขึ้นรถไฟฟรีที่หัวลำโพง (มีรอบ13.45 - รอบเดียวต่อวัน) เพื่อจะไปลงที่ เด่นชัย จังหวัดแพร่
ครั้งนี้ผมไปกันสามคน พอไปถึงที่นั่งก็มีลุงอีกคนนั่งอยู่ พอได้คุยกันไปกันมา สรุปลุงแกก็ไปลงเด่นชัยเหมือนกัน คุยกันสนุกดี
พอชมวิว2ข้างทางไปได้เรื่อยๆ ก็มีลุงมาขายขนมถังแตกอันละ10บาท ตอนแรกก็ใจแข็งจะประหยัดๆ หันหน้าหนีลุงแกและ แต่ลุงก็บอกว่า "อะๆ 2อัน15บาท" ผมก็ใจอ่อนหันไปซื้อด้วยความที่ลดราคา 5555 แต่พอจ่ายตังไป20ปุ๊บ ลุงแกบอกว่า "ไหนๆแล้วก็สามอัน20บาทละกัน" ผมก็ได้แต่งทำหน้างงแล้วก็มองลุงแกก็เดินจากไป (สรุปกูเสียเงินไปตอนไหนวะเนี่ย) 5555
จากนั้นก็นั่งต่อกันไปยาวๆ เอ้อ ลืมบอกว่ารถไฟเลทไปชั่วโมงนึงแหนะ จากที่จะถึงตอนเกือบเที่ยงคืน เลยเป็นตี1เลย 5555
แต่พอเราถึงสถานีเด่นชัยกันแล้ว ก็ต้องต่อรถตู้ข้างสถานีเพื่อไปที่จะไปน่าน แต่มันดันมีรอบตี2 ก็เลยต้องเดินไปหาไรกินที่เซเว่นตอนตี1กันครับโผ้มมม
แว๊บแรกที่เข้าไปในเซเว่น รู้สึกเลยว่า กูมาถึงเหนือแล้วเว้ยยย เพราะ... พนักงานพูดภาษาเหนือกัน 55555 (ตื่นเต้นทำไมวะ)
พอหาไรกินกันเรียบร้อยก็กลับมาขึ้นรถตู้
รถโล่งมากมีกัน3คน นั่งสบายเลยย ก็เลยถามพี่คนขับคุยว่า "น่านมีที่เที่ยวอะไรสวยๆบ้างพี่" พี่เขาก็เลยแนะนำให้เที่ยวจากทางใต้ของจังหวัดแล้วค่อยๆไล่ขึ้นมาไปทางเหนือ จะได้เก็บหมด. 555 ไอพวกเราก็ไม่มีแพลนอะไรอยู่แล้ว กะมาแบบมั่วๆไปเรื่อยอะ ก็เลยตกลงตามพี่ไป
สรุปก็เลยได้ไปที่ "อุทยานแห่งชาติศรีน่าน >ดอยเสมอดาว<" เป็นที่แรก (เอ้อ ค่ารถตู้100ครับผม)
และแล้วก็มาถึง อ.เวียงสา ตอนตี4กว่า แต่ก็ยังไม่ถึงดอยเสมอดาวนะ ต้องต่อรถ "เมล์เขียว" ไปอีก (40บาท)
แต่รถออก6โมง เวลายังเหลือเยอะแยะ พวกเราเลยไปเดินเล่นตลาดกัน
ก็เลยได้มากินอย่างที่เห็น ตัวละ2บาท น้ำเต้าหู้ถุงละ5บาท (ราคาน่ารักๆ)
.....พอถึงเวลาก็ขึ้นรถไปดอยเสมอดาวกันนนนน
(พอดีเป็นวันศุกร์ได้เห็นเด็กๆใส่ชุดพื้นเมืองกันเลย ^^)
นั่งรถซึบซับบรรยากาศข้างทางมาเรื่อยๆจนมาถึง อำเภอนาน้อย แต่...ก็ยังไม่ถึงดอยเสมอดาว เพราะต้องหารถขึ้นไปบนดอยอีกที
พอลงรถมาปุ๊ปก็มีคนดิ่งเข้ามาหาเลย "ถามว่าไปไหนกัน" พวกผมก็บอกว่า "ดอยเสมอดาวพี่" น้าเขาก็เลยแนะนำว่ามีรถพาขึ้นไปให้นะ เหมากันขึ้นไปได้
ไอสายประหยัดแบบพวกผมก็ไม่ต้องห่วงครับ อย่าพึ่งรีบตัดสินใจ เลยบอกว่าเดี๋ยวขอคิดก่อนครับ
ก็เลยไปนั่งคิด นั่งหาไรกินกันที่เซเว่นแถวนั้น ว่าจะหารถโบกไปได้ไหม แต่ระหว่างทางเดินไปเซเว่นก็เจอ "รถรับ-ส่งนักเรียน" มาได้จังหวะพอดี 5555
เลยโบกถามพี่เขาเลยว่าจะหารถโบกขึ้นไปดอยยากไหมพี่ ..พี่เขาก็บอกไม่ยากหรอก แต่พอได้คุยกันไปกันมา เขาเสนอให้เช่ามอไซด์พี่เขาขับขึ้นไปไหม (เพราะมันสะดวก เวลาจะขับไปไหนมาไหนเองได้) ก็เลยตกลงที่ราคา 2คัน 2วัน 600บาท เพราะอีกวันกะจะไปอีกดอยด้วย
ได้รถแล้วก็ขับขึ้นดอยกันเล้ย สายแว๊นมาเองครับผ้มมมม 5555555
แล้วเราก็มาถึงที่หมายแรก (ตั้งแต่ขึ้นรถไฟมาจนตอนนี้ยังไม่ได้นอนเลยว๊อย55555) แต่ดูวิวสิ หายเหนื่อยเลย มีความสุขจริงๆ อากาศสดชื่น
ใครว่าเที่ยวหน้าฝนไม่ดี มันได้อย่างเสียอย่างนะ ข้อดีคือเราจะได้เที่ยวแบบคนไม่พลุกพล่าน ชิวๆ แต่ข้อเสียก็คืออุทยานส่วนใหญ่จะไม่ค่อยเปิดให้เดินสำรวจธรรมชาติกัน อย่างที่ที่ผมไปมา ผมก็ไม่ได้นอนที่ดอยเสมอดาวนะ เพราะอุทยานปิดปรับปรุงพื้นที่ เลยได้มานอนที่ "ผาชู้" แทน (แต่2ที่นี้อยู่ในอุทยานแห่งชาติศรีน่านเหมือนกันครับ) อ่านๆมานี่งงไหม ผมพึ่งเคยเขียนครั้งแรก ทนๆอ่านกันต่อไปน้อ 55555
นี่สินะ ฝนตกไม่ทั่วฟ้า 5555555
นอนเต้นท์กันนน (ราคาค่าเข้าอุทยานรวมกับค่าเต้นท์ หารกันสามคนเหลือคนละ 128บาทเอง มั้ง) 5555 ถูกดีจริงๆ
พอตกดึกก็จัดซักหน่อย " ข้าวปลากระป๋อง " หิววว 5555
ที่จริงกะจะดูดาวตอนดึกๆซะหน่อย แต่ฟ้าดันไม่เปิดเลยอดดูเลยยยย
ตื่นเช้ามาพร้อมกับอากาศเย็นๆ วิวสวยๆ แล้วโคตรมีความสุขเลย
#แต่เนื่องจากสภาพมอไซด์ที่ไม่ค่อยจะดี จากที่จะไปเที่ยวอีกดอยต่อ พวกผมเลยเปลี่ยนใจไปคืนเราเขาแทน และขอคืนเงินด้วย (เก๋า) 555555 ก็เลยเกิดแผนใหม่ขึ้นมา ว่าเข้าไปในตัวเมืองกัน
ไม่รอช้าครับ หลังจากขับมอไซด์ลงมาแล้ว ก็โบกรถเข้ามาเมืองกันเลย
แล้วก็ได้พ่อแม่ลูกน่ารักๆ มารับเรา พี่ผช.เค้ามีผลงานร้องเพลงด้วยนะ ฝากซะเลยละกัน555
พอถึงเมืองก็ตรงเข้ามาแผนที่ก่อนเลย เอาไว้เลือกว่าจะไปไหนดี
พอกำลังจะเดินไปหาที่พัก ก็ได้มาเจอกับพี่2คนนี้ เขาก็สายเรา เขาเลยแนะนำที่พักที่เดียวกับพี่เขา แล้วก็ได้คุยกันตามประสาคนเที่ยว ว่าไปไหนกันมาบ้างเนี่ย ฉันไปตรงนั้นตรงนี้มา หนาวมากแก สนุกมาก (เสียงพี่ผญ.) 55555 พูดและคิดถึง
เราก็ได้และเฟสกัน เผื่อไว้คุยกันว่าจะไปเที่ยวด้วยกันได้ เพราะเอาจริงๆพี่เขาก็ยังไม่มีแผนแน่นอนว่าจะไปไหนเหมือนกัน 55555
สรุป ..เราเลยตกลงว่าเดี๋ยวค่ำๆไปเดินถนนคนเดินกัน ไว้ค่อยไปนั่งคุยกันยาวๆ
พอเข้าที่พักอะไรเรียบร้อย ก็เลยเช่าจักรยานมาขับกัน (ค่าห้อง3คน-400บาท) (จักรยานคันละ50บาท)
น่านเป็นจังหวัดที่มีวัดเยอะ แต่พวกผมไม่ใช่ผู้ชายสายวัดเท่าไหร่เลยไม่ค่อยเข้ากัน 5555
วัดพระธาติเขาน้อย จุดชมวิวเห็นได้ทั้งตัวเมือง
ปั่นจักรยานจากตัวเมืองมาวัดก็ว่าไกลแล้ว เจอบันไดทางขึ้นวัดเข้าไป 555555
ข้าวสอย 35 บาท (เกิดมาพึ่งเลยได้ลอง)
แนะนำถ้ามาตัวเมืองต้องไปฟังน้องๆเขาอธิบายภาพจิตรกรรมฝาผนังกันครับ ..น้องพูดภาษาเหนือแล้วน่ารักมาก ^^
และก็ต้องไม่พลาด "ปู่ม่าน ย่าม่าน" ภาพกระซับรักบรรลือโลกที่เลื่องลือกัน
กำแพงเมืองน่าน
แม่น้ำน่าน
แต่พอดีผมมีเพื่อนอยู่ที่น่านเหมือนกัน ก็เป็นอะไรที่จะพลาดไม่ได้ ..ตรงดิ่งไปหาบ้านเพื่อนกันเลยครับ 5555555
(เสียดายเพื่อนยังไม่กลับมา เลยได้ถ่ายรูปกับแม่ไปก่อน แม่น่ารักมากให้กินส้มโอฟรีอีก)
พอตกเย็นถนนคนเดินก็เริ่มจะคึกคักกันแล้ว
ประหยัดมาแทบตาย สุดท้ายก็มาลงที่ของกิน 5555555555555
หลังจากกินกันเสร็จก็ไปเดินเล่นกันต่อ ..เดินไปเดินมาก็ไปเจอกลุ่มพวกพี่เขาเล่นดนตรีกัน ได้เจอกันคนแนวคิดเดียวกัน คุยกันถูกคอ
นั่งร้องเพลง ฟังพี่เขาเล่าเรื่องเมืองน่านให้ฟัง ทำให้รู้ว่าคนบางคนหลงรักเมืองนี้มาก จากที่มาเที่ยวแค่ไม่กี่วัน กลับกลายเป็นได้แฟนเป็นคนที่นี่รู้จักกัน3วันแต่งงานกัน ผมก็ถามว่าทำไม พี่เขาบอกแค่ว่า "คนมันจะใช่ยังไงก็ใช่" บางทีเวลาที่รู้จักกันมาตั้งนานแต่สุดท้ายก็เลิกกันก็มีเยอะแยะไป (จนตอนนี้พี่เขาก็ยังขายโปสเตอร์เมืองน่านอยู่ที่ถนนคนเดิน ใครไปก็ไปอุดหนุนกันได้ คุยเป็นกันเอง)
ขอนำเสนอบทเพลง - หนุ่มสุพรรณ(แต่ร้องที่น่าน)