ขอเปิดกระทู้ด้วยรูปดาวเลยนะคะ แน่นอนเห็นดาวเยอะขนาดนี้ วันนี้จะพาทุกคนไป ดอยเสมอดาว ณ อุทยานแห่งชาตืศรีน่าน
เนื่องจากมีวันหยุดยาวเลยหาที่เที่ยวไปกับเพื่อนๆ แล้วอาทิตย์ถัดไปจะมีสอบ 555 แต่ก็ยังซ่าอยากไปกัน
เลยเลือก อุทยานที่สบายๆรถเข้าถึง ตั้งใจว่าจะขึ้นไปกางเต้นท์นอนเล่นคุยกัน เลยออกมาเป็นที่นี้แหละ !
ทริปนี้ไป 21-24 ต.ค. 59 ปลายฝนต้นหนาว .... ที่ไม่หนาวเลย 555 ยังดีที่ไม่มีฝน
การเดินทาง : รถทัวร์ กรุงเทพ-น่าน ของนครชัยแอร์ ไปกลับ
ในเมืองน่าน ใช้บริการรถตู้ เหมาวันละ 1800 น้ำมันแยก
ที่พัก : 2 วัน 1 คืน (ไม่นับ นอนบนรถนะ 555) ที่อุทยาน เช่าเต้นท์เอกชน เพราะว่าเช่าเต้นท์อุทยานไม่ทัน
เต้นท์ 2 คน 350 รวมหมอน ผ้าห่ม ผ้าปู เสื่อหน้าเต้นท์ ถ้าเช่าเต้นท์อุทยานทันจะสบายมากเพราะเค้ากางไว้ให้เลย 555
ห้องน้ำและไฟฟ้า : เคยอ่านรีวิวก่อนๆบอกมีปลั๊กส่วนกลาง ที่บอกมีกระติกน้ำร้อนกลางก็ไม่เจอ
มีแต่พี่เจ้าหน้าที่บอกจะก่อไฟต้มน้ำให้ น่ารักมาก 555 ไม่เห็นร้านค้าด้วยถ้าให้ดีแนะนำให้พกอาหารขึ้นไปเองเลย
ห้องน้ำ มี 2 ฝั่ง รวมๆประมาณ 8 ห้อง( ผญ )ไม่มีน้ำอุ่น
พวกเราออกเดินทางคืนวัน ศ. ตอน 20.15 ถึง อ.เวียงสา ตอนประมาณ 6.30 พอถึงพี่คนขับรถตู้มารออยู่แล้ว
พาไปทานข้าวเช้า เปลี่ยนเสื้อผ้า แวะเที่ยววัดในเมือง คาเฟ่ ต่างๆ จนถึง เที่ยง พวกเราก็ได้ มุ่งหน้าไป อ.นาน้อย
เพื่อขึ้นดอยเสมอดาวกัน แนะนำให้เที่ยวตัวเมืองก่อนเลยเพราะว่าถ้ารีบขึ้นไปดอยเสมอดาวตอนกลางวันร้อนมากกก
แล้วก็ไม่มีอะไรทำด้วย ให้ขึ้นไปถึง 2 โมงกำลังดี นอกจากขยันขับรถไปกางเต้นท์จองพื้นที่แล้วขับลงมาเที่ยว แล้วขับกลับขึ้นไปอีกรอบ 555
เราให้รถตู้แวะรับอุปกรณ์เต้นท์ก่อนระหว่างทางขึ้นดอย (ลองโทรนัดแนะดูได้ว่าจะรับตรงไหน) แล้วรีบขึ้นไป
จองพื้นที่กางเต้นท์กัน

อันนี้เป็นโซน พื้นที่เปล่าให้เราจับจองพื้นที่กางเต้นท์กันเองนะคะ ที่นี้ลักษณะจะเป็นหลังเต่า คือ ไล่ระดับลงมา เหมือนโรงหนัง
เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวจะอึดอัดบังกันเลย แต่ก็อย่าหวังว่าจะตื่นมาแบบ เหยยยย เจอวิวทะเลหมอกข้างหน้านะคะ 55555
เพราะเต้นท์หันหลังให้จุดชมวิว ตอนเช้าต้องตื่นมาแล้วปีนขึ้นไปกัน 5555 ดูจากรูปล่างได้ จะเห็นคนถ่ายรูปข้างบนกันอยู่
ข้างบนนั้นคือจุดชมวิว

อันนี้เป็นเต้นท์อุทยาน มี 30 หลัง จะอยู่อีกด้านหนึ่ง เต้นท์สวยนะ ใหญ่ดีด้วย ถ้าจองทันน่าจะสบาย 555
อยากบอกว่าร้อนมากกก นี้ขนาดขึ้นไปถึง 3 โมงกว่าแล้วนะ 55555 หลังจากกางเต้นท์เสร็จ
ตั้งใจว่าค่อยกลับมาดูพระอาทิตย์ตกกัน เลยกลับขึ้นรถตู้ ลงไปเที่ยวเสาดินนาน้อยกันก่อน
เสาดินนาน้อย จัดเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติศรีน่านเหมือนกัน

จากดอยเสมอดาว ลงมาประมาณ 20 นาที ก็จะถึงเสาดินนาน้อย
ซึ่งเกิดจากการกัดเซาะพังทะลายของดินเป็นบริเวณกว้างกว่า 20 ไร่ ลักษณะคล้ายแพะเมืองผีของจังหวัดแพร่และจะมีการพังทลายของ
ดินเปลี่ยนแปลงรูปไปทุก ๆ ปี

ขออนุญาตลงรูปเพื่อน 5555

โดยส่วนตัวคิดว่าใครชอบถ่ายรูป น่าจะชอบที่นี้นะเพราะว่าท้องฟ้าตัดกับสีดินสวยมากก ความจริงถ้านั่งรถต่ออีกหน่อย
จะมี คอกเสือ ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวคล้ายๆกัน แต่ว่าพวกเราไม่ไหวแล้วร้อนมาก 555 เลยพอที่เดียว ประกอบกับ
ใกล้เวลาพระอาทิตย์ตกแล้วด้วย ระหว่างทางขึ้นดอยเสมอดาว จะมีร้านค้าและเซเว่นสามารถซื้อขนมน้ำแข็งขึ้นไปได้
เพราะว่าถ้าขึ้นไปแล้วไม่มีแล้ว อย่าลืมเตรียมกระติกน้ำแข็งมากันเองละ อ่ออีกอย่าง
ก่อนจะเข้าตัวอุทยานจะมีร้านอาหารมากมาย ทั้งอาหารตามสั่งและหมูกะทะ
ใครขี้เกียจก่อกองไฟก็ลงมาทานข้างล่างได้ ส่วนใครอยากก่อไฟก็สั่งขึ้นไปส่ง มีครบทั้งถ้วย ชาม ช้อน ตะเกียบ กะทะ
ตอนเช้าแค่เก็บลงมาคืนเค้าไม่ต้องล้างด้วย สบายมั่กก
แล้วพวกเราก็กลับมาถึงอุทยานทันพระอาทิตย์ตก

นี้เป็นวิวอีกด้านนึงจะติดกับไร่ข้าวโพด ส่วนตัวคิดว่าชมพระอาทิตย์ตกฝั่งนี้สวยกว่าอีกฝั่ง ตอนนี้อากาศเริ่มเย็นนิดๆแล้ว

แล้วพระอาทิตย์ก็ค่อยๆตก ....
แล้วเราก็เพิ่งคิดได้ว่า อาหารเย็นละ?? 5555 คือมานั่งดูพระอาทิตย์กัน กองไฟก็ไม่ได้ก่อ หมูกะทะก็ยังไม่โทรจอง
เลยรีบแบ่งหน้าที่กันไป เตาถ่านเช่าอุทยานได้ เตาละ 100 บาทพร้อมถ่าน
พอโทรไปหาร้านหมูกะทะเค้าบอกว่า เย็นแล้วไม่ขึ้นไปส่งแล้ว... อุทยานห้าม (ประมาณ 17.30)
ซวยแล้วไง 5555 ต้องเดินลงไปซึ่งจากอุทยานลงไปด้านล่างโซนร้านค้าไกลอยู่ แต่ทำไงได้รถตู้เค้าก็ไปจอดแล้ว
เลยโทรจองไว้ก่อนแล้วลงไปรับ ร้านหมูกะทะใจดีมากกก เค้าบอกว่าเด๋วขับมอเตอร์ไซต์ขึ้นไปส่ง
ที่ขึ้นไปส่งเมื่อกี้ไม่ได้เพราะเค้าอุทยานไม่ให้ร้านค้าขึ้น แต่ถ้ามีนักท่องเที่ยวขึ้นไปด้วยจะสามารถขึ้นไปได้
เลยซ้อนขึ้นไป แล้วพี่เค้าก็ขับลงไปรับเพื่อนเราขึ้นมาอีกรอบ 5555
ขึ้นมาเพื่อนยังก่อไฟกันอยู่แบบใช้ ขาตั้งกล้องตั้งไฟฉาย อันนี้จะเป็นอีกอย่างที่อยากแนะนำคือ
กองไฟไว้และทานอาหารตั้งแต่ยังมีไฟก็ดีนะ ไม่งั้นจะลำบากทานหมูกะทะไปส่องไฟฉายไปอย่างพวกเรา
หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำ และแล้วก็ถึงเวลากลางคืน
ดาวชัดจริงๆ เหมือนที่ทุกคนบอก ดาวรอบตัวเลย อากาศตอนกลางคืนก็เย็น สวย สบายมาก
แต่แสงจากเต้นท์ต่างๆ ไฟจากอุทยานที่ยังเปิดอยู่ ทำให้ฟ้าไม่ได้มืดสนิทนัก แต่ก็สวยแล้วละ
ตอนเช้าตั้งใจว่าจะตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นแต่สิ่งที่เห็นกลับเป็น ...

ทะเลหมอกบังหมดเลยยย 555 แต่ไม่เป็นไร ก็ได้อีกบรรยากาศหนึ่ง

นุ่มม น่านอนเล่นไหม 555555
ตอนเช้าที่จุดชมวิวคนเยอะมว้ากก เพราะวั้นถ้าอยากเก็บรูปสวยๆให้รีบขึ้นไปลย ไม่ต้องอาบน้ำแปรงฟันอะไรทั้งนั้น
55555 เพราะไม่ใช่แค่คนที่นอนที่นี้จะมีคนจากที่อื่นขับรถขึ้นมาชมวิวเหมือนกัน
หลังจากชมวิวยามเช้า อาบน้ำเก็บของ เก็บขยะ ก็ลงไปคืนชุดหมูกะทะแล้วก็ทานข้าวเช้าด้านล่าง
ความจริงวันนี้ เหลือเวลาอีก ( 9.00-19.00 ) เพราะนั่งรถทัวร์กลับรอบ 19.30
จะเที่ยวในเมืองต่อไปวัด ตะลุยคาเฟ่ เพราะตัวเมืองน่านมีอะไรให้เที่ยวเยอะมาก แต่พวกเราไม่เคยไป ปัวกัน
เลยตัดสินใจ ไปเที่ยวปัว
ซึ่งใช้เวลาเดินทาง.... 2 ชม ต่อเที่ยว นั่งรถนานมากกกกกก 5555 ซึ่ง ต.ค. เค้าก็เก็บข้าวไปแล้วไง
จะไปดูนา เห็นแต่ตอข้าววว 5555 เริ่มจากไปวัดภูเก็ตกันก่อน ไม่ต้องตกใจเรายังอยู่น่านกันนะ
แล้วก็แวะทานข้าวเที่ยวอีกไม่กี่ที่ ก็ต้องนั่งรถกลับเข้าเมือง เพื่อกลับกรุงเทพกัน
สรุปแล้ว ทริปนี้ถ้าไม่มีวันหยุดก็ไปได้นะออกเดินทางวัน ศ ถึงกรุงเทพ จ. เช้าก็สามารถไปเรียนไปทำงานกันต่อได้
เป็นทริปไปเติมพลัง ชมวิวสวยๆถ้าอากาศหนาวๆคงจะดีกว่านี้ 5555 แต่ทำใจไว้หน่อยนะว่าคนจะเยอะ
ส่วนตัวคิดว่า ไปแค่ดอยเสมอดาวกับเที่ยวในเมือง น่าจะสนุกว่า สบายไม่เร่งรัดเท่าแวะไปปัวด้วย
แต่ก็มาเล่าไว้เผื่อใครได้มีโอกาสไปช่วงหน้าฝนแล้วอยากเห็นท้องนาเขียวๆ ก็สามารถแบ่งเวลาไปได้เหมือนกัน
[CR] [ล้านตะลุยโลก] :: ดอยเสมอดาว-ปัว ศ ส อา ก็ไปได้
ขอเปิดกระทู้ด้วยรูปดาวเลยนะคะ แน่นอนเห็นดาวเยอะขนาดนี้ วันนี้จะพาทุกคนไป ดอยเสมอดาว ณ อุทยานแห่งชาตืศรีน่าน
เนื่องจากมีวันหยุดยาวเลยหาที่เที่ยวไปกับเพื่อนๆ แล้วอาทิตย์ถัดไปจะมีสอบ 555 แต่ก็ยังซ่าอยากไปกัน
เลยเลือก อุทยานที่สบายๆรถเข้าถึง ตั้งใจว่าจะขึ้นไปกางเต้นท์นอนเล่นคุยกัน เลยออกมาเป็นที่นี้แหละ !
ทริปนี้ไป 21-24 ต.ค. 59 ปลายฝนต้นหนาว .... ที่ไม่หนาวเลย 555 ยังดีที่ไม่มีฝน
การเดินทาง : รถทัวร์ กรุงเทพ-น่าน ของนครชัยแอร์ ไปกลับ
ในเมืองน่าน ใช้บริการรถตู้ เหมาวันละ 1800 น้ำมันแยก
ที่พัก : 2 วัน 1 คืน (ไม่นับ นอนบนรถนะ 555) ที่อุทยาน เช่าเต้นท์เอกชน เพราะว่าเช่าเต้นท์อุทยานไม่ทัน
เต้นท์ 2 คน 350 รวมหมอน ผ้าห่ม ผ้าปู เสื่อหน้าเต้นท์ ถ้าเช่าเต้นท์อุทยานทันจะสบายมากเพราะเค้ากางไว้ให้เลย 555
ห้องน้ำและไฟฟ้า : เคยอ่านรีวิวก่อนๆบอกมีปลั๊กส่วนกลาง ที่บอกมีกระติกน้ำร้อนกลางก็ไม่เจอ
มีแต่พี่เจ้าหน้าที่บอกจะก่อไฟต้มน้ำให้ น่ารักมาก 555 ไม่เห็นร้านค้าด้วยถ้าให้ดีแนะนำให้พกอาหารขึ้นไปเองเลย
ห้องน้ำ มี 2 ฝั่ง รวมๆประมาณ 8 ห้อง( ผญ )ไม่มีน้ำอุ่น
พวกเราออกเดินทางคืนวัน ศ. ตอน 20.15 ถึง อ.เวียงสา ตอนประมาณ 6.30 พอถึงพี่คนขับรถตู้มารออยู่แล้ว
พาไปทานข้าวเช้า เปลี่ยนเสื้อผ้า แวะเที่ยววัดในเมือง คาเฟ่ ต่างๆ จนถึง เที่ยง พวกเราก็ได้ มุ่งหน้าไป อ.นาน้อย
เพื่อขึ้นดอยเสมอดาวกัน แนะนำให้เที่ยวตัวเมืองก่อนเลยเพราะว่าถ้ารีบขึ้นไปดอยเสมอดาวตอนกลางวันร้อนมากกก
แล้วก็ไม่มีอะไรทำด้วย ให้ขึ้นไปถึง 2 โมงกำลังดี นอกจากขยันขับรถไปกางเต้นท์จองพื้นที่แล้วขับลงมาเที่ยว แล้วขับกลับขึ้นไปอีกรอบ 555
เราให้รถตู้แวะรับอุปกรณ์เต้นท์ก่อนระหว่างทางขึ้นดอย (ลองโทรนัดแนะดูได้ว่าจะรับตรงไหน) แล้วรีบขึ้นไป
จองพื้นที่กางเต้นท์กัน
อันนี้เป็นโซน พื้นที่เปล่าให้เราจับจองพื้นที่กางเต้นท์กันเองนะคะ ที่นี้ลักษณะจะเป็นหลังเต่า คือ ไล่ระดับลงมา เหมือนโรงหนัง
เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวจะอึดอัดบังกันเลย แต่ก็อย่าหวังว่าจะตื่นมาแบบ เหยยยย เจอวิวทะเลหมอกข้างหน้านะคะ 55555
เพราะเต้นท์หันหลังให้จุดชมวิว ตอนเช้าต้องตื่นมาแล้วปีนขึ้นไปกัน 5555 ดูจากรูปล่างได้ จะเห็นคนถ่ายรูปข้างบนกันอยู่
ข้างบนนั้นคือจุดชมวิว
อันนี้เป็นเต้นท์อุทยาน มี 30 หลัง จะอยู่อีกด้านหนึ่ง เต้นท์สวยนะ ใหญ่ดีด้วย ถ้าจองทันน่าจะสบาย 555
อยากบอกว่าร้อนมากกก นี้ขนาดขึ้นไปถึง 3 โมงกว่าแล้วนะ 55555 หลังจากกางเต้นท์เสร็จ
ตั้งใจว่าค่อยกลับมาดูพระอาทิตย์ตกกัน เลยกลับขึ้นรถตู้ ลงไปเที่ยวเสาดินนาน้อยกันก่อน
เสาดินนาน้อย จัดเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติศรีน่านเหมือนกัน
จากดอยเสมอดาว ลงมาประมาณ 20 นาที ก็จะถึงเสาดินนาน้อย
ซึ่งเกิดจากการกัดเซาะพังทะลายของดินเป็นบริเวณกว้างกว่า 20 ไร่ ลักษณะคล้ายแพะเมืองผีของจังหวัดแพร่และจะมีการพังทลายของ
ดินเปลี่ยนแปลงรูปไปทุก ๆ ปี
ขออนุญาตลงรูปเพื่อน 5555
โดยส่วนตัวคิดว่าใครชอบถ่ายรูป น่าจะชอบที่นี้นะเพราะว่าท้องฟ้าตัดกับสีดินสวยมากก ความจริงถ้านั่งรถต่ออีกหน่อย
จะมี คอกเสือ ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวคล้ายๆกัน แต่ว่าพวกเราไม่ไหวแล้วร้อนมาก 555 เลยพอที่เดียว ประกอบกับ
ใกล้เวลาพระอาทิตย์ตกแล้วด้วย ระหว่างทางขึ้นดอยเสมอดาว จะมีร้านค้าและเซเว่นสามารถซื้อขนมน้ำแข็งขึ้นไปได้
เพราะว่าถ้าขึ้นไปแล้วไม่มีแล้ว อย่าลืมเตรียมกระติกน้ำแข็งมากันเองละ อ่ออีกอย่าง
ก่อนจะเข้าตัวอุทยานจะมีร้านอาหารมากมาย ทั้งอาหารตามสั่งและหมูกะทะ
ใครขี้เกียจก่อกองไฟก็ลงมาทานข้างล่างได้ ส่วนใครอยากก่อไฟก็สั่งขึ้นไปส่ง มีครบทั้งถ้วย ชาม ช้อน ตะเกียบ กะทะ
ตอนเช้าแค่เก็บลงมาคืนเค้าไม่ต้องล้างด้วย สบายมั่กก
แล้วพวกเราก็กลับมาถึงอุทยานทันพระอาทิตย์ตก
นี้เป็นวิวอีกด้านนึงจะติดกับไร่ข้าวโพด ส่วนตัวคิดว่าชมพระอาทิตย์ตกฝั่งนี้สวยกว่าอีกฝั่ง ตอนนี้อากาศเริ่มเย็นนิดๆแล้ว
แล้วพระอาทิตย์ก็ค่อยๆตก ....
แล้วเราก็เพิ่งคิดได้ว่า อาหารเย็นละ?? 5555 คือมานั่งดูพระอาทิตย์กัน กองไฟก็ไม่ได้ก่อ หมูกะทะก็ยังไม่โทรจอง
เลยรีบแบ่งหน้าที่กันไป เตาถ่านเช่าอุทยานได้ เตาละ 100 บาทพร้อมถ่าน
พอโทรไปหาร้านหมูกะทะเค้าบอกว่า เย็นแล้วไม่ขึ้นไปส่งแล้ว... อุทยานห้าม (ประมาณ 17.30)
ซวยแล้วไง 5555 ต้องเดินลงไปซึ่งจากอุทยานลงไปด้านล่างโซนร้านค้าไกลอยู่ แต่ทำไงได้รถตู้เค้าก็ไปจอดแล้ว
เลยโทรจองไว้ก่อนแล้วลงไปรับ ร้านหมูกะทะใจดีมากกก เค้าบอกว่าเด๋วขับมอเตอร์ไซต์ขึ้นไปส่ง
ที่ขึ้นไปส่งเมื่อกี้ไม่ได้เพราะเค้าอุทยานไม่ให้ร้านค้าขึ้น แต่ถ้ามีนักท่องเที่ยวขึ้นไปด้วยจะสามารถขึ้นไปได้
เลยซ้อนขึ้นไป แล้วพี่เค้าก็ขับลงไปรับเพื่อนเราขึ้นมาอีกรอบ 5555
ขึ้นมาเพื่อนยังก่อไฟกันอยู่แบบใช้ ขาตั้งกล้องตั้งไฟฉาย อันนี้จะเป็นอีกอย่างที่อยากแนะนำคือ
กองไฟไว้และทานอาหารตั้งแต่ยังมีไฟก็ดีนะ ไม่งั้นจะลำบากทานหมูกะทะไปส่องไฟฉายไปอย่างพวกเรา
หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำ และแล้วก็ถึงเวลากลางคืน
ดาวชัดจริงๆ เหมือนที่ทุกคนบอก ดาวรอบตัวเลย อากาศตอนกลางคืนก็เย็น สวย สบายมาก
แต่แสงจากเต้นท์ต่างๆ ไฟจากอุทยานที่ยังเปิดอยู่ ทำให้ฟ้าไม่ได้มืดสนิทนัก แต่ก็สวยแล้วละ
ตอนเช้าตั้งใจว่าจะตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นแต่สิ่งที่เห็นกลับเป็น ...
ทะเลหมอกบังหมดเลยยย 555 แต่ไม่เป็นไร ก็ได้อีกบรรยากาศหนึ่ง
นุ่มม น่านอนเล่นไหม 555555
ตอนเช้าที่จุดชมวิวคนเยอะมว้ากก เพราะวั้นถ้าอยากเก็บรูปสวยๆให้รีบขึ้นไปลย ไม่ต้องอาบน้ำแปรงฟันอะไรทั้งนั้น
55555 เพราะไม่ใช่แค่คนที่นอนที่นี้จะมีคนจากที่อื่นขับรถขึ้นมาชมวิวเหมือนกัน
หลังจากชมวิวยามเช้า อาบน้ำเก็บของ เก็บขยะ ก็ลงไปคืนชุดหมูกะทะแล้วก็ทานข้าวเช้าด้านล่าง
ความจริงวันนี้ เหลือเวลาอีก ( 9.00-19.00 ) เพราะนั่งรถทัวร์กลับรอบ 19.30
จะเที่ยวในเมืองต่อไปวัด ตะลุยคาเฟ่ เพราะตัวเมืองน่านมีอะไรให้เที่ยวเยอะมาก แต่พวกเราไม่เคยไป ปัวกัน
เลยตัดสินใจ ไปเที่ยวปัว
ซึ่งใช้เวลาเดินทาง.... 2 ชม ต่อเที่ยว นั่งรถนานมากกกกกก 5555 ซึ่ง ต.ค. เค้าก็เก็บข้าวไปแล้วไง
จะไปดูนา เห็นแต่ตอข้าววว 5555 เริ่มจากไปวัดภูเก็ตกันก่อน ไม่ต้องตกใจเรายังอยู่น่านกันนะ
แล้วก็แวะทานข้าวเที่ยวอีกไม่กี่ที่ ก็ต้องนั่งรถกลับเข้าเมือง เพื่อกลับกรุงเทพกัน
สรุปแล้ว ทริปนี้ถ้าไม่มีวันหยุดก็ไปได้นะออกเดินทางวัน ศ ถึงกรุงเทพ จ. เช้าก็สามารถไปเรียนไปทำงานกันต่อได้
เป็นทริปไปเติมพลัง ชมวิวสวยๆถ้าอากาศหนาวๆคงจะดีกว่านี้ 5555 แต่ทำใจไว้หน่อยนะว่าคนจะเยอะ
ส่วนตัวคิดว่า ไปแค่ดอยเสมอดาวกับเที่ยวในเมือง น่าจะสนุกว่า สบายไม่เร่งรัดเท่าแวะไปปัวด้วย
แต่ก็มาเล่าไว้เผื่อใครได้มีโอกาสไปช่วงหน้าฝนแล้วอยากเห็นท้องนาเขียวๆ ก็สามารถแบ่งเวลาไปได้เหมือนกัน
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น