ย้อนอดีตหนังเก่า CROCODILE งาบพันธุ์สยองโลก รู้จักกับตำนานของจระเข้ยักษ์ในเรื่องกัน

เรื่องของจระเข้ยักษ์ในภาพยนตร์ 2 ภาคอย่าง CROCODILE (2000) และ CROCODILE 2 DEATH SWAMP (2002) ครับ ยังไงก็ขอฝากเพจไว้ให้ติดตามกันด้วยนะครับ https://www.facebook.com/MonsterFilmsReview/

‪#‎รู้จักไอ้เข้ยักษ์จากหนัง‬
หลายๆคนน่าจะเคยผ่านการชมภาพยนตร์ที่มีจำนวนภาคออกมาด้วยกันถึง 2 ภาคอย่าง CROCODILE กับ CROCODILE 2 DEATH SWAMP กันไปแล้ว แต่วันนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับ เจ้าจระเข้ยักษ์ประจำภาพยนตร์ทั้ง 2 เรื่องนี้กันก่อน โดยเราจะเริ่มต้นเนื้อเรื่องในแบบ Timeline กันไปนะครับ จะได้เข้าใจถึงความต่อเนื่องกันไป

‪#‎ตำนานของชาวเม็กซิโกในยุคโบราณ‬ ... (อ้างจาก CROCODILE 2 DEATH SWAMP) ในเมืองเม็กซิโกยุคโบราณ มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับตำนานของบึงลึกลับแห่งหนึ่งที่เรียกและเล่าขานกันว่า "บึงปีศาจ" และในบึงลึกลับแห่งนี้ อยู่ในที่แห่งหนึ่งในแถบเมืองเม็กซิโก ซิตี้ ไม่ไกลจาก อคาร์ปัลโก้ ซึ่งเป็นโซนของเมืองมีอาณาเขตอยู่ใกล้กับทางแคลิฟอร์เนีย ชาวพื้นเมืองหรือชาวแอชแท็ก ได้เล่าขานถึงตำนานของพญามังกร หรือสัตว์ประหลาดในตำนานที่เรียกกันว่า "เอล ลากาโต้ ไดอาโบล" (เป็นภาษาสแปนิชที่เอาไว้เรียกสัตว์เลื้อยคลานจำพวก กิ้งก่า หรือ จระเข้) โดย สัตว์ร้ายตัวนี้ เป็นตำนานพื้นเมืองที่ชาวเมืองเชื่อกันว่าเป็น พญามังกรที่เหาะเหินเดินอากาศ อยู่บนบก บนฟ้าหรือในน้ำก็ได้



มันแฝงตัวอยู่ในบึง และได้จัดการทำร้ายและกัดกินนักรบยุคโบราณที่พยายามจะเดินผ่านบึงลึกลับที่มีอาณาเขตกว้างหลายกิโลเมตรนี้ ตามตำนานได้กล่าวต่อว่า กลุ่มนักรบกลุ่มนี้พยายามที่จะขนทองคำต่างๆข้ามบึง แต่ไหนีไม่พ้นการโจมตีของสัตว์ร้ายนี้ และเมื่อมันจัดการกลุ่มนักรบเสร็จ บึงแห่งนี้ก็ลุกเป็นไฟไปในทันที

‪#‎ตำนานของฮาลานแห่งโรงแรมร้างในช่วงต้นศตวรรษ‬ ... (อ้างอิงจาก CROCODILE) ในช่วงประมาณต้นยุคศตวรรษ 1900 หรือเมื่อ กว่าร้อยปีที่แล้วนั้น (ประมาณ 96 ปีถ้าหากนับเทียบจากปี 2000 ตามภาพยนตร์) เจ้าของโรงแรมทรงโบราณแห่งหนึ่งในละแวกทะเลสาบแห่งหนึ่งในแถบทางใต้ของแคลิฟอร์เนีย ได้กลับจากอิยิปต์พร้อมด้วยความเชื่อในเรื่องที่ว่า จระเข้คือเทพเจ้าแห่งท้องน้ำ เขาได้เชื่อมั่นในเรื่องของเทพเจ้าอิยิปต์ที่มีศีรษะเป็นจระเข้อย่าง "เทพเจ้าโซเบค" อย่างมาก เขาจึงได้นำเอาจระเข้แม่น้ำไนล์ตัวหนึ่งนามว่า "แฟลทด็อก" กลับมายังโรงแรมด้วย เพื่อที่ว่ามันจะได้เป็นทั้งสัตว์เลี้ยงและยามเฝ้าสถานที่แห่งนี้ โดยที่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้ว่าจระเข้ตัวนี้ จะนำเอาภัยอันตรายมาสู่ลูกหลานหรือชาวบ้านในละแวกนั้น

‪#‎จระเข้ลึกลับที่สามารถออกไข่ได้โดยไม่ทราบสาเหตุ‬ ... (อ้างอิงจาก CROCODILE) หลังจากที่ทำเอา แฟลทด็อก มาไว้ที่โรงแรมและปล่อยให้มันสามารถเข้าออกระหว่างพื้นที่ในโรงแรมและชายป่าที่มีอาณาเขตติดกับบึงนั้น ฮาลานไม่รู้ว่าเป็นเพราะสาเหตุใดที่ทำให้เจ้าแฟลทด็อกนั้นออกไข่มาจำนวน 1 ฟอง แต่ไข่นั้นก็ใหญ่ขนาดไข่ของนกกระจอกเทศ ซึ่งถือว่าใหญ่มากถ้าเทียบกับไข่จระเข้ธรรมดาๆ



‪#‎เหยื่อรายแรก‬ ... (อ้างอิงจาก CROCODILE) เพราะการที่พ่อของเขานั้นนำเอาสัตว์ร้ายนี้เข้ามาไว้ในเขตโรงแรม ทำให้ลูกชายของฮาลานไว้เพียง 8 ขวบในเวลานั้นบันดาโทสะ ได้ทำลายไข่ของแฟลทด็อกจนแหลกละเอียด และนับจากนั้นมา ก็ไม่มีใครพบเห็นตัวของเด็กชายวัย 8 ขวบคนนี้อีกเลย ยกเว้น ... ชิ้นส่วนของมือของเด็กคนนี้ ที่ซึ่งหลายๆคนในยุคนั้นก็เชื่อกันว่า เด็กคนนี้ กลายเป็นเหยื่อของแฟลทด็อกไปแล้ว

‪#‎การโดนขับไล่โดยชาวเมือง‬ ... (อ้างอิงจาก CROCODILE) เมื่อไม่มีใครกล้าที่จะสู้รบปรบมือกับจระเข้แม่น้ำไนล์ที่ดุร้ายอย่างแฟลทด็อกที่เริ่มแสดงอาการดุร้ายและออกไล่เขมือบคนเป็นว่าเล่น จึงเป็นผลที่ทำให้ชาวบ้านในละแวกนั้น โจมตีฮาลานและขับไล่เขาออกไป และจากนั้น โรงแรมแห่งนี้ก็กลายเป็นโรงแรมร้างไป ก่อนที่จะโดนชาวบ้านช่วยกันเผาจนวอดวายเพื่อป้องกันไม่ให้แฟลทด็อก กลับมาที่นี่อีก ซึ่งจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้แฟลทด็อกไปซ่อนตัวในบึงและทำรังไว้ในที่ๆห่างไกลผู้คนนับจากนั้นเป็นต้นมาเกือบ 100 ปี

และหลังจากนั้น เรื่องราวของแฟลทด็อกก็ค่อยๆเลือนหายไปเพราะมันแทบจะไม่เคยได้ปรากฏตัวให้ใครเห็นอีกเลย แต่ยกเว้น บุคคลอีก 3 คนที่มีโอกาสได้พบเห็นตัวของมันเป็นๆแต่ไม่มีใครเชื่อ

‪#‎ฆาตกรรมครอบครัวของเชอร์กิ้น‬ ... (อ้างอิงจาก CROCODILE) ครอบครัวของเชอร์กิ้นนั้นเป็นอีก 1 บุคคลรุ่นเก่าแก่ที่อยู่ในละแวกบึงแห่งนี้และประกอบธุรกิจการเพาะเลี้ยงจระเข้พันธุ์ตีนเป็ด หรืออัลลิเกเตอร์ และทำให้เกิดความคุ้นเคยกับสัตว์ดุร้ายพวกนี้มาโดยตลอด แต่ทว่า ปู่ของเชอร์กิ้น ที่รู้เรื่องราวของตำนานจระเข้แม่น้ำไนล์ยักษ์อย่าง "แฟลทด็อก" มาโดยตลอด ก็ประสงค์ที่จะออกล่ามันและจับมันให้ได้ แต่ผลก็คือ ปู่ของเชอร์กิ้นถูกแฟลทด็อกเขมือบลงท้องไม่เหลือแม้แต่ซาก และจากนั้น พ่อของเชอร์กิ้น รวมถึงตัวของเชอร์กิ้นเอง ก็ได้พยายามออกล่ามันเพื่อหมายจะล้างแค้นให้ปู่ โดยประสบความล้มเหลวในหลายต่อหลายครั้ง

แต่กระนั้น วันหนึ่ง ขณะที่สองพ่อลูกกำลังออกล่ามันในช่วงกลางคืน แฟลทด็อกก็ปรากฏกายขึ้นมาเหนือน้ำ ซึ่งเชอร์กิ้นกล่าวว่า เสียงคำรามจากลำคอของมัน ดวงตาที่จ้องมองมาที่เขาและพ่อมันช่างเหมือนปิศาจจากนรก ตามตัวของมันมีแต่รอยแผลและเพรียงเต็มไปหมด แต่พ่อของเขาก็ยังสามารถที่จะยิงปืน Shotgun ใส่มัน จนมันหนีกลับลงน้ำไปได้



และในวันต่อมา พ่อของเชอร์กิ้นได้สร้างกับดักขนาดใหญ่เพื่อเอาไว้ดักจับแฟลทด็อก ซึ่งการสร้างกับดักนี้ก็เป็นอีก 1 จุดจบของเขาเช่นกัน เพราะในคืนวันหนึ่ง พ่อของเชอร์กิ้นได้พยายามจะเข้าไปดูกับดักที่วางไว้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง ผลก็คือ พ่อของเชอร์กิ้นไม่ได้กลับมาอีกเลย ซึ่งเชอร์กิ้นนั้นโดนคนในละแวกบ้านบอกว่า พ่อของเขาแค่ไปติดพันกับสาวอีตัวในเมืองใหญ่มากกว่า แต่เชอร์กิ้นนั้น กลับไม่คิดแบบนั้น เขามั่นใจว่าพ่อของเขาได้ตกเป็นเหยื่ออันโอชะของ จระเข้ขนาดความยาว 30 ฟุตไปแล้วเหมือนกับปู่ของเขา และจากนั้น เชอร์กิ้นก็ตั้งเป้าที่อยากจะแก้แค้นให้กับทั้งพ่อและปู่ของเขาให้ได้

‪#‎เข้าสู้เหตุการณ์ในภาพยนตร์ภาคแรก‬ อีกหลายปีต่อมา ก็เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเรื่อง CROCODILE ซึ่งเรื่องราวของแฟลทด็อกนั้นถูกเล่าผ่านทาง "คิท" เด็กวัยรุ่นชาวพื้นเมืองที่ได้ชักชวนเพื่อนร่วมไฮสคูลมาพักผ่อนยังบึงที่มีอาณาเขตเชื่อมกันกับทางแคลิฟอเนียใต้ โดยอาศัยการล่องเรือบ้านไปเรื่อยๆ พวกเพื่อนๆของคิท ไม่เชื่อในตำนานเรื่องราวของโรงแรมฮาลานและจระเข้ยักษ์อย่างแฟลทด็อก จนกระทั่งพวกเขา เผลอไปทำลายรังและไข่ที่ "แฟลทด็อก" ที่ยังไม่ตาย และมีชีวิตยืนยาวเกือบ 100 ปีเข้าให้ ทำให้มันโกรธแค้น และไล่ฆ่าพวกเขาตลอดทั้งเรื่อง โดยเป้าหมายหลักของแฟลทด็อกก็คือ พยายามล้างแค้นให้กับลูกๆของมันที่โดนมนุษย์ทำร้ายหรือทำลายตั้งแต่ยังเป็นไข่ อีกทั้ง เชอร์กิ้นในวัยชราที่ตามล่าแฟลทด็อกมาเกือบตลอดทั้งชีวิต ก็ได้จบชีวิตลงด้วยคมเขี้ยวของแฟลทด็อก ไม่ต่างจากปู่และพ่อของเขา เหตุการณ์พลิกผันตรงที่ ไข่ใบสุดท้ายของแฟลทด็อกที่ฮับ เพื่อนในกลุ่มของเบรดี้ แคลร์ และดันแคน ดันฟักตัวออกมาเป็นลูกจระเข้อิยิปต์ทันเวลา ทำให้แฟลทด็อกที่ได้เห็นลูกของตัวเองยังมีชีวิตอยู่ 1 ตัว ทำให้มันคลายความแค้นและโทสะ มันคาบพาลูกน้อยของมัน กลับลงสู่บึงใหญ่โดยที่ไมไ่ด้ทำร้ายพวก แคลร์ เบรดี้ และดันแคน (จบภาคแรก)

‪#‎รอยต่อระหว่างภาคแรกกับภาคสอง‬ (จากการคิดวิเคราะห์ของแอดมิน) แฟลทด็อกนั้นแม้จะเป็นจระเข้ยักษ์กินคน แต่สิ่งที่ทำให้มันแสดงความดุร้ายออกมานั่นก็คือการที่มีคนมายุ่งกับไข่หรือลูกๆของมันก่อน ทำให้มันตัดสินใจที่จะอพยพออกจากบึงที่มันเคยอยู่มาเป็น 100 ปี โดยว่ายพาลูกของมัน ผ่านเส้นทางที่คาดว่าน่าจะเชื่อมไปยังบึงแห่งใหม่ได้ในพรมแดนที่ไม่ไกลจากสถานที่เดิม และสุดท้าย บึงที่มันเลือกที่จะเป็นบ้านหลังใหม่ของมันและลูกนั่นก็คือ "บึงปิศาจ" ในตำนานของชาวเม็กซิโก ที่เป็นสถานที่ที่เล่าขานถึงตำนานของ "เอล ลาการ์โต้ ไดอาโบล" นั่นเอง

เจ้าแฟลทด็อก ได้เลี้ยงลูกของมันจนลูกจระเข้นั้น เติบโตขึ้นเป็นจระเข้วัยใกล้โตเต็มที่ ซึ่งมีขนาดความยาว 15 ฟุต ส่วนแฟลทด็อกเองก็เริ่มมีสัดส่วนที่ขยายตามไปด้วยเช่นกัน จนมันยาวมากกว่า 30 ฟุตเข้าไปแล้ว และมันยังสามารถปรับตัวให้เข้ากับบึงที่เต็มไปด้วยสารมีเทนปนเปื้อนได้อย่างไม่น่าเชื่อ

‪#‎การอาละวาดครั้งสุดท้ายของแฟลทด็อก‬ ... (อ้างอิงจาก CROCODILE 2 DEATH SWAMP) เพราะการไฮแจ็คเครื่องบินของกลุ่มโจรกลุ่มหนึ่ง ทำให้เครื่องบินนั้นตกลงมายังบึงที่แฟลทด็อกและลูกอาศัยอยู่ ในช่วงที่ผู้รอดชีวิตกำลังขึ้นสู่ตลิ่งหลังจากที่เก็บกู้ของใช้ที่จำเป็นจากซากเครื่องบินได้ จระเข้ที่เป็นลูกของแฟลทด็อก ก็โผล่มาคาบร่างของกัปตันเครื่องบินไปกิน แต่ทว่า มันเองก็โดนคมกระสุนนับไม่ถ้วนจากแก๊งค์โจร ที่รุมยิงมันจนตาย และจากนั้น แฟลทด็อกที่ได้ว่ายน้ำตามหาลูกมัน จนมาเห็นซากลูกของมันที่ตายอนาถ ก็ส่งผลให้มันโกรธแค้นจัด และออกตามล่าคนที่ฆ่าลูกของมันนั่นเอง
และท้ายที่สุด แฟลทด็อกนั้นก็ต้องมาเจอจุดจบในที่สุดด้วยการโดนปฏิกิริยาทางเคมีของสารมีเทนที่เจือปืนในน้ำ ผสมกับน้ำมันและประกายไฟจากไปแช็คที่ "มิอา" ตัวเอกในภาค 2 โยนลงไป ทำให้มันโดนแรงระเบิดอัดเข้าเต็มแรงจนมันร่างแหลกตายไปในที่สุด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่