
การประกวดเพลงชิงชนะเลิศแห่งชาติยุโรป ครั้งที่ 62 (ยูโรวิชั่น ซอง คอนเทสต์ 2017)
วันที่ 9, 11, และ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2560
ณ ประเทศยูเครน
สวัสดีค่ะสาวกยูโรวิชั่นและผู้อ่านทุกคน
กระทู้ Eurovision Magazine ยังอยู่เป็นเพื่อนคุณเหมือนเดิม แม้ว่าจะเป็นช่วงพักซีซั่นก็ตาม
ซึ่งยังมีข่าวคราวเกี่ยวกับยูโรวิชั่นมานำเสนอ ยิ่งเป็นเรื่องการคัดเลือกเมืองเจ้าภาพปีหน้าล่ะก็ เราต้องติดตามค่ะ
หลังจากเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา มีการนำเสนอเมืองที่จะเสนอตัวเป็นเจ้าภาพผ่านรายการ "City Battle" ทางช่อง NTU Channel 1 แล้ว
และเมื่อวานนี้มีการอภิปรายเพื่อคัดเลือก 2 เมืองสุดท้าย ซึ่งโต้เถียงกันอย่างเมามัน ถึงขั้นหยุดการถ่ายทอดสดอย่างดื้อๆไม่มีการประกาศอะไร แต่ต่อมาก็มีบทสรุปว่าได้เมืองที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายแล้ว ซึ่งมีถึงสามเมืองเลยทีเดียว ทั้งกรุงเคียฟ เมืองดนีโปร และเมืองโอเดสซ่าค่ะ

สามเมืองสุดท้าย (จากซ้าย) กรุงเคียฟ เมืองดนีโปร และเมืองโอเดสซ่า แต่จะมีแค่เมืองเดียวที่จะได้เป็นเจ้าภาพยูโรวิชั่น 2017
© NTU
และนี่คือเทปรายการทั้งสองรายการที่พูดถึงการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพในยูเครนค่ะ
เทปแรกเป็นเทปรายการ "City Battle" ของเมื่อคืนวันอังคารค่ะ เป็นการนำเสนอเมืองทั้ง 6 เมืองที่เสนอตัวเป็นเจ้าภาพ โดยนายกเทศมนตรีของแต่ละเมืองเป็นผู้นำเสนอ หลังจากจบการนำเสนอในแต่ละเมืองจะมีการซักถามและมีการโต้แย้งกันด้วย ถ้าใครได้ดูคลิปนี้จะเห็นว่าจะมีการตัดภาพที่ไปแต่ละเมืองที่คนในเมืองนั้นๆมารวมตัวกันที่ลานจัตุรัสเพื่อสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพด้วย
ส่วนนี่เป็นเทปของเมื่อวานที่มการซักทอดเถียงกัน เถียงเป็นภาษายูเครน ฟังไม่ออกค่ะ ต้องไปเพิ่งคำแปลที่มีคนโพสทางทวิตเตอร์ช่วย
มาดู 3 เมืองสุดท้ายที่ผ่านเข้ารอบกันค่ะว่าเขาส่งสนามอะไรบ้าง และมีข้อได้เปรียบตรงไหนบ้าง
เมืองแรก
กรุงเคียฟ เมืองหลวงของประเทศ ที่ผ่านเข้ารอบได้ เพราะได้เปรียบเรื่องความพร้อมในหลายๆด้าน ทั้งสาธารณูปโภค และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ แถมมีประสบการณ์การจัดยูโรวิชั่น 2005 และจูเนียร์ยูโรวิชั่น 2009 และ 2013 มาแล้ว โดยเมืองนี้ส่งสองสนามไว้เป็นตัวเลือกไว้พิจารณา ได้แก่...
สนามแรก สนาม Palace of Sports สนามกีฬาในร่มที่เคยใช้ในการจัดยูโรวิชั่นปี 2005 และจูเนียร์ยูโรวิชั่น 2009 เป็นสนามตัวเลือกแทน แต่ปัญหาคือฮอลล์นี้แคบมากๆ และจุแค่หมื่นคน และปัญหาที่หนักกว่านั้นคือ ช่วงปลายเดือนเมษายนปีหน้า จะมีการจัดการแข่งขันฮ๊อคกี้น้ำแข็งชิงแชมป์โลกที่สนามแห่งนี้ ซึ่งจะส่งผลเรื่องเวลาเตรียมสถานที่ที่อาจไม่ทันกำหนดการแข่งขันที่เริ่มในวันที่ 9 พฤษภาคม
ส่วนสนามที่สองที่ทางกรุงเคียฟส่งไว้เป็นทางเลือกคือ International Exhibition Centre ซึ่งเป็นศูนย์การประชุมแห่งชาติที่บ้านเขา ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่า Palace of Sports จุประมาณ 12,000 คน แต่จะเตะตาในที่ประชุมในรอบสุดท้ายหรือเปล่าต้องมาติดตามกันอีกที
คลิปโปรโมตกรุงเคียฟในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพค่ะ
เมืองที่สอง
เมืองดนีโปร ที่ผ่านเข้ารอบได้ เพราะเมืองนี้นำเสนอเป้าหมายชัดเจนกว่าเมืองอื่นๆ ทั้งสุถานที่จัด โรงแรมที่พัก ระบบคมนาคม และอื่นๆ โดยเมืองนี้ส่งสนาม Meteor Stadium ซึ่งเป็นสนามในร่มแทนสนามดนีโปรอารีน่าที่เป็นสนามฟุตบอลแต่ไม่มีหลังคาคลุม โดยสนามที่ว่ามีแผนปรับปรุงเพื่อยกกระดับความจุให้เพิ่มขึ้น และจะเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น DniproEuroArena อีกด้วย โดยสนามนี้มีความจุประมาณ 9,000 กว่าคน
ในความเห็นของเรานะคะ เราว่าชื่อเมืองที่เปลี่ยนใหม่จากเมืองดนีโปรเปตรอฟสค์ก็มีส่วนช่วยให้ผ่านเข้ารอบด้วย เพราะเพื่อที่จะข่มรัสเซียไปในตัว เพราะชื่อเมืองเก่าเป็นชื่อที่ตั้งในยุคของโซเวียต และช่วงนี้ยูเครนจัดการเปลี่ยนชื่อเมือง ชื่อหมู่บ้าน ชื่อถนน และชื่ออื่นๆที่ตกค้างมาจากยุคโซเวียตให้หมดเพื่อตอบโต้ทางการเมืองกับรัสเซีย
คลิปโปรโมตเมืองดนีโปรในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพค่ะ
และเมืองที่สาม
เมืองโอเดสซ่า ที่ได้รับเลือก เพราะแรงสนับสนุนของคนในเมืองนี้อย่างแรง รวมทั้งศิลปินยูเครนส่วนหนึ่งที่ออกมาสนับสนุน นำทีมโดยจามาล่า แชมป์ปีล่าสุดนี่แหล่ะ นอกจากนี้ยังได้เปรียบเรื่องภาษา เพราะคนในเมืองนี้พูดภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศสมากที่สุดในประเทศ (เป็นเมืองท่าสำคัญก็ดีอย่างนี้แหล่ะ) ขณะที่ความพร้อมของสนาม ต้องขอบอกว่าเมืองนี้ยังยืนยันส่งสนามโคเนโทเรท ซึ่งเป็นสนามฟุตบอลแถมไม่มีหลังคา และเป็นสนามบอลสนามเดียวที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ โดยทางเมืองบอกว่าจะเร่งก่อสร้างหลังคาคลุม แต่เขาก็จะมีแผนสำรองที่จะใช้ผ้าเต้นท์คลุมสนามเป็นสนามในร่มชั่วคราวด้วย เอ่อ...มันจะได้ผลเหรอ
นี่คือแผนการที่ทางเมืองนี้ได้นำเสนอถ้าทำหลังคาไม่ทัน อารมณ์เหมือนดูคอนเสิร์ตบอดี้แสลมไม่ก็คาราบาวในช่วงทัวร์คอนเสิร์ตตามสนามกีฬาจังหวัดอย่างไรอย่างนั้นเลย
สำหรับเรานะคะ เมืองนี้ผ่านเข้ารอบเพราะเพื่อเหตุผลทางการเมืองเหมือนดนีโปร เพราะเมืองนี้ตั้งใกล้เขตไครเมีย อาจจะไม่ใกล้เหมือนเมืองเคอร์ซ่อนที่ตั้งใกล้กว่า แต่คนทาท่าร์ซึ่งเป็นชนเผ่าในไครเมียที่พลัดถิ่นในเมืองนี้ก็ไม่ใช่น้อยๆ นี่อาจจะเป็นการข่มรัสเซียไปอีกทางหนึ่ง
คลิปโปรโมตเมืองโอเดสซ่าในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพค่ะ
เรากลับมาดูแผนที่ยูเครนอีกที จะเห็นว่าเมืองดนีโปรที่ผ่านเข้ารอบมานั้นตั้งใกล้เขตสู้รบกับรัสเซียมากที่สุดซึ่งอาจจะไม่ปลอดภัยถ้าถึงวันนั้น ส่วนโอเดสซ่าก็ตั้งใกล้เขตไครเมีย ถึงระยะห่างจะไกลว่าของเมืองเคอร์ซ่อนก็เถอะ ทีนี้คงต้องคิดให้หนักๆเลย ซึ่งจุดนี้กรุงเคียฟได้เปรียบแน่นอน แต่เชื่อว่าทางยูเครนเขาคงต้องการหาความท้าทายใหม่ๆแน่ๆ
ถ้าดูสามเมืองนี้ (จากซ้าย) กรุงเคียฟ เมืองหลวงของประเทศ ศูนย์กลางการปกครองที่เพียบพร้อมไปทุกอย่าง
เมืองโอเดสซ่า เมืองท่ายักษ์ใหญ่ของประเทศและเมืองที่สวยงามทั้งที่ตั้งและสถาปัตยกรรม
ขณะที่เมืองดนีโปร เมืองเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว....
เมืองไหนจะเป็นเจ้าภาพไป วันที่ 1 สิงหาคม จะเป็นวันตัดสิน ซึ่งจะมีการนำเสนอีกครั้งและอภิปรายอีกครั้งจนกว่าจะได้ข้อสรุปค่ะ
ซึ่งเราต้องติดตามกันต่อไปนะคะ
ข้อมูลข่าวนี้จาก
ยูโรวิชั่น
[Eurovision Magazine] เคียฟ ดนีโปร และโอเดสซ่า ผ่านเข้ารอบสุดท้ายคัดเลือกเมืองเจ้าภาพยูโรวิชั่น 2017 และข่าวอื่นๆ
การประกวดเพลงชิงชนะเลิศแห่งชาติยุโรป ครั้งที่ 62 (ยูโรวิชั่น ซอง คอนเทสต์ 2017)
วันที่ 9, 11, และ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2560
ณ ประเทศยูเครน
สวัสดีค่ะสาวกยูโรวิชั่นและผู้อ่านทุกคน
กระทู้ Eurovision Magazine ยังอยู่เป็นเพื่อนคุณเหมือนเดิม แม้ว่าจะเป็นช่วงพักซีซั่นก็ตาม
ซึ่งยังมีข่าวคราวเกี่ยวกับยูโรวิชั่นมานำเสนอ ยิ่งเป็นเรื่องการคัดเลือกเมืองเจ้าภาพปีหน้าล่ะก็ เราต้องติดตามค่ะ
หลังจากเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา มีการนำเสนอเมืองที่จะเสนอตัวเป็นเจ้าภาพผ่านรายการ "City Battle" ทางช่อง NTU Channel 1 แล้ว
และเมื่อวานนี้มีการอภิปรายเพื่อคัดเลือก 2 เมืองสุดท้าย ซึ่งโต้เถียงกันอย่างเมามัน ถึงขั้นหยุดการถ่ายทอดสดอย่างดื้อๆไม่มีการประกาศอะไร แต่ต่อมาก็มีบทสรุปว่าได้เมืองที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายแล้ว ซึ่งมีถึงสามเมืองเลยทีเดียว ทั้งกรุงเคียฟ เมืองดนีโปร และเมืองโอเดสซ่าค่ะ
สามเมืองสุดท้าย (จากซ้าย) กรุงเคียฟ เมืองดนีโปร และเมืองโอเดสซ่า แต่จะมีแค่เมืองเดียวที่จะได้เป็นเจ้าภาพยูโรวิชั่น 2017
© NTU
และนี่คือเทปรายการทั้งสองรายการที่พูดถึงการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพในยูเครนค่ะ
เทปแรกเป็นเทปรายการ "City Battle" ของเมื่อคืนวันอังคารค่ะ เป็นการนำเสนอเมืองทั้ง 6 เมืองที่เสนอตัวเป็นเจ้าภาพ โดยนายกเทศมนตรีของแต่ละเมืองเป็นผู้นำเสนอ หลังจากจบการนำเสนอในแต่ละเมืองจะมีการซักถามและมีการโต้แย้งกันด้วย ถ้าใครได้ดูคลิปนี้จะเห็นว่าจะมีการตัดภาพที่ไปแต่ละเมืองที่คนในเมืองนั้นๆมารวมตัวกันที่ลานจัตุรัสเพื่อสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพด้วย
ส่วนนี่เป็นเทปของเมื่อวานที่มการซักทอดเถียงกัน เถียงเป็นภาษายูเครน ฟังไม่ออกค่ะ ต้องไปเพิ่งคำแปลที่มีคนโพสทางทวิตเตอร์ช่วย
มาดู 3 เมืองสุดท้ายที่ผ่านเข้ารอบกันค่ะว่าเขาส่งสนามอะไรบ้าง และมีข้อได้เปรียบตรงไหนบ้าง
เมืองแรก กรุงเคียฟ เมืองหลวงของประเทศ ที่ผ่านเข้ารอบได้ เพราะได้เปรียบเรื่องความพร้อมในหลายๆด้าน ทั้งสาธารณูปโภค และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ แถมมีประสบการณ์การจัดยูโรวิชั่น 2005 และจูเนียร์ยูโรวิชั่น 2009 และ 2013 มาแล้ว โดยเมืองนี้ส่งสองสนามไว้เป็นตัวเลือกไว้พิจารณา ได้แก่...
สนามแรก สนาม Palace of Sports สนามกีฬาในร่มที่เคยใช้ในการจัดยูโรวิชั่นปี 2005 และจูเนียร์ยูโรวิชั่น 2009 เป็นสนามตัวเลือกแทน แต่ปัญหาคือฮอลล์นี้แคบมากๆ และจุแค่หมื่นคน และปัญหาที่หนักกว่านั้นคือ ช่วงปลายเดือนเมษายนปีหน้า จะมีการจัดการแข่งขันฮ๊อคกี้น้ำแข็งชิงแชมป์โลกที่สนามแห่งนี้ ซึ่งจะส่งผลเรื่องเวลาเตรียมสถานที่ที่อาจไม่ทันกำหนดการแข่งขันที่เริ่มในวันที่ 9 พฤษภาคม
ส่วนสนามที่สองที่ทางกรุงเคียฟส่งไว้เป็นทางเลือกคือ International Exhibition Centre ซึ่งเป็นศูนย์การประชุมแห่งชาติที่บ้านเขา ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่า Palace of Sports จุประมาณ 12,000 คน แต่จะเตะตาในที่ประชุมในรอบสุดท้ายหรือเปล่าต้องมาติดตามกันอีกที
คลิปโปรโมตกรุงเคียฟในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพค่ะ
เมืองที่สอง เมืองดนีโปร ที่ผ่านเข้ารอบได้ เพราะเมืองนี้นำเสนอเป้าหมายชัดเจนกว่าเมืองอื่นๆ ทั้งสุถานที่จัด โรงแรมที่พัก ระบบคมนาคม และอื่นๆ โดยเมืองนี้ส่งสนาม Meteor Stadium ซึ่งเป็นสนามในร่มแทนสนามดนีโปรอารีน่าที่เป็นสนามฟุตบอลแต่ไม่มีหลังคาคลุม โดยสนามที่ว่ามีแผนปรับปรุงเพื่อยกกระดับความจุให้เพิ่มขึ้น และจะเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น DniproEuroArena อีกด้วย โดยสนามนี้มีความจุประมาณ 9,000 กว่าคน
ในความเห็นของเรานะคะ เราว่าชื่อเมืองที่เปลี่ยนใหม่จากเมืองดนีโปรเปตรอฟสค์ก็มีส่วนช่วยให้ผ่านเข้ารอบด้วย เพราะเพื่อที่จะข่มรัสเซียไปในตัว เพราะชื่อเมืองเก่าเป็นชื่อที่ตั้งในยุคของโซเวียต และช่วงนี้ยูเครนจัดการเปลี่ยนชื่อเมือง ชื่อหมู่บ้าน ชื่อถนน และชื่ออื่นๆที่ตกค้างมาจากยุคโซเวียตให้หมดเพื่อตอบโต้ทางการเมืองกับรัสเซีย
คลิปโปรโมตเมืองดนีโปรในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพค่ะ
และเมืองที่สาม เมืองโอเดสซ่า ที่ได้รับเลือก เพราะแรงสนับสนุนของคนในเมืองนี้อย่างแรง รวมทั้งศิลปินยูเครนส่วนหนึ่งที่ออกมาสนับสนุน นำทีมโดยจามาล่า แชมป์ปีล่าสุดนี่แหล่ะ นอกจากนี้ยังได้เปรียบเรื่องภาษา เพราะคนในเมืองนี้พูดภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศสมากที่สุดในประเทศ (เป็นเมืองท่าสำคัญก็ดีอย่างนี้แหล่ะ) ขณะที่ความพร้อมของสนาม ต้องขอบอกว่าเมืองนี้ยังยืนยันส่งสนามโคเนโทเรท ซึ่งเป็นสนามฟุตบอลแถมไม่มีหลังคา และเป็นสนามบอลสนามเดียวที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ โดยทางเมืองบอกว่าจะเร่งก่อสร้างหลังคาคลุม แต่เขาก็จะมีแผนสำรองที่จะใช้ผ้าเต้นท์คลุมสนามเป็นสนามในร่มชั่วคราวด้วย เอ่อ...มันจะได้ผลเหรอ
นี่คือแผนการที่ทางเมืองนี้ได้นำเสนอถ้าทำหลังคาไม่ทัน อารมณ์เหมือนดูคอนเสิร์ตบอดี้แสลมไม่ก็คาราบาวในช่วงทัวร์คอนเสิร์ตตามสนามกีฬาจังหวัดอย่างไรอย่างนั้นเลย
สำหรับเรานะคะ เมืองนี้ผ่านเข้ารอบเพราะเพื่อเหตุผลทางการเมืองเหมือนดนีโปร เพราะเมืองนี้ตั้งใกล้เขตไครเมีย อาจจะไม่ใกล้เหมือนเมืองเคอร์ซ่อนที่ตั้งใกล้กว่า แต่คนทาท่าร์ซึ่งเป็นชนเผ่าในไครเมียที่พลัดถิ่นในเมืองนี้ก็ไม่ใช่น้อยๆ นี่อาจจะเป็นการข่มรัสเซียไปอีกทางหนึ่ง
คลิปโปรโมตเมืองโอเดสซ่าในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพค่ะ
เรากลับมาดูแผนที่ยูเครนอีกที จะเห็นว่าเมืองดนีโปรที่ผ่านเข้ารอบมานั้นตั้งใกล้เขตสู้รบกับรัสเซียมากที่สุดซึ่งอาจจะไม่ปลอดภัยถ้าถึงวันนั้น ส่วนโอเดสซ่าก็ตั้งใกล้เขตไครเมีย ถึงระยะห่างจะไกลว่าของเมืองเคอร์ซ่อนก็เถอะ ทีนี้คงต้องคิดให้หนักๆเลย ซึ่งจุดนี้กรุงเคียฟได้เปรียบแน่นอน แต่เชื่อว่าทางยูเครนเขาคงต้องการหาความท้าทายใหม่ๆแน่ๆ
ถ้าดูสามเมืองนี้ (จากซ้าย) กรุงเคียฟ เมืองหลวงของประเทศ ศูนย์กลางการปกครองที่เพียบพร้อมไปทุกอย่าง
เมืองโอเดสซ่า เมืองท่ายักษ์ใหญ่ของประเทศและเมืองที่สวยงามทั้งที่ตั้งและสถาปัตยกรรม
ขณะที่เมืองดนีโปร เมืองเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว....
เมืองไหนจะเป็นเจ้าภาพไป วันที่ 1 สิงหาคม จะเป็นวันตัดสิน ซึ่งจะมีการนำเสนอีกครั้งและอภิปรายอีกครั้งจนกว่าจะได้ข้อสรุปค่ะ
ซึ่งเราต้องติดตามกันต่อไปนะคะ
ข้อมูลข่าวนี้จาก ยูโรวิชั่น