Prompt Pay มีทั้งดีและเสีย แต่สุดท้ายก็คงต้องโดนมัดมือชก ( By Identity Idea)

เป็นนโยบายหนึ่งที่ผมมองว่าดีแต่ รัฐบาล ยังไม่พร้อมที่จะผลักดันระบบนี้ถ้ายังไม่แก้ปัญหาบางประการ  ปัญหาที่ว่าคืออะไร?  ก่อนที่จะไปดูปัญหา ผมว่ามาดูว่าพร้อมเพย์เกิดขึ้นมาทำไม เท่าที่ทราบ

   1. ทุกวันนี้การโอนเงินข้ามบัญชี มักจะมีค่าธรรมเนียม รัฐบาลต้องการลดตรงนี้เพื่อประโยชน์ของการลดค่าใช้จ่ายตรงนี้ลง
   2. ลดการใช้ธนบัตรทุกวันนี้การจัดพิมพ์ธนบัตรมีค่าใช้จ่ายสูงในการพิมพ์ธนบัตร รัฐบาลต้องการลดตรงนี้ และให้มีการใช้จ่ายผ่านอิเล็คโทรนิคมากขึ้น
   3. เท่าที่ทราบตอนนี้ทุกธนาคารมีตู้ ATM รวมกันประมาณ 7 หมื่นกว่าตู้ มีเงินสดที่มีค่าธรรมเนียมต่างๆในการคนส่งอยู่ในตู้เหล่าน้ันประมาณ 5 หมื่นกว่าล้านบาท ตู้ละประมาณ สองล้าน (มีคนบอก)
   4. รัฐต้องการนำคนเข้าระบบภาษี ******
   5. การจ่ายเงินให้ตามนโยบายให้ประชาชน จะไม่ต้องโดนหักหัวคิวหายไปกลางทาง(น่าจะทายอะไรเอ่ยว่าไปที่ไหน?!) เข้าบัญชีประชาชนโดยตรง เช่นเกษตรกร

   แต่

    คุณจะจัดการกับข้อมูลเหล่านี้ยังไง ในเมื่อบัตรประชาชน และโทรศัทพ์มือถือ ไม่ได้ใช้ verify แค่พร้อมเพย์ ข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตบางที บัตรเครดิตบางบัตร ทีเวลาต้องการทำการเปลี่ยนแปลงข้อมูลต่างๆ การเข้าถึงข้อมูลก็ต้องใช้ข้อมูลเหล่านี้  ต่อให้มี OTP ส่งมาจากธนาคารก็เถอะถ้าคนตั้งใจขโมยรอแค่ SMS มันก็ทำสำเร็จแล้ว   เพราะถ้าใครเคยทำธุรกรรมออนไลน์จะทราบว่า สิ่งที่ระบบอัตโนมัติต้องการคือ รหัสบัตร หรือ รหัสบัตรประชาชน วันเดือนปีเกิด หรือ pin code ถ้าไม่มีสมัครได้ทันทีผ่านข้อมูลที่บอกไปแล้วก็จะยืนยันผ่านมือถือ  จบครับแบบนี้  เพราะมันไม่ได้ใช้แค่พร้อมเพย์

    อีกส่วนหนึ่งคือ พวกประกัน พวกนี้สามารถเอาข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ได้ แต่ต่อให้ไม่มีพวกนี้มันก็ได้ข้อมูลมาจากไหนไม่รู้ บางคนขนาดแค่ไปทำงานที่หนึ่งไปทำประกันสังคมพักเดียววันสองวันมันโทรมาละ  ไม่ต้องให้นึกนะว่าความเป็นไปได้มันหลุดฐานข้อมูลอย่างไรเท่าที่มนุษย์อย่างผมมจะมโนเอาเองได้(ก็แค่คิดไม่ได้กล่าวหานะ ไม่ได้บอกนะว่ามันขายกันได้ไม่เค๊ย....) อยู่ดีๆนั่งอยู่กลางวัน ทานข้าว เข้าห้องน้ำ นั่งขี้ ดูหนัง ....มันโทรมาละ  ไม่ทราบว่าคุณ .... ใช้บัตรนี้อยู่หรือเปล่าคะเราโทรมาจากธนาคารสาขาใหญ่   อ้าวถ้าโทรมาจากสาขาใหญ่เจ้าของธนาคารที่จะขายบัตร ไม่รู้ได้ไงว่าตรูใช้ไม่ใช้  จะมากหลอกตรูซะละ

    บางครั้งมีประกันโทรมา เรามีประกันคุ้มครองนั่น........ (ปล ไม่ได้โลกสวยแต่ปรกติ แค่ผมนะครับ จะรับและฟังเขาเพราะเข้าใจว่าเขาจะขายเห็นใจไม่อยากใช้คำรุนแรงตัดสายไปเลย) แต่ก็จะเจอประเภท เวลาจะจบบทสนทนาแล้วเราปฏิเสธไม่สนใจแบบสุภาพ แล้วมันบอกว่า ถ้าพี่ไม่ห่วงสุขภาพตัวเองหรือไม่ประกันไว้ล่วงหน้าถ้าเกิดอะไรขึ้นก็....  (เอ่อ ผมไปขี้บนบ้านคุณแล้วลืมราด เหรอครับต้องขายเหมือนแช่ง)



   พอครับเลอะเทอะออกนอกพร้อมเพย์มาเยอะละ มาถึงคำที่ว่าต้องโดนมัดมือชกคือ  ถ้าประชาชนต้องการได้รับผลประโยชน์ก็ต้องเข้าพร้อมเพย์ เพื่อให้ได้สิทธิประโยชน์น่น ก็จำเป็นตั้งทำ ได้ข่าวแว่วๆว่า คืนภาษีปีหน้าอาจไม่มีเช็คแต่จะโอนเข้าพร้อมเพย์(อันนี้ไม่รู้จริงหรือเปล่า)  


     ถ้ารัฐจะออกนโยบายแบบนี้ถามว่ามีประโยชน์ไหม ผมขอตอบในความคิดส่วนตัวว่ามีมากๆ แต่ดูเปรียบเทียบกับความปลอดภัยที่รัฐบาลบอกว่าพร้อมเพย์ปลอดภัย  ครับปลอดภัย แต่กับธุรกรรมอื่นผมที่ไม่ได้ใช้พร้อมเพย์ปลอดภัยไหมรัฐบาลลอกผมหน่อย วันดีคืนดีผมไม่ได้ทำประกันกลายผมทำประกันไปโดยไม่รู้ตอนไหน เพราะสมัยนี้แค่พวกนี้โทรมาและบันทึกข้อมูลทางโทรศัพท์ก็ถือว่าเรายอมรับมันแล้ว จะขอเงินคืนทีก็ลำบากกว่าจะได้คืน แต่อนุมัตแค่เป็บเดียว อันนี้ถ้าใครเคยเจอเช่นประกันรถยนต์บางบริษัท  ที่เป็นโบรคเกอร์มันไม่รู้เอาข้อมูลมาจากไหน อยู่ดีๆก็โทรมาบอกว่ารถคุณจะหมดประกันเดือนนั้นเดือนนี้ มันรู้หมด เสนอขายไม่ทันไร ให้แมสเซนเจอร์มารับเงินประกันละ   สมมุติถ้าโทรศัพท์หาย มันมีฐานข้อมูลอยู่แล้ว สมมุติมันหลอกเอายอดหละคือโทรหากันเองอนุมัติเอง ขอคิดแง่ร้ายไว้ก่อน มีระบบไหนที่รวดเร็วปลอดภัยได้เงินคืนยกเลิกไวเคลมไวไหม รัฐบาลมีคำตอบตรงนี้หรือไม่

    เขียนมาตั้งยาว สำหรับผม สรุปผมก็ยังไม่ใช้นะครับ ไม่กล้าใช้แม้ว่าจะดี แต่ถ้าเป็นประชาชนที่ต้องการผลประโยชน์จากรัฐที่จะมอบให้ก็ต้องโดนมัดมือชกทำไปแบบหาทางเลี่ยงไม่ได้  ก็ต้องดูต่อไปว่าใช้ไปสักพักจะมีปัญหาร้องเรียนหรือไม่

     สรุปครับ มีทั้งดีทั้งเสียครับ ปิดข้อเสียครับผมจะได้ไปใช้มั่ง เพราะยังไงมันต้องใช้อยู่ดี
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่