โทษทีหัวข้อกระทู้ผมพิมพ์ผิดแก้ไขไม่ได้
RUN AWAY TO KOH-TAO 2016 เที่ยวเกาะเต่าแบบแฉหมดเปลือก[PART 2]
ความเดิมจากตอนที่แล้ว
http://pantip.com/topic/35404601

ก่อนดำน้ำพี่พีทแนะนำให้ใส่เสื้อชูชีพและห้ามจับปะการังจับสัตว์น้ำในทะเลห้ามให้อาหารปลา โดยจุดที่ไปดำน้ำมีทั้งหมด 4 จุด คือ อ่าวลึก อ่าวหินวง อ่าวม่วง จุดละ 30 นาทีและจุดสุดท้ายนางเอกของงานคือเกาะนางยวน เวลา 2 ชม. นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ดำน้ำในทะเลอ่าวไทยก่อนหน้านี้เคยดำมาก่อนที่ทะเลอันดามัน น่าเสียดายที่ผมไม่ได้ถ่ายภาพในน้ำเพราะไม่มีเคสกันน้ำ ผมเลยเอาซองกันน้ำที่เหลือจากสงกรานต์มาใช้ ไอโฟนผมเกือบจะตามสตีปจ็อบขึ้นสวรรค์ไปแล้ว

ต้องของบอกสะนิดว่า จุดดำน้ำจุดแรก อ่าวลึกปะการังสวยมากแต่ปลาไม่ค่อยเยอะเหมือนจุดที่สองอ่าวหินวง ในการดำน้ำครั้งนี้ผมอยากจะต่อยหน้าไอ้จีนที่มาด้วย

พูดมากตั้งแต่ขึ้นเรือแถมมันยังขึ้นยืนบนปะการังทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้แถมมันยังชี้ปลาให้ลูกๆมันดู ทำให้ปะการังบ้านเราต้องตายเสียอีก แถมมันยังเขาข้าวให้ปลากิน เมื่อดำน้ำอ่าวม่วงเสร็จก็ได้เวลารับประทานอาหารแล้วเดินทางต่อไปยังนางเอกของงานคือเกาะนางยวน

เมื่อถึงเกาะนางยวนไกด์พี่พีทให้เวลา 2 ชมสำหรับเดินเล่น ดำน้ำ ถ่ายภาพ และสำรวจเกาะ เรือจะรอที่ท่า ออกเวลา 17.00 น. ผมรีบขึ้นไปยังเกาะต้องเสียค่าธรรมเนียมเข้าเกาะคนละ 30 บาทชาวต่างชาติเสีย 100 บาท และห้ามพาขวดน้ำพลาสติกเครื่องดื่มเข้าเกาะ ต้องยอมรับว่าเกาะนางยวนสวยงามมากต้องไปเห็นกับตาถึงจะรู้

พี่พีทแนะนำให้ขึ้นไปชุมวิวหลัง 4 โมงเพราะนักท่องเที่ยวจะไม่เยอะทางขึ้นไปยังจุดชมวิวเกาะทางยวนตอนนี้ปรับปรุงใหม่แล้วไม่หวาดเสียวและผุพังเหมือนเมื่อก่อน

ต้องขึ้นเขาไปอีก 6 นาทีแต่ก็เหนื่อยดีในที่สุดก็ถึงจุดชมวิวเกาะนางยวน กว่าจะได้ถ่ายภาพลำบากเพราะทางแคบแถมนักท่องเที่ยวรอถ่ายภาพอยู่เต็มหมด

หันไปดูเวลาใกล้ 17.00 น.ต้องรีบไปขึ้นเรือ เมื่อรอนักท่องเที่ยวหลบแล้วก็ได้เวลาเรือออกใช้เวลา 30 นาทีเรือก็ถึงท่าเรือเมื่อหาด เมื่อเรือเทียบท่าก็มีคนมารับส่งรีสอร์ท ถือกว่าคุ้มที่ไม่ต้องกลับเอง เมื่อผมถึงรีสอร์ทก็รีบอาบน้ำออกตามล่าหาอาหารกินโดยเดินรอบๆหาดทรายรี หาดส่วนใหญ่จะเป็นร้านสำหรับฝรั่ง ดูเมนูอาหารราคาส่วนใหญ่ 80 บาทอัพโดยเมนูอาหารจะตั้งอยู่หน้าร้าน ผมอาหลายๆบ้านเผื่อจะได้ร้านอาหารราคาถูกแต่ราคาอาหารก็เหมือนๆกันทุกร้านในที่สุดก็แวะเข้าร้าน TONG THAIFOOD ทันที่ดูเมนูอาหารร้านนี้เจ๊กะเทยร่างใหญ่ยักษ์เข้ามาถามจะกินอะไร ผมหัดไปมองด้วยความตกใจแล้วรีบกุ้งทอดกระเทียม หมดไป 100 บาทกับค่าน้ำขวด 40 บาทสำหรับเมนูนี้ราคาที่นี้ก็อร่อยดีแต่ปริมาณไม่เยอะมากห้ามไม่ฟรี ผมกินยังไม่อิ่มเลยต้องแวะเข้าเซเวน ราคาเซเวนที่เกาะเต่าของแพงกว่าเซเวนปกติ 2-5 บาทขึ้นอยู่กับของบางชนิด ผมก็เลยซื้อเบียร์มากินฉิบเล่นกับบรรยากาศริมหาด เสร็จแล้วก็กลับเข้าที่พัก

รุ่งเช้าผมรีบ check out ออกจากรีสอร์ทต้องขอยอมรับว่ารีสอร์ทนี้บริการดีมากก่อนไปพี่ที่รีสอร์ทขอถ่ายภาพเป็นที่ละลึก จากนั้นผมกับเพื่อนก็เดินทางไปไปเช่ารถที่หาดแม่หาด ไม่หาที่หาดทรายรีเพราะก่อนหน้าที่ ผมเข้าไปถามราคาเช่ารถเจ้าของร้านบอกว่าคันละ 150 บาทมัดจำ 10000 บาทผมพูดกับเจ้าของร้านว่านี่ล้อเล่นกันใช่มั้ย เจ้าของร้านตอบกลับว่าจริงครับ และร้านเช่ามอเตอร์หาดทรายรีส่วนใหญ่จะมีแต่เกียร์ออโต ผมคิดในใจว่าถ้าเช่าที่หาดแม่หาดเวลากลับจะคืนจะรถง่ายกว่า ผมเดินมาหิวก็หิวขึ้นเขาลงเขาร้อนก็ร้อน ทางก็กำลังปรับปรุงฝุ่นก็เยอะเดินระยะทาง 2 กิโลเมตรกว่าๆในที่สุดก็ถึงหาดแม่หาดแล้วตามหารถในที่สุดก็เช่าร้านคุณลุงแถวๆท่าเรือแม่หาดร้านอยู่ซ้ายมืออยู่ขึ้นไปเลยเซเวน(ถ้ามาทางท่าเรือ)ค่ารถ 150 บาทสำหรับเกียร์ธรรมดา 100 บาทเกียร์ออโต 200 บาทไม่มีมัดจำแต่ต้องตั้งบัตรประชาชนและต้องกรอกเอกสารทางร้าน

เมื่อเช่า Honda Dream คู่กายที่ร้านลุงผมรีบไปเติมน้ำมันซึ่งปั๊มมันซึ่งมีอยู่เต็มเกาะ ค่าน้ำมัน 40 บาทพร้อมหาที่พักใหม่ ผมคิดในใจไว้แล้วอยากพักแถวอ่าวโฉลกบ้านเก่าเพราะแถวนั้นหาดสวยและไม่วุ่นวายเหมือนหาดทรายรี

หลังจากแว๊นรถตามหาที่พักในที่สุดในที่สุดผมได้สอบถามอีเจ๊ ณ รีสอร์ทแห่งหนึ่งย่านอ่าวโฉลก อีเจ๊บอกว่าที่นี่สวยอยู่บนเขามองเห็นวิวชัดเจนทั่วอ่าวโฉลกผมก็อยากพักที่สูงบ้างก็เลยตอบตกลงไป ได้บังกะโลพพัดลมบนภูเขาหลังละ 600 บาททางขึ้นค่อนข้างสูงและเหนื่อยพอดู เมื่อมาถึงต้นไม้หน้าห้องบังทัศนียภาพไปนิดหนึ่ง คิดในใจโดนอีเจ๊ต้มแล้วกู เมื่อกี้เจ๊ยังบอกว่าเห็นวิวทิวทัศน์ชัดเจน แต่ check in มาแล้วทำไงได้ เมื่อถึงห้องผมรีบอาบน้ำเตรียมพร้อมแว๊นรอบเกาะ

บรรยากาศหน้าที่พักที่บริอ่าวโฉลกเสียดายโดนต้นไม้บังไปนิดแต่ก็สวยใช้ได้

ผมรีบส่องแผนที่เกาะเต่าพร้อมวางแผนไปตะลุยทั่วเกาะ ซึ่งแผนที่สามารถขอฟรีได้ที่รีสอร์ทและร้านค้า อันนี้ผมขอคุณลุงที่ร้านเช่ามอเตอร์ไซค์
แต่ก่อนอื่นต้องหาอะไรรองท้องก่อน ผมแวะเข้าร้านน้องหมวยอาหารไทยแถวๆทางเข้าท่าเรือแม่หาดสั่งกับมา 4 อย่าง มีกุ้งทอดพริกไทย ยำทะเล ต้มยำกุ้ง ผัดคะหน้าหมูกรอบ ต้มยำกุ้ง และสั่งข้าวเปล่า กับข้าวที่นี่อร่อยน้ำดื่มฟรีกับข้าวเยอะกว่าที่หาดทรายรี แต่ในความคิดผมต้มยำกุ้งไม่อร่อยเท่าไรแต่ก็พอกินได้คิดตังค์ทั้งหมด 480 บาท หารกับเพื่อนก็ตกราคา180 บาท จากนั้นแว๊นต่อไปลานหิน จปร ไหว้เคารพอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 ริมชายหาด

จากนั้นแว๊นต่อมาเรื่อยๆผ่านหาดทรายรีและทางมาเส้นสุดที่ดุสิตบัญชารีสอร์ท เมื่อถึงที่นี่ผมก็ทำเกรียนเนียนๆเป็นแขกมาพักที่นี่ เข้าไปถ่ายภาพในรีสอร์ทต้องขอบอกเลยว่ารีสอร์ทที่นี่สวยมาก

รีสอร์ทตั้งอยู่บนภูเขาเห็นทิวทัศน์ชัดเจน และไม่ต้องพูดเรื่องราคาที่พักคงแพงน่าดู

และที่สำหรับรีสอร์ทแห่งนี้มองเห็นเกาะนางยวนชัดเจน ในที่สุดได้ลาออกเที่ยวสำรวจสถานที่ สถานที่จะไปนั่นคืออ่าวม่วงและอ่าวหินวงผมรีบขับไปตามแผนที่ ต้องขอบอกเส้นทางเป็นถนนลูกรังขึ้นเขาลงเขาแบบสูงชันและน่าหวาดเสียวมากในที่สุดขณะลงเขาทางไปอ่าวม่วงที่แสนหวาดเสียวและอันตราย

ในที่สุดผมต้องทิ้งกายลงนอนลงสองข้างทางเพราะทางชำรุดแต่โชคดีไม่เป็นอันตรายมาก ผมหันไปดูนาฬิกา 4 เย็นเกือบๆ 5 โมงเย็นผมเด GPS มาดูปลายทางยังยาวไกลผมเลยตัดสินใจกลับไม่อยากเอาชีวิตไปเสี่ยง ต้องขอบอกเลยว่าเส้นทางบกบนเกาะเต่าส่วนใหญ่ค่อนข้างลำบากขึ้นเขาลงเขา ผมคิดในใจโชคดีแล้วที่เมื่อวานผมเดินทางเรือได้ชมรอบเกาะ ระหว่างขับขึ้นเขาผมเห็นฝรั่งเกิดปัญหาเหมือนผมเลยเข้าไปช่วยในที่สุดผมขับออกทางเดิมด้วยความยากลำบากและความเสี่ยง ต้องขอบอกเลยว่าขับรถที่นี่ต้องใช้ประสบการณ์สูง จนในที่สุดก็ขับออกมาได้อย่างปลอดภัยผมเลยเปลี่ยนแผนไปที่หาด freedom และจุดชมวิวจอห์นสุวรรณเพราะอยู่ไม่ไกลจากที่พักมากนะ

เมื่อถึงจุดชมวิวก็รีบๆถ่ายภาพ ลมก็พัดแรง ถ้าฝนตกตอนลงคงลำบากแน่ ผมเลยรีบตัดสินใจกลับเสียดายถึงจุดชมวิวได้ถ่ายภาพมาไม่กี่ภาพ เมื่อขับรถกลับรีสอร์ทมาได้ครึ่งทางฝนก็ตกโปรยๆนิดๆผมก็แวะซื้อขนมที่เซเวนตุนไว้คืนนี้ หลังจากที่ออกจากเซเวนฝนก็แล้งแบบน่าเหลือเชื่อ ตอนกลับผมแวะเล่นน้ำที่หน้ารีสอร์ทที่อ่าวโฉลกน้ำใสน่าเล่นมาก

ก่อนกลับขึ้นที่พักผมลงสระว่ายน้ำที่หน้ารีสอร์ทต้องให้คุ้ม 600 บาท

เมื่อกลับถึงที่พักอาบน้ำเสร็จเหนื่อยก็เหนื่อยแต่นอนไม่หลับ

บรรยากาศในห้องอย่างกะหนัง The conjuring 2 ณ ที่ผมนั่งอยู่บนเตียงอยู่ก๊อกน้ำไหลห้องน้ำไหลออกมาเองเหมือนมีใครอยู่ในห้องน้ำทั้งๆที่ห้องนั้นมีผมอยู่คนเดียว หันไปเห็นกระจกแผ่นเล็กติดหน้าทางเข้าห้องน้ำแต่ติดสูงมากเหมือนติดไว้แก้เคล็ดฮวงจุ้ย ไม่แน่ห้องที่ผมอยู่อาจมีพลังงานบางอย่างซ่อนอยู่..ก็เป็นได้ ผมได้แต่บอกตัวเองอย่าคิดมากในที่สุดผมก็หลับตอนไหนก็ไม่รู้ รุ่งเช้าผมรีบรีบน้ำเก็บของเดินทางกลับหาดใหญ่ 8.30 น.ผมรีบไป check out ออกจากรีสอร์ท อีเจ๊ถามผมว่าหลับไหมผมตอบกลับว่าหลับสบายมาก แล้วเจ๊ถามจะไปเที่ยวไหนผมตอบเจ๊จะกลับหาดใหญ่แล้ว จากนั้นเจ๊พร้อมเสนอขายตั๋วเรือที่มีขายทั่วไปทั่วรีสอร์ทและร้านค้า เพื่อนผมรีบซื้อแต่ผมห้ามไว้ผมแนะนำให้ไปดูที่ท่าเรือเผื่อจะได้ราคาตั๋วที่ถูกกว่า

เมื่อไปถึงท่าเรือหาดเกาะเต่าผมก็รีบไปคืนรถที่เช่ามาก ซึ่งตอนกลับผมวางแผนกลับทางเกาะสมุยซึ่งไม่เสียเวลากว่ากลับทางชุมพร เมื่อเดินจะไปถึงท่าเรือพี่สาวร้านขายทัวร์ถามว่าจะไปไหน ผมบอกว่าจะกลับหาดใหญ่พร้อมพี่สาวแนะนำให้ไปลงที่เกาะพะงันแล้วต่อเรือราชาเฟอร์รี่ไปขึ้นที่ท่าเรือดอนสัก ดีกว่าไปเกาะสมุยเพราะไปเกาะสมุยเรือเสียเวลาจอดรับผู้โดยสารที่เกาะพะงันเป็นเวลา 30 นาทีจากนั้นเมื่อถึงเกาะสมุยต้องเสียค่ารถโดยสารอีก 150 บาทเพื่อเดินทางจากท่าเรือไปเกาะพะงันมาที่ท่าเรือไปดอนสัก พี่เขาแนะนำให้ไปที่เกาะพะงันแล้วเสื้อตั๋วราชาเฟอรรี่ที่เกาะพะงัน แถมเรือนี้ไม่แวะที่สมุยอีกด้วย และราคาตั๋วเรือไปเกาะพะงันราคา 500 บาทถูกกว่าไปเกาะสมุย 100 บาทเพื่อไม่เสียเวลาและค่าใช้จ่ายผมเลยตัดสินไปลงเรือเรือซีทราน รอบ 9โมงเช้าผมดูนาฬิกาขณะนี้เวลา 8.56 นาทีต้องรีบไปลงเรือโดยด่วน ใช้เวลาเดินทางจากเกาะเต่าไปเกาะพะงันแค่ 1 ชั่วโมงกว่า

บรรยากาศในเรือซีทรานก็ลำใหญ่โตมี 2 ชั้นชั้นแรกเป็นแบบปรับอาหารชั้นบนสุดบนแบบตากลม ลมเลือกนั่งด้านบนเพราะนั่งด้านล่างแล้วรู้สึกปวดหัวเรือโดลงเครงกว่าข้างบน แถมด้านบนถึงร้อนแต่ได้สูดลมเข้าเต็มปวดได้เวลาบอกลาเกาะเต่า

ในที่สุดก็ถึงเกาะพะงันเสียทีบรรยากาศที่นี่น่าชวนหลงใหลมากผมอยากนอนเช่ารถเที่ยวเกาะนี้อีกสักคืนเมื่อผมไปกดที่ตู้ ATM ที่ท่าเรือ ผมต้องตกใจเมื่อพบกับคุณทรัพย์ที่เบาบางอีกครั้งเสื้อผ้าที่พาไว้ก็ไม่เพียงพอ ผมเลยตัดสินใจบอกลาพะงันกลับหาดใหญ่ดีกว่า เมื่อผมซื้อตั๋วราชาเฟอร์รี่ที่เกาะพะงันมีตั๋วให้เลือก 2 แบบคือถ้าลงที่ดอนสักราคา 210 บาท ลงที่ดอนสักพร้อมรถตู้ไปสุราษฏร์ธานีธานีราคา 310 บาท ผมถามพนักงานว่าไปหาดใหญ่ไปยังไงให้เร็ว พนักงานแนะนำลงที่ท่าเรือดอนสักแล้วต่อรถจากท่าเรือดอนสักไปลงที่นครศรีธรรมราชจะประหยัดค่าเดินทางและเวลากว่า ผมเลยตัดสินไปไปลงที่ดอนสักแล้วต่อรถไปลงที่นครศรีธรรมราช รอบเรือที่ออกมี รอบ 11.00 น.และ 15.00 น. ผมดูนาฬิกาเกือบ 11 โมงแล้วเลยตัดสินใจรีบซื้อตั๋วลงเรือเฟอร์รี่อีกครั้งที่ผมเดินทางทันแบบเฉียดฉิว
[SR] RUN AWAT TO KOH-TAO 2016 เที่ยวเกาะเต่าแบบแฉหมดเปลือก[PART 2]
RUN AWAY TO KOH-TAO 2016 เที่ยวเกาะเต่าแบบแฉหมดเปลือก[PART 2]
ความเดิมจากตอนที่แล้ว
http://pantip.com/topic/35404601
ก่อนดำน้ำพี่พีทแนะนำให้ใส่เสื้อชูชีพและห้ามจับปะการังจับสัตว์น้ำในทะเลห้ามให้อาหารปลา โดยจุดที่ไปดำน้ำมีทั้งหมด 4 จุด คือ อ่าวลึก อ่าวหินวง อ่าวม่วง จุดละ 30 นาทีและจุดสุดท้ายนางเอกของงานคือเกาะนางยวน เวลา 2 ชม. นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ดำน้ำในทะเลอ่าวไทยก่อนหน้านี้เคยดำมาก่อนที่ทะเลอันดามัน น่าเสียดายที่ผมไม่ได้ถ่ายภาพในน้ำเพราะไม่มีเคสกันน้ำ ผมเลยเอาซองกันน้ำที่เหลือจากสงกรานต์มาใช้ ไอโฟนผมเกือบจะตามสตีปจ็อบขึ้นสวรรค์ไปแล้ว
ต้องของบอกสะนิดว่า จุดดำน้ำจุดแรก อ่าวลึกปะการังสวยมากแต่ปลาไม่ค่อยเยอะเหมือนจุดที่สองอ่าวหินวง ในการดำน้ำครั้งนี้ผมอยากจะต่อยหน้าไอ้จีนที่มาด้วย
เมื่อถึงเกาะนางยวนไกด์พี่พีทให้เวลา 2 ชมสำหรับเดินเล่น ดำน้ำ ถ่ายภาพ และสำรวจเกาะ เรือจะรอที่ท่า ออกเวลา 17.00 น. ผมรีบขึ้นไปยังเกาะต้องเสียค่าธรรมเนียมเข้าเกาะคนละ 30 บาทชาวต่างชาติเสีย 100 บาท และห้ามพาขวดน้ำพลาสติกเครื่องดื่มเข้าเกาะ ต้องยอมรับว่าเกาะนางยวนสวยงามมากต้องไปเห็นกับตาถึงจะรู้
พี่พีทแนะนำให้ขึ้นไปชุมวิวหลัง 4 โมงเพราะนักท่องเที่ยวจะไม่เยอะทางขึ้นไปยังจุดชมวิวเกาะทางยวนตอนนี้ปรับปรุงใหม่แล้วไม่หวาดเสียวและผุพังเหมือนเมื่อก่อน
ต้องขึ้นเขาไปอีก 6 นาทีแต่ก็เหนื่อยดีในที่สุดก็ถึงจุดชมวิวเกาะนางยวน กว่าจะได้ถ่ายภาพลำบากเพราะทางแคบแถมนักท่องเที่ยวรอถ่ายภาพอยู่เต็มหมด
หันไปดูเวลาใกล้ 17.00 น.ต้องรีบไปขึ้นเรือ เมื่อรอนักท่องเที่ยวหลบแล้วก็ได้เวลาเรือออกใช้เวลา 30 นาทีเรือก็ถึงท่าเรือเมื่อหาด เมื่อเรือเทียบท่าก็มีคนมารับส่งรีสอร์ท ถือกว่าคุ้มที่ไม่ต้องกลับเอง เมื่อผมถึงรีสอร์ทก็รีบอาบน้ำออกตามล่าหาอาหารกินโดยเดินรอบๆหาดทรายรี หาดส่วนใหญ่จะเป็นร้านสำหรับฝรั่ง ดูเมนูอาหารราคาส่วนใหญ่ 80 บาทอัพโดยเมนูอาหารจะตั้งอยู่หน้าร้าน ผมอาหลายๆบ้านเผื่อจะได้ร้านอาหารราคาถูกแต่ราคาอาหารก็เหมือนๆกันทุกร้านในที่สุดก็แวะเข้าร้าน TONG THAIFOOD ทันที่ดูเมนูอาหารร้านนี้เจ๊กะเทยร่างใหญ่ยักษ์เข้ามาถามจะกินอะไร ผมหัดไปมองด้วยความตกใจแล้วรีบกุ้งทอดกระเทียม หมดไป 100 บาทกับค่าน้ำขวด 40 บาทสำหรับเมนูนี้ราคาที่นี้ก็อร่อยดีแต่ปริมาณไม่เยอะมากห้ามไม่ฟรี ผมกินยังไม่อิ่มเลยต้องแวะเข้าเซเวน ราคาเซเวนที่เกาะเต่าของแพงกว่าเซเวนปกติ 2-5 บาทขึ้นอยู่กับของบางชนิด ผมก็เลยซื้อเบียร์มากินฉิบเล่นกับบรรยากาศริมหาด เสร็จแล้วก็กลับเข้าที่พัก
รุ่งเช้าผมรีบ check out ออกจากรีสอร์ทต้องขอยอมรับว่ารีสอร์ทนี้บริการดีมากก่อนไปพี่ที่รีสอร์ทขอถ่ายภาพเป็นที่ละลึก จากนั้นผมกับเพื่อนก็เดินทางไปไปเช่ารถที่หาดแม่หาด ไม่หาที่หาดทรายรีเพราะก่อนหน้าที่ ผมเข้าไปถามราคาเช่ารถเจ้าของร้านบอกว่าคันละ 150 บาทมัดจำ 10000 บาทผมพูดกับเจ้าของร้านว่านี่ล้อเล่นกันใช่มั้ย เจ้าของร้านตอบกลับว่าจริงครับ และร้านเช่ามอเตอร์หาดทรายรีส่วนใหญ่จะมีแต่เกียร์ออโต ผมคิดในใจว่าถ้าเช่าที่หาดแม่หาดเวลากลับจะคืนจะรถง่ายกว่า ผมเดินมาหิวก็หิวขึ้นเขาลงเขาร้อนก็ร้อน ทางก็กำลังปรับปรุงฝุ่นก็เยอะเดินระยะทาง 2 กิโลเมตรกว่าๆในที่สุดก็ถึงหาดแม่หาดแล้วตามหารถในที่สุดก็เช่าร้านคุณลุงแถวๆท่าเรือแม่หาดร้านอยู่ซ้ายมืออยู่ขึ้นไปเลยเซเวน(ถ้ามาทางท่าเรือ)ค่ารถ 150 บาทสำหรับเกียร์ธรรมดา 100 บาทเกียร์ออโต 200 บาทไม่มีมัดจำแต่ต้องตั้งบัตรประชาชนและต้องกรอกเอกสารทางร้าน
เมื่อเช่า Honda Dream คู่กายที่ร้านลุงผมรีบไปเติมน้ำมันซึ่งปั๊มมันซึ่งมีอยู่เต็มเกาะ ค่าน้ำมัน 40 บาทพร้อมหาที่พักใหม่ ผมคิดในใจไว้แล้วอยากพักแถวอ่าวโฉลกบ้านเก่าเพราะแถวนั้นหาดสวยและไม่วุ่นวายเหมือนหาดทรายรี
หลังจากแว๊นรถตามหาที่พักในที่สุดในที่สุดผมได้สอบถามอีเจ๊ ณ รีสอร์ทแห่งหนึ่งย่านอ่าวโฉลก อีเจ๊บอกว่าที่นี่สวยอยู่บนเขามองเห็นวิวชัดเจนทั่วอ่าวโฉลกผมก็อยากพักที่สูงบ้างก็เลยตอบตกลงไป ได้บังกะโลพพัดลมบนภูเขาหลังละ 600 บาททางขึ้นค่อนข้างสูงและเหนื่อยพอดู เมื่อมาถึงต้นไม้หน้าห้องบังทัศนียภาพไปนิดหนึ่ง คิดในใจโดนอีเจ๊ต้มแล้วกู เมื่อกี้เจ๊ยังบอกว่าเห็นวิวทิวทัศน์ชัดเจน แต่ check in มาแล้วทำไงได้ เมื่อถึงห้องผมรีบอาบน้ำเตรียมพร้อมแว๊นรอบเกาะ
บรรยากาศหน้าที่พักที่บริอ่าวโฉลกเสียดายโดนต้นไม้บังไปนิดแต่ก็สวยใช้ได้
ผมรีบส่องแผนที่เกาะเต่าพร้อมวางแผนไปตะลุยทั่วเกาะ ซึ่งแผนที่สามารถขอฟรีได้ที่รีสอร์ทและร้านค้า อันนี้ผมขอคุณลุงที่ร้านเช่ามอเตอร์ไซค์
แต่ก่อนอื่นต้องหาอะไรรองท้องก่อน ผมแวะเข้าร้านน้องหมวยอาหารไทยแถวๆทางเข้าท่าเรือแม่หาดสั่งกับมา 4 อย่าง มีกุ้งทอดพริกไทย ยำทะเล ต้มยำกุ้ง ผัดคะหน้าหมูกรอบ ต้มยำกุ้ง และสั่งข้าวเปล่า กับข้าวที่นี่อร่อยน้ำดื่มฟรีกับข้าวเยอะกว่าที่หาดทรายรี แต่ในความคิดผมต้มยำกุ้งไม่อร่อยเท่าไรแต่ก็พอกินได้คิดตังค์ทั้งหมด 480 บาท หารกับเพื่อนก็ตกราคา180 บาท จากนั้นแว๊นต่อไปลานหิน จปร ไหว้เคารพอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 ริมชายหาด
จากนั้นแว๊นต่อมาเรื่อยๆผ่านหาดทรายรีและทางมาเส้นสุดที่ดุสิตบัญชารีสอร์ท เมื่อถึงที่นี่ผมก็ทำเกรียนเนียนๆเป็นแขกมาพักที่นี่ เข้าไปถ่ายภาพในรีสอร์ทต้องขอบอกเลยว่ารีสอร์ทที่นี่สวยมาก
รีสอร์ทตั้งอยู่บนภูเขาเห็นทิวทัศน์ชัดเจน และไม่ต้องพูดเรื่องราคาที่พักคงแพงน่าดู
และที่สำหรับรีสอร์ทแห่งนี้มองเห็นเกาะนางยวนชัดเจน ในที่สุดได้ลาออกเที่ยวสำรวจสถานที่ สถานที่จะไปนั่นคืออ่าวม่วงและอ่าวหินวงผมรีบขับไปตามแผนที่ ต้องขอบอกเส้นทางเป็นถนนลูกรังขึ้นเขาลงเขาแบบสูงชันและน่าหวาดเสียวมากในที่สุดขณะลงเขาทางไปอ่าวม่วงที่แสนหวาดเสียวและอันตราย
ในที่สุดผมต้องทิ้งกายลงนอนลงสองข้างทางเพราะทางชำรุดแต่โชคดีไม่เป็นอันตรายมาก ผมหันไปดูนาฬิกา 4 เย็นเกือบๆ 5 โมงเย็นผมเด GPS มาดูปลายทางยังยาวไกลผมเลยตัดสินใจกลับไม่อยากเอาชีวิตไปเสี่ยง ต้องขอบอกเลยว่าเส้นทางบกบนเกาะเต่าส่วนใหญ่ค่อนข้างลำบากขึ้นเขาลงเขา ผมคิดในใจโชคดีแล้วที่เมื่อวานผมเดินทางเรือได้ชมรอบเกาะ ระหว่างขับขึ้นเขาผมเห็นฝรั่งเกิดปัญหาเหมือนผมเลยเข้าไปช่วยในที่สุดผมขับออกทางเดิมด้วยความยากลำบากและความเสี่ยง ต้องขอบอกเลยว่าขับรถที่นี่ต้องใช้ประสบการณ์สูง จนในที่สุดก็ขับออกมาได้อย่างปลอดภัยผมเลยเปลี่ยนแผนไปที่หาด freedom และจุดชมวิวจอห์นสุวรรณเพราะอยู่ไม่ไกลจากที่พักมากนะ
เมื่อถึงจุดชมวิวก็รีบๆถ่ายภาพ ลมก็พัดแรง ถ้าฝนตกตอนลงคงลำบากแน่ ผมเลยรีบตัดสินใจกลับเสียดายถึงจุดชมวิวได้ถ่ายภาพมาไม่กี่ภาพ เมื่อขับรถกลับรีสอร์ทมาได้ครึ่งทางฝนก็ตกโปรยๆนิดๆผมก็แวะซื้อขนมที่เซเวนตุนไว้คืนนี้ หลังจากที่ออกจากเซเวนฝนก็แล้งแบบน่าเหลือเชื่อ ตอนกลับผมแวะเล่นน้ำที่หน้ารีสอร์ทที่อ่าวโฉลกน้ำใสน่าเล่นมาก
ก่อนกลับขึ้นที่พักผมลงสระว่ายน้ำที่หน้ารีสอร์ทต้องให้คุ้ม 600 บาท
เมื่อกลับถึงที่พักอาบน้ำเสร็จเหนื่อยก็เหนื่อยแต่นอนไม่หลับ
เมื่อไปถึงท่าเรือหาดเกาะเต่าผมก็รีบไปคืนรถที่เช่ามาก ซึ่งตอนกลับผมวางแผนกลับทางเกาะสมุยซึ่งไม่เสียเวลากว่ากลับทางชุมพร เมื่อเดินจะไปถึงท่าเรือพี่สาวร้านขายทัวร์ถามว่าจะไปไหน ผมบอกว่าจะกลับหาดใหญ่พร้อมพี่สาวแนะนำให้ไปลงที่เกาะพะงันแล้วต่อเรือราชาเฟอร์รี่ไปขึ้นที่ท่าเรือดอนสัก ดีกว่าไปเกาะสมุยเพราะไปเกาะสมุยเรือเสียเวลาจอดรับผู้โดยสารที่เกาะพะงันเป็นเวลา 30 นาทีจากนั้นเมื่อถึงเกาะสมุยต้องเสียค่ารถโดยสารอีก 150 บาทเพื่อเดินทางจากท่าเรือไปเกาะพะงันมาที่ท่าเรือไปดอนสัก พี่เขาแนะนำให้ไปที่เกาะพะงันแล้วเสื้อตั๋วราชาเฟอรรี่ที่เกาะพะงัน แถมเรือนี้ไม่แวะที่สมุยอีกด้วย และราคาตั๋วเรือไปเกาะพะงันราคา 500 บาทถูกกว่าไปเกาะสมุย 100 บาทเพื่อไม่เสียเวลาและค่าใช้จ่ายผมเลยตัดสินไปลงเรือเรือซีทราน รอบ 9โมงเช้าผมดูนาฬิกาขณะนี้เวลา 8.56 นาทีต้องรีบไปลงเรือโดยด่วน ใช้เวลาเดินทางจากเกาะเต่าไปเกาะพะงันแค่ 1 ชั่วโมงกว่า
บรรยากาศในเรือซีทรานก็ลำใหญ่โตมี 2 ชั้นชั้นแรกเป็นแบบปรับอาหารชั้นบนสุดบนแบบตากลม ลมเลือกนั่งด้านบนเพราะนั่งด้านล่างแล้วรู้สึกปวดหัวเรือโดลงเครงกว่าข้างบน แถมด้านบนถึงร้อนแต่ได้สูดลมเข้าเต็มปวดได้เวลาบอกลาเกาะเต่า
ในที่สุดก็ถึงเกาะพะงันเสียทีบรรยากาศที่นี่น่าชวนหลงใหลมากผมอยากนอนเช่ารถเที่ยวเกาะนี้อีกสักคืนเมื่อผมไปกดที่ตู้ ATM ที่ท่าเรือ ผมต้องตกใจเมื่อพบกับคุณทรัพย์ที่เบาบางอีกครั้งเสื้อผ้าที่พาไว้ก็ไม่เพียงพอ ผมเลยตัดสินใจบอกลาพะงันกลับหาดใหญ่ดีกว่า เมื่อผมซื้อตั๋วราชาเฟอร์รี่ที่เกาะพะงันมีตั๋วให้เลือก 2 แบบคือถ้าลงที่ดอนสักราคา 210 บาท ลงที่ดอนสักพร้อมรถตู้ไปสุราษฏร์ธานีธานีราคา 310 บาท ผมถามพนักงานว่าไปหาดใหญ่ไปยังไงให้เร็ว พนักงานแนะนำลงที่ท่าเรือดอนสักแล้วต่อรถจากท่าเรือดอนสักไปลงที่นครศรีธรรมราชจะประหยัดค่าเดินทางและเวลากว่า ผมเลยตัดสินไปไปลงที่ดอนสักแล้วต่อรถไปลงที่นครศรีธรรมราช รอบเรือที่ออกมี รอบ 11.00 น.และ 15.00 น. ผมดูนาฬิกาเกือบ 11 โมงแล้วเลยตัดสินใจรีบซื้อตั๋วลงเรือเฟอร์รี่อีกครั้งที่ผมเดินทางทันแบบเฉียดฉิว
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น