ก่อนอื่นต้องบอกว่า จขกท ตอนนี้สำเร็จการศึกษาแล้ว หลักสูตรศึกษาศาสตร์บัณฑิต ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
ซึ่งถือเป็นมหาวิทยาลัยที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงใน สาขาวิชาที่เรียนมาก
ความเดิม >>>
จขกท จบมาจาก ร.ร. ขนาดเล็ก และมีโอกาสได้ศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี ด้วยน้ำพักน้ำแรงของ พ่อ แม่ พี่ น้อง
ทุกคนในครอบครัวช่วยกันส่งเสียให้เรียนให้ได้เพราะจะเป็นลูกคนเดียวในครอบครัวที่มีโอกาสได้เรียนหนังสือ ซึ่ง
มหาวิทยาลัยที่ จขกท เลือกเรียนนั้น ได้พิจารณอย่างถี่ถ้วนและว่า มีความโด่ดเด่นในสาขาวิชานั้นจริง ๆ หลักสูตรที่
เรียนคือหลักสูตรครู 5 ปี ค่าเทอม 16,xxx และสิ่งหนึ่งที่พลาดที่สุดของ จขกท ก็เกิดขึ้นตอนนี้นี่แหละครับ นั้นก็คือ
มหาวิทยาลัยมี ศูนย์การศึกษานอกที่ตั้ง หลายแห่ง และได้สอบถามหลายครั้ง จนท รวมถึงอาจารย์บอกว่าเรียนที่ศูนย์
ไหนก็ได้ จบเหมือนกัน มาตราฐานเดียวกัน ได้รับปริญญาในนาม มหาวิทยาลัยเดียวกัน และที่สำคัญ จขกท ได้ถาม
เน้นย้ำเรื่องใบประกอบวิชาชีพ แล้วว่าจบแล้วได้ใบประกอบวิชาชีพหรือไม่ ซึ่ง ทางมหาวิทยาลัยได้รับปากและยื่นยัน
ว่าได้แน่นอน
ผ่านไปด้วยดี >>>
ระหว่างการเรียนตลอด 5 ปีตามหลักสูตร ในช่วงปีที่ 1 - 3 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่แล้วใน
ช่วงชั้นปีที่ 4 ทาง มหาวิทยาลัยได้บอกว่า มีนโยบายให้ นศ ไปหาประสบการณ์ที่ ศูนย์หลัก ขอเรียกว่า ศูนย์ใหญ่
ละกันนะครับ ซึ่งตอนแรก นศ ส่วนใหญ่ไม่ค่อยพอใจกับนโยบายนี้เท่าไหร่ เพราะมองว่าเป็นการเสียเงินทองโดยใช่เหตุ
เพราะต้องย้ายที่พักและเดินทางเข้าสู่เมื่องหลวง ถึงแม้จะมีการให้โหวตก่อนว่าจะไปหรือไม่ไป แต่สุดท้ายผลโหวตก็
เป็นเอกฉันท์ก็คือ ไปครับ นศ ในรุ่นนั้นประมาณ 38 คนต้องเดินทางไปเรียนที่ กทม ในชั้นปีที่ 4
แสดงพลัง >>>
จากการได้เข้ามาเจอสิ่งใหม่ ๆ แน่นอนครับ จขกท ปฏิเสธไม่ได้ว่าได้ประสบการณ์มาก และแน่นอน จขกท ยืนยันได้เลยว่า
นศ ที่มาจาก ตจว ไม่ได้มีความสามารถ ด้อยกว่า นศ จากศูนย์ใหญ่เลย
ปีแห่งความหวัง >>>
ช่วงปี 5 นศ จาก ตจว ที่เข้ามาหาประสบการณ์ใน กทม ได้กลับไปฝึกสอนตาม ร.ร. ใน จังหวัดที่ ศูนย์การศึกษาตั้งอยู่
และปีแห่งความเหนื่อยล้านั้นก็ผ่านมาได้ และไม่ใช่ทุกคนนะครับที่จะผ่านจุดนี้ไปได้ หลังจากส่งงานวิจัยเสร็จความเหนื่อย
ล้าทั้งหมดก็หายไป รอเพียงสิ่งเดียวก็คือ ใบปริญญา และสิ่งที่ทำให้สู้และฝ่าฟันมาได้ นั้นก็คือ ใบประกอบวิชาชีพ ซึ่งตาม
กำหนดการไม่เกินเดือน พฤษภาคม 2559 ควรจะได้ใบประกอบกันแล้ว
รอคอย >>>
ทุกคนใช่ช่วงเวลานี้ผ่อนคลายและรอฟังข่าวดีจากมหาวิทยาลัย เกี่ยวกับเรื่องใบประกอบวิชาชีพ ซึ่ง จขกท นั้นมีเพื่อน ที่ศึกษาต่าง
มหาวิทยาลัยแต่เรียนครูเหมือนกัน ประมาณปลายเดือนเมษายน เพื่อน ๆ ต่างมหาวิทยาลัย เริ่มทยอยได้รับใบประกอบวิชาชีพกัน
รวมทั้ง นศ มหาวิทยาลัยเดียวกันที่เรียนอยู่ใน ศูนย์ใหญ่ กทม ด้วย จน จขกท เริ่มคิดว่าเรื่องนี้มันเป็นอย่างไร ???
ความเจ็บปวดที่อยากจะลืม >>>
และแล้วทุกอย่างก็กระจ่างเมื่อเวลาผ่านมาจน นศ ไม่สามารทนรอได้อีกต่อไปและได้โทรไปถามกับ จนท ที่รับผิดชอบเรื่องการขอใบ
ประกอบวิชาชีพ โดยในระยะแรกนั้นได้คำตอบคือ รอทาง คุรุสภา ทุกครั้งที่โทรไป จะได้คำตอบแบบนี้ จนเวลาผ่านไปประมาณเดือน
เศษ ๆ นศ เริ่มก่อตัวกันเป็นกลุ่มก้อนและออกมาเรียกร้องหาความจริงว่าเหตุใดยังไม่ได้สักที จน สุดท้าย ได้คำตอบที่ทำร้ายจิตใจ นศ
มากที่สุด คือ ทางมหาวิทยาลัย จะออก ** ใบอนุญาติการสอนให้เท่านั้น ** เอ๊ !!! นี่มันยังไง เคยคุยกันแล้วก่อนหน้านี้ และนี่คือ
เหตุผลที่ทาง มหาวิทยาลัยไม่สามารถออกใบประกอบวิชาชีพให้ได้นะครับ
1. จำนวน นศ ต่อปีที่ทางคุรุสภากำหนดให้ว่าต้องเป็นไปตามเกณฑ์ ว่าให้ผลิตบัณฑิตได้ไม่เกินกี่คน เช่น มหาวิทยาลัยละ 160 คนต่อปีการศึกษา
ต่อสาขาวิชา เพื่อน จขกท จากศูนย์ ตจว มี 38 ชีวิต ศูนย์ ตจว อื่น ๆ อีกซึ่งทราบภายหลังว่าประมาณ 100+ นิด ๆ ลองคิดดูนะครับ แค่ นศ จาก
ตจว ก็ 138 คนแล้ว(โดยประมาณ) และ นศ ใน ศูนย์ใหญ่ กทม อีก ประมาณ 4 ห้องเรียน ห้องเรียนละ 70 คนครับ คณิตศาสตร์บวกเลขง่าย ๆ
นศ กทม (4 * 70) = 280 คน
นศ ตจว 138 + 280 = 418 คน
สรุป ในปีการศึกษานี้มี นศ จบการศึกษาประมาณ 418 คน
แต่ นศ ที่มีสิทธิ์ได้รับใบประกอบวิชาชีพจริงตามเกณฑ์ คุรุสภา คือ 160
2. ศูนย์การศึกษาที่เปิดทำการสอนอยู่ใน ตจว ไม่ได้ผ่านการรับรองมาตราฐานโดย คณะกรรมการอุดมศึกษา ครับ
เช่น โรงอาหาร ขนาดไม่ได้มาตราฐาน สิ่งอำนวยความสะดวกไม่ครบครันหรือเพียงพอต่อจำนวน นศ และ ศูยน์การศึกษา
จะโดนสั่งปิดในที่สุดครับ ซึ่งเรื่องที่เล่ามานี้ จขกท เพิ่งรู้ตอนหลังจากจบปี 5 แล้วนะครับ และรู้มั๊ยว่าเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนที่
จขกท อยู่ในชั้นปีที่ 2 เฮ้ยยย แล้วทำไมไม่แจ้งให้ นศ ตั้งแต่เนิน ๆ จะได้ซิวไปเรียนที่อื่น ๆ และทำไมตั้งปิดบังกันด้วย ความรู้สึก
เหมือนตอนโดนเพื่อนหรอกไปฟังขายตรงนะครับ คือ รู้สึกว่าเห้ย จะชวนมาทำไม่ ถ้ารู้ก็ไม่มา เสียเพื่อน เสียความรู้สึก เสียเวลา เสียเงิน
และเหมือนขายฝันมากครับ
ท้ายที่สุด >>>
ตัว จขกท ตอนนี้ ก็ได้แค่ ใบอนุญาติการสอน ครับ ใบที่เรียนหลักสูตร 4 ปีก็มีสิทธิ์ขอได้ ใบที่เรียนภาคสมทบก็มีสิทธิ์ขอได้
ใบที่เรียนสาขาอะไรก็มีสิทธิ์ขอได้ ถ้าทำงานในโรงเรียน
คำถามชวนคิด >>>>
1. เรื่องนี้เป็นความผิดของใคร ?
2. นศ ควรได้รับความรับผิดชอบมากกว่านี้หรือไม่ ?
3. ค่าเทอม มหาวิทยาลัยแห่งนี้ ไม่ใช่ น้อย ๆ และมหาวิทยาลัยจะรับผิดชอบแค่นี้ได้อย่างไร
4. เรื่องใบประกอบมีการคุยกันตั้งแต่ต้นก่อนที่ นศ จะก้าวเข้ามาสมัครเรียนที่นี้ด้วยซ้ำ
5. การฝึกสอนในชั้นปีที่ 5 ถือว่าเป็นโมฆะ เพราะ ใบอนุญาติการสอนนั้น เจ้าของต้องทำงาน
ในสถานศึกษา ในระยะเวลาที่กำหนดให้ จนครบกำหนด และคุรุสภาจะพิจารณา ว่าจะให้ใบประกอบหรือไม่ ?
ซึ่งสรุปว่า ระยะเวลาในหลังสูตรนี้ของ นศ รุ่นนี้คือ 6 ปี เหรอ 5 ปีสำหรับการเรียน และ 1 ปีสำหรับ เก็บประสบการณ์
งง กันมั๊ยครับ
ุ6. นศ ที่เป็นรุ่นน้องอีกประมาณรุ่นละ 30 -40 ชีวิตที่ กำลังศึกษาอยู่ ใน ศูนย์การศึกษา ตจว ที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ละครับ
ทาง มหาลัยยัง ขายฝันให้กับ รุ่นน้องเหล่านี้อีกหรือไม่ ???? ธุรกิจการศึกษาทำไมหน้ากลัวจัง ทำไมทำกับความหวัง
ของคนขนาดนี้ครับ
7. เรื่องการรับ นศ เกินกว่าที่กำหนดทั้งทั้งที่รู้ว่าจะมีปัญหาและไม่ได้เป็นไปตามที่ คุรุสภากำหนด แต่ทำไม มหาวิทยาลัย
ยังรับ นศ อีก เพราะค่าเทอมแพงใช่มั๊ย แล้วตอนนี้ใครจะรับผิดชอบ
8. ศูนย์การศึกษา ต่าง ๆ ถ้าไม่ได้มาตราฐาน ควรปิดไปเลยดีกว่าเพราะทุกอย่างจะมาตกที่ตัว นศ เอง ในท้ายที่สุดครับ
ใบประกอบวิชาชีพ/ศูนย์การศึกษา บทเรียนราคาแพงของนักศึกษา
ซึ่งถือเป็นมหาวิทยาลัยที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงใน สาขาวิชาที่เรียนมาก
ความเดิม >>>
จขกท จบมาจาก ร.ร. ขนาดเล็ก และมีโอกาสได้ศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี ด้วยน้ำพักน้ำแรงของ พ่อ แม่ พี่ น้อง
ทุกคนในครอบครัวช่วยกันส่งเสียให้เรียนให้ได้เพราะจะเป็นลูกคนเดียวในครอบครัวที่มีโอกาสได้เรียนหนังสือ ซึ่ง
มหาวิทยาลัยที่ จขกท เลือกเรียนนั้น ได้พิจารณอย่างถี่ถ้วนและว่า มีความโด่ดเด่นในสาขาวิชานั้นจริง ๆ หลักสูตรที่
เรียนคือหลักสูตรครู 5 ปี ค่าเทอม 16,xxx และสิ่งหนึ่งที่พลาดที่สุดของ จขกท ก็เกิดขึ้นตอนนี้นี่แหละครับ นั้นก็คือ
มหาวิทยาลัยมี ศูนย์การศึกษานอกที่ตั้ง หลายแห่ง และได้สอบถามหลายครั้ง จนท รวมถึงอาจารย์บอกว่าเรียนที่ศูนย์
ไหนก็ได้ จบเหมือนกัน มาตราฐานเดียวกัน ได้รับปริญญาในนาม มหาวิทยาลัยเดียวกัน และที่สำคัญ จขกท ได้ถาม
เน้นย้ำเรื่องใบประกอบวิชาชีพ แล้วว่าจบแล้วได้ใบประกอบวิชาชีพหรือไม่ ซึ่ง ทางมหาวิทยาลัยได้รับปากและยื่นยัน
ว่าได้แน่นอน
ผ่านไปด้วยดี >>>
ระหว่างการเรียนตลอด 5 ปีตามหลักสูตร ในช่วงปีที่ 1 - 3 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่แล้วใน
ช่วงชั้นปีที่ 4 ทาง มหาวิทยาลัยได้บอกว่า มีนโยบายให้ นศ ไปหาประสบการณ์ที่ ศูนย์หลัก ขอเรียกว่า ศูนย์ใหญ่
ละกันนะครับ ซึ่งตอนแรก นศ ส่วนใหญ่ไม่ค่อยพอใจกับนโยบายนี้เท่าไหร่ เพราะมองว่าเป็นการเสียเงินทองโดยใช่เหตุ
เพราะต้องย้ายที่พักและเดินทางเข้าสู่เมื่องหลวง ถึงแม้จะมีการให้โหวตก่อนว่าจะไปหรือไม่ไป แต่สุดท้ายผลโหวตก็
เป็นเอกฉันท์ก็คือ ไปครับ นศ ในรุ่นนั้นประมาณ 38 คนต้องเดินทางไปเรียนที่ กทม ในชั้นปีที่ 4
แสดงพลัง >>>
จากการได้เข้ามาเจอสิ่งใหม่ ๆ แน่นอนครับ จขกท ปฏิเสธไม่ได้ว่าได้ประสบการณ์มาก และแน่นอน จขกท ยืนยันได้เลยว่า
นศ ที่มาจาก ตจว ไม่ได้มีความสามารถ ด้อยกว่า นศ จากศูนย์ใหญ่เลย
ปีแห่งความหวัง >>>
ช่วงปี 5 นศ จาก ตจว ที่เข้ามาหาประสบการณ์ใน กทม ได้กลับไปฝึกสอนตาม ร.ร. ใน จังหวัดที่ ศูนย์การศึกษาตั้งอยู่
และปีแห่งความเหนื่อยล้านั้นก็ผ่านมาได้ และไม่ใช่ทุกคนนะครับที่จะผ่านจุดนี้ไปได้ หลังจากส่งงานวิจัยเสร็จความเหนื่อย
ล้าทั้งหมดก็หายไป รอเพียงสิ่งเดียวก็คือ ใบปริญญา และสิ่งที่ทำให้สู้และฝ่าฟันมาได้ นั้นก็คือ ใบประกอบวิชาชีพ ซึ่งตาม
กำหนดการไม่เกินเดือน พฤษภาคม 2559 ควรจะได้ใบประกอบกันแล้ว
รอคอย >>>
ทุกคนใช่ช่วงเวลานี้ผ่อนคลายและรอฟังข่าวดีจากมหาวิทยาลัย เกี่ยวกับเรื่องใบประกอบวิชาชีพ ซึ่ง จขกท นั้นมีเพื่อน ที่ศึกษาต่าง
มหาวิทยาลัยแต่เรียนครูเหมือนกัน ประมาณปลายเดือนเมษายน เพื่อน ๆ ต่างมหาวิทยาลัย เริ่มทยอยได้รับใบประกอบวิชาชีพกัน
รวมทั้ง นศ มหาวิทยาลัยเดียวกันที่เรียนอยู่ใน ศูนย์ใหญ่ กทม ด้วย จน จขกท เริ่มคิดว่าเรื่องนี้มันเป็นอย่างไร ???
ความเจ็บปวดที่อยากจะลืม >>>
และแล้วทุกอย่างก็กระจ่างเมื่อเวลาผ่านมาจน นศ ไม่สามารทนรอได้อีกต่อไปและได้โทรไปถามกับ จนท ที่รับผิดชอบเรื่องการขอใบ
ประกอบวิชาชีพ โดยในระยะแรกนั้นได้คำตอบคือ รอทาง คุรุสภา ทุกครั้งที่โทรไป จะได้คำตอบแบบนี้ จนเวลาผ่านไปประมาณเดือน
เศษ ๆ นศ เริ่มก่อตัวกันเป็นกลุ่มก้อนและออกมาเรียกร้องหาความจริงว่าเหตุใดยังไม่ได้สักที จน สุดท้าย ได้คำตอบที่ทำร้ายจิตใจ นศ
มากที่สุด คือ ทางมหาวิทยาลัย จะออก ** ใบอนุญาติการสอนให้เท่านั้น ** เอ๊ !!! นี่มันยังไง เคยคุยกันแล้วก่อนหน้านี้ และนี่คือ
เหตุผลที่ทาง มหาวิทยาลัยไม่สามารถออกใบประกอบวิชาชีพให้ได้นะครับ
1. จำนวน นศ ต่อปีที่ทางคุรุสภากำหนดให้ว่าต้องเป็นไปตามเกณฑ์ ว่าให้ผลิตบัณฑิตได้ไม่เกินกี่คน เช่น มหาวิทยาลัยละ 160 คนต่อปีการศึกษา
ต่อสาขาวิชา เพื่อน จขกท จากศูนย์ ตจว มี 38 ชีวิต ศูนย์ ตจว อื่น ๆ อีกซึ่งทราบภายหลังว่าประมาณ 100+ นิด ๆ ลองคิดดูนะครับ แค่ นศ จาก
ตจว ก็ 138 คนแล้ว(โดยประมาณ) และ นศ ใน ศูนย์ใหญ่ กทม อีก ประมาณ 4 ห้องเรียน ห้องเรียนละ 70 คนครับ คณิตศาสตร์บวกเลขง่าย ๆ
นศ กทม (4 * 70) = 280 คน
นศ ตจว 138 + 280 = 418 คน
สรุป ในปีการศึกษานี้มี นศ จบการศึกษาประมาณ 418 คน
แต่ นศ ที่มีสิทธิ์ได้รับใบประกอบวิชาชีพจริงตามเกณฑ์ คุรุสภา คือ 160
2. ศูนย์การศึกษาที่เปิดทำการสอนอยู่ใน ตจว ไม่ได้ผ่านการรับรองมาตราฐานโดย คณะกรรมการอุดมศึกษา ครับ
เช่น โรงอาหาร ขนาดไม่ได้มาตราฐาน สิ่งอำนวยความสะดวกไม่ครบครันหรือเพียงพอต่อจำนวน นศ และ ศูยน์การศึกษา
จะโดนสั่งปิดในที่สุดครับ ซึ่งเรื่องที่เล่ามานี้ จขกท เพิ่งรู้ตอนหลังจากจบปี 5 แล้วนะครับ และรู้มั๊ยว่าเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนที่
จขกท อยู่ในชั้นปีที่ 2 เฮ้ยยย แล้วทำไมไม่แจ้งให้ นศ ตั้งแต่เนิน ๆ จะได้ซิวไปเรียนที่อื่น ๆ และทำไมตั้งปิดบังกันด้วย ความรู้สึก
เหมือนตอนโดนเพื่อนหรอกไปฟังขายตรงนะครับ คือ รู้สึกว่าเห้ย จะชวนมาทำไม่ ถ้ารู้ก็ไม่มา เสียเพื่อน เสียความรู้สึก เสียเวลา เสียเงิน
และเหมือนขายฝันมากครับ
ท้ายที่สุด >>>
ตัว จขกท ตอนนี้ ก็ได้แค่ ใบอนุญาติการสอน ครับ ใบที่เรียนหลักสูตร 4 ปีก็มีสิทธิ์ขอได้ ใบที่เรียนภาคสมทบก็มีสิทธิ์ขอได้
ใบที่เรียนสาขาอะไรก็มีสิทธิ์ขอได้ ถ้าทำงานในโรงเรียน
คำถามชวนคิด >>>>
1. เรื่องนี้เป็นความผิดของใคร ?
2. นศ ควรได้รับความรับผิดชอบมากกว่านี้หรือไม่ ?
3. ค่าเทอม มหาวิทยาลัยแห่งนี้ ไม่ใช่ น้อย ๆ และมหาวิทยาลัยจะรับผิดชอบแค่นี้ได้อย่างไร
4. เรื่องใบประกอบมีการคุยกันตั้งแต่ต้นก่อนที่ นศ จะก้าวเข้ามาสมัครเรียนที่นี้ด้วยซ้ำ
5. การฝึกสอนในชั้นปีที่ 5 ถือว่าเป็นโมฆะ เพราะ ใบอนุญาติการสอนนั้น เจ้าของต้องทำงาน
ในสถานศึกษา ในระยะเวลาที่กำหนดให้ จนครบกำหนด และคุรุสภาจะพิจารณา ว่าจะให้ใบประกอบหรือไม่ ?
ซึ่งสรุปว่า ระยะเวลาในหลังสูตรนี้ของ นศ รุ่นนี้คือ 6 ปี เหรอ 5 ปีสำหรับการเรียน และ 1 ปีสำหรับ เก็บประสบการณ์
งง กันมั๊ยครับ
ุ6. นศ ที่เป็นรุ่นน้องอีกประมาณรุ่นละ 30 -40 ชีวิตที่ กำลังศึกษาอยู่ ใน ศูนย์การศึกษา ตจว ที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ละครับ
ทาง มหาลัยยัง ขายฝันให้กับ รุ่นน้องเหล่านี้อีกหรือไม่ ???? ธุรกิจการศึกษาทำไมหน้ากลัวจัง ทำไมทำกับความหวัง
ของคนขนาดนี้ครับ
7. เรื่องการรับ นศ เกินกว่าที่กำหนดทั้งทั้งที่รู้ว่าจะมีปัญหาและไม่ได้เป็นไปตามที่ คุรุสภากำหนด แต่ทำไม มหาวิทยาลัย
ยังรับ นศ อีก เพราะค่าเทอมแพงใช่มั๊ย แล้วตอนนี้ใครจะรับผิดชอบ
8. ศูนย์การศึกษา ต่าง ๆ ถ้าไม่ได้มาตราฐาน ควรปิดไปเลยดีกว่าเพราะทุกอย่างจะมาตกที่ตัว นศ เอง ในท้ายที่สุดครับ