ตอนนี้ประเทศเซอร์เบียเริ่มเป็นที่รู้จักในหมู่คนไทยมากขึ้น ส่วนหนึ่งจากการส่งทีมกีฬาเข้าร่วมแข่งขัน แต่ถ้าเมื่อสักต้นปี เวลาบอกใครๆว่า 'จะไปเซอร์เบีย' หลายคนจะถามกลับว่า 'จะไปทำไม ตะวันออกกลาง' บางคนแย่กว่า นึกว่าเราจะไปซีเรียเลยทีเดียว ข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางไปเซอร์เบียพอจะหาได้ประปรายในพันทิปแต่ไม่ได้มากนัก เลยคิดว่าถ้าได้นำประสบการณ์มาเล่า น่าจะได้ประโยชน์สำหรับผู้ที่สนใจจะเดินทางไปที่นี่ค่ะ มาดูกันว่าเราควรจะเตรียมตัวอะไรบ้างก่อนเดินทางค่ะ
1. ศึกษาประวัติศาสตร์ ขอเล่าความเป็นมาสักเล็กน้อย เพื่อความสนุกของการเดินทางค่ะ ข้อมูลจาก internet มารวมๆกันนะคะ อาจไม่ถูกต้องทั้งหมด
เหตุที่คนไม่ค่อยรู้จักเซอร์เบีย ส่วนหนึ่งเพราะก่อนหน้านี้คนจะรู้จักชื่อเดิมของประเทศมากกว่าซึ่งก็คือ ยูโกสลาเวียค่ะ คำว่ายูโกสลาเวีย แปลว่า south slav ซึ่งก็คือดินแดนที่รวบรวมประเทศกลุ่ม South slavic เข้าได้วยกัน ซึ่งได้แก่ บอสเนีย โครเอเชีย เซอร์เบีย สโลเวเนีย มอนเตเนโกร และมาซีโดเนีย โดยก่อนหน้านี้จะต่างคนต่างอยู่ แต่ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งเซอร์เบียเป็นประเทศชนะสงคราม พูดถึง WW1 ชาวเซอร์เบียภาคภูมิใจใน WW1 มากนะคะ จากการคุยกับเพื่อนคนท้องถื่นกับการไปเยี่ยมพิพิธภัณฑ์ที่มีการจัดแสดง WW1 เป็นสัดส่วนที่เยอะมากเมื่อเทียบกับประวัติศาสตร์ส่วนอื่น เรื่องของเรื่องคือใน WW1 ประเทศรายรอบไปด้วยฝั่งตรงข้าม เพื่อนบอกว่าประเทศเสียประชากรชายไปถึง 1/3 ในศึกครั้งนั้น ผลตอบแทนของผู้ชนะคือได้จัดตั้ง Kingdom of Yugoslavia ขึ้นค่ะ ในตอนแรกประเทศมีกษัตรย์ปกครองค่ะ แต่ภายหลัง WW2 ก็เปลี่ยนไปเป็นระบบคอมมิวนิสต์ซึ่งมีผู้นำที่โลกรู้จักดี คือ ติโต้ค่ะ ยูโกสลาเวียก็อยู่ดีมาได้เรื่อยๆจนกระทั่งติโต้เสียชีวิตได้สัก 10 ปี แต่ละประเทศก็เริ่มแยกตัวออกมาค่ะ แต่เซอร์เบียจะถือว่าตนเองเป็นผู้สืบทอด ของยูโกสลาเวียค่ะ เพื่อนบอกว่าหนี้สินต่างๆที่ยูโกสลสเวียสร้างไว้ เซอร์เบียขอรับไว้แต่เพียงผู้เดียวด้วยความภาคภูมิใจค่ะ
เซอร์เบียกลับมาโด่งดังอีกครั้งก็ตอนโคโซโวค่ะ เซอร๊เบียถือว่าโคโซโวเป็นส่วนหนึ่งของประเทศ ฉะนั้นตอนที่โคโซโวจะแยกออกไปจึงมีการเคลื่อนกำลังทหารเข้าไปในพื้นที่ สุดท้ายก็มี NATO เข้ามาเอี่ยวโดยการส่งระเบิดมา Belgrade ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศเพื่อบังคับให้เซอร์เบียถอนทหารออก ช่วงนั้นคือปี 1999 ซึ่งถือว่าผ่านไปไม่นาน ถ้าไปเบลเกรดจะยังเห็นซากอาคารบางส่วนที่ถูกระเบิดได้อยู่ สุดท้ายปัจจุบัน เรื่องโคโซโว ในรัฐธรรมนูญยังของประเทศยังนับโคโซโวเป็นส่วนหนึ่งของเซอร์เบีย แต่จริงๆแล้วตามที่เข้าใจ โคโซโว น่าจะนับเป็นประเทศอิสระ
จริงๆประวัติดินแดนแถบนี้ยังมีอีกเยอะค่ะ สนุกมากด้วย ตั้งแต่โบราณอยู่ใต้ออสเตรียมั่ง ใต้ออตโตมันมั่ง อ่านได้เรื่อยๆเลยค่ะ
2. วีซ่า
มาถึงเรื่องเกี่ยวกับการเดินทางจริงๆสักทีนะคะ วีซ่าเซอร์เบียต้องส่งไปทำที่อินโดนีเซียค่ะ
ให้ส่ง email ไป address นี้ค่ะ embjakarta@serbian-embassy.org บอกว่าจะทำวีซ่า เค้าจะอีเมลล์ตอบกลับมาพร้อมกับแบบฟอร์มและบอกว่าให้ส่งเอกสารอะไรให้เค้าไปมั่ง ให้จ่ายตังค์อย่างไรเท่าไหร่ แต่ จขกท ได้ลองทำถึงขั้นส่งอีเมลล์ค่ะ เพราะเค้าบอกว่า ตั้งแต่ปีที่แล้วถ้ามีวีซ่าอเมริกา UK และ เชงเก้นท์ ที่เป็น multi-entry และยังไม่หมดอายุ สามารถเข้าประเทศได้เลยโดยไม่ต้องใช้วีซ่าเซอร์เบียค่ะ ข้อมูลตาม link นี้ค่ะ
http://mfa.gov.rs/en/consular-affairs/entry-serbia/visa-regime
เนื่องจากมี US วีซ่า เลยไม่ได้ทำวีซ่าใหม่ค่ะ ตอนเข้าประเทศก็ราบรื่นดีนะคะ มีติดขัดนิดหน่อยคือตอนเปลี่ยนเครื่องที่เวียนนา เจ้าหน้าที่หาเอกสารอยู่หลายนาทีกว่าจะได้เข้าเกทค่ะ เค้าไม่คุ้นชินกับการใช้วีซ่าอเมริกาเข้าเซอร์เบีย เลยต้องค้นระเบียบการอยู่นานเลยค่ะ
3. แลกเงิน
สกุลเงินเป็น Dinar ค่ะ คิดคร่าวๆคือประมาณ 3 เท่าของไทย 100 บาทได้ 300 dinar ไม่กล้าเอาเงินไทยไปค่ะ กลัวแลกไม่ได้ เลยแลกเป็นยุโรกับดอลล่าสหรัฐไป ซึ่งก็ไปแลกได้ไม่มีปัญหาอะไร ค่าครองชีพของประเทศเท่าๆกับประเทศไทยค่ะ อาหารมื้อละ 60-70 บาทได้ปริมาณอาหารเยอะมาก ค่าโรงแรมก็พอๆกับประเทศไทย คืนละประมาณ 1500 บามสำหรับโรงแรม 2-3 ดาว
อาหารแต่ละมื้อปริมาณเยอะจริงๆค่ะ พิซซ่าปกติเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 45 cm ได้ค่ะ
4. เครื่องบิน
ไม่มีบินตรงค่ะ ถูกสุดจะเป็นของ Etihad ประมาณ 2หมื่นปลายๆ ถ้า star alliance จะเป็น Austrian airline ค่ะ แวะพักเวียนนา ประมาณ 3หมื่นต้นๆ (เดินทางมีนาคม 59)
5. สนามบิน
จริงๆสนามบินทันสมัยนะคะ ชื่อ นิโคลัส เทสล่า
http://www.beg.aero/en/home ชื่อเดียวกับนักวิทยาศาสตร์ที่คิดไฟฟ้ากระแสสลับนี่แหละค่ะ
สิ่งควรรู้เกี่ยวกับสนามบินคือ แทกซี่ค่ะ สนามบินได้จัดระบบป้องกันการโก่งราคาโดยสาร โดยการจัดให้มี taxi service คือให้ผู้โดยสารไปบอกที่เค้าเตอร์เซอร์วิสว่าจะไปที่ไหน บอกที่อยู่ไปเลยค่ะ เค้าจะคำนวณเงินและให้เป็นคูปองไปเลยว่ากี่บาท เพื่อนชาวเซอร์เบียบอกว่าห้ามเด็ดขาดกับการเดินไปเรียกแทกซี่เองสุ่มสี่สุ่มห้า
6. Internet และค่าโทรศัพท์
Sim card หาไม่ยากค่ะ ถ้าจะซื้อสนามบินให้ไปถามๆคนแถวนั้นๆด้เลยค่ะ เค้าจะชื้ไปที่ร้านขายของที่ระลึกในสนามบิน ซื้อซิมแล้วก็เปิดเบอร์ใช้ได้เลย แนะนำให้เปิดเบอร์หน้าร้านเลยค่ะ มันต้องกดตอบ message เป็นภาษาเซอร์เบีย อ่านไม่ออกค่ะ แนะนำให้ซื้อชั่วโมงอินเตอร์เน็ตไปเลยเพราะค่าโทรศัพท์ประเทศนี้แพงมาก ราคาอินเตอร์เน็ตถูกกว่ามากค่ะ ตอนนี้ซื้อ sim prepaid ของ telenor จ่ายไปประมาณ 500 ได้ทั้งซิม ทั้ง data 1G และชม.โทร
ึ7. อาหารและเครื่องดื่ม
เรื่องดีๆของเซอร์เบียคืออาหารอร่อยค่ะ อาหารหนักไปทางเค็ม มีเนื้อเป็นหลัก ถูกปากกว่าอาหารยุโรปอื่นๆ ข้อเสียคือหาอาหารไทยยากมาก ในเมืองหลวงมีสัก 1-2 ร้าน เมือง Novi Sad ที่เรียกว่าใหญ่เป็นอันดับสองนี่ไม่มีสักร้านเลยค่ะ ร้านจีนยังพอหาได้บ้าง
อาหารที่เรียกว่าประจำชาตินี้ไม่ค่อยมีค่ะ ส่วนใหญ่เป็นอาหารประจำภูมิภาค คือ แถวๆนี้แต่ประเทศอื่นก็กินอย่างนี้หมด ยกเว้นไส้กรอกชนิดหนึ่งซืงทำเป็นที่ระลึกถึง กษัตรย์ที่ชื่อมีฉายาว่า Black George เวลาสั่งให้หาชื่อนี้ค่ะ Karadjordje’s Steak (Karađorđeva šnicla) ลองกินแล้วก็อร่อยดีค่ะ แต่ที่ชอบมากกว่าคือ แฮมเบอร์เกอร์(จริงๆไม่รู้เรียกว่าอะไรแต่หน้าตาคล้ายเบอร์เกอร์) แป้งจะคนละแบบกับเบอร์เกอร์ที่เราคุ้นๆกัน
อันนี้แหละค่ะของโปรด ซอสที่ใส่เป็นโยเกริตด้วยค่ะ
ของควรกินอีกอันคือโยเกิร์ตค่ะ เป็นโยเกิร์ตที่อร่อยที่สุดในชีวิตที่เคยกิน
ของควรดื่มคือ น้ำแร่อัดลมค่ะ (Sparkling mineral water) เป็นของขึ้นชื่อเลย ทดลองแล้วรสชาติดีจริงค่ะ อีกอย่างคือ เครื่องดิมแอลกอฮอล์ท้องถิ่น อันนี้เพื่อนบอกว่าแต่ละตระกูลจะมีสูตรลับเฉพาะค่ะ อารมณ์คล้ายๆเหล้าขาวไทยมั๊งคะ ที่หมักเองต้มเอง แต่อันนี้ไม่ได้ลองนะคะ
8. ของควรซื้อ
เครื่องหนังทุกชนิด รองเท้า สองอย่างนี้มีทั้งผลิตภัณฑ์ในประเทศกับที่นำเข้าจากประเทศข้างเคียง ราคาดีเลยค่ะ อย่างกระเป๋าสตางค์หนังแท้ ราคาประมาณ 1000 บาท ส่วนเสื้อผ้าราคาไม่ถูกยกเว้นตอนลดราคาค่ะ
ไว้กระทู้หน้าจะเป็นสถานที่และแง่มุมที่น่าสนใจในเซอร์เบียนะคะ
อันนี้เป็นกระทู้ก่อนหน้าพาชมโบสถ์ St Sava ค่ะ
http://pantip.com/topic/35397381
เซอร์เบียน่าไป ไม่ต้องใช้วีซ่า(บางกรณี) Part 1 : การเตรียมตัว
ตอนนี้ประเทศเซอร์เบียเริ่มเป็นที่รู้จักในหมู่คนไทยมากขึ้น ส่วนหนึ่งจากการส่งทีมกีฬาเข้าร่วมแข่งขัน แต่ถ้าเมื่อสักต้นปี เวลาบอกใครๆว่า 'จะไปเซอร์เบีย' หลายคนจะถามกลับว่า 'จะไปทำไม ตะวันออกกลาง' บางคนแย่กว่า นึกว่าเราจะไปซีเรียเลยทีเดียว ข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางไปเซอร์เบียพอจะหาได้ประปรายในพันทิปแต่ไม่ได้มากนัก เลยคิดว่าถ้าได้นำประสบการณ์มาเล่า น่าจะได้ประโยชน์สำหรับผู้ที่สนใจจะเดินทางไปที่นี่ค่ะ มาดูกันว่าเราควรจะเตรียมตัวอะไรบ้างก่อนเดินทางค่ะ
1. ศึกษาประวัติศาสตร์ ขอเล่าความเป็นมาสักเล็กน้อย เพื่อความสนุกของการเดินทางค่ะ ข้อมูลจาก internet มารวมๆกันนะคะ อาจไม่ถูกต้องทั้งหมด
เหตุที่คนไม่ค่อยรู้จักเซอร์เบีย ส่วนหนึ่งเพราะก่อนหน้านี้คนจะรู้จักชื่อเดิมของประเทศมากกว่าซึ่งก็คือ ยูโกสลาเวียค่ะ คำว่ายูโกสลาเวีย แปลว่า south slav ซึ่งก็คือดินแดนที่รวบรวมประเทศกลุ่ม South slavic เข้าได้วยกัน ซึ่งได้แก่ บอสเนีย โครเอเชีย เซอร์เบีย สโลเวเนีย มอนเตเนโกร และมาซีโดเนีย โดยก่อนหน้านี้จะต่างคนต่างอยู่ แต่ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งเซอร์เบียเป็นประเทศชนะสงคราม พูดถึง WW1 ชาวเซอร์เบียภาคภูมิใจใน WW1 มากนะคะ จากการคุยกับเพื่อนคนท้องถื่นกับการไปเยี่ยมพิพิธภัณฑ์ที่มีการจัดแสดง WW1 เป็นสัดส่วนที่เยอะมากเมื่อเทียบกับประวัติศาสตร์ส่วนอื่น เรื่องของเรื่องคือใน WW1 ประเทศรายรอบไปด้วยฝั่งตรงข้าม เพื่อนบอกว่าประเทศเสียประชากรชายไปถึง 1/3 ในศึกครั้งนั้น ผลตอบแทนของผู้ชนะคือได้จัดตั้ง Kingdom of Yugoslavia ขึ้นค่ะ ในตอนแรกประเทศมีกษัตรย์ปกครองค่ะ แต่ภายหลัง WW2 ก็เปลี่ยนไปเป็นระบบคอมมิวนิสต์ซึ่งมีผู้นำที่โลกรู้จักดี คือ ติโต้ค่ะ ยูโกสลาเวียก็อยู่ดีมาได้เรื่อยๆจนกระทั่งติโต้เสียชีวิตได้สัก 10 ปี แต่ละประเทศก็เริ่มแยกตัวออกมาค่ะ แต่เซอร์เบียจะถือว่าตนเองเป็นผู้สืบทอด ของยูโกสลาเวียค่ะ เพื่อนบอกว่าหนี้สินต่างๆที่ยูโกสลสเวียสร้างไว้ เซอร์เบียขอรับไว้แต่เพียงผู้เดียวด้วยความภาคภูมิใจค่ะ
เซอร์เบียกลับมาโด่งดังอีกครั้งก็ตอนโคโซโวค่ะ เซอร๊เบียถือว่าโคโซโวเป็นส่วนหนึ่งของประเทศ ฉะนั้นตอนที่โคโซโวจะแยกออกไปจึงมีการเคลื่อนกำลังทหารเข้าไปในพื้นที่ สุดท้ายก็มี NATO เข้ามาเอี่ยวโดยการส่งระเบิดมา Belgrade ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศเพื่อบังคับให้เซอร์เบียถอนทหารออก ช่วงนั้นคือปี 1999 ซึ่งถือว่าผ่านไปไม่นาน ถ้าไปเบลเกรดจะยังเห็นซากอาคารบางส่วนที่ถูกระเบิดได้อยู่ สุดท้ายปัจจุบัน เรื่องโคโซโว ในรัฐธรรมนูญยังของประเทศยังนับโคโซโวเป็นส่วนหนึ่งของเซอร์เบีย แต่จริงๆแล้วตามที่เข้าใจ โคโซโว น่าจะนับเป็นประเทศอิสระ
จริงๆประวัติดินแดนแถบนี้ยังมีอีกเยอะค่ะ สนุกมากด้วย ตั้งแต่โบราณอยู่ใต้ออสเตรียมั่ง ใต้ออตโตมันมั่ง อ่านได้เรื่อยๆเลยค่ะ
2. วีซ่า
มาถึงเรื่องเกี่ยวกับการเดินทางจริงๆสักทีนะคะ วีซ่าเซอร์เบียต้องส่งไปทำที่อินโดนีเซียค่ะ
ให้ส่ง email ไป address นี้ค่ะ embjakarta@serbian-embassy.org บอกว่าจะทำวีซ่า เค้าจะอีเมลล์ตอบกลับมาพร้อมกับแบบฟอร์มและบอกว่าให้ส่งเอกสารอะไรให้เค้าไปมั่ง ให้จ่ายตังค์อย่างไรเท่าไหร่ แต่ จขกท ได้ลองทำถึงขั้นส่งอีเมลล์ค่ะ เพราะเค้าบอกว่า ตั้งแต่ปีที่แล้วถ้ามีวีซ่าอเมริกา UK และ เชงเก้นท์ ที่เป็น multi-entry และยังไม่หมดอายุ สามารถเข้าประเทศได้เลยโดยไม่ต้องใช้วีซ่าเซอร์เบียค่ะ ข้อมูลตาม link นี้ค่ะ
http://mfa.gov.rs/en/consular-affairs/entry-serbia/visa-regime
เนื่องจากมี US วีซ่า เลยไม่ได้ทำวีซ่าใหม่ค่ะ ตอนเข้าประเทศก็ราบรื่นดีนะคะ มีติดขัดนิดหน่อยคือตอนเปลี่ยนเครื่องที่เวียนนา เจ้าหน้าที่หาเอกสารอยู่หลายนาทีกว่าจะได้เข้าเกทค่ะ เค้าไม่คุ้นชินกับการใช้วีซ่าอเมริกาเข้าเซอร์เบีย เลยต้องค้นระเบียบการอยู่นานเลยค่ะ
3. แลกเงิน
สกุลเงินเป็น Dinar ค่ะ คิดคร่าวๆคือประมาณ 3 เท่าของไทย 100 บาทได้ 300 dinar ไม่กล้าเอาเงินไทยไปค่ะ กลัวแลกไม่ได้ เลยแลกเป็นยุโรกับดอลล่าสหรัฐไป ซึ่งก็ไปแลกได้ไม่มีปัญหาอะไร ค่าครองชีพของประเทศเท่าๆกับประเทศไทยค่ะ อาหารมื้อละ 60-70 บาทได้ปริมาณอาหารเยอะมาก ค่าโรงแรมก็พอๆกับประเทศไทย คืนละประมาณ 1500 บามสำหรับโรงแรม 2-3 ดาว
อาหารแต่ละมื้อปริมาณเยอะจริงๆค่ะ พิซซ่าปกติเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 45 cm ได้ค่ะ
4. เครื่องบิน
ไม่มีบินตรงค่ะ ถูกสุดจะเป็นของ Etihad ประมาณ 2หมื่นปลายๆ ถ้า star alliance จะเป็น Austrian airline ค่ะ แวะพักเวียนนา ประมาณ 3หมื่นต้นๆ (เดินทางมีนาคม 59)
5. สนามบิน
จริงๆสนามบินทันสมัยนะคะ ชื่อ นิโคลัส เทสล่า http://www.beg.aero/en/home ชื่อเดียวกับนักวิทยาศาสตร์ที่คิดไฟฟ้ากระแสสลับนี่แหละค่ะ
สิ่งควรรู้เกี่ยวกับสนามบินคือ แทกซี่ค่ะ สนามบินได้จัดระบบป้องกันการโก่งราคาโดยสาร โดยการจัดให้มี taxi service คือให้ผู้โดยสารไปบอกที่เค้าเตอร์เซอร์วิสว่าจะไปที่ไหน บอกที่อยู่ไปเลยค่ะ เค้าจะคำนวณเงินและให้เป็นคูปองไปเลยว่ากี่บาท เพื่อนชาวเซอร์เบียบอกว่าห้ามเด็ดขาดกับการเดินไปเรียกแทกซี่เองสุ่มสี่สุ่มห้า
6. Internet และค่าโทรศัพท์
Sim card หาไม่ยากค่ะ ถ้าจะซื้อสนามบินให้ไปถามๆคนแถวนั้นๆด้เลยค่ะ เค้าจะชื้ไปที่ร้านขายของที่ระลึกในสนามบิน ซื้อซิมแล้วก็เปิดเบอร์ใช้ได้เลย แนะนำให้เปิดเบอร์หน้าร้านเลยค่ะ มันต้องกดตอบ message เป็นภาษาเซอร์เบีย อ่านไม่ออกค่ะ แนะนำให้ซื้อชั่วโมงอินเตอร์เน็ตไปเลยเพราะค่าโทรศัพท์ประเทศนี้แพงมาก ราคาอินเตอร์เน็ตถูกกว่ามากค่ะ ตอนนี้ซื้อ sim prepaid ของ telenor จ่ายไปประมาณ 500 ได้ทั้งซิม ทั้ง data 1G และชม.โทร
ึ7. อาหารและเครื่องดื่ม
เรื่องดีๆของเซอร์เบียคืออาหารอร่อยค่ะ อาหารหนักไปทางเค็ม มีเนื้อเป็นหลัก ถูกปากกว่าอาหารยุโรปอื่นๆ ข้อเสียคือหาอาหารไทยยากมาก ในเมืองหลวงมีสัก 1-2 ร้าน เมือง Novi Sad ที่เรียกว่าใหญ่เป็นอันดับสองนี่ไม่มีสักร้านเลยค่ะ ร้านจีนยังพอหาได้บ้าง
อาหารที่เรียกว่าประจำชาตินี้ไม่ค่อยมีค่ะ ส่วนใหญ่เป็นอาหารประจำภูมิภาค คือ แถวๆนี้แต่ประเทศอื่นก็กินอย่างนี้หมด ยกเว้นไส้กรอกชนิดหนึ่งซืงทำเป็นที่ระลึกถึง กษัตรย์ที่ชื่อมีฉายาว่า Black George เวลาสั่งให้หาชื่อนี้ค่ะ Karadjordje’s Steak (Karađorđeva šnicla) ลองกินแล้วก็อร่อยดีค่ะ แต่ที่ชอบมากกว่าคือ แฮมเบอร์เกอร์(จริงๆไม่รู้เรียกว่าอะไรแต่หน้าตาคล้ายเบอร์เกอร์) แป้งจะคนละแบบกับเบอร์เกอร์ที่เราคุ้นๆกัน
อันนี้แหละค่ะของโปรด ซอสที่ใส่เป็นโยเกริตด้วยค่ะ
ของควรกินอีกอันคือโยเกิร์ตค่ะ เป็นโยเกิร์ตที่อร่อยที่สุดในชีวิตที่เคยกิน
ของควรดื่มคือ น้ำแร่อัดลมค่ะ (Sparkling mineral water) เป็นของขึ้นชื่อเลย ทดลองแล้วรสชาติดีจริงค่ะ อีกอย่างคือ เครื่องดิมแอลกอฮอล์ท้องถิ่น อันนี้เพื่อนบอกว่าแต่ละตระกูลจะมีสูตรลับเฉพาะค่ะ อารมณ์คล้ายๆเหล้าขาวไทยมั๊งคะ ที่หมักเองต้มเอง แต่อันนี้ไม่ได้ลองนะคะ
8. ของควรซื้อ
เครื่องหนังทุกชนิด รองเท้า สองอย่างนี้มีทั้งผลิตภัณฑ์ในประเทศกับที่นำเข้าจากประเทศข้างเคียง ราคาดีเลยค่ะ อย่างกระเป๋าสตางค์หนังแท้ ราคาประมาณ 1000 บาท ส่วนเสื้อผ้าราคาไม่ถูกยกเว้นตอนลดราคาค่ะ
ไว้กระทู้หน้าจะเป็นสถานที่และแง่มุมที่น่าสนใจในเซอร์เบียนะคะ
อันนี้เป็นกระทู้ก่อนหน้าพาชมโบสถ์ St Sava ค่ะ http://pantip.com/topic/35397381