คำถามค่ะ
1. ธ.อนุมัติเงินกู้เราเมื่อ วันที่ 15/7/59 แต่สามีเราไม่ได้อยู่เมืองไทย จะกลับมาได้ปลายตุลา ถ้าเรารอจนถึงปลาย ต.ค. การอนุมัติของเราจะหมดอายุ เราต้องยื่นกู้ใหม่ ซึ่ง(sale บ้านบอกว่า) "มีสิทธิ์ที่เราจะยื่นใหม่แล้วไม่ผ่าน เพราะ จนท.ที่อนุมัติอาจเป็นคนละคนกัน จะมีผลต่อการให้กู้" ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นเท่ากับเสียเวลายื้อเปล่าๆ
-- ถาม :: อันนี้จริงเหรอคะ ถ้ายื่นอีกครั้ง เราจะมีสิทธิ์ไม่ผ่านเหรอ ทั้งๆที่เป็น ธนาคารเดิม เอกสารทุกอย่างเหมือนเดิม
2. saleแจ้งว่า "บ้านเสร็จแล้ว ต้องรีบโอน หรือไม่งั้นให้เราเปลี่ยนไปเลือกหลังอื่น ในซอยถัดไปที่ยังสร้างไม่เสร็จ เพราะสามารถรอโอนได้" (ซึ่งหลังเล็กกว่าของเรา)
-- ถาม :: เคยมีใครเจอแบบนี้บ้างไม๊คะ แล้วถ้าเราไม่อยากเปลี่ยนหลัง จะมีวิธีแก้ หรือคำแนะนำไม๊คะ
3. บ้านที่เค้าสร้างในโครงการมี 261 หลัง จากที่เราเข้าไปดูเมื่อ 26 มิ.ย. เค้าสร้างเสร็จไปประมาณ 110 หลังได้(เสร็จจนถึงซอยหลังบ้านเราพอดี เลยถ่ายรูปติดมา) ในเมื่อมันเป็นบ้านจัดสรร สร้างเสร็จก่อนขาย ถ้าอย่างนี้จะถือว่าส่วนกลางยังไม่เสร็จได้ไหมคะ เพราะซอยถัดเราไปยังเป็นดินและเสาเข็มอยู่เลย
4. อีกอย่างในสัญญาจะชื้อ-ขาย ไม่ได้ระบุวันโอนไว้ เราจะใช้สัญญานี้ดึงให้โครงการรอเราได้ไม๊คะ (อีก 3 เดือน)
ตอนนี้เราปวดหัวมาก ไม่รู้จะทำอย่างไร เราไม่ได้อยากจะยื้อเลย อยากจะโอนๆให้จบไป แต่เวลามันไม่ได้จริงๆเพราะสามีเราต้องกลับมาเซ็นต์สัญญาด้วยตัวเอง มีใครพอจะมีคำแนะนำไหมคะ ว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง ควรจะติดต่อใครดี เราไม่อยากเสียบ้านหลังนี้น่ะค่ะ
เพราะเรากับสามี พยายามกับมันมามาก แถม ถ้าเรายกเลิกไปซื้อโครงการอื่น เราก็ต้องทำเรื่อง=นับหนึ่งใหม่ และปัญหาเรื่อง เวลาที่สามีเราจะพำนักอยู่ในเมืองไทย มันก็ต้องมีอีก ยังไงก็หนีไม่พ้น
ปล.เรายังไม่ได้เข้าไปตรวจบ้านเลยด้วยซ้ำ ปกติเวลาคนอื่นเค้าซื้อบ้านแล้วต้องเลื่อนเวลาเพราะบ้านที่ตรวจไม่พร้อมนี่ โครงการอื่นเค้ายืดเวลาให้เท่าไหร่กันเหรอคะ ของเราไม่ได้ขอยืดเพื่อตรวจด้วยซ้ำ แต่ขอยืดเพราะสุดวิสัยจริงๆ
ขอบคุณทุกท่านที่สละเวลา และขอบคุณล่วงหน้าหรับคำแนะนำค่ะ
---------------------------------------------
คือเคสของเรามันจะวุ่นวายนิดนะคะ เรื่องมีอยู่ว่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เมื่อกลางเดือน ม.ค. 59
เราและสามีไปจองบ้านของโครงการ W เซลบอกว่าบ้านของเรา จะแล้วเสร็จพร้อมโอนสิ้นเดือน พ.ค.59
แต่เราแจ้งโครงการว่าสามีเราจะกลับไปทำงาน สิ้นเดือน ก.พ ซึ่งสัญญา(contract) แต่ละครั้งจะกินเวลา 7 เดือน เพราะงั้นปกติสามีเราจะกลับมาอีกที เดือน ก.ย. แต่ถ้ามีความจำเป็นจริงๆ สามีเราสามารถขอลากิจได้ 1 ครั้ง / 1 contract เพราะงั้นหากโครงการมั่นใจจริงว่าบ้านเสร็จปลาย พ.ค สามีเราจะขอบริษัทลากลับมาเดือน เดือน มิ.ย. ซึ่งโครงการก็ตกลง และให้เบอร์ติดต่อกับเซลล์ของแบ้งค์ที่ดีลไว้มา
เดือน ก.พ. 59
ทีนี้เราก็เริ่มเตรียมเอกสาร ลายเซ็นต์ทุกอย่างของสามี ขอเครดิตบูโร ฯลฯ เพราะหลังจากนี้จะทำได้ยาก หากเค้ากลับขึ้นเรือแล้ว
เรายื่นเอกสารกู้กับ แบงค์ O ต้นเดือน มี.ค. นั้นเลย โดยได้ย้ำกับ จนท.แบงค์ว่า เคสของเรามันยาก
และ กำหนดเวลาจะต้องเป๊ะ เพราะสามีเราจะขอลามาได้ครั้งเดียว เจ้าหน้าที่บอกว่ายื่นเอกสารเร็วไป กว่าจะนัดโอนก็อีกนาน
แต่เราบอกเค้าว่าอยากให้เค้าทำ pre-approveให้
1) เพื่อตรวจดูความพร้อมของเอกสารและความเป็นไปได้ของวงเงินกู้
เพราะเรารู้มาว่ากรณีอย่างเราไม่มีทางได้วงกู้เต็มราคาประเมินแน่นอน น่าจะอยู่ระหว่าง 50% - 85% เราจะได้จัดเตรียมเงินส่วนต่างไว้ถูก
2) และก็อยากให้ชัวร์ด้วยว่าสามีเราจะไม่ขอลางานมาแบบเปล่าประโยชน์
จนท.รับเรื่องไว้หลังจากนั้น 2 สัปดาห์เราก็โทรตามๆๆๆ จนในที่สุดเวลาผ่านไปประมาณ 3-4 สัปดาห์ จนท.แบงค์ ก็บอกว่าเรา " ผ่าน Pre Approve ได้วงเงิน 90 % เลย" ตอนนั้น ดีใจมากบอกสามีไปว่า ให้ขอลามาเตรียมโอนบ้านตามที่นัดไว้ ทุกอย่างเรียบร้อย แค่ต้อง updateเอกสารบางรายการ
เมื่อปลายเดือน เม.ย. 59
พอหลังจากนั้นเราก็มานั่งคิดว่า ปกติไอ้ ผ่าน pre-approve เนี่ย เค้าบอกกันปากเปล่าไม๊ ทำไมคำตอบมันดูลอยๆ(แถมเราต้องโทรตามจนได้คำตอบเอง จนท.ไม่ได้โทรมาแจ้งว่าผ่าน) มันควรจะมีหลักฐาน หรืออะไรมากกว่านี้ไม๊
เรารู้สึกสังหรณ์ใจก็เลยโทรไปที่ สนง.ใหญ่ของแบงค์O แจ้งไปว่าเราขอ preไว้เมื่อ ต้นมี.ค.แล้วผ่าน มันจะมีเรคคอร์ดอะไรไม๊ จนท.บอกว่ามันจะมีชื่อเราในระบบ เค้าก็เชคให้ แต่บอกว่าไม่มีชื่อเราในระบบเลย!!!!? เหมือนเรื่องไม่เคยส่งเข้ามา เราก็งง บอกตามตรงว่าเราไม่ได้ทำงานแบงค์ ระบบงานเป็นยังไงเราไม่รู้ แต่ที่เราเจอนี่ เราว่ามันไม่ควรเกิดขึ้น และมั่วซั่วมาก
เราเลยคุยกับ จนท และถามว่าเราควรทำอย่างไร เค้าบอกว่าให้เราทำเรื่องเข้ามาใหม่ ซึ่งเราไม่อยากทำกับคนเดิมแล้ว เพราะเหมือนเค้าไม่รับผิดชอบ บวกกับเอกสารที่สามีเราให้มา มันก็หมดอายุแล้ว ทั้ง เครดิตบูโร , Statementบัญชีออมของเค้าจากธนาคารที่บ้านเกิด ฯ
เราเลยส่งเอกสารเท่าที่มีให้ จนท.แบงค์ Oคนใหม่ ซึ่งใช้เวลาเป็นเดือนกว่าจะแล้วเสร็จ
ปรากฏว่ากลางเดือน พ.ค. จนท.แจ้งว่าไม่ผ่าน-pre เค้าบอกว่าเอกสารรายได้ไม่ชัดเจน และธนาคารประเมินรายได้สามีเราที่ 12,000 บาทไทย!!! แต่บอกว่าเราสามารถไฟท์เคสต่อได้ โดยให้เตรียมเอกสารเพิ่ม.................. คือตอนนั้นเรามึนงงไปหมด ข้องใจมากว่าทำไม รายได้สามีเราถึงไม่ผ่าน และถ้ารายได้ไม่ผ่านเราจะทู่ซี้ไฟท์ไปทำไม จะมีประโยชน์อะไร
ชี้แจงประวัติการเงิน :
สามีเราทำงาน ในส่วน Bar(Hotel Guest service) ซึ่งอย่างที่ทราบ ระบบโรงแรมมันจะมีเงินเดือน + service charge
ซึ่งBasic income ของเราเนทๆจะประมาณ $ 1,600 แต่ถ้าดูตาม bookbankซึ่งผูกกับการรับเงินดือน จะเห็นว่า
ในระยะเวลาตลอด 5 ปีที่ผ่านมา(ไม่นับ 1 ปีแรกก่อนเลื่อนตำแหน่ง) เงินรายได้ของสามีเราไม่มีเดือนไหน ต่ำกว่า $ 3,000 เลย
และ สามีเราจะไม่มีค่าใช้จ่ายใหญ่ๆ เพราะค่ากิน และ ค่าอยู่ บริษัทออกให้หมด จะมีข้อยกเว้นตรงที่ 2 - 2.5 เดือน / 1 ปี ที่เป็นเดือนพักร้อน สามีเราจะไม่มีรายได้ ซึ่งมันก็แฟร์ๆเพราะเป็นการหยุดพักอยู่บ้านเฉยๆ
เดือน พ.ค. 59
วันลากิจของสามีเรากำหนดไว้แล้ว, ตั๋วบิน+โรงแรมจองแล้ว ฯลฯ สามีเราขอลามา 13 วัน เป๊ะ
ทุกอย่างไม่สามารถ cancelได้
**หมายเหตุ บ้านไม่ได้เสร็จเดือน พ.ค. อย่างที่แจ้ง เสร็จจริงหลัง 18 มิ.ย. (โดยวันที่ 18 มิ.ย. ยังไม่ปูหญ้า ไม่เคลียร์กองดินกองไม้ก่อสร้าง และท่อน้ำตรงรั้วหน้าบ้าน )
26 มิ.ย.
เราแวะไปที่โครงการบอกว่าเรากำลังจะยื่นกู้ใหม่กับ แบงค์ S และ Non-bankingอีกหนึ่งแห่ง เพราะคุยกับ จนท แล้ว เค้ารับเคส ยังไงซะตอนนี้สามีเราก็อยู่เมืองไทย เอกสารและอะไรที่ต้อง updateจะได้ทำซะทีเดียว
เราขอผ่อนผันกับทางโครงการ เค้าก็บอกจะรอให้เรายื่น 2 ที่นี้เสร็จก่อน (ซึ่ง ส่วนหนึ่งเราก็อยากจะโทษจนท.แบงค์ O คนแรกที่ดีลกับโครงการนั่นแหละ ที่เป็นต้นเหตุของความเสียเวลา และเสียตังค์ที่สามีเราต้องลางานมาแบบเปล่าประโยชน์)
15 ก.ค. **หมายเหตุ จนท แบงค์ S คนใหม่นี้ เอาเอกสารที่เรายื่นให้ไปทั้งหมดเลยค่ะ เอกสารประกอบเพื่อเป็นหลักฐานเล็กๆน้อยๆ เค้าก็เอา, Bank statementเงินเดือนสามีเราตั้งแต่ปี 2012 เค้าก็รับไว้ ซึ่งต่างกับแบงค์ก่อนมาก เค้าเอาไปแค่ 6 เดือน ซึ่งเราย้ำแล้วว่ามันน่าจะดูหนักแน่นกว่า หากเอาไปย้อนหลัง เพราะมันจะยืนยันคำพูดเราเกี่ยวกับ ระยะเวลาทำงาน การเลื่อนตำแหน่ง และประวัติรายได้สุทธิที่ได้รับจริงๆ
ผลคือผ่าน แบ้งค์ S อนุมิติ 50% ของราคาบ้าน ซึ่งเราโอเค เพราะมีส่วนต่างเผื่อไว้ สามารถนัดวันโอนได้เลย แต่................มันเป็นไปไม่ได้
เพราะสามีเราเพิ่งบินกลับไปเมื่อวันที่ 6 ก.ค. และจะให้ลามาอีกได้อย่างไร ในเมื่อ อีก 3 เดือน เค้าจะครบกำหนดพักแล้ว(ประมาณ ปลายเดือน ต.ค.)
เราคุยกับ จนท แบงค์ เค้าบอกว่า กรณีสุดวิสัยอย่างนี้ เราสามารถ ขอยืดเวลากับแบงค์ได้ 3 เดือน กับ 1 สัปดาห์เท่านั้น(ซึ่งอาจไม่ทันสามีเรากลับมา เฉียดกันประมาณ 10-15 วัน) แต่ปัญหากวนใจกว่าคือ เซลโครงการอยากจะให้เราโอน เราพยายามคุยกับเค้าแล้ว แต่ดูเค้าไม่ค่อยอยากจะรอ เราควรจะทำยังไงดีคะ
ขอคำแนะนำค่ะ!! ปวดหัวมากกับเรื่องกำหนดวันโอนบ้าน
1. ธ.อนุมัติเงินกู้เราเมื่อ วันที่ 15/7/59 แต่สามีเราไม่ได้อยู่เมืองไทย จะกลับมาได้ปลายตุลา ถ้าเรารอจนถึงปลาย ต.ค. การอนุมัติของเราจะหมดอายุ เราต้องยื่นกู้ใหม่ ซึ่ง(sale บ้านบอกว่า) "มีสิทธิ์ที่เราจะยื่นใหม่แล้วไม่ผ่าน เพราะ จนท.ที่อนุมัติอาจเป็นคนละคนกัน จะมีผลต่อการให้กู้" ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นเท่ากับเสียเวลายื้อเปล่าๆ
-- ถาม :: อันนี้จริงเหรอคะ ถ้ายื่นอีกครั้ง เราจะมีสิทธิ์ไม่ผ่านเหรอ ทั้งๆที่เป็น ธนาคารเดิม เอกสารทุกอย่างเหมือนเดิม
2. saleแจ้งว่า "บ้านเสร็จแล้ว ต้องรีบโอน หรือไม่งั้นให้เราเปลี่ยนไปเลือกหลังอื่น ในซอยถัดไปที่ยังสร้างไม่เสร็จ เพราะสามารถรอโอนได้" (ซึ่งหลังเล็กกว่าของเรา)
-- ถาม :: เคยมีใครเจอแบบนี้บ้างไม๊คะ แล้วถ้าเราไม่อยากเปลี่ยนหลัง จะมีวิธีแก้ หรือคำแนะนำไม๊คะ
3. บ้านที่เค้าสร้างในโครงการมี 261 หลัง จากที่เราเข้าไปดูเมื่อ 26 มิ.ย. เค้าสร้างเสร็จไปประมาณ 110 หลังได้(เสร็จจนถึงซอยหลังบ้านเราพอดี เลยถ่ายรูปติดมา) ในเมื่อมันเป็นบ้านจัดสรร สร้างเสร็จก่อนขาย ถ้าอย่างนี้จะถือว่าส่วนกลางยังไม่เสร็จได้ไหมคะ เพราะซอยถัดเราไปยังเป็นดินและเสาเข็มอยู่เลย
4. อีกอย่างในสัญญาจะชื้อ-ขาย ไม่ได้ระบุวันโอนไว้ เราจะใช้สัญญานี้ดึงให้โครงการรอเราได้ไม๊คะ (อีก 3 เดือน)
ตอนนี้เราปวดหัวมาก ไม่รู้จะทำอย่างไร เราไม่ได้อยากจะยื้อเลย อยากจะโอนๆให้จบไป แต่เวลามันไม่ได้จริงๆเพราะสามีเราต้องกลับมาเซ็นต์สัญญาด้วยตัวเอง มีใครพอจะมีคำแนะนำไหมคะ ว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง ควรจะติดต่อใครดี เราไม่อยากเสียบ้านหลังนี้น่ะค่ะ
เพราะเรากับสามี พยายามกับมันมามาก แถม ถ้าเรายกเลิกไปซื้อโครงการอื่น เราก็ต้องทำเรื่อง=นับหนึ่งใหม่ และปัญหาเรื่อง เวลาที่สามีเราจะพำนักอยู่ในเมืองไทย มันก็ต้องมีอีก ยังไงก็หนีไม่พ้น
ปล.เรายังไม่ได้เข้าไปตรวจบ้านเลยด้วยซ้ำ ปกติเวลาคนอื่นเค้าซื้อบ้านแล้วต้องเลื่อนเวลาเพราะบ้านที่ตรวจไม่พร้อมนี่ โครงการอื่นเค้ายืดเวลาให้เท่าไหร่กันเหรอคะ ของเราไม่ได้ขอยืดเพื่อตรวจด้วยซ้ำ แต่ขอยืดเพราะสุดวิสัยจริงๆ
ขอบคุณทุกท่านที่สละเวลา และขอบคุณล่วงหน้าหรับคำแนะนำค่ะ
---------------------------------------------
คือเคสของเรามันจะวุ่นวายนิดนะคะ เรื่องมีอยู่ว่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้