สวัสดีค่ะ อันนี้เป็นกระทู้แรกนะคะ ถ้าผิดพลาดต้องขออภัยล่วงหน้าค่ะ
เรื่องเกิดจากเราและแฟนไปดูโครงการหมู่บ้านที่หนึ่งไว้แถวเกาะแก้ว และ พนักงานขาย พาเข้าไปดูบ้านประเภทต่างๆ และถูกใจบ้านหลังนึงไว้ ราคาประมาณ 3 ล้าน
พนักงานขายจึงให้เราลองยื่นเอกสารไว้และแจ้งเราไว้ก่อนแล้วว่า หากแบงค์อนุมัติแล้วต้องทำสัญญากับที่นี่เท่านั้นและเงินจองจะคืนไม่ได้นะคะ
เนื่องจากป้องกันไม่ให้ลูกค้าไปซื้อกับที่อื่นค่ะ เราก็บอกกับพนักงานไว้ว่าเรามีกู้ไว้ค่อนค่างเยอะอาจจะไม่ผ่าน เนื่องจากก่อนหน้านี้เราเตรียมกู้มาทำกิจการส่วนตัวค่อนข้างเยอะ จึงห่วงว่าหากวางเงินจองไว้แล้วจะไม่ได้คืน พนักงานก็แจ้งเราว่า"ยังไม่ต้องว่าเงินจองจนกว่าแบงค์จะอนุมัติค่ะ แค่ยื่นเอกสารไว้เฉยๆ"
ทางโครงการจะกระจายยื่นเสนอธนาคารให้ เราจึงโอเคร และจัดเตรียมเอกสารให้กับโครงการ ครบทุกชุดที่โครงการยื่นเสนอธนาคาร
และตอนแรกเป็นไปตามที่คาดค่ะ คือยื่นไม่ผ่านประมาณ 2-3 แบงค์ ขอออกตัวนิดนึงค่ะ เงินเดือนเราประมาณ 3-4 หมื่น แฟนเราทำงานเป็นเทรนเนอร์ เงินเดือนไม่เยอะแต่ได้เป็น คอมมิชชั่น และสอนนอก ซึ่งรับเป็นเงินสดเยอะกว่า
จนมาถึงแบงค์สีแดงพิจารณาสินเชื่อเบื้องต้นและบอกกับทางพนักงานขายว่า อนุมัติวงเงินไม่เกิน 2 ล้าน 3 แสน ทางพนักงานขายจึงให้เราเปลี่ยนบ้าน
เป็นอีกหลังนึงซึ่งราคาอยู่ในวงเงินที่อนุมัติ และเหลือหลังสุดท้ายแล้วและให้แฟนเราเข้าไปดูบ้าน (เราทำงานอยู่กรุงเทพฯ แฟนอยู่ภูเก็ตพึ่งแต่งงาน และเตรียมทำธุรกิจด้วยกัน จึงกะว่าถ้ากู้บ้านได้ก็ผ่อนไปเลยดีกว่าเช่า ถ้าไม่ได้ก็เช่าอยู่ไปก่อนได้ ไม่ซีเรียส) พอแฟนเราเข้าไปดูก็โอเคร เล็กกว่าหลังที่ดูไว้หน่อย
แต่เราก็โอเคร ในระหว่างนั้นเราก็งงว่าทำไมธนาคารอนุมัติแล้วยังจะขอให้ปิดยอดหนี้เพิ่มจึงเอะใจ บอกแฟนว่าอย่าพึ่งวางเงินจอง ขอคุยกับพนักงานขายก่อน เราจึงให้พนักงานขายตรวจสอบกับผ่ายสินเชื่อธนาคารดูอีกทีว่ายังไงกันแน่ พนักงานขายตอนแรกก็เข้าใจบอกขอไปคุยคอนเฟริมกับทางสินเชื่ออีกทีแล้วจะแจ้งอีก ตามเรื่องคุยกันประมาณ 3 วัน ทางพนักงานขายบอกเราว่า อนุมัติแล้วแน่นอนค่ะ แต่ฝ่ายสินเชื่อแค่ต้องการเพิ่มวงเงินกู้ให้ได้เยอะขึ้นจึงให้ทางเราปิดยอดกู้บางตัวให้ และเรายืนยันไปว่าคงไม่ได้ปิดยอดให้นะคะ เพราะพึ่งกู้ไปไม่นาน แต่ถ้าไม่ผ่านจริงๆก็ไม่เป็นไรนะคะ รอทำสเตสเม้นใหม่แล้วค่อยมายื่นกู้อีกครั้งก็ได้นะคะ แต่พนักงานยืนยันว่าอนุมัติแล้ว ให้มาวางจองได้เลยค่ะ เราจึงให้แฟนเข้าไปวางเงินจองจำนวน 10,000 บาท
โดยในใบจองระบุไว้ว่าจะไม่สามารถคืนเงินได้ ใน 3 กรณีดังนี้
1. ติดแบล็คลิส 2.ไม่ยื่นเอกสาร หรือยื่นไม่ครบตามที่ทางโครงการร้องขอ 3. กรณีอนุมัติได้วงเงินต่ำกว่าที่ต้องการ
และรอเรื่องจนผ่านไปประมาณ 2 สัปดาห์ ทางธนาคารแจ้งเรามาว่าไม่อนุมัติ อ่าว !!! แบบนี้ก็เสียเงินจองฟรีสิ
เราจึงรีบโทรไปคุยกับพนักงานว่า
เรา : แบบนี้หมายความว่ายังไงคะ ทำไมตอนแรกบอกเราว่าธนาคารอนุมัติแล้ว ทั้งที่เราแจ้งย้ำไปหลายรอบมาก ถ้าเป็นแบบนี้ต้องขอเงินจองคืนนะคะ เพราะคุณโกหกเรา ตามที่ตกลงกันตอนแรกคือจะวางเงินจองเมื่อแบงค์อนุมัติแล้วนิคะ
พนักงานขาย : คืนไม่ได้ค่ะ เงินจองไม่สามารถคืนได้นะคะตามนโยบายของบริษัท
เรา : แต่ชั้นไม่ได้ผิดข้อตกลงข้อไหนที่ระบุในสัญญาเงินจองเลยนะคะ อีกอย่างคุณต่างหากที่หลอกลวงเราว่าอนุมัติผ่านแล้ว
พนักงานขาย : ข้อแรกไงคะติดแบล็คลิส
เรา : เข้าใจผิดเปล่าคะชั้นไม่เคยติดแบล็คลิสนะคะ
พนักงานขาย : อ่อๆ ข้อสองค่ะ ไม่ยื่นผู้กู้ร่วมเพิ่ม
เรา : ก็แฟนชั้นไงคะยื่นไปกู้ร่วมแต่แรกแล้ว อีกอย่างธนาคารไม่ได้แจ้งขอเพิ่มเลยแค่บอกไม่อนุมัติ
พนักงานขาย : ข้อสามค่ะ อนุมัติได้ต่ำกว่า
เรา : คุณค่ะ มีจดหมายแจ้งจากธนาคารมาว่าไม่อนุมัตินะคะ ไม่ใช่อนุมัติแล้วได้น้อยกว่า
พนักงาน : มันเป็นนโยบายอ่ะค่ะ คืนไม่ได้
เรา : ยังไงก็ไม่ยอมนะคะแบบนี้ เราคงต้องไปฟ้อง สคบ
จากนั้นพนักงานก็ให้เราติดต่อกับหัวหน้าฝ่ายขาย และเราคุยค่อนข้างใช้อารมณ์ค่ะ ยอมรับ เพราะไม่พอใจมาก แต่ไม่เคยพูดคำหยาบใส่ ทางหัวหน้าฝ่ายขายจึงขอปรึกษาที่ประชุมและแจ้งกลับอีกที
ผ่านไป 2 วัน ไม่โทรมาเราจึงโทรไปตาม ทางหัวหน้าฝ่ายขาย แจ้งผลเรากลับมาว่า คุยให้แล้วว่าคืนเงินให้เราได้ แต่ต้องรอให้บ้านหลังนี้ขายได้ก่อนจึงจะคืนเงินจองให้ได้นะคะ เราก็โอเคร ไม่เป็นไรค่ะ รอได้ค่ะ เรื่องเกิดประมาณปลายเดือนมกราคม 59 กว่าจะคุยจบว่าจะจ่ายเงินคืนให้ประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์ 59 เรารอจนปลายเดือนเมษายน โทรไปสอบถามพนักงานขายประมาณ 2-3 รอบ พนักงานแจ้งว่ายังขายไม่ได้ค่ะ มีคนมาดูเหมือนกันค่ะ แต่ยังไม่ได้โอน ประมาณสิ้นเดือนเรากับแฟนไปซื้อของแถวๆนั้น ผ่านก็เลยให้แวะไปดูบ้านหลังนั้นหน่อย พอเข้าไปถึงค่ะ บ้านมีคนเข้าอยู่แล้วน่าจะซักพักใหญ่แล้วด้วย เพราะเหมือนจะเริ่มรกๆแล้วด้วย เราให้แฟนโทรเข้า สนญ.ของหมู่บ้านนั้น ทาง สนญ.แจ้งว่าโอนตั้งแต่วันที่ 12 เมษายน 59 แล้วค่ะ ยอมรับว่าโมโหมาก เพราะพึ่งโทรถามเมื่อ 2-3 วันก่อนเอง เราจึงให้แฟนแกล้งโทรถามพนักงานขายอีกครั้ง ตอบเหมือนเดิมค่ะ "ยังขายไม่ได้ค่ะ มีคนมาดูเหมือนกันค่ะ แต่ยังไม่ได้โอน" เราจึงให้แฟนบอกไปเลยว่าเราอยู่หน้าบ้านหลังนี้ และมีคนเข้าอยุ่แล้ว น่าจะเข้าอยู่มาซักพักใหญ่แล้วด้วย และโทรถามที่ สนญ คุณ เค้าบอกมาว่าโอนไปตั้งแต่วันที่ 12 เมษายนแล้วให้คุณไปเช็คและขอตามเรื่องการคืนเงินจองนะคะ พอวางหูซักพักพนักงานขายก็โทรกลับมาบอกว่า ขอโทษด้วย พอดีพนักงานอีกคนเป็นคนขายเลยไม่ทราบจริงๆ (เราเข้าไปหลายครั้งก็เห็นคนนี้ขายอยู่คนเดียว อีกอย่างถึงแม้มีเซลคนอื่นขายด้วยเป็นไปได้เหรอคะที่ไม่รู้) เราก็ไม่อยากพูดให้มากเรื่องเลยเข้าประเด็นไปว่าจะทำเรื่องคืนให้เมื่อไหร่และจะได้เงินคืนประมาณเมื่อไหร่คะ
พนักงานขาย : ต้องรอปิดยอดของเดือนนี้ก่อน และส่งเรื่องให้ได้เดือนหน้าค่ะ
เรา : เดือนหน้าประมาณเมื่อไหร่คะ และจะได้เงินประมาณเมื่อไหร่คะ
พนักงานขาย : ต้องโทรสอบถามอีกทีค่ะ
เรา : เดือนหน้าประมาณต้นเดือน กลางเดือน หรือปลายเดือนคะ
พนักงานขาย : ต้นเดือนค่ะ
เรา : โอเครค่ะ งั้นประมาณวันที่ 5 พฤษภาคม 59 โทรมาใหม่ค่ะ
จนผ่านไปถึงต้นเดือนก็โทรไป ก็บอกกำลังทำเรื่องให้ค่ะ พอส่งเรื่องเสร็จก็โทรตามเรื่องต่อได้ที่ฝ่ายการเงิน และเราก็โทรตามจิกเรื่อยๆ กว่าจะส่งเรื่องที่บอกไว้ต้นเดือน ยาวมาถึงวันที่ 17 พฤษภาคม โทรไปตาม สรุปพึ่งส่ง จึงโทรไปถามต่อที่ฝ่ายการเงินเพื่ออยากทราบว่าจะได้เงินประมาณวันไหน ฝ่ายการเงินบอกว่าเราพึ่งได้รับเอกสารวันนี้ค่ะ ทำเรื่องเบิกไปแล้วต้องรอรอบเดือนหน้านะคะ อ่าว!!! เราก็เริ่มโมโห ทำไมโยนเรื่องมาแต่ละที่ก็ปัดไปเดือนหน้าทุกที
เรา : เดือนหน้านี่จะได้รับประมาณช่วงไหนคะ
ฝ่ายการเงิน : ยังตอบไม่ได้ค่ะ ต้องโทรมาสอบถามอีกที (สเต็ปเดิมกับฝ่ายขาย)
เราก็เริ่มโมโหและขึ้นเสียงไปว่า
เรา : เดือนหน้าอีกแล้วเหรอ แล้วจะต้นเดือน กลางเดือนหรือปลายเดือนละคะ
ฝ่ายการเงิน : ปกติยอดนี้เราไม่ได้คืนอยู่แล้วนะคะ นี่เราก็บอกจะคืนให้ แค่รอหน่อยไม่ได้เหรอคะ
เรา : เรื่องนี้เรามีเหตุผลที่เราสมควรได้คืนนะคะ ซึ่งมันไม่จำเป็นต้องพูดต่อ แค่อยากทราบกำหนดโดยประมาณที่จะได้คืนว่าเมื่อไหร่ เพราะเราโดนบอกแบบเดียวกันนี้ตั้งแต่ฝ่ายขายแล้วค่ะ
ฝ่ายการเงิน : ระยะเวลาของแต่ละฝ่ายไม่เหมือนกันค่ะ อย่าเอามารวมกัน ต้องการคุยสายกับฝ่ายไหนต่อเปล่าคะ
เรา : อ่อ !!! คือพูดแบบนี้เลยเหรอคะ โอเคร ขอบคุณนะคะ
ยอมรับว่าโมโหมาก ไม่รู้ว่าจะทำยังไงได้บ้าง เลยต้องยอมรอ จนมาถึงเดือนนี้ โทรไปตาม 2 รอบแล้วบอกไม่อยู่จะให้ติดต่อกลับ ก็ยังเงียบค่ะ
เราไม่รู้ต้องทำยังไงต่อแล้ว รบกวนเพื่อนๆในพันธ์ทิปช่วยแนะนำทีค่ะว่าทำอะไรได้อีกบ้างนอกจากรอโดยไม่รู้ว่าเมื่อไหร่
โดนโครงการหมู่บ้านที่ภูเก็ตยื้อเหมือนจะไม่คืนเงินจองควรทำยังไงดีคะ
เรื่องเกิดจากเราและแฟนไปดูโครงการหมู่บ้านที่หนึ่งไว้แถวเกาะแก้ว และ พนักงานขาย พาเข้าไปดูบ้านประเภทต่างๆ และถูกใจบ้านหลังนึงไว้ ราคาประมาณ 3 ล้าน
พนักงานขายจึงให้เราลองยื่นเอกสารไว้และแจ้งเราไว้ก่อนแล้วว่า หากแบงค์อนุมัติแล้วต้องทำสัญญากับที่นี่เท่านั้นและเงินจองจะคืนไม่ได้นะคะ
เนื่องจากป้องกันไม่ให้ลูกค้าไปซื้อกับที่อื่นค่ะ เราก็บอกกับพนักงานไว้ว่าเรามีกู้ไว้ค่อนค่างเยอะอาจจะไม่ผ่าน เนื่องจากก่อนหน้านี้เราเตรียมกู้มาทำกิจการส่วนตัวค่อนข้างเยอะ จึงห่วงว่าหากวางเงินจองไว้แล้วจะไม่ได้คืน พนักงานก็แจ้งเราว่า"ยังไม่ต้องว่าเงินจองจนกว่าแบงค์จะอนุมัติค่ะ แค่ยื่นเอกสารไว้เฉยๆ"
ทางโครงการจะกระจายยื่นเสนอธนาคารให้ เราจึงโอเคร และจัดเตรียมเอกสารให้กับโครงการ ครบทุกชุดที่โครงการยื่นเสนอธนาคาร
และตอนแรกเป็นไปตามที่คาดค่ะ คือยื่นไม่ผ่านประมาณ 2-3 แบงค์ ขอออกตัวนิดนึงค่ะ เงินเดือนเราประมาณ 3-4 หมื่น แฟนเราทำงานเป็นเทรนเนอร์ เงินเดือนไม่เยอะแต่ได้เป็น คอมมิชชั่น และสอนนอก ซึ่งรับเป็นเงินสดเยอะกว่า
จนมาถึงแบงค์สีแดงพิจารณาสินเชื่อเบื้องต้นและบอกกับทางพนักงานขายว่า อนุมัติวงเงินไม่เกิน 2 ล้าน 3 แสน ทางพนักงานขายจึงให้เราเปลี่ยนบ้าน
เป็นอีกหลังนึงซึ่งราคาอยู่ในวงเงินที่อนุมัติ และเหลือหลังสุดท้ายแล้วและให้แฟนเราเข้าไปดูบ้าน (เราทำงานอยู่กรุงเทพฯ แฟนอยู่ภูเก็ตพึ่งแต่งงาน และเตรียมทำธุรกิจด้วยกัน จึงกะว่าถ้ากู้บ้านได้ก็ผ่อนไปเลยดีกว่าเช่า ถ้าไม่ได้ก็เช่าอยู่ไปก่อนได้ ไม่ซีเรียส) พอแฟนเราเข้าไปดูก็โอเคร เล็กกว่าหลังที่ดูไว้หน่อย
แต่เราก็โอเคร ในระหว่างนั้นเราก็งงว่าทำไมธนาคารอนุมัติแล้วยังจะขอให้ปิดยอดหนี้เพิ่มจึงเอะใจ บอกแฟนว่าอย่าพึ่งวางเงินจอง ขอคุยกับพนักงานขายก่อน เราจึงให้พนักงานขายตรวจสอบกับผ่ายสินเชื่อธนาคารดูอีกทีว่ายังไงกันแน่ พนักงานขายตอนแรกก็เข้าใจบอกขอไปคุยคอนเฟริมกับทางสินเชื่ออีกทีแล้วจะแจ้งอีก ตามเรื่องคุยกันประมาณ 3 วัน ทางพนักงานขายบอกเราว่า อนุมัติแล้วแน่นอนค่ะ แต่ฝ่ายสินเชื่อแค่ต้องการเพิ่มวงเงินกู้ให้ได้เยอะขึ้นจึงให้ทางเราปิดยอดกู้บางตัวให้ และเรายืนยันไปว่าคงไม่ได้ปิดยอดให้นะคะ เพราะพึ่งกู้ไปไม่นาน แต่ถ้าไม่ผ่านจริงๆก็ไม่เป็นไรนะคะ รอทำสเตสเม้นใหม่แล้วค่อยมายื่นกู้อีกครั้งก็ได้นะคะ แต่พนักงานยืนยันว่าอนุมัติแล้ว ให้มาวางจองได้เลยค่ะ เราจึงให้แฟนเข้าไปวางเงินจองจำนวน 10,000 บาท
โดยในใบจองระบุไว้ว่าจะไม่สามารถคืนเงินได้ ใน 3 กรณีดังนี้
1. ติดแบล็คลิส 2.ไม่ยื่นเอกสาร หรือยื่นไม่ครบตามที่ทางโครงการร้องขอ 3. กรณีอนุมัติได้วงเงินต่ำกว่าที่ต้องการ
และรอเรื่องจนผ่านไปประมาณ 2 สัปดาห์ ทางธนาคารแจ้งเรามาว่าไม่อนุมัติ อ่าว !!! แบบนี้ก็เสียเงินจองฟรีสิ
เราจึงรีบโทรไปคุยกับพนักงานว่า
เรา : แบบนี้หมายความว่ายังไงคะ ทำไมตอนแรกบอกเราว่าธนาคารอนุมัติแล้ว ทั้งที่เราแจ้งย้ำไปหลายรอบมาก ถ้าเป็นแบบนี้ต้องขอเงินจองคืนนะคะ เพราะคุณโกหกเรา ตามที่ตกลงกันตอนแรกคือจะวางเงินจองเมื่อแบงค์อนุมัติแล้วนิคะ
พนักงานขาย : คืนไม่ได้ค่ะ เงินจองไม่สามารถคืนได้นะคะตามนโยบายของบริษัท
เรา : แต่ชั้นไม่ได้ผิดข้อตกลงข้อไหนที่ระบุในสัญญาเงินจองเลยนะคะ อีกอย่างคุณต่างหากที่หลอกลวงเราว่าอนุมัติผ่านแล้ว
พนักงานขาย : ข้อแรกไงคะติดแบล็คลิส
เรา : เข้าใจผิดเปล่าคะชั้นไม่เคยติดแบล็คลิสนะคะ
พนักงานขาย : อ่อๆ ข้อสองค่ะ ไม่ยื่นผู้กู้ร่วมเพิ่ม
เรา : ก็แฟนชั้นไงคะยื่นไปกู้ร่วมแต่แรกแล้ว อีกอย่างธนาคารไม่ได้แจ้งขอเพิ่มเลยแค่บอกไม่อนุมัติ
พนักงานขาย : ข้อสามค่ะ อนุมัติได้ต่ำกว่า
เรา : คุณค่ะ มีจดหมายแจ้งจากธนาคารมาว่าไม่อนุมัตินะคะ ไม่ใช่อนุมัติแล้วได้น้อยกว่า
พนักงาน : มันเป็นนโยบายอ่ะค่ะ คืนไม่ได้
เรา : ยังไงก็ไม่ยอมนะคะแบบนี้ เราคงต้องไปฟ้อง สคบ
จากนั้นพนักงานก็ให้เราติดต่อกับหัวหน้าฝ่ายขาย และเราคุยค่อนข้างใช้อารมณ์ค่ะ ยอมรับ เพราะไม่พอใจมาก แต่ไม่เคยพูดคำหยาบใส่ ทางหัวหน้าฝ่ายขายจึงขอปรึกษาที่ประชุมและแจ้งกลับอีกที
ผ่านไป 2 วัน ไม่โทรมาเราจึงโทรไปตาม ทางหัวหน้าฝ่ายขาย แจ้งผลเรากลับมาว่า คุยให้แล้วว่าคืนเงินให้เราได้ แต่ต้องรอให้บ้านหลังนี้ขายได้ก่อนจึงจะคืนเงินจองให้ได้นะคะ เราก็โอเคร ไม่เป็นไรค่ะ รอได้ค่ะ เรื่องเกิดประมาณปลายเดือนมกราคม 59 กว่าจะคุยจบว่าจะจ่ายเงินคืนให้ประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์ 59 เรารอจนปลายเดือนเมษายน โทรไปสอบถามพนักงานขายประมาณ 2-3 รอบ พนักงานแจ้งว่ายังขายไม่ได้ค่ะ มีคนมาดูเหมือนกันค่ะ แต่ยังไม่ได้โอน ประมาณสิ้นเดือนเรากับแฟนไปซื้อของแถวๆนั้น ผ่านก็เลยให้แวะไปดูบ้านหลังนั้นหน่อย พอเข้าไปถึงค่ะ บ้านมีคนเข้าอยู่แล้วน่าจะซักพักใหญ่แล้วด้วย เพราะเหมือนจะเริ่มรกๆแล้วด้วย เราให้แฟนโทรเข้า สนญ.ของหมู่บ้านนั้น ทาง สนญ.แจ้งว่าโอนตั้งแต่วันที่ 12 เมษายน 59 แล้วค่ะ ยอมรับว่าโมโหมาก เพราะพึ่งโทรถามเมื่อ 2-3 วันก่อนเอง เราจึงให้แฟนแกล้งโทรถามพนักงานขายอีกครั้ง ตอบเหมือนเดิมค่ะ "ยังขายไม่ได้ค่ะ มีคนมาดูเหมือนกันค่ะ แต่ยังไม่ได้โอน" เราจึงให้แฟนบอกไปเลยว่าเราอยู่หน้าบ้านหลังนี้ และมีคนเข้าอยุ่แล้ว น่าจะเข้าอยู่มาซักพักใหญ่แล้วด้วย และโทรถามที่ สนญ คุณ เค้าบอกมาว่าโอนไปตั้งแต่วันที่ 12 เมษายนแล้วให้คุณไปเช็คและขอตามเรื่องการคืนเงินจองนะคะ พอวางหูซักพักพนักงานขายก็โทรกลับมาบอกว่า ขอโทษด้วย พอดีพนักงานอีกคนเป็นคนขายเลยไม่ทราบจริงๆ (เราเข้าไปหลายครั้งก็เห็นคนนี้ขายอยู่คนเดียว อีกอย่างถึงแม้มีเซลคนอื่นขายด้วยเป็นไปได้เหรอคะที่ไม่รู้) เราก็ไม่อยากพูดให้มากเรื่องเลยเข้าประเด็นไปว่าจะทำเรื่องคืนให้เมื่อไหร่และจะได้เงินคืนประมาณเมื่อไหร่คะ
พนักงานขาย : ต้องรอปิดยอดของเดือนนี้ก่อน และส่งเรื่องให้ได้เดือนหน้าค่ะ
เรา : เดือนหน้าประมาณเมื่อไหร่คะ และจะได้เงินประมาณเมื่อไหร่คะ
พนักงานขาย : ต้องโทรสอบถามอีกทีค่ะ
เรา : เดือนหน้าประมาณต้นเดือน กลางเดือน หรือปลายเดือนคะ
พนักงานขาย : ต้นเดือนค่ะ
เรา : โอเครค่ะ งั้นประมาณวันที่ 5 พฤษภาคม 59 โทรมาใหม่ค่ะ
จนผ่านไปถึงต้นเดือนก็โทรไป ก็บอกกำลังทำเรื่องให้ค่ะ พอส่งเรื่องเสร็จก็โทรตามเรื่องต่อได้ที่ฝ่ายการเงิน และเราก็โทรตามจิกเรื่อยๆ กว่าจะส่งเรื่องที่บอกไว้ต้นเดือน ยาวมาถึงวันที่ 17 พฤษภาคม โทรไปตาม สรุปพึ่งส่ง จึงโทรไปถามต่อที่ฝ่ายการเงินเพื่ออยากทราบว่าจะได้เงินประมาณวันไหน ฝ่ายการเงินบอกว่าเราพึ่งได้รับเอกสารวันนี้ค่ะ ทำเรื่องเบิกไปแล้วต้องรอรอบเดือนหน้านะคะ อ่าว!!! เราก็เริ่มโมโห ทำไมโยนเรื่องมาแต่ละที่ก็ปัดไปเดือนหน้าทุกที
เรา : เดือนหน้านี่จะได้รับประมาณช่วงไหนคะ
ฝ่ายการเงิน : ยังตอบไม่ได้ค่ะ ต้องโทรมาสอบถามอีกที (สเต็ปเดิมกับฝ่ายขาย)
เราก็เริ่มโมโหและขึ้นเสียงไปว่า
เรา : เดือนหน้าอีกแล้วเหรอ แล้วจะต้นเดือน กลางเดือนหรือปลายเดือนละคะ
ฝ่ายการเงิน : ปกติยอดนี้เราไม่ได้คืนอยู่แล้วนะคะ นี่เราก็บอกจะคืนให้ แค่รอหน่อยไม่ได้เหรอคะ
เรา : เรื่องนี้เรามีเหตุผลที่เราสมควรได้คืนนะคะ ซึ่งมันไม่จำเป็นต้องพูดต่อ แค่อยากทราบกำหนดโดยประมาณที่จะได้คืนว่าเมื่อไหร่ เพราะเราโดนบอกแบบเดียวกันนี้ตั้งแต่ฝ่ายขายแล้วค่ะ
ฝ่ายการเงิน : ระยะเวลาของแต่ละฝ่ายไม่เหมือนกันค่ะ อย่าเอามารวมกัน ต้องการคุยสายกับฝ่ายไหนต่อเปล่าคะ
เรา : อ่อ !!! คือพูดแบบนี้เลยเหรอคะ โอเคร ขอบคุณนะคะ
ยอมรับว่าโมโหมาก ไม่รู้ว่าจะทำยังไงได้บ้าง เลยต้องยอมรอ จนมาถึงเดือนนี้ โทรไปตาม 2 รอบแล้วบอกไม่อยู่จะให้ติดต่อกลับ ก็ยังเงียบค่ะ
เราไม่รู้ต้องทำยังไงต่อแล้ว รบกวนเพื่อนๆในพันธ์ทิปช่วยแนะนำทีค่ะว่าทำอะไรได้อีกบ้างนอกจากรอโดยไม่รู้ว่าเมื่อไหร่