เรื่องนี้ มีที่มาจากในซีรี่ย์ เรื่องเหล้า ของคุณอ้น psycho_factory
และงานที่ตามมา ของคุณ Darasawan ที่เกี่ยวกับเด็กเสิร์ฟ ทั้งสองเรื่อง
ล้วนเป็นแรงบันดาลใจ ขอขอบคุณ ท้งสองท่านที่กล่าวมาเป็นอย่างมากครับ

เรื่องนี้อาจฉีกแนวไปบ้าง.
..ขอโทษหลายๆๆเด้อ
===========================
เรื่องเหล้า..........เหล้าดองยา
===========================
คำเตือน
คนคออ่อนไม่ควรอ่าน
เขาเคยชิมเหล้าดองยา...หรือยาดองเหล้า..หรือจะเป็นเหล้าดองยา เขาก็ไม่แน่ใจ..แต่ที่แน่ๆ...เขาบอกกับตัวเองว่า ได้ “เขาถึง” ปรัชญาของ ยาดองเหล้า ระดับหนึ่ง
ตัวเขาเองเคยชิมลิ้มรสยาดองเหล้ามามากมายหลายแห่ง แต่ไม่เคยติดใจเท่าร้านนี้
ร้านนี้..หมายถึงร้านซึ่งอยู่ระหว่างคูหาตึกแคบๆและซอยเก่าๆ และเปิดบริการเฉพาะตอนกลางคืนเท่านั้น สินค้าอันดับหนึ่ง หมายถึงยาดองเหล้ามากมายหลายชนิด เท่าที่จะจินตนาการและสรรหามาได้ งู ตะขาบ ตุ๊กแก กระดูกเสือ ดีหมี สมุนไพรชนิดต่างๆ บรรจุอยู่ในขวดโหลขนาดใหญ่ มีฝาครอบห่อผ้าแดงเรียงรายตามชั้นข้างผนังด้านในซึ่งดูเหมือนจะกลายเป็นธรรมเนียมของยาดองเหล้าไปแล้ว ตะเกียงน้ำมันก๊าด โต๊ะเก้าอี้สี่ห้าชุดกับผนังไม้เก่าๆ ปิดกั้นพรมแดนระหว่างร้านและโลกภายนอก
และสูตรเหล้ายอดนิยม
ม้า..ช้าง...กระทืบโรง
โด่ไม่รู้ล้ม
สาวน้อยตกเตียง
พลังช้างสาร
พระยาพันรู
เฒ่าปล้ำช้าง
น้องเมียสะอื้น
และอื่นๆ อีกมากมาย ตวามความเชื่อเล่าขานบอกกันมา
ลูกค้า..หมายถึงคนจำนวนหนึ่งซึ่งไม่มากมายนัก และรู้หน้าที่ของตนเองดีว่าควรจะนั่งมุมไหน เลือกกับแกล้มอะไร...กับแกล้มที่ว่าก็ไม่ดีเลิศประเสริฐศรีอะไร เป็นจำพวก มะขามเปียกจิ้มเกลือ มะยมดอง..ตามด้วยน้ำใบเตยน้ำแข็งหอมชื่นใจไม่คิดราคา.. อะไรประมาณนี้ ทุกคนพูดจาทักทายกันด้วยเสียงเบาๆ ก่อนจะแยกย้ายกันนั่งรับรู้สุนทรียรสแห่งเหล้าดองยา และจมอยู่กับความคิดของตนเองจวบจนเที่ยงคืน ทุกคนจะค่อยลุกเดินหายไปในความมืด บ้านใครบ้านมัน ตัวใครตัวมัน ชีวิตใครชีวิตมัน
ร้านเหล้าดองยา ไม่มีเด็กเสิร์ฟ ไม่มีอาหารราคาแพง ทุกอย่างอยู่บนความเรียบง่าย แต่ให้มีคนเพิ่งแวะเข้ามาเป็นครั้งแรก ไม่นานนัก เขาจะมีเพื่อน..ทุกเพศทุกวัย...แบ่งกับแกล้มกันไปมีตามเกิด...แต่เปี่ยมน้ำใจ....
คนขาย…หมายถึงชายชราผอมซูบอายุค่อนชีวิต กับใบหน้าไร้ความรู้สึกและซีดขาวราวซากศพไร้ชีวิตชีวา แต่มือทั้งสองคล่องแคล่วรวดเร็วยามผสมเหล้าจากขวดโหลต่าง ๆ ตามอัตราส่วนเร้นลับแต่เป็นที่ถูกปากถูกใจของลูกค้า บางวันแกจะดูอารมณ์ดี ตักเหล้าดองยามาละเลียดจิบช้าๆและดื่มด่ำ เหวี่ยงตัวเองลงไปในอดีตและควมทรงจำ
เขา…หมายถึงชายหนุ่มผู้ดูเหมือนจะพลัดหลงเข้ามาโดยบังเอิญในคืนวันหนึ่ง...เขาเดินทอดน่องรับลมกลางคืนเข้ามาในซอย เพียงเพราะไม่อยากกลับให้ถึงบ้านเร็วกว่าปกติเท่านั้น.....เท่านั้นจริง... ทั้งที่รู้ว่าจะช้าหรือเร็วความจริง ก็จะถูกเหวี่ยงเข้ามาใส่หน้า...
ในคืนที่เบื่อหน่ายกับการร่ายคาถาพร่ำบ่นของแม่มดประจำบ้าน
เขาชอบเหล้าดองยาเป็นพิเศษ รสมันอาจไม่นุ่มละเมียดละไมแบบเหล้าชั้นดี แต่มันให้ความรู้สึกคลาสสิกชนิดหนึ่ง รินลงถ้วยใบเล็กๆ ยกขึ้นซด ตบท้ายด้วยน้ำใบเตยเย็นๆสักอึก.. หรือของเปรี้ยวๆตบตูด....มะยมดองจิ้มเกลือสักหน่อย...หรือมะม่วงดองหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ.. ..ทำให้หูตาพลันสว่างไหวก่อนจะกลับกลายเป็นพร่าเลือนในตอนหลัง ราคาก็ไม่แพงมากมาย แถมจะนั่งนานแค่ไหนก็ได้ตามใจจนกว่าจะถึงเที่ยงคืน ในราคาไม่เกินร้อยบาท
บรรยากาศในร้านแห่งนี้เหมือนย้อนอดีตอย่างบอกไม่ถูก ก็ไม่ค่อยมีผู้คนเดินผ่านพลุกพล่านมากนัก เข็มนาฬิกาแห่งเวลาเหมือนหยุดเดิน ความเงียบสงบจึงยึดครองพื้นที่ส่วนใหญ่ ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนมีอายุและพูดน้อย
เขาเป็นขาประจำร้านนี้ไปแล้ว
เลิกงานทุกคืนจะต้องแวะก่อนเสมอ ราวกับมีมนตร์มายามาสะกด เลือกนั่งใกล้ๆกับหน้าต่าง และมองโลกภายนอกที่เลื่อนไหลไหวผ่านผ่านไปตามกาลเวลา
เขาเป็นนักชิมเหล้าดองยา ดูเหมือนสิ่งนี้เองจะเป็นสิ่งที่ทำให้คนขายเริ่มเปิดปากพูดคุยกับเขาบ้าง และมากขึ้นตามเวลา ถ้าคนขายและคนซื้อเข้าใจและรู้ในเรื่องเดียวกันมันก็ไม่ยากเกินไปนักสำหรับการแงะปากอีกฝ่าย..ก่อนดอกพิกุลจะร่วง
“บางคนอาจสงสัยว่าทำไมต้องใช้ยาดองเหล้า….”
นั่นเป็นคำอธิบายกึ่งสนทนาของชายชราในคืนวันหนึ่ง ซึ่งดูท่าทางอารมณ์ดีเป็นพิเศษ จึงลากเก้าอี้มานั่งดื่มนั่งคุยกับเขาด้วย ซึ่งไม่บ่อยครั้งมากนัก
“นอกจากจะเป็นตัวทำละลายที่ดีแล้ว สิ่งที่เหนือกว่าคืนสรรพคุณของมัน”
เขายกเหล้าดองยาสูตรพิเศษขึ้นจิบ ยกแก้วน้ำเย็นดื่มอึกหนึ่ง แล้วตั้งใจฟังต่อไป อย่างน้อยก็เป็นการทำให้การสนทนามีบรรยากาศที่ดีและเป็นกันเองมากขึ้น
“สรรพคุณของมันที่ดึงเอาตัวยาและรสของยาออกมากลมกลืนกับเหล้า ดึงเอาจิตวิญญาณของคนที่ดื่มมันออกมา ดึงเอาความทุกข์ความสุขทั้งหลายทั้งปวงออกมา”
“ขนาดนั้นเลยหรือครับ” เขาถามอย่างไม่ค่อยใส่ใจเท่าไรนักกับความหมายของคำพูดกึ่งปรัชญาคนคนขาย แม้ว่าจะฟังดูแปลกๆดีก็ตาม
ชายชราหัวเราะหึหึ..ในลำคอ ยกจอกเหล้าดองยาซดทีเดียวหมดจอก คืนนี้ดูจะใช้จอกขนาดใหญ่พิเศษ
“เหล้าดองยามีอะไรหลายอย่างที่เหล้าธรรมดาทำไม่ได้ ทั้งรสทั้งความหลากหลายมากมายของสูตรพิเศษ ที่นับวันแต่จะมีคนรู้น้อยและรู้จริงน้อยลงทุกวัน อัตราส่วน สูตร ที่ผิดเพี้ยนไปเพียงไม่กี่หยดก็อาจทำให้รสของเหล้าสูญเสียไปได้”
แกว่าต่อไป ขณะเดินกลับไปเต็มเหล้าจนเต็มจอก และเดินกลับมานั่งร่วมโต๊ะกับการพูดคุยอีกครั้ง
“อย่างน้อยคนที่ดื่มก็พอจะปลอบใจตัวเองได้ว่ากำลังดื่มยา นอกเหนือจากการดื่มเหล้า สำคัญคือมันเป็นเหล้าสำหรับคนคอถึงใจถึง ประเภทที่ดื่มเบียร์สองสามกระป๋องแล้วคอพับไม่สมควรกับเหล้าดองยาที่นี่หรอก”
พูดจบแกก็ซดรวดเดียวหมดจอก ก่อนขอตัวเดินหายไปหลังร้านลักลับมาพร้อมเหล้าเต็มเต็มจอกอีกครั้ง
“ดูคุณลุงวันนี้ดื่มมากเป็นพิเศษนะครับ” เขาตั้งข้อสังเกต พลางยกแก้วขึ้นดื่ม
วันนี้เป็นวันพิเศษและมีความหมายสำหรับลุง..เลยต้องฉลองกันหน่อย” แกอธิบายสั้นๆ
“วันเกิดเหรอครับ”
เขาคาดเดา ชายชราได้แต่ยิ้มๆ ไม่พุดว่าอะไร แต่เขา กะว่าวันนี้จะอยู่ดื่มเหล้าเป็นเพื่อนลุงแกสักหน่อย และการดื่มการพูดคุยระหว่างลูกค้าและคนขายก็ดำเนินไปอย่างถูกปากถูกคอ
เขารู้ตัวว่าเมา เพราะผนังห้องห้องเริ่มหมุนนิดหน่อยแล้ว เหลือบมองนาฬิกาข้างฝายังพอดูรู้เรื่อง เลยเที่ยงคืนไปจนเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว มองดูรอบๆก็ไม่เหลือลูกค้าคนอื่น
“ผมขอตัวก่อนนะครับ ลุง ดึกมากแล้ว..”
เขาพยุงสังขารลุกขึ้น คืนนี้เมาหนักกว่าวันก่อนๆ และเหล้าดองยาวันนี้อร่อยเป็นพิเศษกว่าทุกคืน พรุ่งนี้คงมีปัญหากับการไปทำงานแน่นอน แต่ยังดีว่าเหล้าดองยาไม่ค่อยเมาค้างมากมายเหมือนเหล้าธรรมดา
“รอก่อนสิ คืนนี้เป็นวันพิเศษ…”
คุณลุงเสียงอ้อแอ้ลิ้นคับปากเหมือนกัน แกเดินโซเซไปทางหลังร้าน ก่อนอุ้มขวดโหลดอง เหล้าขนาดใหญ่มาขวดหนึ่งแล้วบรรจงวางลงบนโต๊ะอย่างทะนุถนอม
“เหล้าดองยาที่เรากินวันนี้ยังเหลือตั้งเยอะ เพิ่งยุบไปหน่อยเดียวเอง ต้องลองนี้ สูตรเด็ดพิเศษสุดสำหรับวันที่มีความหมาย”
เขามองดูภายในขวดแล้วต้องตลึงตาค้าง
สิ่งที่บรรจุอยู่ในขวดโหลขนาดใหญ่เป็นพิเศษ เป็นศีรษะของผู้หญิงคนหนึ่งถูกตัดขาดแค่คอ กำลังพะเยิบพะยาบอยู่ในน้ำเหล้าท่ามกลางชิ้นส่วนยาสมุนไพรกำลังสั่นไหวไปมาตามแรงสั่นสะเทือนของการเคลื่อนย้าย แสงตะเกียงสาดให้เห็นเศษเนื้อหนังรุ่งริ่งตามลำคอสั่นไหวไปมาน้อยๆ ผิวหน้าซีดขาวจนน่ากลัวเพราะแช่เหล้าอยู่เป็นเวลานาน นัยน์ตาลืมโพลงเหมือนจะขยับมองไปมาเป็นการทักทาย..และสุดท้ายจ้องนิ่งมาที่เขา.... ริมฝีปากเหมือนจะขยับตามแรงกระเพื่อมของน้ำเหล้าจนคล้ายจะส่งยิ้มให้หรือกำลังพูดคุยทักทาย ก่อนแรงกระเพื่อมของน้ำเหล้าจะทำให้ปากอ้ากว้างคล้ายกำลังกรีดร้องโหยหวน ไม่ได้รับฟังทางหูแต่สะท้านไปในความรู้สึก.... ฝาขวดแทนที่จะเป็นผ้าสีแดงตามปกติกับดูแล้วเหมือนผ้าลงยันต์ลงอักขระ
เขารู้สึกสมองลั่นเปรี้ยะ พื้นห้องหมุนคว้างจมดิ่งลงสู่เบื้องล่าง ความหวาดกลัว ขยะแขยง สยดสยอง ประทุขึ้นมาอย่างรุนแรงเกินกว่าจะรับได้ ก่อนสติจะดับวูบยังได้ยินเสียงของคุณลุงคนขายแว่วๆราวกับมาจากที่ไกลแสนไกล
“วันนี้วันครบรอบวันตายของภรรยาลุงเอง แต่นี่ล่ะคือความลับและจุดเริ่มต้นของเหล้าดองยาสูตรพิเศษแสนอร่อยนี้...จะมีอะไรอร่อยมากไปกว่าหัวของคนที่เรารักแช่ในเหล้า...ให้เหล้าดึงจิตวิญญาณแห่งรักออกมาผสมกับเหล้า.. ..เลือดเนื้อ สมอง ของเธอละลายอยู่ในน้ำเหล่า..ถูกปากถูกใจดีไหมพ่อคุณ….”
จบแล้วเด้
ขอบคุณทุกท่าน ที่มาเยือนครับ
เรื่องเหล้า.......เหล้าดองยา
และงานที่ตามมา ของคุณ Darasawan ที่เกี่ยวกับเด็กเสิร์ฟ ทั้งสองเรื่อง
ล้วนเป็นแรงบันดาลใจ ขอขอบคุณ ท้งสองท่านที่กล่าวมาเป็นอย่างมากครับ
เรื่องนี้อาจฉีกแนวไปบ้าง.
..ขอโทษหลายๆๆเด้อ
===========================
เรื่องเหล้า..........เหล้าดองยา
===========================
คำเตือน
คนคออ่อนไม่ควรอ่าน
เขาเคยชิมเหล้าดองยา...หรือยาดองเหล้า..หรือจะเป็นเหล้าดองยา เขาก็ไม่แน่ใจ..แต่ที่แน่ๆ...เขาบอกกับตัวเองว่า ได้ “เขาถึง” ปรัชญาของ ยาดองเหล้า ระดับหนึ่ง
ตัวเขาเองเคยชิมลิ้มรสยาดองเหล้ามามากมายหลายแห่ง แต่ไม่เคยติดใจเท่าร้านนี้
ร้านนี้..หมายถึงร้านซึ่งอยู่ระหว่างคูหาตึกแคบๆและซอยเก่าๆ และเปิดบริการเฉพาะตอนกลางคืนเท่านั้น สินค้าอันดับหนึ่ง หมายถึงยาดองเหล้ามากมายหลายชนิด เท่าที่จะจินตนาการและสรรหามาได้ งู ตะขาบ ตุ๊กแก กระดูกเสือ ดีหมี สมุนไพรชนิดต่างๆ บรรจุอยู่ในขวดโหลขนาดใหญ่ มีฝาครอบห่อผ้าแดงเรียงรายตามชั้นข้างผนังด้านในซึ่งดูเหมือนจะกลายเป็นธรรมเนียมของยาดองเหล้าไปแล้ว ตะเกียงน้ำมันก๊าด โต๊ะเก้าอี้สี่ห้าชุดกับผนังไม้เก่าๆ ปิดกั้นพรมแดนระหว่างร้านและโลกภายนอก
และสูตรเหล้ายอดนิยม
ม้า..ช้าง...กระทืบโรง
โด่ไม่รู้ล้ม
สาวน้อยตกเตียง
พลังช้างสาร
พระยาพันรู
เฒ่าปล้ำช้าง
น้องเมียสะอื้น
และอื่นๆ อีกมากมาย ตวามความเชื่อเล่าขานบอกกันมา
ลูกค้า..หมายถึงคนจำนวนหนึ่งซึ่งไม่มากมายนัก และรู้หน้าที่ของตนเองดีว่าควรจะนั่งมุมไหน เลือกกับแกล้มอะไร...กับแกล้มที่ว่าก็ไม่ดีเลิศประเสริฐศรีอะไร เป็นจำพวก มะขามเปียกจิ้มเกลือ มะยมดอง..ตามด้วยน้ำใบเตยน้ำแข็งหอมชื่นใจไม่คิดราคา.. อะไรประมาณนี้ ทุกคนพูดจาทักทายกันด้วยเสียงเบาๆ ก่อนจะแยกย้ายกันนั่งรับรู้สุนทรียรสแห่งเหล้าดองยา และจมอยู่กับความคิดของตนเองจวบจนเที่ยงคืน ทุกคนจะค่อยลุกเดินหายไปในความมืด บ้านใครบ้านมัน ตัวใครตัวมัน ชีวิตใครชีวิตมัน
ร้านเหล้าดองยา ไม่มีเด็กเสิร์ฟ ไม่มีอาหารราคาแพง ทุกอย่างอยู่บนความเรียบง่าย แต่ให้มีคนเพิ่งแวะเข้ามาเป็นครั้งแรก ไม่นานนัก เขาจะมีเพื่อน..ทุกเพศทุกวัย...แบ่งกับแกล้มกันไปมีตามเกิด...แต่เปี่ยมน้ำใจ....
คนขาย…หมายถึงชายชราผอมซูบอายุค่อนชีวิต กับใบหน้าไร้ความรู้สึกและซีดขาวราวซากศพไร้ชีวิตชีวา แต่มือทั้งสองคล่องแคล่วรวดเร็วยามผสมเหล้าจากขวดโหลต่าง ๆ ตามอัตราส่วนเร้นลับแต่เป็นที่ถูกปากถูกใจของลูกค้า บางวันแกจะดูอารมณ์ดี ตักเหล้าดองยามาละเลียดจิบช้าๆและดื่มด่ำ เหวี่ยงตัวเองลงไปในอดีตและควมทรงจำ
เขา…หมายถึงชายหนุ่มผู้ดูเหมือนจะพลัดหลงเข้ามาโดยบังเอิญในคืนวันหนึ่ง...เขาเดินทอดน่องรับลมกลางคืนเข้ามาในซอย เพียงเพราะไม่อยากกลับให้ถึงบ้านเร็วกว่าปกติเท่านั้น.....เท่านั้นจริง... ทั้งที่รู้ว่าจะช้าหรือเร็วความจริง ก็จะถูกเหวี่ยงเข้ามาใส่หน้า...
ในคืนที่เบื่อหน่ายกับการร่ายคาถาพร่ำบ่นของแม่มดประจำบ้าน
เขาชอบเหล้าดองยาเป็นพิเศษ รสมันอาจไม่นุ่มละเมียดละไมแบบเหล้าชั้นดี แต่มันให้ความรู้สึกคลาสสิกชนิดหนึ่ง รินลงถ้วยใบเล็กๆ ยกขึ้นซด ตบท้ายด้วยน้ำใบเตยเย็นๆสักอึก.. หรือของเปรี้ยวๆตบตูด....มะยมดองจิ้มเกลือสักหน่อย...หรือมะม่วงดองหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ.. ..ทำให้หูตาพลันสว่างไหวก่อนจะกลับกลายเป็นพร่าเลือนในตอนหลัง ราคาก็ไม่แพงมากมาย แถมจะนั่งนานแค่ไหนก็ได้ตามใจจนกว่าจะถึงเที่ยงคืน ในราคาไม่เกินร้อยบาท
บรรยากาศในร้านแห่งนี้เหมือนย้อนอดีตอย่างบอกไม่ถูก ก็ไม่ค่อยมีผู้คนเดินผ่านพลุกพล่านมากนัก เข็มนาฬิกาแห่งเวลาเหมือนหยุดเดิน ความเงียบสงบจึงยึดครองพื้นที่ส่วนใหญ่ ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนมีอายุและพูดน้อย
เขาเป็นขาประจำร้านนี้ไปแล้ว
เลิกงานทุกคืนจะต้องแวะก่อนเสมอ ราวกับมีมนตร์มายามาสะกด เลือกนั่งใกล้ๆกับหน้าต่าง และมองโลกภายนอกที่เลื่อนไหลไหวผ่านผ่านไปตามกาลเวลา
เขาเป็นนักชิมเหล้าดองยา ดูเหมือนสิ่งนี้เองจะเป็นสิ่งที่ทำให้คนขายเริ่มเปิดปากพูดคุยกับเขาบ้าง และมากขึ้นตามเวลา ถ้าคนขายและคนซื้อเข้าใจและรู้ในเรื่องเดียวกันมันก็ไม่ยากเกินไปนักสำหรับการแงะปากอีกฝ่าย..ก่อนดอกพิกุลจะร่วง
“บางคนอาจสงสัยว่าทำไมต้องใช้ยาดองเหล้า….”
นั่นเป็นคำอธิบายกึ่งสนทนาของชายชราในคืนวันหนึ่ง ซึ่งดูท่าทางอารมณ์ดีเป็นพิเศษ จึงลากเก้าอี้มานั่งดื่มนั่งคุยกับเขาด้วย ซึ่งไม่บ่อยครั้งมากนัก
“นอกจากจะเป็นตัวทำละลายที่ดีแล้ว สิ่งที่เหนือกว่าคืนสรรพคุณของมัน”
เขายกเหล้าดองยาสูตรพิเศษขึ้นจิบ ยกแก้วน้ำเย็นดื่มอึกหนึ่ง แล้วตั้งใจฟังต่อไป อย่างน้อยก็เป็นการทำให้การสนทนามีบรรยากาศที่ดีและเป็นกันเองมากขึ้น
“สรรพคุณของมันที่ดึงเอาตัวยาและรสของยาออกมากลมกลืนกับเหล้า ดึงเอาจิตวิญญาณของคนที่ดื่มมันออกมา ดึงเอาความทุกข์ความสุขทั้งหลายทั้งปวงออกมา”
“ขนาดนั้นเลยหรือครับ” เขาถามอย่างไม่ค่อยใส่ใจเท่าไรนักกับความหมายของคำพูดกึ่งปรัชญาคนคนขาย แม้ว่าจะฟังดูแปลกๆดีก็ตาม
ชายชราหัวเราะหึหึ..ในลำคอ ยกจอกเหล้าดองยาซดทีเดียวหมดจอก คืนนี้ดูจะใช้จอกขนาดใหญ่พิเศษ
“เหล้าดองยามีอะไรหลายอย่างที่เหล้าธรรมดาทำไม่ได้ ทั้งรสทั้งความหลากหลายมากมายของสูตรพิเศษ ที่นับวันแต่จะมีคนรู้น้อยและรู้จริงน้อยลงทุกวัน อัตราส่วน สูตร ที่ผิดเพี้ยนไปเพียงไม่กี่หยดก็อาจทำให้รสของเหล้าสูญเสียไปได้”
แกว่าต่อไป ขณะเดินกลับไปเต็มเหล้าจนเต็มจอก และเดินกลับมานั่งร่วมโต๊ะกับการพูดคุยอีกครั้ง
“อย่างน้อยคนที่ดื่มก็พอจะปลอบใจตัวเองได้ว่ากำลังดื่มยา นอกเหนือจากการดื่มเหล้า สำคัญคือมันเป็นเหล้าสำหรับคนคอถึงใจถึง ประเภทที่ดื่มเบียร์สองสามกระป๋องแล้วคอพับไม่สมควรกับเหล้าดองยาที่นี่หรอก”
พูดจบแกก็ซดรวดเดียวหมดจอก ก่อนขอตัวเดินหายไปหลังร้านลักลับมาพร้อมเหล้าเต็มเต็มจอกอีกครั้ง
“ดูคุณลุงวันนี้ดื่มมากเป็นพิเศษนะครับ” เขาตั้งข้อสังเกต พลางยกแก้วขึ้นดื่ม
วันนี้เป็นวันพิเศษและมีความหมายสำหรับลุง..เลยต้องฉลองกันหน่อย” แกอธิบายสั้นๆ
“วันเกิดเหรอครับ”
เขาคาดเดา ชายชราได้แต่ยิ้มๆ ไม่พุดว่าอะไร แต่เขา กะว่าวันนี้จะอยู่ดื่มเหล้าเป็นเพื่อนลุงแกสักหน่อย และการดื่มการพูดคุยระหว่างลูกค้าและคนขายก็ดำเนินไปอย่างถูกปากถูกคอ
เขารู้ตัวว่าเมา เพราะผนังห้องห้องเริ่มหมุนนิดหน่อยแล้ว เหลือบมองนาฬิกาข้างฝายังพอดูรู้เรื่อง เลยเที่ยงคืนไปจนเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว มองดูรอบๆก็ไม่เหลือลูกค้าคนอื่น
“ผมขอตัวก่อนนะครับ ลุง ดึกมากแล้ว..”
เขาพยุงสังขารลุกขึ้น คืนนี้เมาหนักกว่าวันก่อนๆ และเหล้าดองยาวันนี้อร่อยเป็นพิเศษกว่าทุกคืน พรุ่งนี้คงมีปัญหากับการไปทำงานแน่นอน แต่ยังดีว่าเหล้าดองยาไม่ค่อยเมาค้างมากมายเหมือนเหล้าธรรมดา
“รอก่อนสิ คืนนี้เป็นวันพิเศษ…”
คุณลุงเสียงอ้อแอ้ลิ้นคับปากเหมือนกัน แกเดินโซเซไปทางหลังร้าน ก่อนอุ้มขวดโหลดอง เหล้าขนาดใหญ่มาขวดหนึ่งแล้วบรรจงวางลงบนโต๊ะอย่างทะนุถนอม
“เหล้าดองยาที่เรากินวันนี้ยังเหลือตั้งเยอะ เพิ่งยุบไปหน่อยเดียวเอง ต้องลองนี้ สูตรเด็ดพิเศษสุดสำหรับวันที่มีความหมาย”
เขามองดูภายในขวดแล้วต้องตลึงตาค้าง
สิ่งที่บรรจุอยู่ในขวดโหลขนาดใหญ่เป็นพิเศษ เป็นศีรษะของผู้หญิงคนหนึ่งถูกตัดขาดแค่คอ กำลังพะเยิบพะยาบอยู่ในน้ำเหล้าท่ามกลางชิ้นส่วนยาสมุนไพรกำลังสั่นไหวไปมาตามแรงสั่นสะเทือนของการเคลื่อนย้าย แสงตะเกียงสาดให้เห็นเศษเนื้อหนังรุ่งริ่งตามลำคอสั่นไหวไปมาน้อยๆ ผิวหน้าซีดขาวจนน่ากลัวเพราะแช่เหล้าอยู่เป็นเวลานาน นัยน์ตาลืมโพลงเหมือนจะขยับมองไปมาเป็นการทักทาย..และสุดท้ายจ้องนิ่งมาที่เขา.... ริมฝีปากเหมือนจะขยับตามแรงกระเพื่อมของน้ำเหล้าจนคล้ายจะส่งยิ้มให้หรือกำลังพูดคุยทักทาย ก่อนแรงกระเพื่อมของน้ำเหล้าจะทำให้ปากอ้ากว้างคล้ายกำลังกรีดร้องโหยหวน ไม่ได้รับฟังทางหูแต่สะท้านไปในความรู้สึก.... ฝาขวดแทนที่จะเป็นผ้าสีแดงตามปกติกับดูแล้วเหมือนผ้าลงยันต์ลงอักขระ
เขารู้สึกสมองลั่นเปรี้ยะ พื้นห้องหมุนคว้างจมดิ่งลงสู่เบื้องล่าง ความหวาดกลัว ขยะแขยง สยดสยอง ประทุขึ้นมาอย่างรุนแรงเกินกว่าจะรับได้ ก่อนสติจะดับวูบยังได้ยินเสียงของคุณลุงคนขายแว่วๆราวกับมาจากที่ไกลแสนไกล
“วันนี้วันครบรอบวันตายของภรรยาลุงเอง แต่นี่ล่ะคือความลับและจุดเริ่มต้นของเหล้าดองยาสูตรพิเศษแสนอร่อยนี้...จะมีอะไรอร่อยมากไปกว่าหัวของคนที่เรารักแช่ในเหล้า...ให้เหล้าดึงจิตวิญญาณแห่งรักออกมาผสมกับเหล้า.. ..เลือดเนื้อ สมอง ของเธอละลายอยู่ในน้ำเหล่า..ถูกปากถูกใจดีไหมพ่อคุณ….”
จบแล้วเด้
ขอบคุณทุกท่าน ที่มาเยือนครับ