เรื่องเหล้า.......เหล้าดองยา

กระทู้สนทนา
เรื่องนี้   มีที่มาจากในซีรี่ย์   เรื่องเหล้า ของคุณอ้น psycho_factory
และงานที่ตามมา  ของคุณ  Darasawan  ที่เกี่ยวกับเด็กเสิร์ฟ ทั้งสองเรื่อง
ล้วนเป็นแรงบันดาลใจ  ขอขอบคุณ ท้งสองท่านที่กล่าวมาเป็นอย่างมากครับ


เรื่องนี้อาจฉีกแนวไปบ้าง.
..ขอโทษหลายๆๆเด้อ


===========================
เรื่องเหล้า..........เหล้าดองยา
===========================


              คำเตือน
             คนคออ่อนไม่ควรอ่าน




             เขาเคยชิมเหล้าดองยา...หรือยาดองเหล้า..หรือจะเป็นเหล้าดองยา  เขาก็ไม่แน่ใจ..แต่ที่แน่ๆ...เขาบอกกับตัวเองว่า ได้ “เขาถึง”  ปรัชญาของ ยาดองเหล้า ระดับหนึ่ง


             ตัวเขาเองเคยชิมลิ้มรสยาดองเหล้ามามากมายหลายแห่ง แต่ไม่เคยติดใจเท่าร้านนี้

             ร้านนี้..หมายถึงร้านซึ่งอยู่ระหว่างคูหาตึกแคบๆและซอยเก่าๆ และเปิดบริการเฉพาะตอนกลางคืนเท่านั้น สินค้าอันดับหนึ่ง หมายถึงยาดองเหล้ามากมายหลายชนิด เท่าที่จะจินตนาการและสรรหามาได้ งู ตะขาบ ตุ๊กแก กระดูกเสือ ดีหมี สมุนไพรชนิดต่างๆ บรรจุอยู่ในขวดโหลขนาดใหญ่ มีฝาครอบห่อผ้าแดงเรียงรายตามชั้นข้างผนังด้านในซึ่งดูเหมือนจะกลายเป็นธรรมเนียมของยาดองเหล้าไปแล้ว ตะเกียงน้ำมันก๊าด โต๊ะเก้าอี้สี่ห้าชุดกับผนังไม้เก่าๆ ปิดกั้นพรมแดนระหว่างร้านและโลกภายนอก

             และสูตรเหล้ายอดนิยม

             ม้า..ช้าง...กระทืบโรง
             โด่ไม่รู้ล้ม
             สาวน้อยตกเตียง
             พลังช้างสาร
             พระยาพันรู
             เฒ่าปล้ำช้าง
             น้องเมียสะอื้น

             และอื่นๆ อีกมากมาย ตวามความเชื่อเล่าขานบอกกันมา


             ลูกค้า..หมายถึงคนจำนวนหนึ่งซึ่งไม่มากมายนัก และรู้หน้าที่ของตนเองดีว่าควรจะนั่งมุมไหน เลือกกับแกล้มอะไร...กับแกล้มที่ว่าก็ไม่ดีเลิศประเสริฐศรีอะไร เป็นจำพวก มะขามเปียกจิ้มเกลือ มะยมดอง..ตามด้วยน้ำใบเตยน้ำแข็งหอมชื่นใจไม่คิดราคา.. อะไรประมาณนี้ ทุกคนพูดจาทักทายกันด้วยเสียงเบาๆ ก่อนจะแยกย้ายกันนั่งรับรู้สุนทรียรสแห่งเหล้าดองยา และจมอยู่กับความคิดของตนเองจวบจนเที่ยงคืน ทุกคนจะค่อยลุกเดินหายไปในความมืด บ้านใครบ้านมัน ตัวใครตัวมัน ชีวิตใครชีวิตมัน

             ร้านเหล้าดองยา ไม่มีเด็กเสิร์ฟ ไม่มีอาหารราคาแพง ทุกอย่างอยู่บนความเรียบง่าย  แต่ให้มีคนเพิ่งแวะเข้ามาเป็นครั้งแรก ไม่นานนัก เขาจะมีเพื่อน..ทุกเพศทุกวัย...แบ่งกับแกล้มกันไปมีตามเกิด...แต่เปี่ยมน้ำใจ....

             คนขาย…หมายถึงชายชราผอมซูบอายุค่อนชีวิต กับใบหน้าไร้ความรู้สึกและซีดขาวราวซากศพไร้ชีวิตชีวา แต่มือทั้งสองคล่องแคล่วรวดเร็วยามผสมเหล้าจากขวดโหลต่าง ๆ ตามอัตราส่วนเร้นลับแต่เป็นที่ถูกปากถูกใจของลูกค้า บางวันแกจะดูอารมณ์ดี ตักเหล้าดองยามาละเลียดจิบช้าๆและดื่มด่ำ เหวี่ยงตัวเองลงไปในอดีตและควมทรงจำ

             เขา…หมายถึงชายหนุ่มผู้ดูเหมือนจะพลัดหลงเข้ามาโดยบังเอิญในคืนวันหนึ่ง...เขาเดินทอดน่องรับลมกลางคืนเข้ามาในซอย เพียงเพราะไม่อยากกลับให้ถึงบ้านเร็วกว่าปกติเท่านั้น.....เท่านั้นจริง... ทั้งที่รู้ว่าจะช้าหรือเร็วความจริง ก็จะถูกเหวี่ยงเข้ามาใส่หน้า...

            ในคืนที่เบื่อหน่ายกับการร่ายคาถาพร่ำบ่นของแม่มดประจำบ้าน

            เขาชอบเหล้าดองยาเป็นพิเศษ รสมันอาจไม่นุ่มละเมียดละไมแบบเหล้าชั้นดี แต่มันให้ความรู้สึกคลาสสิกชนิดหนึ่ง รินลงถ้วยใบเล็กๆ ยกขึ้นซด ตบท้ายด้วยน้ำใบเตยเย็นๆสักอึก.. หรือของเปรี้ยวๆตบตูด....มะยมดองจิ้มเกลือสักหน่อย...หรือมะม่วงดองหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ.. ..ทำให้หูตาพลันสว่างไหวก่อนจะกลับกลายเป็นพร่าเลือนในตอนหลัง ราคาก็ไม่แพงมากมาย แถมจะนั่งนานแค่ไหนก็ได้ตามใจจนกว่าจะถึงเที่ยงคืน  ในราคาไม่เกินร้อยบาท

             บรรยากาศในร้านแห่งนี้เหมือนย้อนอดีตอย่างบอกไม่ถูก ก็ไม่ค่อยมีผู้คนเดินผ่านพลุกพล่านมากนัก เข็มนาฬิกาแห่งเวลาเหมือนหยุดเดิน ความเงียบสงบจึงยึดครองพื้นที่ส่วนใหญ่ ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนมีอายุและพูดน้อย

            เขาเป็นขาประจำร้านนี้ไปแล้ว

             เลิกงานทุกคืนจะต้องแวะก่อนเสมอ ราวกับมีมนตร์มายามาสะกด เลือกนั่งใกล้ๆกับหน้าต่าง และมองโลกภายนอกที่เลื่อนไหลไหวผ่านผ่านไปตามกาลเวลา


             เขาเป็นนักชิมเหล้าดองยา ดูเหมือนสิ่งนี้เองจะเป็นสิ่งที่ทำให้คนขายเริ่มเปิดปากพูดคุยกับเขาบ้าง และมากขึ้นตามเวลา ถ้าคนขายและคนซื้อเข้าใจและรู้ในเรื่องเดียวกันมันก็ไม่ยากเกินไปนักสำหรับการแงะปากอีกฝ่าย..ก่อนดอกพิกุลจะร่วง


             “บางคนอาจสงสัยว่าทำไมต้องใช้ยาดองเหล้า….”

             นั่นเป็นคำอธิบายกึ่งสนทนาของชายชราในคืนวันหนึ่ง ซึ่งดูท่าทางอารมณ์ดีเป็นพิเศษ จึงลากเก้าอี้มานั่งดื่มนั่งคุยกับเขาด้วย ซึ่งไม่บ่อยครั้งมากนัก

             “นอกจากจะเป็นตัวทำละลายที่ดีแล้ว สิ่งที่เหนือกว่าคืนสรรพคุณของมัน”

             เขายกเหล้าดองยาสูตรพิเศษขึ้นจิบ ยกแก้วน้ำเย็นดื่มอึกหนึ่ง แล้วตั้งใจฟังต่อไป อย่างน้อยก็เป็นการทำให้การสนทนามีบรรยากาศที่ดีและเป็นกันเองมากขึ้น

             “สรรพคุณของมันที่ดึงเอาตัวยาและรสของยาออกมากลมกลืนกับเหล้า ดึงเอาจิตวิญญาณของคนที่ดื่มมันออกมา ดึงเอาความทุกข์ความสุขทั้งหลายทั้งปวงออกมา”

             “ขนาดนั้นเลยหรือครับ”      เขาถามอย่างไม่ค่อยใส่ใจเท่าไรนักกับความหมายของคำพูดกึ่งปรัชญาคนคนขาย  แม้ว่าจะฟังดูแปลกๆดีก็ตาม

             ชายชราหัวเราะหึหึ..ในลำคอ ยกจอกเหล้าดองยาซดทีเดียวหมดจอก คืนนี้ดูจะใช้จอกขนาดใหญ่พิเศษ

             “เหล้าดองยามีอะไรหลายอย่างที่เหล้าธรรมดาทำไม่ได้ ทั้งรสทั้งความหลากหลายมากมายของสูตรพิเศษ ที่นับวันแต่จะมีคนรู้น้อยและรู้จริงน้อยลงทุกวัน อัตราส่วน สูตร ที่ผิดเพี้ยนไปเพียงไม่กี่หยดก็อาจทำให้รสของเหล้าสูญเสียไปได้”

             แกว่าต่อไป ขณะเดินกลับไปเต็มเหล้าจนเต็มจอก และเดินกลับมานั่งร่วมโต๊ะกับการพูดคุยอีกครั้ง

             “อย่างน้อยคนที่ดื่มก็พอจะปลอบใจตัวเองได้ว่ากำลังดื่มยา นอกเหนือจากการดื่มเหล้า สำคัญคือมันเป็นเหล้าสำหรับคนคอถึงใจถึง ประเภทที่ดื่มเบียร์สองสามกระป๋องแล้วคอพับไม่สมควรกับเหล้าดองยาที่นี่หรอก”

             พูดจบแกก็ซดรวดเดียวหมดจอก ก่อนขอตัวเดินหายไปหลังร้านลักลับมาพร้อมเหล้าเต็มเต็มจอกอีกครั้ง

              “ดูคุณลุงวันนี้ดื่มมากเป็นพิเศษนะครับ”    เขาตั้งข้อสังเกต พลางยกแก้วขึ้นดื่ม

             วันนี้เป็นวันพิเศษและมีความหมายสำหรับลุง..เลยต้องฉลองกันหน่อย”    แกอธิบายสั้นๆ

             “วันเกิดเหรอครับ”

             เขาคาดเดา ชายชราได้แต่ยิ้มๆ ไม่พุดว่าอะไร แต่เขา กะว่าวันนี้จะอยู่ดื่มเหล้าเป็นเพื่อนลุงแกสักหน่อย และการดื่มการพูดคุยระหว่างลูกค้าและคนขายก็ดำเนินไปอย่างถูกปากถูกคอ



             เขารู้ตัวว่าเมา เพราะผนังห้องห้องเริ่มหมุนนิดหน่อยแล้ว เหลือบมองนาฬิกาข้างฝายังพอดูรู้เรื่อง เลยเที่ยงคืนไปจนเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว มองดูรอบๆก็ไม่เหลือลูกค้าคนอื่น

             “ผมขอตัวก่อนนะครับ ลุง ดึกมากแล้ว..”

             เขาพยุงสังขารลุกขึ้น คืนนี้เมาหนักกว่าวันก่อนๆ และเหล้าดองยาวันนี้อร่อยเป็นพิเศษกว่าทุกคืน พรุ่งนี้คงมีปัญหากับการไปทำงานแน่นอน แต่ยังดีว่าเหล้าดองยาไม่ค่อยเมาค้างมากมายเหมือนเหล้าธรรมดา

             “รอก่อนสิ คืนนี้เป็นวันพิเศษ…”

             คุณลุงเสียงอ้อแอ้ลิ้นคับปากเหมือนกัน แกเดินโซเซไปทางหลังร้าน ก่อนอุ้มขวดโหลดอง   เหล้าขนาดใหญ่มาขวดหนึ่งแล้วบรรจงวางลงบนโต๊ะอย่างทะนุถนอม

             “เหล้าดองยาที่เรากินวันนี้ยังเหลือตั้งเยอะ เพิ่งยุบไปหน่อยเดียวเอง ต้องลองนี้ สูตรเด็ดพิเศษสุดสำหรับวันที่มีความหมาย”

             เขามองดูภายในขวดแล้วต้องตลึงตาค้าง

             สิ่งที่บรรจุอยู่ในขวดโหลขนาดใหญ่เป็นพิเศษ เป็นศีรษะของผู้หญิงคนหนึ่งถูกตัดขาดแค่คอ กำลังพะเยิบพะยาบอยู่ในน้ำเหล้าท่ามกลางชิ้นส่วนยาสมุนไพรกำลังสั่นไหวไปมาตามแรงสั่นสะเทือนของการเคลื่อนย้าย แสงตะเกียงสาดให้เห็นเศษเนื้อหนังรุ่งริ่งตามลำคอสั่นไหวไปมาน้อยๆ ผิวหน้าซีดขาวจนน่ากลัวเพราะแช่เหล้าอยู่เป็นเวลานาน นัยน์ตาลืมโพลงเหมือนจะขยับมองไปมาเป็นการทักทาย..และสุดท้ายจ้องนิ่งมาที่เขา.... ริมฝีปากเหมือนจะขยับตามแรงกระเพื่อมของน้ำเหล้าจนคล้ายจะส่งยิ้มให้หรือกำลังพูดคุยทักทาย ก่อนแรงกระเพื่อมของน้ำเหล้าจะทำให้ปากอ้ากว้างคล้ายกำลังกรีดร้องโหยหวน ไม่ได้รับฟังทางหูแต่สะท้านไปในความรู้สึก.... ฝาขวดแทนที่จะเป็นผ้าสีแดงตามปกติกับดูแล้วเหมือนผ้าลงยันต์ลงอักขระ

             เขารู้สึกสมองลั่นเปรี้ยะ พื้นห้องหมุนคว้างจมดิ่งลงสู่เบื้องล่าง ความหวาดกลัว ขยะแขยง สยดสยอง ประทุขึ้นมาอย่างรุนแรงเกินกว่าจะรับได้ ก่อนสติจะดับวูบยังได้ยินเสียงของคุณลุงคนขายแว่วๆราวกับมาจากที่ไกลแสนไกล


             “วันนี้วันครบรอบวันตายของภรรยาลุงเอง แต่นี่ล่ะคือความลับและจุดเริ่มต้นของเหล้าดองยาสูตรพิเศษแสนอร่อยนี้...จะมีอะไรอร่อยมากไปกว่าหัวของคนที่เรารักแช่ในเหล้า...ให้เหล้าดึงจิตวิญญาณแห่งรักออกมาผสมกับเหล้า.. ..เลือดเนื้อ สมอง ของเธอละลายอยู่ในน้ำเหล่า..ถูกปากถูกใจดีไหมพ่อคุณ….”







             จบแล้วเด้

          ขอบคุณทุกท่าน ที่มาเยือนครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่