สวัสดีค่าาาาา 
กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่เราตั้งใจจะเขียนขึ้นมาเพื่อที่จะแชร์ประสบการณ์การเสริมจมูกครั้งแรกของเรา หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อใครหลายๆคนที่ต้องการศึกษาและกำลังมองหารีวิวด้านศัลยกรรมความงาม ว่ามันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด และวันนี้เราจะมารีวิวดั้งใหม่ของเราให้ดูกันค่ะ
จุดเริ่มต้นของการที่เราอยากเสริมจมูก อย่างแรกเลยคืออยากเปลี่ยนแปลงตัวเองแล้วก็โดนแฟนพูดแบบ ถ้าเธอทำจมูกนะเธอจะสวยขึ้นอย่างนั้นอย่างนี้ โดนกรอกหูทุกวันจนทนไม่ไหวค่ะ555 (ผู้หญิงอย่าหยุดสวยนะคะ555) และเราก็เห็นว่าปัจจุบันการศัลยกรรมความงามเข้ามามีอิทธิพลต่อสังคมมากๆ ไม่ว่าจะชายหรือหญิง ก็ทำกันได้ ซึ่งเราก็เป็นคนนึงที่สนใจและศึกษามาสักระยะก่อนจะตัดสินใจทำค่ะ โดยการถามคนรอบข้าง เพื่อน หรือดูจากรีวิวตามเว็บไซด์ต่างๆ ทางแฟนเพจ กลุ่มศัลยกรรมต่างๆ และก็ได้ข้อสรุปว่า โอเค! เราเลือก เสริมจมูกที่โรงพยาบาลเลอลักษณ์ค่ะ
ค่ะ..เราจะไม่บรรยายเยอะแล้วมาเริ่มกันเลยจ้า
ขั้นตอนแรกเมื่อเราตัดสินใจแล้ว เราก็เปิดเพจของทางรพ.เลอลักษณ์แล้วinbox ไปเลยจ้า เราก็สอบถามและจองคิวในตอนนั้นเลย(ทีแรกเราจะไปปรึกษาที่รพ.เลยแต่ด้วยการเดินทางค่อนข้างลำบากและไกลมากๆเลยเราจองคิวทำเลยค่ะ)ทรงจมูกที่เราเลือกก็คือทรง Idol nose ราคา 13,900 บาท(ราคานี้รวมค่ายาแล้วนะคะ)โดยมีค่ามัดจำจองคิวล่วงหน้า 3,500บาทค่ะ ปล.ได้ราคาตามงบ อิอิ



พื้นฐานแล้วเราเป็นคนมีจมูกนะ แต่ไม่มีดั้ง อิอิ เลยอยากงัดขึ้นให้หน้าดูมีมิติขึ้น อันนี้เป็นภาพก่อนทำค่ะ
เป็นไงคะ..มันไม่ได้เลวร้ายเลยใช่ไหมล่ะ แต่เราไม่พอเองมันต้องทำให้ได้ 555
เราจองคิวล่วงหน้าไว้1เดือนกว่าๆ ทางรพ.ให้เราเลือกวันทำเองได้ตามสะดวกเลยค่ะ(เพราะเราไม่ได้เลือกหมอเองนะคะ เราคิดว่าหมอทุกคนมีประสิทธิภาพพอๆกัน)หากรีเควสหมอเอง อันนี้ไม่แน่ใจนะคะอาจจะต้องรอคิวหน่อย เราจองคิวให้ตรงกับปิดเทอมซัมเมอร์ค่ะ จะได้กลับไปพักยาวๆ
โดยปกติทางโรงพยาบาลจะโทรมาคอนเฟิร์มเวลานัดก่อนล่วงหน้า1วันค่ะ แต่เราใจร้อนเลยโทรไปเองเลย และได้เวลานัดมาคือบ่ายโมงครึ่ง และวันนั้นเป็นวันเสาร์(เราเลือกเองแหละ)
ก้าวแรกที่ไปถึงโรงพยาบาลคือ โอ้!! ใหญ่มากกกกก ดูสะอาดตา ภายในตกแต่งสวยมากค่ะ อดถ่ายรูปไว้ไม่ได้ อิอิ เราไปถึงตอนเที่ยงครึ่งค่ะ เผื่อเวลาก่อน1ชม. เพราะวันนั้นเป็นวันเสาร์ ซึ่งคนเยอะมากๆ แอบถอนหายใจและตื่นเต้นนิดๆ ^^
พอเข้าไปข้างในจะมีพี่คนสวยๆยืนรอหน้าประตู และเราก็ยืนบัตรประชาชนตรงนั้นเลยค่ะ และก็นั่งรอเรียกชื่อ(ข้างในมีร้านกาแฟ มีตู้ATM ไว้บริการด้วยจ้า)
- ขั้นตอนแรกคือ กรอกประวัติ เลือกซิลิโคน และเราก็รู้ตอนนั้นคือเราได้ทำกับ คุณหมอวรรณา ค่ะ พี่คนที่ซักประวัติก็ลองจับเนื้อจมูกเราและชี้แจงรายละเอียดค่าใช้จ่าย ทั้งหมด 14,640 บาท (13,900 รวมค่ายาสลบและยาสำหรับทาน+150ค่าทำประวัติใหม่+ ค่ายาซื้อเพิ่มเอง 590 บาท)
- เมื่อผ่านจุดแรกไปยังจุดที่สองคือชำระเงินและรับยาก่อนเลยค่ะ
- ไปยังจุดที่สาม รอเรียกชื่อเพื่อถ่ายรูปก่อนทำ
หลังจากถ่ายรูปก่อนทำเสร็จเราก็รอค่ะ อันนี้ยอมรับว่ารอนานนิดนึงเพราะคนเยอะ ตรงนี้เราเข้าใจไม่ซีเรียดค่ะ ^^ หาไรลองท้องไป
- ถึงคิวก็ได้เข้าไปนั่งรอหน้าห้องผ่าตัด ขั้นตอนนี้ต้องมาอวดหน้าสดค่ะกัน 5555 เพราะเขาจะให้เราล้างหน้าด้วยแอลกอฮอล์ (แอบแสบตานะ55) สวมหมวกและเสื้อคลุมปลอดเชื้อเรียบร้อย รอสักพักค่ะ ก็
- พอถึงคิว ซึ่งเราได้ขึ้นไปห้องผ่าตัดชั้น4 ห้องสุดท้ายเลยค่า (ทีเด็ดเลยคือเราเดินไปมองไปเหลือบไปเห็นช่องตรงประตูเล็กๆเจอเคสผ่าตัดเสริมหน้าอกอยู่ค่ะ สติแตกเลยค่ะตอนนั้น555)
- ได้เวลาขึ้นเขียง!! พอนอนบนเตียงปุ๊ปเราโดนมัดแขนมัดขา เช็ดหน้าและจมูกรอคุณหมอมาค่ะ พอหมอมาถึงก็ชวนคุยโน้นนี่นั่นแล้วก็ถามอยากได้แบบไหน เราก็ขอไปแบบ เอาที่เนื้อจมูกเรารับได้และทรงที่เข้ากับหน้า ไม่เน้นพุ่งมากกลัวทะลุ(คือในใจตอนนั้นคิดอะไรไม่ออกแล้วค่ะ กลัวทะลุอย่างเดียว อิอิ)
- จัดไปค่ะ!! ได้ฤกดิ์งามยามดีแล้ว หมอก็ทำการวัดจมูก คุณหมอจะนั่งเหลาซิลิโคนแล้วเอามาเทียบจมูกเราจนกว่าจะได้ทรงที่สวย ไม่นานเกินรอ แล้วก็เริ่มฉีดยาสลบ(อันนี้ลืมบอก ทางรพ.จะฉีดยาสลบให้ก่อนแล้วค่อยฉีดยาชาทีหลังค่ะ) นี่เป็นอีกเหตุผลนึงค่ะที่เราเลือกทำที่นี่ เพราะมันไม่รู้สึกเจ็บเลย (ฉีดยาสลบตรงข้อพับแขนข้างซ้ายค่ะ)
- ระหว่างที่กำลังฉีดยาสลบ เราจะต้องกลืนน้ำลายอึกใหญ่ๆ จำได้ว่ากลืนไปประมาณอึกที่ 3-4 ก็รู้สึกวูบไป ทุกอย่างเบลอไปหมด(อารมณ์เหมือนในหนัง บรรยากาศในห้องผ่าตัดมองไฟหลายๆดวง 555) แล้วเราก็หลับไปเลย!
“....เสร็จแล้วค่า” รู้สึกตัวอีกที หมอปลุก.. “คนไข้คะ..ตื่นรึยังคะ” เราก็ตื่นเลยค่ะ ลุกให้ไว(คือไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดใดใดทั้งสิ้น แอบงงว่าซิลิโคนเข้าไปได้ยังไง 555) แต่แอบเมาๆยา มึนๆอยู่นะคะ จะมีพี่ผู้ช่วยคอยพยุงไปห้องพักฟื้น และนั่งพักจนกว่าจะไหวแล้วจึงถอดชุดคลุมออก
หลังจากผ่าตัดเสร็จก็ออกมาเป็นแบบนี้จ้า >_<

ยิ้มออกเลยตอนนั้น คือรู้สึกสมกับการรอคอยมา 5 ชม.
เรามาถึงโรงพยาบาลเที่ยงครึ่งนะคะ แต่ได้ทำตอน 5โมงเย็น ระยะเวลาที่อยู่ในห้องผ่าตัดประมาณ 30 นาทีเองค่ะ (หลังทำเสร็จ เราลืมเวลาที่รอมาทั้งวันไปเลย ^^)
- ขั้นตอนสุดท้าย คือการถ่ายรูปหลังผ่าตัดค่ะ (กลับบ้านได้!!!) คือตอนนั้นเราจะกลับๆอย่างเดียวจนลืมใบรับรองแพทย์(คือเราต้องเดินทางกลับในตอนเช้าวันต่อไป โดยเครื่องบินค่ะ)***จำเป็นต้องขอใบรับรองแพทย์ใช้ในการบินด้วยนะคะ เพราะมันจะเป็นสิ่งที่รับประกันว่าเราเดินทางกลับโดยเครื่องบินได้
เรานั่งแท็กซี่กลับแล้วค่ะก็ไม่ไกลเท่าไหร่ นึกขึ้นได้เลยติดต่อทางโรงพยาบาลไปเพื่อที่จะให้ทางรพ.ส่งหลักฐานมาให้ทางemail และทางรพ.ก็จัดการให้อย่างรวดเร็ว และช่วยเราอย่างเต็มที่ แต่น่าเสียดายที่เมื่อเราติดต่อทางสายการบินที่เราจะเดินทางไปให้ใช้ได้เฉพาะเอกสารตัวจริงเท่านั้นเราเลยต้องนั่งแท็กซี่กลับไปเอาอีกครั้งตอน 3 ทุ่ม (เรื่องความเจ็บปวดไม่ต้องพูดถึงเพราะยาชาเริ่มหมดฤทธิ์แล้วค่ะ T_T ให้ระดับ 9 ค่ะ) แต่หลังจากไปเอาใบรับรองแพทย์ เราก็ไปเดินเซ็นทรัลปิ่นเกล้าต่ออย่างคนปกติทั่วไป555555 (ยาพาราช่วยชีวิตไว้) กลับห้องมาก็อยู่ในสภาพนี้ค่ะ (นอนหมอนสูงนะคะ)
(วันที่2)เช้าวันต่อมาก็ หลังจากผ่าตัดก็ขึ้นเครื่องกลับบ้าน บินคนเดียวในสภาพแบบนี้เลยค่ะ (ให้ความเจ็บปวดระดับ 8 ค่ะ ) สะเทือนไปยันกะโหลกเลยทีเดียว ทั้งเดินทั้งวิ่งหาเกท มือไม้รุงรังไปด้วยA4 สองสามแผ่น 555
(วันที่3) เป็นวันที่บวมสุดๆ (ความเจ็บปวดระดับ 7) ประคบเย็น กินน้ำมะพร้าวช่วยได้ค่ะ ถือว่าความเจ็บปวดอยู่ในระดับทนได้ ชิลๆ แต่มีอาการบวมและช้ำน้อยมากกกกก คือดี ^^
(วันที่4) เริ่มยุบแล้วววววว ล้างหน้าได้แล้วค่ะ ไม่ไหวโดนสิวบุก(3วันที่ผ่านมาเราใช้สำรีชุบน้ำเช็ดหน้านะคะ)
(วันที่5)ลอกพลาสเตอร์ออกแล้วค่ะ วันนี้เราออกไปเที่ยวแบบช้ำๆงี้เลยค่ะ เย้!!


(วันที่ 10 ) เริ่มเข้าที่แล้วค่ะ แต่หัวตายังเหลืองๆนิดๆ ทายาวนไปค่ะ >_<
(ครบ 2 สัปดาห์) รูปทรงเริ่มชัด คือมันดีอะ ยิ้มเบยยยยย

(ครบ 1 เดือน) สวยแล้ววว คือชอบ คือดูรับกับหน้ามากๆๆ ปังๆค่ะ


เปรียบเทียบ ก่อนทำและหลังทำ

เป็นไงบ้างคะ คือเราอยากบอกว่ามันไม่ได้เจ็บปวดเท่าไหร่ อยู่ในระดับที่เราทนได้ ธรรมดาอยู่แล้วอยากสวยก็ต้องอดทนจริงไหมคะ 5555 แต่เราโชคดีตรงที่มันบวมและช้ำน้อยมากๆ นี่แหละค่ะ และผลหลังผ่าตัดเสร็จก็เป็นที่พอใจ และประทับใจในหลายๆด้าน กับการศัลยกรรมครั้งแรกของเรา ขอบคุณ คุณหมอวรรณา รพ.เลอลักษณ์ค่ะ ที่ให้ดั้งใหม่กับเราโดยที่ไม่ได้เจ็บตัวอะไรมากมายเลย หมอมือเบามาก ตัดสินใจไม่ผิดจริงๆที่เลือกที่นี่ ^^ คุ้มๆ ค่ะ
(รีวิว)แชร์ประสบการณ์ดีดีสำหรับการศัลยกรรมเสริมจมูกครั้งแรก กับคุณหมอวรรณา โรงพยาบาลเลอลักษณ์
จุดเริ่มต้นของการที่เราอยากเสริมจมูก อย่างแรกเลยคืออยากเปลี่ยนแปลงตัวเองแล้วก็โดนแฟนพูดแบบ ถ้าเธอทำจมูกนะเธอจะสวยขึ้นอย่างนั้นอย่างนี้ โดนกรอกหูทุกวันจนทนไม่ไหวค่ะ555 (ผู้หญิงอย่าหยุดสวยนะคะ555) และเราก็เห็นว่าปัจจุบันการศัลยกรรมความงามเข้ามามีอิทธิพลต่อสังคมมากๆ ไม่ว่าจะชายหรือหญิง ก็ทำกันได้ ซึ่งเราก็เป็นคนนึงที่สนใจและศึกษามาสักระยะก่อนจะตัดสินใจทำค่ะ โดยการถามคนรอบข้าง เพื่อน หรือดูจากรีวิวตามเว็บไซด์ต่างๆ ทางแฟนเพจ กลุ่มศัลยกรรมต่างๆ และก็ได้ข้อสรุปว่า โอเค! เราเลือก เสริมจมูกที่โรงพยาบาลเลอลักษณ์ค่ะ
ค่ะ..เราจะไม่บรรยายเยอะแล้วมาเริ่มกันเลยจ้า
ขั้นตอนแรกเมื่อเราตัดสินใจแล้ว เราก็เปิดเพจของทางรพ.เลอลักษณ์แล้วinbox ไปเลยจ้า เราก็สอบถามและจองคิวในตอนนั้นเลย(ทีแรกเราจะไปปรึกษาที่รพ.เลยแต่ด้วยการเดินทางค่อนข้างลำบากและไกลมากๆเลยเราจองคิวทำเลยค่ะ)ทรงจมูกที่เราเลือกก็คือทรง Idol nose ราคา 13,900 บาท(ราคานี้รวมค่ายาแล้วนะคะ)โดยมีค่ามัดจำจองคิวล่วงหน้า 3,500บาทค่ะ ปล.ได้ราคาตามงบ อิอิ
พื้นฐานแล้วเราเป็นคนมีจมูกนะ แต่ไม่มีดั้ง อิอิ เลยอยากงัดขึ้นให้หน้าดูมีมิติขึ้น อันนี้เป็นภาพก่อนทำค่ะ
เป็นไงคะ..มันไม่ได้เลวร้ายเลยใช่ไหมล่ะ แต่เราไม่พอเองมันต้องทำให้ได้ 555
เราจองคิวล่วงหน้าไว้1เดือนกว่าๆ ทางรพ.ให้เราเลือกวันทำเองได้ตามสะดวกเลยค่ะ(เพราะเราไม่ได้เลือกหมอเองนะคะ เราคิดว่าหมอทุกคนมีประสิทธิภาพพอๆกัน)หากรีเควสหมอเอง อันนี้ไม่แน่ใจนะคะอาจจะต้องรอคิวหน่อย เราจองคิวให้ตรงกับปิดเทอมซัมเมอร์ค่ะ จะได้กลับไปพักยาวๆ
โดยปกติทางโรงพยาบาลจะโทรมาคอนเฟิร์มเวลานัดก่อนล่วงหน้า1วันค่ะ แต่เราใจร้อนเลยโทรไปเองเลย และได้เวลานัดมาคือบ่ายโมงครึ่ง และวันนั้นเป็นวันเสาร์(เราเลือกเองแหละ)
ก้าวแรกที่ไปถึงโรงพยาบาลคือ โอ้!! ใหญ่มากกกกก ดูสะอาดตา ภายในตกแต่งสวยมากค่ะ อดถ่ายรูปไว้ไม่ได้ อิอิ เราไปถึงตอนเที่ยงครึ่งค่ะ เผื่อเวลาก่อน1ชม. เพราะวันนั้นเป็นวันเสาร์ ซึ่งคนเยอะมากๆ แอบถอนหายใจและตื่นเต้นนิดๆ ^^
พอเข้าไปข้างในจะมีพี่คนสวยๆยืนรอหน้าประตู และเราก็ยืนบัตรประชาชนตรงนั้นเลยค่ะ และก็นั่งรอเรียกชื่อ(ข้างในมีร้านกาแฟ มีตู้ATM ไว้บริการด้วยจ้า)
- ขั้นตอนแรกคือ กรอกประวัติ เลือกซิลิโคน และเราก็รู้ตอนนั้นคือเราได้ทำกับ คุณหมอวรรณา ค่ะ พี่คนที่ซักประวัติก็ลองจับเนื้อจมูกเราและชี้แจงรายละเอียดค่าใช้จ่าย ทั้งหมด 14,640 บาท (13,900 รวมค่ายาสลบและยาสำหรับทาน+150ค่าทำประวัติใหม่+ ค่ายาซื้อเพิ่มเอง 590 บาท)
- เมื่อผ่านจุดแรกไปยังจุดที่สองคือชำระเงินและรับยาก่อนเลยค่ะ
- ไปยังจุดที่สาม รอเรียกชื่อเพื่อถ่ายรูปก่อนทำ
หลังจากถ่ายรูปก่อนทำเสร็จเราก็รอค่ะ อันนี้ยอมรับว่ารอนานนิดนึงเพราะคนเยอะ ตรงนี้เราเข้าใจไม่ซีเรียดค่ะ ^^ หาไรลองท้องไป
- ถึงคิวก็ได้เข้าไปนั่งรอหน้าห้องผ่าตัด ขั้นตอนนี้ต้องมาอวดหน้าสดค่ะกัน 5555 เพราะเขาจะให้เราล้างหน้าด้วยแอลกอฮอล์ (แอบแสบตานะ55) สวมหมวกและเสื้อคลุมปลอดเชื้อเรียบร้อย รอสักพักค่ะ ก็
- พอถึงคิว ซึ่งเราได้ขึ้นไปห้องผ่าตัดชั้น4 ห้องสุดท้ายเลยค่า (ทีเด็ดเลยคือเราเดินไปมองไปเหลือบไปเห็นช่องตรงประตูเล็กๆเจอเคสผ่าตัดเสริมหน้าอกอยู่ค่ะ สติแตกเลยค่ะตอนนั้น555)
- ได้เวลาขึ้นเขียง!! พอนอนบนเตียงปุ๊ปเราโดนมัดแขนมัดขา เช็ดหน้าและจมูกรอคุณหมอมาค่ะ พอหมอมาถึงก็ชวนคุยโน้นนี่นั่นแล้วก็ถามอยากได้แบบไหน เราก็ขอไปแบบ เอาที่เนื้อจมูกเรารับได้และทรงที่เข้ากับหน้า ไม่เน้นพุ่งมากกลัวทะลุ(คือในใจตอนนั้นคิดอะไรไม่ออกแล้วค่ะ กลัวทะลุอย่างเดียว อิอิ)
- จัดไปค่ะ!! ได้ฤกดิ์งามยามดีแล้ว หมอก็ทำการวัดจมูก คุณหมอจะนั่งเหลาซิลิโคนแล้วเอามาเทียบจมูกเราจนกว่าจะได้ทรงที่สวย ไม่นานเกินรอ แล้วก็เริ่มฉีดยาสลบ(อันนี้ลืมบอก ทางรพ.จะฉีดยาสลบให้ก่อนแล้วค่อยฉีดยาชาทีหลังค่ะ) นี่เป็นอีกเหตุผลนึงค่ะที่เราเลือกทำที่นี่ เพราะมันไม่รู้สึกเจ็บเลย (ฉีดยาสลบตรงข้อพับแขนข้างซ้ายค่ะ)
- ระหว่างที่กำลังฉีดยาสลบ เราจะต้องกลืนน้ำลายอึกใหญ่ๆ จำได้ว่ากลืนไปประมาณอึกที่ 3-4 ก็รู้สึกวูบไป ทุกอย่างเบลอไปหมด(อารมณ์เหมือนในหนัง บรรยากาศในห้องผ่าตัดมองไฟหลายๆดวง 555) แล้วเราก็หลับไปเลย!
“....เสร็จแล้วค่า” รู้สึกตัวอีกที หมอปลุก.. “คนไข้คะ..ตื่นรึยังคะ” เราก็ตื่นเลยค่ะ ลุกให้ไว(คือไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดใดใดทั้งสิ้น แอบงงว่าซิลิโคนเข้าไปได้ยังไง 555) แต่แอบเมาๆยา มึนๆอยู่นะคะ จะมีพี่ผู้ช่วยคอยพยุงไปห้องพักฟื้น และนั่งพักจนกว่าจะไหวแล้วจึงถอดชุดคลุมออก
หลังจากผ่าตัดเสร็จก็ออกมาเป็นแบบนี้จ้า >_<
ยิ้มออกเลยตอนนั้น คือรู้สึกสมกับการรอคอยมา 5 ชม.
เรามาถึงโรงพยาบาลเที่ยงครึ่งนะคะ แต่ได้ทำตอน 5โมงเย็น ระยะเวลาที่อยู่ในห้องผ่าตัดประมาณ 30 นาทีเองค่ะ (หลังทำเสร็จ เราลืมเวลาที่รอมาทั้งวันไปเลย ^^)
- ขั้นตอนสุดท้าย คือการถ่ายรูปหลังผ่าตัดค่ะ (กลับบ้านได้!!!) คือตอนนั้นเราจะกลับๆอย่างเดียวจนลืมใบรับรองแพทย์(คือเราต้องเดินทางกลับในตอนเช้าวันต่อไป โดยเครื่องบินค่ะ)***จำเป็นต้องขอใบรับรองแพทย์ใช้ในการบินด้วยนะคะ เพราะมันจะเป็นสิ่งที่รับประกันว่าเราเดินทางกลับโดยเครื่องบินได้
เรานั่งแท็กซี่กลับแล้วค่ะก็ไม่ไกลเท่าไหร่ นึกขึ้นได้เลยติดต่อทางโรงพยาบาลไปเพื่อที่จะให้ทางรพ.ส่งหลักฐานมาให้ทางemail และทางรพ.ก็จัดการให้อย่างรวดเร็ว และช่วยเราอย่างเต็มที่ แต่น่าเสียดายที่เมื่อเราติดต่อทางสายการบินที่เราจะเดินทางไปให้ใช้ได้เฉพาะเอกสารตัวจริงเท่านั้นเราเลยต้องนั่งแท็กซี่กลับไปเอาอีกครั้งตอน 3 ทุ่ม (เรื่องความเจ็บปวดไม่ต้องพูดถึงเพราะยาชาเริ่มหมดฤทธิ์แล้วค่ะ T_T ให้ระดับ 9 ค่ะ) แต่หลังจากไปเอาใบรับรองแพทย์ เราก็ไปเดินเซ็นทรัลปิ่นเกล้าต่ออย่างคนปกติทั่วไป555555 (ยาพาราช่วยชีวิตไว้) กลับห้องมาก็อยู่ในสภาพนี้ค่ะ (นอนหมอนสูงนะคะ)
(วันที่2)เช้าวันต่อมาก็ หลังจากผ่าตัดก็ขึ้นเครื่องกลับบ้าน บินคนเดียวในสภาพแบบนี้เลยค่ะ (ให้ความเจ็บปวดระดับ 8 ค่ะ ) สะเทือนไปยันกะโหลกเลยทีเดียว ทั้งเดินทั้งวิ่งหาเกท มือไม้รุงรังไปด้วยA4 สองสามแผ่น 555
(วันที่3) เป็นวันที่บวมสุดๆ (ความเจ็บปวดระดับ 7) ประคบเย็น กินน้ำมะพร้าวช่วยได้ค่ะ ถือว่าความเจ็บปวดอยู่ในระดับทนได้ ชิลๆ แต่มีอาการบวมและช้ำน้อยมากกกกก คือดี ^^
(วันที่4) เริ่มยุบแล้วววววว ล้างหน้าได้แล้วค่ะ ไม่ไหวโดนสิวบุก(3วันที่ผ่านมาเราใช้สำรีชุบน้ำเช็ดหน้านะคะ)
(วันที่5)ลอกพลาสเตอร์ออกแล้วค่ะ วันนี้เราออกไปเที่ยวแบบช้ำๆงี้เลยค่ะ เย้!!
(วันที่ 10 ) เริ่มเข้าที่แล้วค่ะ แต่หัวตายังเหลืองๆนิดๆ ทายาวนไปค่ะ >_<
(ครบ 2 สัปดาห์) รูปทรงเริ่มชัด คือมันดีอะ ยิ้มเบยยยยย
(ครบ 1 เดือน) สวยแล้ววว คือชอบ คือดูรับกับหน้ามากๆๆ ปังๆค่ะ
เปรียบเทียบ ก่อนทำและหลังทำ
เป็นไงบ้างคะ คือเราอยากบอกว่ามันไม่ได้เจ็บปวดเท่าไหร่ อยู่ในระดับที่เราทนได้ ธรรมดาอยู่แล้วอยากสวยก็ต้องอดทนจริงไหมคะ 5555 แต่เราโชคดีตรงที่มันบวมและช้ำน้อยมากๆ นี่แหละค่ะ และผลหลังผ่าตัดเสร็จก็เป็นที่พอใจ และประทับใจในหลายๆด้าน กับการศัลยกรรมครั้งแรกของเรา ขอบคุณ คุณหมอวรรณา รพ.เลอลักษณ์ค่ะ ที่ให้ดั้งใหม่กับเราโดยที่ไม่ได้เจ็บตัวอะไรมากมายเลย หมอมือเบามาก ตัดสินใจไม่ผิดจริงๆที่เลือกที่นี่ ^^ คุ้มๆ ค่ะ