เคยหมดใจ กับ ศิลปิน นักร้อง นักแสดง ที่ท่านเคยรัก เคยเป็น FC บ้างใหม ???

จุดประสงค์ของกระทู้นี้ ผมแค่อยากถามว่า
คุณเคยชอบ ศิลปิน นักร้อง นักแสดง คนใหน แล้วตอนนี้คุณไม่ได้ชอบเขา (มาก ๆ ) เหมือนเมื่อก่อนแล้วบ้าง
และเรื่องราวของผมก็เป็นแค่ เรื่อง ๆ นึงเกี่ยวกับ ศิลปินที่ผมเคยรักมาก ๆ
เรื่องของผมอาจยาวไปหน่อย แต่
กระทู้นี้ไม่ได้พาดพิงใคร และ เป็นเรื่องจริงของผม ผมไม่ขอเปิดเผย ชื่อ และ ผลงานใด ๆ ทั้งสิ้น



ผมเคยชอบ ศิลปิน ท่านนึง
ผมยกให้เป็น God ในใจผมเลย ... เค๊าทำให้ผมพบโลกใหม่ แนวทางดนตรีใหม่ ๆ
ทำให้เด็กที่ไม่สนใจดนตรี วัน ๆ ดีดแต่ลูกแก้ว เล่นเขี่ยไพ่ เอาไม้จิ้มขี้ อย่างผม หันมาสนใจดนตรี เพราะพี่เค๊าคือแรงบันดาลใจ
ผมซื้อกีต้าร์ตัวแรก เพราะ อยากเล่นเพลงของพี่เค๊า ผมกำตังค์ 800 เดินไปเลือกซื้อกีต้าร์ด้วยตัวเอง ที่พาต้าปิ่นเกล้า ในปี 1994
ทั้ง ๆ ที่ไม่มีความรู้เครื่องดนตรีอะไรเลย หัดเล่นดนตรีหลังเลิกเรียนทุกวัน
เดินไป - กลับ โรงเรียนก็ร้องเพลงของพี่เค๊า แบบไล่ตั้งแต่ เพลงแรกหน้า A ถึงเพลงสุดท้ายหน้า B ทุกวัน
จากเด็กเกรียนร้องเพลงไม่เป็น ผมหัดร้องเพลงโดยให้พี่เค๊าเป็นต้นแบบ ร้องกระทั่งเสียงเหมือนพี่เค๊ามาก
จนใคร ๆ ก็ทัก ว่าเสียงเหมือนนักร้องคนนี้จังเลย ...

จนกระทั้งวันนึง ... วันที่ความรักที่ผมมีให้ศิลปินท่านนี้เริ่มสั่นคลอน

ผมเห็น ศิลปินที่ผมรักท่านนี้ ให้สัมภาษณ์ผ่าน TV
พิธีกรถามว่า มองยังไงกับวงการเพลงปัจจุบัน และ ทิศทางเพลงต่อ ๆ ไปของเขา
ศิลปินท่านนี้พูดทำนองว่า

"ผมทำเพลงไปตามกระแสสังคม คนฟังชอบอะไร ผมก็ทำแบบนั้น การทำเพลงเป็นเรื่องของการทำธุรกิจ เราต้องทำให้มันขายได้
และบางครั้งเราต้องเปลี่ยนแปลงแนวเพลงที่เราเคยเป็น เพื่อความอยู่รอด"


ผมฟังแล้ว อึ้ง ไปพักนึง .......... มันก็ถูกของพี่เค๊านะ .... แต่ผมรับไม่ได้ว่ะ
ผมเริ่มรู้สึกว่า ความรักที่ผมให้กับพี่ศิลปินท่านนี้ค่อย ๆ น้อยลง ตั้งแต่วันนั้น
และตั้งแต่วันนั้น แนวเพลงของพี่เค๊าก็เปลี่ยนไปจริง ๆ พี่เค๊าจะทำเพลงตามกระแสที่คนส่วนใหญ่ชอบ
ทำเพลงในแนวที่เป็นกระแสในขณะนั้น พี่เค๊าไม่ได้ทำเพลงในแบบที่เป็นตัวเค๊าเองอีกแล้ว

ถ้าพี่เค๊าปล่อยเพลงอะไรมา แล้วเกิดดังขึ้นมา พี่เค๊าก็จะยิ่งทำเพลงแบบนั้นมากขึ้นไปเรื่อย ๆ
จนไม่เหลือ ความเป็นตัวตน ความเป็นเอกลักษณ์แบบ อัลบั้มแรก ๆ แบบที่ผมเคยรู้จัก แบบที่ผมเคยรักอีกต่อไปแล้ว

วันเวลาผ่านไป อินเตอร์เน็ตเข้ามาลดช่องว่างระหว่าง ศิลปิน กับ แฟนเพลง ให้แคบลง
ศิลปิน กับ แฟนเพลง ใกล้ชิดกันมากขึ้นด้วยเทคโนโลยี ...
แต่ความใกล้ชิด นี้ ก็นำมาซึ่งความจริงบางอย่าง ที่แฟนเพลงอย่างผมไม่ควรจะไปรับรู้ ...
และสิ่งที่เหมือนเข้ามาตอกย้ำ เข้ามาทำให้ความศรัทธาในตัวศิลปินท่านนี้แทบจะหมดอย่างสมบูรณ์คือ

เมื่อ 3-4 ปี ก่อน
ผมได้มีโอกาสคุยกับพี่เค๊า ผ่าน FB ... ได้พูดคุยแลกเปลียนความคิดเห็น ถึงเรื่องต่าง ๆ ทั้งสังคมในปัจจุบัน และ แนวเพลง ทิศทางในอนาคต
คำตอบของพี่เค๊า เหมือนทุบหัวผมเลย .... มันขัดกับความเชื่อความคิดของผมหมดสิ้น แต่ ผมก็คิดว่า มันเป็นความคิดที่ต่างกัน เป็นความคาดหวังของผมเอง ที่คาดหวังเกินไป


เคยมีคนพูดว่า บางทีความคาดหวังจะทำให้เราเจ็บ
สิ่งที่อยู่บนฟ้า อย่างดวงดาว เรามองจากบนพื้นดูว่าสวยงาม เป็นประกาย
แต่จริง ๆ แล้ว ดวงดาว ถ้าได้เข้าไปมองใกล้ ๆ มันก็เป็นแค่ ก้อนดิน กลุ่มก๊าซ ที่รวมตัวกันเท่านั้นเอง ไม่ได้สวยงามเหมือนที่เรามองจากที่ไกล ๆ เลย


การทำเพลงเพื่อความอยู่รอด โดยทอดทิ้งความเป็นตัวตน ทำเพื่อเอาใจตลาดเพียงอย่างเดียว
ผมเข้าใจครับว่าโลกนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว ความคิดแบบนี้ของพี่ไม่ผิด ถ้าอยากจะอยู่รอดในวงการเพลงสมัยนี้
แต่ ความคิดของผมคือ ... การทำเพลงมันควรกลั่นกรองออกมาจากตัวตนของเรา ทำเพลงในแนวที่เป็นตัวตนของศิลปินคนนั้น
ถ้าใครจะชอบเพลงเราแสดงว่า เค๊าชอบในแนวทางของเรา
ถ้าคุณไม่ชอบในแนวทางของเรา คุณก็ไปฟังศิลปินคนอื่น ... มันก็แฟร์ ๆ กันไป
การซื่อสัตย์ต่อแนวทางของตนเอง ไม่เปลี่ยนแปลงไปตามธุรกิจ ความอยู่รอด ... มันถึงจะเป็นศิลปินที่แท้จริง

ความคิดของผม อาจจะสุดโต่ง อาจจะช่างฝันเกินไป
คนเรามันต้องกินต้องใช้ พี่เค๊าก็มีลูกมีเมีย จะให้ทำเพลงตามใจตัวเอง ในแนวทางเดิม ๆ ... อาจจะอยู่ไม่รอดในยุคนี้
ผมเข้าใจในสิ่งนี้ แต่ มันก็ขัดแย้งกับความเชื่อของผมอยู่ดี ที่คิดว่าเราควรจะทำเพลงตามแนวทางที่เป็นตัวตนของเราให้มากที่สุด

เรื่องนี้ไม่มีใครผิด ใครถูก
เป็นเรื่องของความเชื่อ ความศรัทธา ที่ต่างกัน
เพราะเหตุนี้ ผมจึงไม่อยากเป็นศิลปินแบบเต็มตัว เพราะถ้าเราเข้าไปสู่ธุรกิจดนตรีแล้วต้องลดความเป็นตัวตน ผมไม่เอาดีกว่า
ผมคิดว่า เราหาเงินเลี้ยงชีพจากอาชีพอื่น ๆ ได้ ... โดยที่เราก็ยังทำเพลงในแนวทางของเราได้
ทุกวันนี้ผมมีงานประจำ กินเงินเดือน ที่เอาเวลาว่าง ๆ มาทำเพลง
ผมเอง ณ วันนี้ ก็มีเพลงเป็นของตัวเองแล้ว ทำเองด้วยตัวเองอยู่กับบ้าน  ผมพยายามทำเพลงในแนวทางที่ผมชอบ เป็นตัวเองให้มากที่สุด
ผมไม่หวังชื่อเสียงเงินทอง ผมไม่อยากหากำไรจากงานเพลงของผม ... เพลงของผมเปิดให้ฟังฟรี ๆ ทาง youtube
ถ้าใครหลงมาฟังเพลงผมแล้วชอบ แสดงว่าคุณชอบในแนวทางของผม ... ถ้าคุณฟังแล้วไม่ชอบ แสดงว่าคุณกับผมคนและแนวกัน ไม่มีใครผิด
ผมจะไม่เปลี่ยนแนว เพื่อดึงดูดให้คุณมาชอบ เพราะนี่มันคือตัวตน ผมอยากให้คนที่หลงมาฟังเพลงผม ชอบในความเป็นผม มากกว่า

จริง ๆ แล้วผมก็ยังไม่ลืมศิลปินท่านนี้ แม้ผมจะไม่ได้ติดตามผลงานของท่านอีกแล้ว
ผมไม่เคยลืมว่า ... ใครที่ทำให้ผมรักดนตรี ใครที่ทำให้ผมเริ่มหัดเล่นดนตรี ใครที่เป็นแรงบันดาลใจในชีวิตของผมมาตลอดกว่า 20 ปี
ทุกวันนี้ผมมีความทรงจำ ดี ๆ ที่สวยงาม ที่พี่ศิลปินท่านนี้เคยมอบให้ไว้ในวันวาน ... ให้กลับมาคิดถึง
ผมต้องขอบคุณผลงานที่ผ่าน ๆ มาของพี่ แรงบันดาลใจมากมายที่พี่สร้างไว้ ... แม้วันนี้แนวทางความคิด ทัศนคติเราไม่ตรงกัน
แต่ความประทับใจในวันวานที่ผมมีให้พี่ ... ผมจะไม่มีวันลืม


เรื่องนี้สอนให้ผมรู้ว่า
- เราไม่ควรคาดหวังกับใคร หรือ สิ่งใดมากเกินไป หากสิ่งที่เราคาดหวัง มันไม่ใช่อย่างที่คิด ... มันจะเจ็บ
- ศิลปิน กับ แฟนคลับ ควรมีช่องว่างนิดนึง ถ้าเราไปรู้ตัวตนเขามาก ๆ บางที่ความจริงบางอย่างอาจทำให้เรา ผิดหวัง
(กระทู้นี้ผมจะไม่บอกนะครับว่า พี่ศิลปินท่านนี้เป็นใคร
และ ผมจะไม่เผยแพร่ผลงานใด ๆ ของผมผ่านกระทู้นี้ ... ผมเป็นแค่นักดนตรีสมัครเล่น ทำเพลงแบบ Bedroom studio คุณภาพยังไม่ค่อยดีนัก อุปกรณ์ง่อย ๆ แค่พอทำเพลงได้  ผมมีความสุขกับการทำเพลง และ ปล่อยให้ฟังทาง youtube ไม่ได้หวังเงินทองอะไรจากตรงนี้ ไม่อยากมีชื่อเสียง
ผมอยากทำเพลงให้คุณฟัง โดยที่คุณไม่รู้ว่าผมเป็นใคร ผมจะอึดอัดมากถ้าผมต้องใช้ชีวิตแบบหลบซ่อนตัวเอง ใส่แว่นดำเวลาไปเดินตลาด
ผมอยากมีชีวิตแบบ สามารถไปกินก๋วยเตี๋ยวข้างทางได้ โดยที่ไม่มีใครรู้ว่าผมเป็นใคร
ผมแอบยิ้มอย่างมีความสุข เวลาผมเดินผ่านร้านอาหาร บ้านคน แล้วมีเสียงเพลงของผมแว่ว ๆ ออกมา ... ผมชอบความรู้สึกแบบนี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่