ดิฉันเป็นคนที่เคยมีความรักมา 2-3 ครั้งค่ะ
...ครั้งแรก เป็นความรักในช่วงวัยเรียนมัธยมปลายค่ะ เป็นความรักที่ดิฉันแอบชอบเขาเพียงลำพัง (แต่เหมือนเขาก็จะรับรู้อยู่บ้าง..แต่ไม่ชัดเจน) ดิฉันบอกกับตัวเองว่าชอบเขามาก แต่ไม่กล้าบอกหรือยอมรับ เพราะที่บ้านไม่เห็นด้วยกับการมีความรักในช่วงวัยเรียน จนกระทั่งเราเรียนจบ ม.ปลาย เราก็ได้แยกย้ายกันไปเรียนคนละมหาวิทยาลัย แต่ยังติดต่อกันอยู่ รับรู้ข่าวคราวกันและกัน จนวันหนึ่งตอนปีสอง เพื่อนชายคนที่ว่าก็มาเยี่ยมหาที่มหาวิทยาลัยที่ดิฉันเรียนอยู่ เพื่อนสนิทของดิฉันแซวใหญ่ว่าเราเป็แฟนกัน แต่ตอนนั้นดิฉันก็ยังไม่กล้ายอมรับกับเขาว่าเราชอบเขา ... จนวันหนึ่งเขาโทรมาบอกดิฉันว่าเขามีคนคบหาดูใจแล้ว แล้วก็บอกให้ดิฉันมองหาใครซักคนเพื่อคบหาดูใจกันบ้าง..... จบซิคะ ความรักที่สวยงามของดิฉัน มันจบลงแล้วทั้งที่ยังไม่ได้เริ่มต้นเลย 555
...ครั้งที่สอง เป็นความรักในช่วงวัยทำงานต้นๆ เป็นความรักที่ไม่สมควรที่จะเกิดขึ้น เนื่องจากดิฉันเป็นคนมาทีหลัง แต่เขามีใครอีกคนอยู่แล้ว แต่เขาก็ไม่ได้ตั้งใจบอกความจริง จนวันหนึ่งเราเิ่มสนิทกัน เขาเลยบอกดิฉันว่า เขาอยากเลือกคบกับดิฉัน .... หมายความว่าเขาต้องเลิกกับอีกคน แต่ดูเหมือนเรื่องมันจะไม่ได้ง่ายอย่างที่เราคิด สุดท้ายเขากับดิฉันก็เลือกเดินคนละเส้นทางกันค่ะ ... เศร้าอีกแล้ว แต่ก็ดีใจที่วันนี้เขาก็มีความสุขดี ตามอัธภาพของเขาเอง
...ครั้งที่สาม เป็นความรักที่พร้อมจะเป็นครอบครัว เป็นความรักที่ดูจะมั่นคงและไปด้วยดีมาก และดิฉันเองก็ตั้งใจจะให้เป็นความรักครั้งสุดท้าย ...แต่แล้วทุกอย่างก็ไม่ได้ง่ายค่ะ เหมือนกับที่หลายๆคนมักจะพูดว่า การคบใครซักคนว่ายากแล้ว การอยู่ด้วยกันให้ยืดที่สุดนั้นยากกว่า .... และสุดท้ายเราก็ไปกันไม่รอดค่ะ อาจคงเป็นเพราะความคิดและทัศนคติเราไม่ตรงกันในหลายๆเรื่อง ดิฉันบอกตัวเองว่า ดิฉันได้พยายามปรับแล้ว แต่ดิฉันก็ทำมันได้ไม่ดีเท่าที่ควร บทสรุปของเราจึงต้องจบลงด้วยการเดินจากกัน แต่เราจากกันด้วยความเต็มใจจะจากทั้งคู่ค่ะ แต่เราต่างไม่ได้ติดต่อกันแล้ว .....
ดิฉันแอบมีคำถามกับตัวเองเสมอว่า หรือดิฉันไม่ดีพอสำหรับใครซักคนเลยบนโลกใบนี้ ... แต่มันก็เหมือนจะเป็นข้อสรุปให้ดิฉันไม่ได้ค่ะ รบกวนลองแชร์ประสบการณ์นะคะ เผื่อจะได้ความคิดในอีกหลายๆมุมที่ดิฉันไม่เคยมีมาก่อน ขอบคุณมากค่ะ
เราจะรู้ได้อย่างไร? ว่าเราพร้อมที่จะรักใครได้อีกครั้ง หรือเราหมดรักที่จะมอบให้ใครได้อีกแล้ว...
...ครั้งแรก เป็นความรักในช่วงวัยเรียนมัธยมปลายค่ะ เป็นความรักที่ดิฉันแอบชอบเขาเพียงลำพัง (แต่เหมือนเขาก็จะรับรู้อยู่บ้าง..แต่ไม่ชัดเจน) ดิฉันบอกกับตัวเองว่าชอบเขามาก แต่ไม่กล้าบอกหรือยอมรับ เพราะที่บ้านไม่เห็นด้วยกับการมีความรักในช่วงวัยเรียน จนกระทั่งเราเรียนจบ ม.ปลาย เราก็ได้แยกย้ายกันไปเรียนคนละมหาวิทยาลัย แต่ยังติดต่อกันอยู่ รับรู้ข่าวคราวกันและกัน จนวันหนึ่งตอนปีสอง เพื่อนชายคนที่ว่าก็มาเยี่ยมหาที่มหาวิทยาลัยที่ดิฉันเรียนอยู่ เพื่อนสนิทของดิฉันแซวใหญ่ว่าเราเป็แฟนกัน แต่ตอนนั้นดิฉันก็ยังไม่กล้ายอมรับกับเขาว่าเราชอบเขา ... จนวันหนึ่งเขาโทรมาบอกดิฉันว่าเขามีคนคบหาดูใจแล้ว แล้วก็บอกให้ดิฉันมองหาใครซักคนเพื่อคบหาดูใจกันบ้าง..... จบซิคะ ความรักที่สวยงามของดิฉัน มันจบลงแล้วทั้งที่ยังไม่ได้เริ่มต้นเลย 555
...ครั้งที่สอง เป็นความรักในช่วงวัยทำงานต้นๆ เป็นความรักที่ไม่สมควรที่จะเกิดขึ้น เนื่องจากดิฉันเป็นคนมาทีหลัง แต่เขามีใครอีกคนอยู่แล้ว แต่เขาก็ไม่ได้ตั้งใจบอกความจริง จนวันหนึ่งเราเิ่มสนิทกัน เขาเลยบอกดิฉันว่า เขาอยากเลือกคบกับดิฉัน .... หมายความว่าเขาต้องเลิกกับอีกคน แต่ดูเหมือนเรื่องมันจะไม่ได้ง่ายอย่างที่เราคิด สุดท้ายเขากับดิฉันก็เลือกเดินคนละเส้นทางกันค่ะ ... เศร้าอีกแล้ว แต่ก็ดีใจที่วันนี้เขาก็มีความสุขดี ตามอัธภาพของเขาเอง
...ครั้งที่สาม เป็นความรักที่พร้อมจะเป็นครอบครัว เป็นความรักที่ดูจะมั่นคงและไปด้วยดีมาก และดิฉันเองก็ตั้งใจจะให้เป็นความรักครั้งสุดท้าย ...แต่แล้วทุกอย่างก็ไม่ได้ง่ายค่ะ เหมือนกับที่หลายๆคนมักจะพูดว่า การคบใครซักคนว่ายากแล้ว การอยู่ด้วยกันให้ยืดที่สุดนั้นยากกว่า .... และสุดท้ายเราก็ไปกันไม่รอดค่ะ อาจคงเป็นเพราะความคิดและทัศนคติเราไม่ตรงกันในหลายๆเรื่อง ดิฉันบอกตัวเองว่า ดิฉันได้พยายามปรับแล้ว แต่ดิฉันก็ทำมันได้ไม่ดีเท่าที่ควร บทสรุปของเราจึงต้องจบลงด้วยการเดินจากกัน แต่เราจากกันด้วยความเต็มใจจะจากทั้งคู่ค่ะ แต่เราต่างไม่ได้ติดต่อกันแล้ว .....
ดิฉันแอบมีคำถามกับตัวเองเสมอว่า หรือดิฉันไม่ดีพอสำหรับใครซักคนเลยบนโลกใบนี้ ... แต่มันก็เหมือนจะเป็นข้อสรุปให้ดิฉันไม่ได้ค่ะ รบกวนลองแชร์ประสบการณ์นะคะ เผื่อจะได้ความคิดในอีกหลายๆมุมที่ดิฉันไม่เคยมีมาก่อน ขอบคุณมากค่ะ