หลอมละลาย คือ การเปลี่ยนสถานะของแข็งเป็นของเหลว
แต่ถ้าของแข็งนั้นคือเกราะหรือเปลือกที่ห่อหุ้มที่มีรากยึดกับดวงใจอันแข็งแกร่ง
การหลอมหลายคงไม่สามารถทำได้ง่าย ๆ เลยต้องใช้ความร้อนความแรงเข้าช่วย
แต่ถ้าใช้ความแรงมากเกินไป มันก็จะละลายทั้งเปลือกทั้งใจและจะไม่เหลืออะไร
เหมือนที่ช่วงหนึ่งของบทละครได้อธิบายการหลอมละลายตัวละครอย่างดี
ความสัมพันธ์ของสุริเยนทร์กับทานตะวันมีพัฒนาการที่น่าสนใจ
ทานตะวันเข้ามาในชีวิตของสุริเยนทร์ เพื่อเข้าปกป้องหลานที่เกิดจากพี่ของเธอกับพี่ของเขา
เพราะกลัวความรุนแรงของสุริเยนทร์ที่จะทำร้ายหลาน และที่สำคัญที่เธอรู้สึกสนุกที่จะบางครั้งก็อยากต่อต้านเขาขึ้นมา
สุริเยนทร์ ต้องการแต่หลานของพี่สาวของเขา แต่เขาเข้ากับหลานไม่ได้ซึ่งมีคนช่วยได้คือทานตะวัน
แต่แล้วเขาไม่สามารถเข้ากับหลานและตัวทานตะวันได้ เพราะทานตะวันแสดงออกต่อการท้าทายเขา
สิ่งที่เขาทำได้คือทำอย่างไรก็ได้ให้ผู้หญิงคนนี้ออกไปจากชีวิตของเขาให้เร็วที่สุด แม้บางครั้งมันต้องรุนแรงกันในบางครั้ง
จนเกิดเหตุการณ์แบบตอนที่ 4 - 7 เพื่อแสดงภาวะของการหลอมละลาย
จุดแตกหักแรกเกิดจากที่สุริเยทร์ (นายภู) จับตัวคนร้ายที่ลอบสังหารตัวเองได้พร้อมจะทำอะไรบางอย่าง
แต่ทานตะวัน(เคท) เข้ามาเพื่อจะบอกตัวคนร้ายเช่นกันแต่ทำให้คนร้ายหนีไปได้
นายภูโกรธเคท เพราะเธอเข้ามายุ่งเรื่องของเขาเลยอยากจะทำอะไรเพื่อให้เคทอย่ามายุ่งกับเขาอีก
แน่นอนว่าทางเลือกเขาคือจะกำราบเธอทางร่างกาย แต่แน่นอนว่าฉากนั้นก็ค่อนข้างล่อแหลมแต่บทก็มีวิธีการเล่าได้น่าสนใจดี
ถ้านายภูอยู่ในอารมณ์ที่ควบคุมไม่ได้เคทก็คงจบไปเหมือนละครหลายเรื่อง แต่เคทเลือกที่จะสู้และหนีออกมา
เพราะในสถานการณ์ถ้าบทให้ผลักเข้าไปในบ้านก็จบเห่ แต่บทให้เคทวิ่งออกมา โดยให้วิ่งมาไกลมากจากบ้านผ่านทุ่งผ่านป่าจนมาถึงทะเล
นายภูก็วิ่งตามมาพร้อมกับบทพูดที่ดูโบราณ แต่มันเป็นการแสดงออกทางอารมณ์ในตอนนั้นที่ตัวละครใช้สัญชาติญานมากกว่าสติปัญญา
แน่นอนพอถึงทะเลก็เกิดจากแบบนั้น แต่แน่นอนร่างกายนายภูก็คงเผาผลาญพลังงานจนไม่มีแรงทำอะไรเคทแล้ว
แต่พอเคทเริ่มพูดออกมาอีกครั้ง ทำให้นายภูกลับจะทำอีกครั้งเพราะใจสั่งให้ร่างกายจะทำอีกครั้ง แต่ด้วยสถานการณ์นายภูทก็เหนื่อย
เลยทำให้นายภูสามารถรับสารของเคทอย่างชัดเจนทำให้สุดท้าย เคทก็หลุดออกจากนายภูได้ พร้อมทิ้งคำถามให้นายภูได้คิด
ในตอนต่อมาหลังจากที่เหตุการณ์จากเหตุการณ์แย่งของเล่น และในตอนนี้คนที่มีบทบาทมากสุดคือ คุณทนาย
จนหลายคนจะจิ้นกับพระเอก ก็คงไม่แปลกเพราะเขาคือคนที่เข้าใจการสุริเยนทร์มากที่สุด
ถ้าเป็นผู้หญิงก็คงเป็นนางเอกของเรื่องไปเเล้ว 555+ และทนายก็เป็นบทที่สะท้อนให้นางเอกและคนดูเห็นว่าพระเอกเป็นอย่างไร
จนนางเอกมีความรู้สึกอยากช่วยพระเอก เพื่อให้พระเอกให้เขากับหลานเขาได้ จนมีหลายกระบวนการ
ทั้งเสียงสอง ทั้งจากเจ้าพ่อนายภูเป็นเจ้าพ่อหมีพูห์ แต่แปลกที่มันทำให้สุรเยนทร์แทนที่จะเข้าใจ
แต่กลายเป็นเพียงตัวตลกให้คนรอบข้าง ทั้งคนสนิท ลูกน้องและคนที่สะใจที่สุดคือ ทานตะวัน
จนมาสู่เหตุการณ์ดราม่าของกระแส ถึงสุริเยนทร์จะมีความรุนแรงและใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา
แต่การที่เขามีคนสนิทที่ดีคือทนาย มีจ่ายักษ์ที่นับถือในตัวเขาอย่างจริงใจ และคนงานที่เคารพเขา
คนดูคงได้เห็นแล้ว ทานตะวันก็เห็นและพยายามเข้าใกล้สุริเยนทร์มากขึ้น สุริเยนทร์รู้ดี
เขาจะเลือกวิธีการที่ทำให้นางเอกออกไปจากตัวเขาตามที่เขาตั้งใจ จึงต้องทำให้เธอเกลียดเขาให้ได้
แต่เธอก็ไม่เกลียดเขา จนมาสู่บทสรุปของการหลอมละลาย
เคทเปิดใจคุยกับสุริเยนทร์อีกครั้งหลังจากเหตุการณ์ถูกลอบทำร้าย เคทเลือกจะคุยกับนายภูว่า
ที่เธอเคยบอกกับเขา ว่ายิ่งทำเธอมากเท่าไหร่เธอจะกล้า เพราะจริง ๆ เธอเคยประสบเหตุการณ์เกือบถูกข่มขืน
โดยมีพี่ชายคือ ณพสิทธิ์เป็นคนช่วยไว้ นั้นคือเหตุผลว่าทำไมเธอจึงเข้าข้างณพสทธิ์
จากที่ผ่านมาทำให้เธอคุ้นชินกับสถานการณ์ ไม่ใช่ว่าเธออยากลองดีเพราะเธออยาก และก็ไม่รู้ว่าคนอย่างเขาจะทำเธอไหม
แต่เขาก็ไม่ทำจนมาถึงนาทีเป็นนาทีตาที่เขาช่วยชีวิตเธอ นั้นก็เพียงพอที่เธอที่จะเปิดใจกับเขาได้แล้ว
จากสถานการณ์ที่กล่าวมามันก็แค่ช่วงหนึ่งของบทละคร
ที่ตัวละครตัวหนึ่งเห็นอีกมุมตัวละครหนึ่งตามลำดับแต่เรื่องนี้
เพราะความแรงทีเข้าหากันมันเลยเป็นการหลอมละลาย
ถึงแม้มันจะเป็นการหลอมละลายฝ่ายเดียวแต่จริง ๆ เราก็ได้รู้ภูมิหลังของพระนาง
นอกจากได้รู้จักสุริเยนทร์ว่ากว่าจะเป็นแบบนี้เขาผ่านอะไรมา แม้กระทั้งทานตะวันเราก็รู้จักด้วย
การที่ทานตะวันเป็นอย่างทุกวันนี้ก็เพราะเหตุการณ์นั้น ทำให้ทานตะวันเข้มแข็งและแข็งกร้าวกับผู้ชายทุกคน
ทานตะวันที่มีความมั่นใจ กล้าชน เพราะลึก ๆ เธอต้องการเอาชนะผู้ชาย เพราะผู้ชายที่เธอไว้ใจแค่พี่และพี่ของเพื่อน
ทานตะวันจึงมีเชื่อมั่นในตัวณพสิทธิ์ เพราะบุญคุณในคราวนั้น และนั่นทำให้เธออคติกับสุริเยนทร์
เธอเลยสนุกที่จะต่อต้านกับสุริเยนทร์และเธอชนะเธอจะภูมิใจเช่น ทำให้สุริเยนทร์เสียงสอง การมีความสุขเห็นเจ้าพ่อหมีพู
เพราะมันจะเป็นการเยียวยาความรู้สึกของเธอได้ทางหนึ่งด้วย
ส่วนสุริเยนทร์ที่เขาผลักทานตะวันออกไปจากชีวิต เพราะชีวิตเขาผู้หญิงมาเพื่อเจอ ทำร้าย และจากไป
ไล่มาตั้งแต่ สุรีย์ แม่ของเขา แม่เลี้ยงหรือขิม เขาจึงไม่ใว้ใจผู้หญิงคนไหนและไม่อยากที่เขาต้องเจอแบบนี้กับทานตะวัน
แต่ทานตะวันต่างจนคนอื่น เพราะเธอเข้ามาหาเขาอย่างเรื่อย ๆ ดอกไม้ที่ไม่กลัวดวงอาทิตย์เผาไหม้ทำไมเธอถึงต่างจากคนอื่น
เขาทั้งสองคนจึงเข้าใจกันและกันได้มากและเลือกจะทำวิธีการที่รุนแรงและแตกต่าง
แต่มันคือการหลอมละลายความรู้สึกของของเขาและเธอเหมือนดอกทานตะวันที่จะงดงามเมื่อต้องดวงอาทิตย์
คนบนโลกใบนี้ทุกคนเกิดมาไม่เหมือนกัน บางคนโชคดีที่มีคนช่วยชี้ทางให้เขาไปได้ดีเช่นครูเหมือนละครบางเรื่อง
แต่ความจริงก็มีคนอีกจำนวนหนึ่งเติบโตมาอย่างไม่มีใคร หรือต้องเจอเหตุการณ์ร้ายที่เข้ามาไม่รู้ตัว
เขาไม่มีใครคอยชี้ทางให้ สิ่งที่เขาทำได้คือการเยียวยาตัวเองจนตัวเองเติบโตโดยไม่รู้ว่ามันถูกหรือผิด
ขอบคุณเจ้าของนิยายที่สร้างตัวละครเอกที่เป็นแบบนี้ เพราะเรามักจะเห็นตัวละครแบบนี้ในละครสายขาวสร้างสรรค์สังคม 555+
แต่สามารถนำมาโลดแล่นในเรื่องราวที่โลดโผนที่ดูอ่านเอาสนุกก็ได้ หรือจะอ่านเพื่อเข้าใจตัวละครก็ได้
และบทโทรทัศน์ที่เลือกเล่าอย่างชัดเจนและมีความละเอียดอ่อนทั้งในสถานการณ์สุ่มเสี่ยงแบบนี้
แต่ท้ายสุดบทละครก็ได้หลอมละลายทั้งตัวละครทั้งคนที่ติดตามให้เข้าใจว่า
ท้ายที่สุด ทานตะวันก็หันหน้าเข้าหาดวงอาทิตย์ได้สมบูรณ์ตามแรงตะวัน
แรงตะวัน บทละครหลอมละลาย พัฒนาการของดอกทานตะวันกับพระอาทิตย์
แต่ถ้าของแข็งนั้นคือเกราะหรือเปลือกที่ห่อหุ้มที่มีรากยึดกับดวงใจอันแข็งแกร่ง
การหลอมหลายคงไม่สามารถทำได้ง่าย ๆ เลยต้องใช้ความร้อนความแรงเข้าช่วย
แต่ถ้าใช้ความแรงมากเกินไป มันก็จะละลายทั้งเปลือกทั้งใจและจะไม่เหลืออะไร
เหมือนที่ช่วงหนึ่งของบทละครได้อธิบายการหลอมละลายตัวละครอย่างดี
ความสัมพันธ์ของสุริเยนทร์กับทานตะวันมีพัฒนาการที่น่าสนใจ
ทานตะวันเข้ามาในชีวิตของสุริเยนทร์ เพื่อเข้าปกป้องหลานที่เกิดจากพี่ของเธอกับพี่ของเขา
เพราะกลัวความรุนแรงของสุริเยนทร์ที่จะทำร้ายหลาน และที่สำคัญที่เธอรู้สึกสนุกที่จะบางครั้งก็อยากต่อต้านเขาขึ้นมา
สุริเยนทร์ ต้องการแต่หลานของพี่สาวของเขา แต่เขาเข้ากับหลานไม่ได้ซึ่งมีคนช่วยได้คือทานตะวัน
แต่แล้วเขาไม่สามารถเข้ากับหลานและตัวทานตะวันได้ เพราะทานตะวันแสดงออกต่อการท้าทายเขา
สิ่งที่เขาทำได้คือทำอย่างไรก็ได้ให้ผู้หญิงคนนี้ออกไปจากชีวิตของเขาให้เร็วที่สุด แม้บางครั้งมันต้องรุนแรงกันในบางครั้ง
จนเกิดเหตุการณ์แบบตอนที่ 4 - 7 เพื่อแสดงภาวะของการหลอมละลาย
จุดแตกหักแรกเกิดจากที่สุริเยทร์ (นายภู) จับตัวคนร้ายที่ลอบสังหารตัวเองได้พร้อมจะทำอะไรบางอย่าง
แต่ทานตะวัน(เคท) เข้ามาเพื่อจะบอกตัวคนร้ายเช่นกันแต่ทำให้คนร้ายหนีไปได้
นายภูโกรธเคท เพราะเธอเข้ามายุ่งเรื่องของเขาเลยอยากจะทำอะไรเพื่อให้เคทอย่ามายุ่งกับเขาอีก
แน่นอนว่าทางเลือกเขาคือจะกำราบเธอทางร่างกาย แต่แน่นอนว่าฉากนั้นก็ค่อนข้างล่อแหลมแต่บทก็มีวิธีการเล่าได้น่าสนใจดี
ถ้านายภูอยู่ในอารมณ์ที่ควบคุมไม่ได้เคทก็คงจบไปเหมือนละครหลายเรื่อง แต่เคทเลือกที่จะสู้และหนีออกมา
เพราะในสถานการณ์ถ้าบทให้ผลักเข้าไปในบ้านก็จบเห่ แต่บทให้เคทวิ่งออกมา โดยให้วิ่งมาไกลมากจากบ้านผ่านทุ่งผ่านป่าจนมาถึงทะเล
นายภูก็วิ่งตามมาพร้อมกับบทพูดที่ดูโบราณ แต่มันเป็นการแสดงออกทางอารมณ์ในตอนนั้นที่ตัวละครใช้สัญชาติญานมากกว่าสติปัญญา
แน่นอนพอถึงทะเลก็เกิดจากแบบนั้น แต่แน่นอนร่างกายนายภูก็คงเผาผลาญพลังงานจนไม่มีแรงทำอะไรเคทแล้ว
แต่พอเคทเริ่มพูดออกมาอีกครั้ง ทำให้นายภูกลับจะทำอีกครั้งเพราะใจสั่งให้ร่างกายจะทำอีกครั้ง แต่ด้วยสถานการณ์นายภูทก็เหนื่อย
เลยทำให้นายภูสามารถรับสารของเคทอย่างชัดเจนทำให้สุดท้าย เคทก็หลุดออกจากนายภูได้ พร้อมทิ้งคำถามให้นายภูได้คิด
ในตอนต่อมาหลังจากที่เหตุการณ์จากเหตุการณ์แย่งของเล่น และในตอนนี้คนที่มีบทบาทมากสุดคือ คุณทนาย
จนหลายคนจะจิ้นกับพระเอก ก็คงไม่แปลกเพราะเขาคือคนที่เข้าใจการสุริเยนทร์มากที่สุด
ถ้าเป็นผู้หญิงก็คงเป็นนางเอกของเรื่องไปเเล้ว 555+ และทนายก็เป็นบทที่สะท้อนให้นางเอกและคนดูเห็นว่าพระเอกเป็นอย่างไร
จนนางเอกมีความรู้สึกอยากช่วยพระเอก เพื่อให้พระเอกให้เขากับหลานเขาได้ จนมีหลายกระบวนการ
ทั้งเสียงสอง ทั้งจากเจ้าพ่อนายภูเป็นเจ้าพ่อหมีพูห์ แต่แปลกที่มันทำให้สุรเยนทร์แทนที่จะเข้าใจ
แต่กลายเป็นเพียงตัวตลกให้คนรอบข้าง ทั้งคนสนิท ลูกน้องและคนที่สะใจที่สุดคือ ทานตะวัน
จนมาสู่เหตุการณ์ดราม่าของกระแส ถึงสุริเยนทร์จะมีความรุนแรงและใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา
แต่การที่เขามีคนสนิทที่ดีคือทนาย มีจ่ายักษ์ที่นับถือในตัวเขาอย่างจริงใจ และคนงานที่เคารพเขา
คนดูคงได้เห็นแล้ว ทานตะวันก็เห็นและพยายามเข้าใกล้สุริเยนทร์มากขึ้น สุริเยนทร์รู้ดี
เขาจะเลือกวิธีการที่ทำให้นางเอกออกไปจากตัวเขาตามที่เขาตั้งใจ จึงต้องทำให้เธอเกลียดเขาให้ได้
แต่เธอก็ไม่เกลียดเขา จนมาสู่บทสรุปของการหลอมละลาย
เคทเปิดใจคุยกับสุริเยนทร์อีกครั้งหลังจากเหตุการณ์ถูกลอบทำร้าย เคทเลือกจะคุยกับนายภูว่า
ที่เธอเคยบอกกับเขา ว่ายิ่งทำเธอมากเท่าไหร่เธอจะกล้า เพราะจริง ๆ เธอเคยประสบเหตุการณ์เกือบถูกข่มขืน
โดยมีพี่ชายคือ ณพสิทธิ์เป็นคนช่วยไว้ นั้นคือเหตุผลว่าทำไมเธอจึงเข้าข้างณพสทธิ์
จากที่ผ่านมาทำให้เธอคุ้นชินกับสถานการณ์ ไม่ใช่ว่าเธออยากลองดีเพราะเธออยาก และก็ไม่รู้ว่าคนอย่างเขาจะทำเธอไหม
แต่เขาก็ไม่ทำจนมาถึงนาทีเป็นนาทีตาที่เขาช่วยชีวิตเธอ นั้นก็เพียงพอที่เธอที่จะเปิดใจกับเขาได้แล้ว
จากสถานการณ์ที่กล่าวมามันก็แค่ช่วงหนึ่งของบทละคร
ที่ตัวละครตัวหนึ่งเห็นอีกมุมตัวละครหนึ่งตามลำดับแต่เรื่องนี้
เพราะความแรงทีเข้าหากันมันเลยเป็นการหลอมละลาย
ถึงแม้มันจะเป็นการหลอมละลายฝ่ายเดียวแต่จริง ๆ เราก็ได้รู้ภูมิหลังของพระนาง
นอกจากได้รู้จักสุริเยนทร์ว่ากว่าจะเป็นแบบนี้เขาผ่านอะไรมา แม้กระทั้งทานตะวันเราก็รู้จักด้วย
การที่ทานตะวันเป็นอย่างทุกวันนี้ก็เพราะเหตุการณ์นั้น ทำให้ทานตะวันเข้มแข็งและแข็งกร้าวกับผู้ชายทุกคน
ทานตะวันที่มีความมั่นใจ กล้าชน เพราะลึก ๆ เธอต้องการเอาชนะผู้ชาย เพราะผู้ชายที่เธอไว้ใจแค่พี่และพี่ของเพื่อน
ทานตะวันจึงมีเชื่อมั่นในตัวณพสิทธิ์ เพราะบุญคุณในคราวนั้น และนั่นทำให้เธออคติกับสุริเยนทร์
เธอเลยสนุกที่จะต่อต้านกับสุริเยนทร์และเธอชนะเธอจะภูมิใจเช่น ทำให้สุริเยนทร์เสียงสอง การมีความสุขเห็นเจ้าพ่อหมีพู
เพราะมันจะเป็นการเยียวยาความรู้สึกของเธอได้ทางหนึ่งด้วย
ส่วนสุริเยนทร์ที่เขาผลักทานตะวันออกไปจากชีวิต เพราะชีวิตเขาผู้หญิงมาเพื่อเจอ ทำร้าย และจากไป
ไล่มาตั้งแต่ สุรีย์ แม่ของเขา แม่เลี้ยงหรือขิม เขาจึงไม่ใว้ใจผู้หญิงคนไหนและไม่อยากที่เขาต้องเจอแบบนี้กับทานตะวัน
แต่ทานตะวันต่างจนคนอื่น เพราะเธอเข้ามาหาเขาอย่างเรื่อย ๆ ดอกไม้ที่ไม่กลัวดวงอาทิตย์เผาไหม้ทำไมเธอถึงต่างจากคนอื่น
เขาทั้งสองคนจึงเข้าใจกันและกันได้มากและเลือกจะทำวิธีการที่รุนแรงและแตกต่าง
แต่มันคือการหลอมละลายความรู้สึกของของเขาและเธอเหมือนดอกทานตะวันที่จะงดงามเมื่อต้องดวงอาทิตย์
คนบนโลกใบนี้ทุกคนเกิดมาไม่เหมือนกัน บางคนโชคดีที่มีคนช่วยชี้ทางให้เขาไปได้ดีเช่นครูเหมือนละครบางเรื่อง
แต่ความจริงก็มีคนอีกจำนวนหนึ่งเติบโตมาอย่างไม่มีใคร หรือต้องเจอเหตุการณ์ร้ายที่เข้ามาไม่รู้ตัว
เขาไม่มีใครคอยชี้ทางให้ สิ่งที่เขาทำได้คือการเยียวยาตัวเองจนตัวเองเติบโตโดยไม่รู้ว่ามันถูกหรือผิด
ขอบคุณเจ้าของนิยายที่สร้างตัวละครเอกที่เป็นแบบนี้ เพราะเรามักจะเห็นตัวละครแบบนี้ในละครสายขาวสร้างสรรค์สังคม 555+
แต่สามารถนำมาโลดแล่นในเรื่องราวที่โลดโผนที่ดูอ่านเอาสนุกก็ได้ หรือจะอ่านเพื่อเข้าใจตัวละครก็ได้
และบทโทรทัศน์ที่เลือกเล่าอย่างชัดเจนและมีความละเอียดอ่อนทั้งในสถานการณ์สุ่มเสี่ยงแบบนี้
แต่ท้ายสุดบทละครก็ได้หลอมละลายทั้งตัวละครทั้งคนที่ติดตามให้เข้าใจว่า
ท้ายที่สุด ทานตะวันก็หันหน้าเข้าหาดวงอาทิตย์ได้สมบูรณ์ตามแรงตะวัน