DTAC หลุดโผหุ้นปันผลเด่น เข้าจุดอับกลางสมรภูมิสื่อสาร โบรกฯ เสียงแตก ทั้งมองเสี่ยงขาดทุน - พ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -13 ก.ค. 59 14:00 น.
หุ้น DTAC สุดผันผวน หลังประกาศงบโค้ง 2/59 สุดเซอร์ไพร์ส กำไรทรุด 90% งานนี้กูรูเสียงแตก วิเคราะห์ต่างกันสุดขั้ว "เมย์แบงก์ กิมเอ็ง" มองร้ายสุด คาดเห็นขาดทุนครั้งแรกในครึ่งหลังของปีนี้ และไร้ศักยภาพปันผลไปจนปี 61 แนะนำขายให้ราคาพื้นฐานแค่ 25.50 บาท ส่วนฝั่งมองดี บล.ทิสโก้ - ทรีนีตี้ ประเมินงบ Q2/59 เป็นจุดต่ำสุด และมีแนวโน้มฟื้นตัว เคาะราคาเหมาะสมสูงลิ่ว 55 บาท
ราคาหุ้นบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC เคลื่อนไหวผันผวนในเช้าวันนี้ โดยเปิดที่ 31.25 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 1.57% และขยับลงต่ำสุดถึง 30 บาท ลดลง 1.75 บาท หรือ 5.51 % ถือเป็นจุดต่ำสุดในรอบ 4 เดือนเศษ ก่อนจะพลิกเป็นบวกที่ 32.50 บาท และปิดการซื้อขายภาคเช้าไปที่ 31.75 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 999.27 ล้านบาท เป็นอันดับ 10 ของหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดเช้าวันนี้
DTAC เป็นผู้ให้บริการสัญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่รายสำคัญในอุตสาหกรรมที่พลาดการประมูลคลื่น 4G ทั้ง 1800MHz และ 900 MHz ในครั้งที่ผ่านมา ส่งผลให้สถานการณ์ธุรกิจแข่งขันได้ลำบาก อีกทั้งคลื่นที่มีอยู่ในมือคือ 1800MHz และ 850MHz จวนหมดอายุสัมปทานในอีก 3 ปี
ราคาหุ้น DTAC ที่ร่วงลงชัดเจนในช่วงเช้า เป็นการตอบรับประกอบการไตรมาส 2/59 ที่มีกำไรสุทธิ 141.27 ล้านบาท ลดลง 90% จากช่วงเดียวกันปีก่อนและลดลง 89% จากไตรมาสก่อนหน้า กดดันให้กำไรสุทธิรวมครึ่งปี 59 นี้อยู่ที่ 1,397.01 ล้านบาท ลดลง 62% จากครึ่งแรกของปี 58
สาเหตุหลักเกิดจากค่าใช้จ่ายอุดหนุนค่าเครื่องเพื่อกันลูกค้าไหลออกที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายสูงขึ้นจากการขยายโครงข่าย รวมทั้งมี EBITDA ที่ลดลง และค่าใช้จ่ายพิเศษในการปรับโครงสร้างจำนวน 394 ล้านบาท
ผลงานที่ย่ำแย่นี้นักวิเคราะห์ต่างยอมรับว่า ต่ำกว่าที่ประเมินไว้มาก ในขณะที่มุมมองที่มีต่อ DTAC มีหลากหลาย และต่างกันค่อนข้างมาก ทั้งมองว่ามีโอกาสที่จะเห็น DTAC ขาดทุนครั้งแรกในครึ่งหลังของปีนี้ และมองว่าไตรมาส 2/59 ที่ผ่านมาเป็นจุดต่ำสุดแล้ว และจะดีขึ้นในไตรมาสต่อๆไป โดยให้ราคาเหมาะสมต่ำสุด 25.50 บาท และสูงสุดถึง 55 บาท
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุว่า DTAC มีความเสี่ยงที่จะประกาศขาดทุนเป็นครั้งแรกในครึ่งหลังของปีนี้ จากการต้องพยายามรักษาส่วนแบ่งการตลาดให้ได้ จะบีบให้ DTAC ต้องออก Campaign การตลาดจำนวนมากเป็นภาระด้านต้นทุนต่อไป โดยไม่คิดว่า DTAC จะสามารถดึงโมเมนตัมของรายได้กลับมาได้ จากข้อจำกัดด้านการลงทุนและข้อจำกัดในการใช้จ่ายที่สูงขึ้นจากฐานกำไรที่เริ่มเข้าใกล้จุดขาดทุน และคาดว่าเกิดภาวะขาดทุนที่มากขึ้นในปี 60-61 ซึ่งจะกระทบกับการจ่ายเงินปันผลด้วย แนะนำขาย มูลค่าพื้นฐาน 25.50 บาท
บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) มองว่า อีก 6 เดือนข้างหน้าจะยังเป็นช่วงที่ยากลำบากสำหรับ DTAC ที่จะต้องพยายามรักษาทั้งส่วนแบ่งตลาด และส่วนแบ่งรายได้ในตลาดเอาไว้ ทำให้ต้นทุนและค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น โดยบริษัทจะยังคงอุดหนุนค่าเครื่องต่อไปใน 2H16 พร้อมกับเร่งขยายโครงข่าย 4G เพื่อให้ครอบคลุมทุกเขตภายใน 3Q16 และสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ไปพร้อมๆ กัน ทำให้มีแนวโน้มปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปีนี้ลง 30% - 35% จากประมาณการเดิมที่ 4.13 พันล้านบาท ซึ่งจะทำให้กำไรสุทธิปีนี้ลดลงถึง 60% - 65%จากปีก่อน
บล. ทรีนีตี้ มีมุมมองค่อนข้างดีว่าไตรมาส 2/59 ที่ผ่านมา น่าจะเป็นจุดต่ำสุดของ DTAC และไตรมาส 3/59 น่าจะเห็นผลการดำเนินงานเติบโตได้ และราคาหุ้นในวันนี้รับรู้ข่าวร้ายไปหมดแล้ว เช่นเดียวกันกับที่ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ที่เชื่อว่าเรื่องร้ายๆ ได้จบสิ้นไปแล้ว
เช่นเดียวกับ บล.ทิสโก้ ที่ให้ราคาเหมาะสมสูงถึง 55 บาท
อีกหนึ่งข้อสังเกต คือการจ่ายปันผลของ DTAC ที่แม้ จะปันผลระหว่างกาลงวดครึ่งปีหุ้นละ 0.42 บาท ขึ้น XD วันที่ 25 ก.ค. นี้ แต่ก็ถือว่าผิดไปจากปกติที่จ่ายปันผลทุกไตรมาส
โดย บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุว่า วิเคราะห์จาก retained earning ปัจจุบันของ DTAC คาดว่าบริษัทฯ จะสามารถจ่ายเงินปันผลในระดับนี้ไปได้อีกประมาณ 2 ไตรมาส โดยคาดเงินปันผลต่อหุ้นทั้งปีที่ประมาณ 1.38 บาท/หุ้น
แต่หากเทียบกับปีก่อนที่จ่ายปันผลทั้งปีรวม 2.93 บาท ก็ต้องนับว่าลดลงไปอย่างมาก!!
ส่องกล้องราคาเหมาะสมและคำแนะนำหุ้น DTAC จาก 7 โบรกเกอร์ ดังนี้
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย) แนะนำขาย มูลค่าพื้นฐาน 25.50 บาท
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) แนะนำขาย ราคาเหมาะสม 29.00 บาท
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) แนะนำ Fully Valued ราคาพื้นฐาน 33.00 บาท
บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) แนะนำถือ ราคาเป้าหมาย 34.00 บาท
บล.ทรีนีตี้ แนะนำ Trading Buy ราคาเป้าหมาย 38.64 บาท
บล.ซีไอเอ็มบี แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 41 บาท
บล.ทิสโก้ แนะนำซื้อ มูลค่าที่เหมาะสม 55 บาท
ส่วนเชิงกราฟเทคนิค บล.ธนชาต แนะนำเก็งกำไรในกรอบการเคลื่อนไหวมีแนวรับที่ 31.50 บาท แนวต้าน 33 บาท จุดตัดขาดทุน 30.25 บาท โดยหากหลุดระดับนี้แล้วมีแรงขายตามอาจลงไปลึกถึง 27.50 บาท
DTAC ยังต้องผ่านบทพิสูจน์อีกมาก ท่ามกลางการแข่งขันอันดุเดือดในวงการมือถือ ขณะที่นักวิเคราะห์มีความคิดเห็นต่างกันสุดขั้ว นักลงทุนจึงจำเป็นต้องหาข้อมูลและตัดสินใจด้วยตัวเอง ว่าจะเลือกลงทุนในหุ้นตัวนี้หรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากนี้เป็นต้นไปที่ DTAC อาจหลุดจากทำเนียบหุ้นปันผลเด่นไปอีกนาน
http://www.efinancethai.com/LastestNews/index.aspx?id=GC7vJ5uuHc8%3D&year=2016&month=7&lang=T&security=DTAC
ราคาล่าสุด
สำนักงานใหญ่ ดีแทค ขึ้นข้อความ " dtac WE RISE "
DTAC หลุดโผหุ้นปันผลเด่น เข้าจุดอับกลางสมรภูมิสื่อสาร โบรกฯ เสียงแตก ทั้งมองเสี่ยงขาดทุน - พ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -13 ก.ค. 59 14:00 น.
หุ้น DTAC สุดผันผวน หลังประกาศงบโค้ง 2/59 สุดเซอร์ไพร์ส กำไรทรุด 90% งานนี้กูรูเสียงแตก วิเคราะห์ต่างกันสุดขั้ว "เมย์แบงก์ กิมเอ็ง" มองร้ายสุด คาดเห็นขาดทุนครั้งแรกในครึ่งหลังของปีนี้ และไร้ศักยภาพปันผลไปจนปี 61 แนะนำขายให้ราคาพื้นฐานแค่ 25.50 บาท ส่วนฝั่งมองดี บล.ทิสโก้ - ทรีนีตี้ ประเมินงบ Q2/59 เป็นจุดต่ำสุด และมีแนวโน้มฟื้นตัว เคาะราคาเหมาะสมสูงลิ่ว 55 บาท
ราคาหุ้นบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC เคลื่อนไหวผันผวนในเช้าวันนี้ โดยเปิดที่ 31.25 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 1.57% และขยับลงต่ำสุดถึง 30 บาท ลดลง 1.75 บาท หรือ 5.51 % ถือเป็นจุดต่ำสุดในรอบ 4 เดือนเศษ ก่อนจะพลิกเป็นบวกที่ 32.50 บาท และปิดการซื้อขายภาคเช้าไปที่ 31.75 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 999.27 ล้านบาท เป็นอันดับ 10 ของหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดเช้าวันนี้
DTAC เป็นผู้ให้บริการสัญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่รายสำคัญในอุตสาหกรรมที่พลาดการประมูลคลื่น 4G ทั้ง 1800MHz และ 900 MHz ในครั้งที่ผ่านมา ส่งผลให้สถานการณ์ธุรกิจแข่งขันได้ลำบาก อีกทั้งคลื่นที่มีอยู่ในมือคือ 1800MHz และ 850MHz จวนหมดอายุสัมปทานในอีก 3 ปี
ราคาหุ้น DTAC ที่ร่วงลงชัดเจนในช่วงเช้า เป็นการตอบรับประกอบการไตรมาส 2/59 ที่มีกำไรสุทธิ 141.27 ล้านบาท ลดลง 90% จากช่วงเดียวกันปีก่อนและลดลง 89% จากไตรมาสก่อนหน้า กดดันให้กำไรสุทธิรวมครึ่งปี 59 นี้อยู่ที่ 1,397.01 ล้านบาท ลดลง 62% จากครึ่งแรกของปี 58
สาเหตุหลักเกิดจากค่าใช้จ่ายอุดหนุนค่าเครื่องเพื่อกันลูกค้าไหลออกที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายสูงขึ้นจากการขยายโครงข่าย รวมทั้งมี EBITDA ที่ลดลง และค่าใช้จ่ายพิเศษในการปรับโครงสร้างจำนวน 394 ล้านบาท
ผลงานที่ย่ำแย่นี้นักวิเคราะห์ต่างยอมรับว่า ต่ำกว่าที่ประเมินไว้มาก ในขณะที่มุมมองที่มีต่อ DTAC มีหลากหลาย และต่างกันค่อนข้างมาก ทั้งมองว่ามีโอกาสที่จะเห็น DTAC ขาดทุนครั้งแรกในครึ่งหลังของปีนี้ และมองว่าไตรมาส 2/59 ที่ผ่านมาเป็นจุดต่ำสุดแล้ว และจะดีขึ้นในไตรมาสต่อๆไป โดยให้ราคาเหมาะสมต่ำสุด 25.50 บาท และสูงสุดถึง 55 บาท
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุว่า DTAC มีความเสี่ยงที่จะประกาศขาดทุนเป็นครั้งแรกในครึ่งหลังของปีนี้ จากการต้องพยายามรักษาส่วนแบ่งการตลาดให้ได้ จะบีบให้ DTAC ต้องออก Campaign การตลาดจำนวนมากเป็นภาระด้านต้นทุนต่อไป โดยไม่คิดว่า DTAC จะสามารถดึงโมเมนตัมของรายได้กลับมาได้ จากข้อจำกัดด้านการลงทุนและข้อจำกัดในการใช้จ่ายที่สูงขึ้นจากฐานกำไรที่เริ่มเข้าใกล้จุดขาดทุน และคาดว่าเกิดภาวะขาดทุนที่มากขึ้นในปี 60-61 ซึ่งจะกระทบกับการจ่ายเงินปันผลด้วย แนะนำขาย มูลค่าพื้นฐาน 25.50 บาท
บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) มองว่า อีก 6 เดือนข้างหน้าจะยังเป็นช่วงที่ยากลำบากสำหรับ DTAC ที่จะต้องพยายามรักษาทั้งส่วนแบ่งตลาด และส่วนแบ่งรายได้ในตลาดเอาไว้ ทำให้ต้นทุนและค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น โดยบริษัทจะยังคงอุดหนุนค่าเครื่องต่อไปใน 2H16 พร้อมกับเร่งขยายโครงข่าย 4G เพื่อให้ครอบคลุมทุกเขตภายใน 3Q16 และสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ไปพร้อมๆ กัน ทำให้มีแนวโน้มปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปีนี้ลง 30% - 35% จากประมาณการเดิมที่ 4.13 พันล้านบาท ซึ่งจะทำให้กำไรสุทธิปีนี้ลดลงถึง 60% - 65%จากปีก่อน
บล. ทรีนีตี้ มีมุมมองค่อนข้างดีว่าไตรมาส 2/59 ที่ผ่านมา น่าจะเป็นจุดต่ำสุดของ DTAC และไตรมาส 3/59 น่าจะเห็นผลการดำเนินงานเติบโตได้ และราคาหุ้นในวันนี้รับรู้ข่าวร้ายไปหมดแล้ว เช่นเดียวกันกับที่ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ที่เชื่อว่าเรื่องร้ายๆ ได้จบสิ้นไปแล้ว
เช่นเดียวกับ บล.ทิสโก้ ที่ให้ราคาเหมาะสมสูงถึง 55 บาท
อีกหนึ่งข้อสังเกต คือการจ่ายปันผลของ DTAC ที่แม้ จะปันผลระหว่างกาลงวดครึ่งปีหุ้นละ 0.42 บาท ขึ้น XD วันที่ 25 ก.ค. นี้ แต่ก็ถือว่าผิดไปจากปกติที่จ่ายปันผลทุกไตรมาส
โดย บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุว่า วิเคราะห์จาก retained earning ปัจจุบันของ DTAC คาดว่าบริษัทฯ จะสามารถจ่ายเงินปันผลในระดับนี้ไปได้อีกประมาณ 2 ไตรมาส โดยคาดเงินปันผลต่อหุ้นทั้งปีที่ประมาณ 1.38 บาท/หุ้น
แต่หากเทียบกับปีก่อนที่จ่ายปันผลทั้งปีรวม 2.93 บาท ก็ต้องนับว่าลดลงไปอย่างมาก!!
ส่องกล้องราคาเหมาะสมและคำแนะนำหุ้น DTAC จาก 7 โบรกเกอร์ ดังนี้
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย) แนะนำขาย มูลค่าพื้นฐาน 25.50 บาท
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) แนะนำขาย ราคาเหมาะสม 29.00 บาท
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) แนะนำ Fully Valued ราคาพื้นฐาน 33.00 บาท
บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) แนะนำถือ ราคาเป้าหมาย 34.00 บาท
บล.ทรีนีตี้ แนะนำ Trading Buy ราคาเป้าหมาย 38.64 บาท
บล.ซีไอเอ็มบี แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 41 บาท
บล.ทิสโก้ แนะนำซื้อ มูลค่าที่เหมาะสม 55 บาท
ส่วนเชิงกราฟเทคนิค บล.ธนชาต แนะนำเก็งกำไรในกรอบการเคลื่อนไหวมีแนวรับที่ 31.50 บาท แนวต้าน 33 บาท จุดตัดขาดทุน 30.25 บาท โดยหากหลุดระดับนี้แล้วมีแรงขายตามอาจลงไปลึกถึง 27.50 บาท
DTAC ยังต้องผ่านบทพิสูจน์อีกมาก ท่ามกลางการแข่งขันอันดุเดือดในวงการมือถือ ขณะที่นักวิเคราะห์มีความคิดเห็นต่างกันสุดขั้ว นักลงทุนจึงจำเป็นต้องหาข้อมูลและตัดสินใจด้วยตัวเอง ว่าจะเลือกลงทุนในหุ้นตัวนี้หรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากนี้เป็นต้นไปที่ DTAC อาจหลุดจากทำเนียบหุ้นปันผลเด่นไปอีกนาน
http://www.efinancethai.com/LastestNews/index.aspx?id=GC7vJ5uuHc8%3D&year=2016&month=7&lang=T&security=DTAC
ราคาล่าสุด