===========
หนู(น้อย)
===========
ผมเห็นเด็กหญิงตัวน้อยๆด้อมๆมองๆอยู่กับกล่องกระดาษ วางอยู่ข้างสนามหญ้าเล็กๆในเขตรั้วบ้านใกล้กับประตู
"จุ้ๆๆ..!" เด็กหญิงอายุไม่เกินแปดขวบอยู่ริมประตูรั้วเอามือแตะริมฝีปาก มองหน้าผมเป็นสัญญาณไม่ให้เอะอะเสียงดัง แล้วหันไปมองไปในตัวบ้านอย่างหวาดระแวง
"หนูเลี้ยงหนูตะเภาค่ะ เพื่อนให้เป็นของขวัญวันเกิดแต่แม่ไม่ยอมให้เลี้ยง ไม่ให้จับเล่น บอกว่ามีเชื้อโรค ฉี่มันก็เหม็น เลยต้องเอามาเลี้ยงนอกบ้านค่ะ"
ว่าพลางหนูน้อยเอาเศษขนมปังวางลงในกล่องกระดาษอย่างระมัดระวัง หยิบถ้วยพลาสติกเล็กๆออกจากกล่อง เดินไปเปลี่ยนน้ำในถ้วยที่ก๊อกน้ำข้างสนามหญ้าริมรั้ว ก่อนนำมาวางในกล่องกระดาษที่เต็มไปด้วยเศษใบไม้กิ่งไม้ เธอหันมายิ้มสดใสบอกอีกว่า
"มันน่ารักนะคะ หนูตะเภาตัวขาวๆ นุ่มๆ ซนมากด้วยวิ่งไม่ยอมอยู่นิ่งเลย แต่หนูไม่มีกล่องเล็กให้มันอยู่ สงสัยป่านนี้คงนอนหลับอยู่ในกล่องหนูไม่เจอมันหลายวันแล้ว แต่มันคงหลบอยู่ในกล่องนี้แหละค่ะ”
สายตาคู่นั้นเป็นประกายสดใส มีความสุข มีชีวิตชีวา
ผมชอบมองนัยน์ตาของเด็ก จะสุขจะเศร้าอย่างไรมันชัดเจนบริสุทธิ์เหลือเกิน ปราศจากมารยาสาไถ ผมเคยเลี้ยงหนูหลายชนิดตั้งแต่หนูตะเภา หนูแกสบี้ หนูแฮมเตอร์ แต่พวกมันลาลับดับหายไปนานแล้ว ยังจดจำ ตาโตแดงๆของบรรดาหนูที่ดูเหมือนเต้นระริกแสดงความรู้สึกอันยากต่อการเข้าใจได้
ผมรู้สึกว่าหนูน้อยคนนี้ไม่ได้เลี้ยงแค่หนูตัวหนึ่ง แต่เธอกำลังหล่อเลี้ยงดูแลใส่ใจความรักความเมตตาให้เจริญเติบโตขึ้นมาในจิตวิญญาณ เชื่อว่าสิ่งสวยงามที่เธอปลูกฝังจะทำให้เข้าถึงคุณค่าและความหมายของคำว่าชีวิตและหัวใจอันอ่อนโยนในอนาคต
บ้านของหนูน้อยอยู่ไม่ห่างจากบ้านของผมมากนัก นี่คือเหตุผลที่ผมมักจะเห็นเธอแอบมาวุ่นวายอยู่กับกล่องกระดาษใบนี้ในเวลาเย็นๆหลังเลิกเรียนหลายวันแล้ว
เสียงแม่ร้องเรียก หนูน้อยรีบร้องตอบรับ ก่อนวิ่งเข้าไปในบ้าน เธอไม่มีโอกาสแม้แต่จะมองหาหนูตะเภาตัวนั้น
ผมจะบอกเธออย่างไรดี บอกให้เธอรับความจริงหรือจะปล่อยให้เธอรู้ความจริงด้วยตัวเอง กับการที่ผมบังเอิญเห็นแมวตัวหนึ่งคาบหนูตะเภาออกมาจากกล่องใบนั้นสองสามวันมานี่เอง
++++
จบแล้วเด้อ^^
หนู(น้อย)
หนู(น้อย)
===========
ผมเห็นเด็กหญิงตัวน้อยๆด้อมๆมองๆอยู่กับกล่องกระดาษ วางอยู่ข้างสนามหญ้าเล็กๆในเขตรั้วบ้านใกล้กับประตู
"จุ้ๆๆ..!" เด็กหญิงอายุไม่เกินแปดขวบอยู่ริมประตูรั้วเอามือแตะริมฝีปาก มองหน้าผมเป็นสัญญาณไม่ให้เอะอะเสียงดัง แล้วหันไปมองไปในตัวบ้านอย่างหวาดระแวง
"หนูเลี้ยงหนูตะเภาค่ะ เพื่อนให้เป็นของขวัญวันเกิดแต่แม่ไม่ยอมให้เลี้ยง ไม่ให้จับเล่น บอกว่ามีเชื้อโรค ฉี่มันก็เหม็น เลยต้องเอามาเลี้ยงนอกบ้านค่ะ"
ว่าพลางหนูน้อยเอาเศษขนมปังวางลงในกล่องกระดาษอย่างระมัดระวัง หยิบถ้วยพลาสติกเล็กๆออกจากกล่อง เดินไปเปลี่ยนน้ำในถ้วยที่ก๊อกน้ำข้างสนามหญ้าริมรั้ว ก่อนนำมาวางในกล่องกระดาษที่เต็มไปด้วยเศษใบไม้กิ่งไม้ เธอหันมายิ้มสดใสบอกอีกว่า
"มันน่ารักนะคะ หนูตะเภาตัวขาวๆ นุ่มๆ ซนมากด้วยวิ่งไม่ยอมอยู่นิ่งเลย แต่หนูไม่มีกล่องเล็กให้มันอยู่ สงสัยป่านนี้คงนอนหลับอยู่ในกล่องหนูไม่เจอมันหลายวันแล้ว แต่มันคงหลบอยู่ในกล่องนี้แหละค่ะ”
สายตาคู่นั้นเป็นประกายสดใส มีความสุข มีชีวิตชีวา
ผมชอบมองนัยน์ตาของเด็ก จะสุขจะเศร้าอย่างไรมันชัดเจนบริสุทธิ์เหลือเกิน ปราศจากมารยาสาไถ ผมเคยเลี้ยงหนูหลายชนิดตั้งแต่หนูตะเภา หนูแกสบี้ หนูแฮมเตอร์ แต่พวกมันลาลับดับหายไปนานแล้ว ยังจดจำ ตาโตแดงๆของบรรดาหนูที่ดูเหมือนเต้นระริกแสดงความรู้สึกอันยากต่อการเข้าใจได้
ผมรู้สึกว่าหนูน้อยคนนี้ไม่ได้เลี้ยงแค่หนูตัวหนึ่ง แต่เธอกำลังหล่อเลี้ยงดูแลใส่ใจความรักความเมตตาให้เจริญเติบโตขึ้นมาในจิตวิญญาณ เชื่อว่าสิ่งสวยงามที่เธอปลูกฝังจะทำให้เข้าถึงคุณค่าและความหมายของคำว่าชีวิตและหัวใจอันอ่อนโยนในอนาคต
บ้านของหนูน้อยอยู่ไม่ห่างจากบ้านของผมมากนัก นี่คือเหตุผลที่ผมมักจะเห็นเธอแอบมาวุ่นวายอยู่กับกล่องกระดาษใบนี้ในเวลาเย็นๆหลังเลิกเรียนหลายวันแล้ว
เสียงแม่ร้องเรียก หนูน้อยรีบร้องตอบรับ ก่อนวิ่งเข้าไปในบ้าน เธอไม่มีโอกาสแม้แต่จะมองหาหนูตะเภาตัวนั้น
ผมจะบอกเธออย่างไรดี บอกให้เธอรับความจริงหรือจะปล่อยให้เธอรู้ความจริงด้วยตัวเอง กับการที่ผมบังเอิญเห็นแมวตัวหนึ่งคาบหนูตะเภาออกมาจากกล่องใบนั้นสองสามวันมานี่เอง
++++
จบแล้วเด้อ^^