เมื่อไหร่จะเข้าใจซักทีว่านักศึกษาฝึกงานไม่ใช่คนรับใช้ส่วนตัว

ช่วงนี้หลายๆ บริษัท หลายๆ องค์กรมีนักศึกษามาฝึกงาน แต่จากที่เห็น พี่ๆ หลายๆ คนในหลายๆ บริษัท หลายๆ องค์กร treat น้องนักศึกษาแล้วรู้สึกสงสารน้องๆ และรู้สึกอายแทนบริษัท ที่ต้องมาเจอคนบางกลุ่มที่ยังไม่เข้าใจ หรือเข้าใจแต่ไม่สนใจวัตถุประสงค์ของการมาฝึกงานของน้องๆ นักศึกษา เค้ามาเพราะต้องการประสบการณ์ในการทำงานใน industry ของคุณ เค้าไม่ได้มาเป็นคนรับใช้ส่วนตัวของพวกคุณ คอยรับโทรศัพท์ ชงกาแฟ ถ่ายเอกสาร ทำลายเอกสาร ไปยืนรอหิ้วของลงจากรถ ไปซื้ออาหารกลางวัน ไปธนาคารจ่ายค่าบัตรเครดิต คุณควรป้อนงานให้เค้าทำ assign project ให้เค้าช่วย คุณก็คอยดู คอยเป็น mentor ให้เค้าได้เรียนรู้ ได้ประสบการณ์จากการมาลองทำงาน พวกคุณอาจจะคิดว่าทำไมฉันต้องทำ ถ้าไม่ทำก็ไม่ต้องไปรับเค้าเข้ามาฝึกงาน เพราะฉะนั้นหน่วยงานที่สำคัญของเรื่องนี้เลยคือฝ่ายบุคคลที่รับน้องๆเหล่านี้เข้ามาฝึกงาน คุณต้อง brief และแจ้งหน่วยงานที่คุณจะส่งน้องๆ ไปฝึกงานว่าเค้ามาเพื่ออะไร และควร treat เค้ายังไง ไม่ใช่ปล่อยไปตามมีตามเกิด ตามเวรตามกรรม อยากจะใช้ทำอะไรก็ทำ เค้าไม่ใช่คนรับใช้ส่วนตัวของใคร เค้ามาฝึกงาน มาช่วยงานบริษัท ฝ่ายบุคคลควรจะบอกไปด้วยทำไมเราจึงควร treat น้องๆ เค้าให้เหมาะสมและ benefits ที่บริษัทจะได้จากการรับนักศึกษาฝึกงานเข้ามาคืออะไร แต่ถ้าคิดว่าบริษัททำไม่ได้ ไม่พร้อม และยังตอบไม่ได้ว่าจะ treat นักศึกษาไปเพื่ออะไร ก็ไม่ต้องรับน้องๆ เค้าเข้ามา เสียชื่อบริษัทเปล่าๆ

แต่ถ้ายังนึกไม่ออกจริงๆ ว่าบริษัทจะได้อะไรก็จะบอกให้ ลองนึกกว้างๆ นึกไกลๆ มองไกลๆ หน่อย
1. คุณได้แรงทำงานเพิ่มโดยที่ไม่ต้องจ่ายค่าตอบแทนเป็นเงิน เพราะฉะนั้นสิ่งที่คุณจะตอบแทนน้องๆ นักศึกษาได้คือประสบการณ์ทำงานต่างๆ

2. ชื่อเสียงองค์กร แล้วนักศึกษาเค้ากลับไปเค้าไปพูดถึงองค์กรตัวเองยังไงบ้าง เพราะเค้าต้องกลับไปเล่าให้อาจารย์เค้าฟัง ต้องไป debrief เค้าต้องไปแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆ เค้าฟัง

3. สร้างสัมพันธ์ที่ดีกับการสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียง ถ้าบริษัท treat นักศึกษาเค้าดี เหมาะสม สถาบันการศึกษาชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศก็อยากส่งนักศึกษามาฝึกงาน ใครจะรู้สุดท้ายบริษัทก็อาจจะได้คนเก่งๆ มาร่วมงานด้วย เพราะน้องๆ ที่มาฝึกถ้าเค้าประทับใจการฝึกงาน การดูแลของบริษัท เค้าก็อยากกลับมาทำงานด้วย

4. นอกจากนั้นเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กรในอีกทางหนึ่ง เป็น CSR Project ได้เลยด้วยซ้ำไป

เปลี่ยนมุมมองและปรับทัศนคติใหม่เสียที อาจจะมองเป็นเรื่องเล็กๆ นะแต่มันเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการสร้างคนที่จะใช้ในการพัฒนาประเทศ ลองไปดูประเทศที่เค้าพัฒนาแล้ว ประเทศที่มีระบบการศึกษาที่มี เค้ามี scheme ในการพัฒนาคนของเค้ายังไง และย้ำอีกครั้งว่า  ถ้าคิดว่าบริษัททำไม่ได้ ไม่พร้อม ก็ไม่ต้องรับน้องๆ เค้าเข้ามาให้เสียชื่อบริษัทเปล่าๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่