ทำไมใจเราถึงเต้นรัวเวลาเจอหน้าพี่ผู้หญิงคนนึง ทั้งๆที่เราก็เป็นผู้หญิงเหมือนกัน????

กระทู้สนทนา
สวัสดีค่ะเพื่อนๆในพันทิปทุกคน เรื่องที่เรากำลังจะเล่าให้ฟังต่อไปนี้
เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเราเองจนเราสับสนกับตัวเองมาก ที่ว่าสับสนก็ไม่ใช่จะสับสนอะไรหรอก
เราสับสนเพศเรานี่แหละ แหะๆ เราอาจจะเล่าเรื่องไม่ค่อยเก่งนะ เพราะไม่เคยตั้งกระทู้มาก่อน
แต่ก็จะพยายามเล่าให้เข้าใจมากที่สุด ขอเริ่มเรื่องเลยนะ เรื่องมีอยู่ว่า.....
    เราชื่อน้ำนะตอนนี้อายุ17 แล้วอยู่ม.5 โรงเรียนมัธยมทั่วไปแต่โรงเรียนเราจะมีผู้ชายเยอะมากเยอะกว่าผู้หญิงหลายเท่าเลย
ผู้หญิงในห้องเรามีแค่10กว่าคนเอง เราได้รับคัดเลือกเป็นนักบาสของโรงเรียน เพราะเราตัวสูงมากกก
เราเป็นคนไม่ค่อยมีระเบียบนะเพราะว่าเราอยู่กับผู้ชายเยอะมาก เราจะห่ามๆห้าวๆด้วยเพราะเป็นนักกีฬานี่แหละ เราเลยชอบทำอะไรลุยๆ
เรามีเพื่อนเยอะมากค่อนข้างติดเพื่อน ยอมรับเลยนะว่าตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีแฟน มีแค่คนคุยๆแต่เป็นผู้ชายนะ ขอย้ำเลย
เราไม่เคยคุยกะผู้หญิงมาก่อน จนกระทั่งวันนึงมันเป็นจุดเริ่มต้นเลยที่ทำให้เรารู้สึกแปลกๆกับตัวเอง
    คือวันนั้นเราตื่นสายแต่มันก็ปกติของเรานะแต่วันนั้นมันเป็นวันปิดเทอมใหม่ไง ครูเลยค่อนข้างเคร่งนิดนึงเพราะปกติเราไปโรงเรียน8.30
ประตูยังเปิดอยู่เลย แต่วันนี้ประตูปิดซะแล้วทั้งๆที่ยัง8โมงกว่าๆอยู่เลย  มีทางเดียวที่เราจะเข้าไปในโรงเรียนได้ก็คือการปีนรั้วข้างๆโรงเรียน
เข้าไปด้วยความที่เราสูงเราก็เหวี่ยงกระเป๋าลงก่อน ละเราก็กระโดดขึ้นกำแพงมาละ เด็กผู้ชายอีกสองสามคนก็ตามหลังเรามานะ
เตรียมจะโดดต่อเราแต่เราขึ้นไปได้แค่ครึ่งตัวก็ต้องผงะ เพราะมีผู้หญิงตัวเล็กๆผมสั้นคนนึงยีนชี้หน้าเราอยู่
เราตัดสินใจปีนเข้าไปในโรงเรียนเพราะถ้าปีนกลับก็คงไม่ได้เรียนแถมยังจะโดนเรียกผู้ปกครองอีกเลยยอมลงไป
ลงมาได้พี่แกเดินมาจดชื่อก่อนเลย  “อันตรายมากนะ ถ้าตกลงมาแข้งขาหักจะทำยังไง”
เรายืนมองหน้าพี่แกพักใหญ่เลยเพราะไม่เคยเจอมาก่อน “ยังมายิ้มอีก ตลกมากหรอไง”
พี่แกทำท่าทางดุๆแต่มองยังไงก็ไม่น่ากลัวอ่ะน่า รักมากกว่า เราแปลกใจนะที่เราเผลอยิ้มออกไปโดยที่เราไม่รู้ตัวเลย
“วันนี้เป็นวันแรกพี่จะไม่อาเรื่องนะ แต่ถ้ามีวันอื่นพี่จะจดชื่อส่งฝ่ายปกครอง ไปได้ค่ะ” เราก้มลงขอบคุณแล้วยิ้มให้ละเดินออกมาเลย
ใจเราเต้นแปลกมาก มันสั่นๆจนพูดไม่ออกเลยอ่ะ55555+  และนี่ก้เป็นครั้งแรกที่เราเจอพี่เขา บอกเลยว่าเรารู้สึกเหมือนจะอิจฉาที่พี่แกน่ารัก
แต่อีกใจก็เหมือนจะชอบๆ งงกะตัวเองมากเลย
     จนกระทั่งตอนเย็น เราซ้อมบาสจนถึงช่วงพักเบรก5โมงกว่าๆ เราเลยจะเดินไปเข้าห้องน้ำ
ก็ไปเจอกับพี่คนเดิมกำลังหาอะไรอยู่ก็ไม่รู้ดูยุ่งๆเราเลยเดินเข้าไปหา “หาไรอ่ะคะ ให้ช่วยไหม”
พี่แกมัวแต่เหลียวหาอะไรไม่รู้ไม่มองมาทางเราเลยนะ “หาเก้าอี้อ่ะ เอ้า! น้องนี่เอง”
เราก็ได้แต่ยิ้มตอบไปแล้วถามซ้ำว่าหาอะไรอยู่จนได้คำตอบว่าพี่แกลืมโทศัพท์ไว้ที่อาคารเกษตร
เราจะบอกก่อนว่าที่อาคารเกษตรเคยมีภารโรงตกจากหลังคามาเสียชีวิตด้วย
เย็นๆมาไม่ค่อยมีใครกล้าผ่านสักเท่าไหร่ “ไปส่งหน่อยสิ นะๆพี่ลืมโทรศัพท์ไว้
จะให้ไปคนเดียวก็ไม่ไหวอ่ะเพื่อนมาเล่าให้ฟังว่าอาคารมีประวัติอ่ะ” เห็นพี่แกอ้อนเราก็ใจอ่อนอย่างบอกไม่ถูกเลย “หมายถึงผีภารโรงน่ะหรอ”
เรายังพูดไม่ทันจบพี่แกก็รีบวิ่งเอามือมาปิดปากเราใหญ่ทำท่าทางกลัว จนเราอดหัวเราะไม่ได้จริงๆ
“อย่าพูดสิ คนยิ่งกลัวๆอยู่ ปีนเข้าไปเอาให้เลยนะ โทษฐานที่แกล้งกัน” เอ้ากลายเป็นเราต้องปีนหน้าต่างเข้าไปเอาซะงั้น
อาคารเป็นอาคารชั้นเดียวจึงไม่ยากถ้าจะปีนแต่หน้าต่างก็สูงมากนะ5555+
เราปีนขึ้นไปเอาโทรศัพท์มาให้สำเร็จตอนขาปีนขึ้นไม่เท่าไหร่แต่ขาปีนลงนี่สิ
เราเกร็งขาไว้เพื่อจะได้ช่วยในการยึดตอนปีนลงเอ็นเลยยึดเข้าที่ขา เจ็บมากร้องจ้ากเลย
พี่แกก็รีบวิ่งมาดู เราพยายามบอกว่าไม่เปนไรนะแต่ก็เดินกระเผกๆ เพราะมันปวดมาก พี่แกเข้ามาประคองน้ำหอมกลิ่นเดิมเลย 555+
เราจำได้ เหมือนคนหื่นป่ะแต่เราจำได้จริงๆ555 เรามานั่งพักตรงไม้หินอ่อนหน้าห้องน้ำสักพักมองท้องฟ้าเริ่มมืดแล้ว
พี่แกก้ไม่กล้าขอกลับบ้านเพราะคงคิดว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้เราเจ็บ “พี่เอารถจอดไว้ไหนอ่ะเดี๋ยวน้ำไปส่งเอารถ”
พี่แกก็ทำหน้าเหวอๆงงสักพักนึงละตอบมาว่า “พี่ขึ้นรถประจำทางกลับบ้าน” เราก็ตกใจเลยเพราะตอนนี้ก็6โมงกว่าแล้วจะมีรถอะไรที่ไหนผ่าน
“เอ้า! ละมีรถหรอพี่” “เดี๋ยวลองไปดูก่อนอ่ะ เผื่อจะเหลือสักคัน” เรารีบลุกขึ้นละถามกลับไป “ละถ้าไม่มีล่ะพี่จะทำยังไง” ทุกอย่างเงียบไปหมดเลยไม่มีคำตอบอะไรออกจากปากพี่แก “ป่ะน้ำไปส่ง” พี่แกทำตาโตตกอกตกใจ พยายามยื้อไว้ว่าไม่เป็นไรแกจะกลับเอง
แต่เราก็ลากพี่แกมาถึงหน้าโรงเรียน เราขับรถมาส่งพี่แกเลยรู้ว่าบ้านพี่แกกะเราก้ไปทางเดียวกันแต่พี่แกจะไกลว่าแล้วเข้าซอยเยอะแยะ
ละด้วยความหิวเราเลยขับรถแวะไปร้านโจ๊กประจำ จอดนั่งกินกะพี่แกซะเลย
เราสองคนได้พูดคุยกันมากขึ้น จึงได้รู้ว่าพี่แกชื่อปุ้ย พึ่งย้ายมาตอนม.6วันนี้วันแรกเลย เราค่อนข้างรู้จักกันมากขึ้นแล้วแต่ไม่สนิทมากนัก
เราไปส่งพี่เขาถึงบ้านพี่แกขอบอกขอบใจเราใหญ่ เรากำลังจะขับรถออกไปแต่ก็มีนาทีนึงที่เราไปสบตากับพี่ปุ้ยเข้า
ตาเราจ้องกันประมาน 15 วินาทีได้ เราเหมือนถูกสะกดเลยพี่ปุ้ยก็คงเหมือนกันพี่แกรีบยกมือมาบ๊ายบายเราเหมือนแก้เขิน มั้งนะ555+
เชื่อไหมเราเก็บภาพพี่แกไปคิดทั้งคืนเลย
     จนเย็นวันต่อมาเราก็ซ้อมบาสเหมือนเดิมเรากำลังจะไปซื้อน้ำซึ่งต้องผ่านตึกถ่ายเอกสารตึกสำเนา
เราก็เห็นพี่แกยืนวุ่นๆอีกแล้วเลยเดินข้าไปทัก ได้ความว่าพี่แกต้อองเรียนอกสารการสอนให้ครูที่สนิทกันพี่แกอาสาทำแต่ว่าเอกสารปนกันไปหมด
เราก็ขี้เกียจซ้อมบาสเลยขออาสาช่วยเราสองคนช่วยกันนั่งเรียงมีเพื่อนของพี่แกอีกคนนึงแต่ช่วงๆ6โมงก็ขอกลับก่อน
เราเลยต้องทำกันสองคน ตอนแรกพี่แกจะหอบไปทำที่บ้านแต่เราเห็นว่าอีกนิดเดียวก็จะเสร็จเลยช่วยกันจนเสร็จ
ละขออาสาไปส่งเหมือนเดิม ฟอร์มเดิมเลย55555 เราก็พาไปหาอะไรกินเหมือนเดิมแต่วันนี้พามาแถวตัวเมือง
พี่ปุ้ยก็มาจับๆขาเรานะ เราก็บอกว่าเราพอเดินได้แล้วเราเป็นนักกีฬาฟื้นตัวไว เราค่อนข้างสนิทกันมากขึ้น จนเราอยากกินข้าวกะพี่ปุ้ยทุกวัน
จนเช้าวันต่อมาเราก็เจอพี่ปุ้ยนิดหน่อยก็ทักทายกันบ้างช่วงตอนเข้าแถว จนถึงช่วงพักกลางวันเราลงไปกินข้าวพอขึ้นห้องมามีถุงแปลกๆวางอยู่ที่โต๊ะ
พอเปิดดูในถุง ยานวด ยาคลายเส้นเต็มเลย มีโพสอิทเล็กๆด้วยว่า –หายไวๆนะจ้ะน้องสาว-
เราอ่านไปยิ้มไปเรายอมรับว่าเราเขินมากเลยนะ เรานึกหน้าพี่ปุ้ยตอนพูดคำในโพสอิทออกเลย
      วันนี้เราไม่ได้เจอกะพี่ปุ้ยเลยเพราะเราต้องซ้อมบาสอย่างหนักไปแข่งในวันมะรืน จนวันต่อมาเราอยากให้ของเล็กๆน้อยๆคืนพี่แกบ้าง
แต่เราตื่นสายมากเลยหาอะไรไม่ทันเลยซื้อขนมเลย์ไป2ถุงกับโออิชิสีเหลืองขวดนึงระหว่างทางไปอาคารม.6
เราคิดอยู่ในหัวตลอดเวลาว่าจะพูดยังไงดี จะบอกว่าซื้อมาขอบคุณเรื่องยาดีไหมหรืออะไรยังไงดี จนมาถึงห้องพี่ปุ้ย
แต่.. ผิดคาด พี่ปุ้ยไม่อยู่ที่ห้อง เราเลยเดินเอาขนมไปวางไว้ที่โต๊ะโดยถามพี่ๆแถวนั้นแหละบอกว่าพี่ปุ้ยฝากซื้อ 55555+
ละรีบเดินออกมาข้างในถุงมีโพสอิทของเราด้วยนะเราเขียนแค่ว่า Enjoy! ยิ้ม from.water เราลุ้นทั้งคืนเลยว่าพี่แกจะคิดยังไงกับเรา
แต่เราก้ไม่รู้ตัวเองว่าคิดยังไงกับพี่ปุ้ยจนวันต่อมาวันนี้เป็นวันแข่งบาสของชมรมในโรงเรียน เราแข่งช่วงพักกลางวัน
ตอนเช้าเราเลยนอนเอาแรงละมาอีกทีช่วง 10 โมง ถึงเวลาแข่งเราพยายามหลับตาค้นหาสมาธิของตัวเองให้ได้มากที่สุด
แข่งไปครึ่งเกมส์เราก็ต้องเหวอเพราะข้างๆสนามมีผู้หญิงผมสั้นตัวเล็กๆคนนึงยืนกระโดดโบกไม้โบกมือยกใหญ่เลยคนนั้นคือพี่ปุ้ย
เราเขิลมากที่พี่แกมายืนมองเราเล่นแต่ก็ได้กำลังใจเยอะมาก จบเกมส์สโมสรเราเป็นฝ่ายชนะ พี่ปุ้ยรีบวิ่งมาหาเราเลยทำท่าทางยกนิ้วชมใหญ่
“ถึงว่าช่วงนี้ไม่ค่อยเจอเลยจะลงแข่งนี่เอง” เรายิ้มหน้าบานกว่าเดิมเพราะพี่แกสังเกตด้วยว่าไม่เจอเรา
พี่ปุ้ยยื่นน้ำโออิชิขวดสีม่วงมาให้เรา “ซื้อคืนให้ละนะ เดี๋ยวขนมอ่ะตามไปทีหลัง ทำเองด้วยแหละ555+”
พี่แกยื่นให้แล้วรีบวิ่งหนีไปเลย ปล่อยให้เรายืนเขิลตัวกลมอยู่ จนตอนนี้เราสับสนกับตัวเองมาก
กลับบ้านมาคืนนี้เลยตัดสินใจแอดเฟสพี่แกไป ที่จริงราเคยขอไว้นานแล้วตั้งแต่ที่ไปกินข้าวด้วยกันในเมืองแต่ไม่กล้าแอดวันนี้แอดไป
ก็ไปสะดุดกับตัสตัสนึง พี่โพสว่า เธอไม่เคยจะใส่ใจฉันเลย เราเลยคิดว่าพี่แกคงมีแฟนแล้วล่ะไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อไปจะจีบพี่แกก็ไม่รู้หัวใจตัวเอง
ว่าชอบพี่แกรึป่าวหรือเราเป็นอะไร กลัวจะเสียพี่ด้วย ละถ้ามีแฟนแล้วเราจะเลิกยุ่งกับพี่เขาเลยไหม ถ้าเราเกิดชอบพี่เขาขึ้นมา
เพื่อนๆช่วยหน่อยนะ T T
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่