เอาตรงๆไม่เคยไปงานศิลป์แผ่นดินมาก่อน นี่ก็ครั้งที่ 6 แล้ว คุณย่าชวนมาเลยตอบตกลงทันที
งานศิลป์แผ่นดินจัดที่พระที่นังอนันตสมาคม ติดกับพระที่นั่งวิมานเมฆและเขาดิน เอาตรงๆถ่ายรูปแค่ข้างนอกก็คุ้มค่ามากแล้ว มีเพื่อนชวนเพื่อน มีแฟนชวนแฟนก๊ะ (ฝรั่ง ญี่ปุ่น ไทย เทษ ชวนมันมาให้หมด มาดูความงามของงานฝีมือไทยกัน!!!)
รายละเอียดงานเช็คได้ที่นี่เลย
http://www.artsofthekingdom.com/th
ก่อนอื่น ฝากเพจหน่อยนะก๊ะ >.<
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
www.facebook.com/chiikathailand


ชินเริ่มออกเดินทางจากบ้านมาถึงพระที่นั่งอนันตสมาคมประมาณ 10 โมง 15 นาที ซึ่งเป็นเวลาเปิดให้เข้าชมไม่นานนัก และเวลานี้ก็มีทัวร์มาลงรอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทางเข้าพระที่นั่งอนันตสมาคมเนี้ยมีทางเข้าหลายทาง ทางด้านหน้าติดกับพระบรมรูปทรงม้านั้นเป็นทางเข้าของกรุ๊ปทัวร์พี่จีนเขานะ ถ้าไม่อยากเสียอารมณ์แต่แรกเริ่มก็ตามชินนี่มาซะดีๆ หึหึ
เริ่มแรกให้เราจับจุดมาทางเข้าเขาดินก่อน (ประตูที่มีซุ้มสัตว์เยอะๆ) ตรงกันข้ามจะเป็นพระที่นั่งวิมานเมฆ เข้าตรงประตูที่เข้าพระที่นั่งวิมานเมฆนั่นแหละ ทางเข้าจะมีพี่ยามยืนเฝ้า ถามเขา เขาจะบอกทางเราเอง
หลังจากเข้ามาเรื่อยๆจะเจอสามแยก จะมีพี่ยามวอคุยกันเป็นระยะๆ เขาจะให้เราเลี้ยวซ้าย เดินมาเรื่อยๆก็จะเจอพระที่นั่งอนันตสมาคมแล้ว..

ทำไมถึงให้เข้าทางนี้ เพราะห้องฝากกระเป๋ากับที่ซื้อตั๋วอยู่ทางประตูนี้นะสิ!! (55555) แค่นี้ก็ไม่ต้องไปเสียอารมณ์เดินผ่านทัวร์พี่จีนอันแสนอึดอัดเจี๊ยวจ๊าวให้เสียอารมณ์อีกแล้ว

นี่คือที่ฝากกระเป๋า ข้างในตรงที่ขายตั๋วก็มีที่ฝากนะ แต่ตรงนี้ใหญ่กว่ามาก แนะนำให้ฝากกระเป๋าใหญ่ๆที่นี่ก่อน เช่น เป้ กระเป๋าถือ จะได้ไม่วุ่นวาย ส่วนของจุ๊กจิ๊กเช่นมือถือ กระเป๋าตังค่อยไปฝากข้างในรวมกันอีกที เพราะข้างในทัวร์ก็เหมาช่องฝากของเกือบหมดละ

คนไทยกับชาวต่างชาติมักจะมาลงเอยที่นี่กันหมด…

รายชื่อสิ่งของที่ห้ามนำเข้าพิพิธภัณฑ์ คือถือรอบๆบริเวณได้ แต่เอาเข้าข้างในไม่ได้ก๊ะ ดังนั้นฝากไว้แต่ตรงนี้โดยดี เอาไปแค่กล้องกับกระเป๋าตังพอ

พอเดินออกมาจากที่ฝากของ ก็จะเจอป้ายเตือนอีก 1 แผ่นใหญ่ว่าให้นำเข้าแต่ของเล็กและมีค่าเท่านั้น ของชิ้นใหญ่เช่น กระเป๋า ร่ม รบกวนเก็บไว้ในรถนะจ๊ะ
พอถึงตรงนี้ผ่านรั้วเข้าไปก้าวแรก (จริงๆ) ก็ได้พบกับเหตุการพิเศษบางอย่าง (มักจะเกิดกับชินบ่อยๆ เนื่องจากหน้าตากับหุ่นไม่ค่อยเหมือนคนไทยเท่าไหร่) ซึ่งก็มาผู้หญิงแถบตะวันออกกลาง 2 คนเดินเข้ามาทาบทามชินทันที (เดาเอาเพราะพวกนางโพกผ้าและหน้าตาออกแขกก๊ะ)
เจ๊แขก : พูดภาษาอังกฤษได้ไหมคะ? (แปลให้แล้วก๊ะ)
ชิน : ได้คะ
เจ๊แขก : คุณกำลังจะเข้าพิพิธภัณฑ์ใช่ไหม ช่วยเราหน่อยได้ไหม เราซื้อตั๋วมาแต่ว่าจะไม่เข้าแล้ว ถ้าคุณจะเข้าช่วยซื้อตั๋วพวกเราที
ชิน : อ่า คงจะไม่ได้หรอก พวกเราเป็นคนไทยไม่ใช่ต่างชาติจ้ะ แล้วย่าๆของเราก็ได้ราคาพิเศษสำหรับผู้สูงอายุด้วยนะ
เจ๊แขก : เท่าไหร่อะคะ?
ชิน : 75 THB Kaaaaa
โซซอรี่ แล้วพวกนางก็ยอมถอยไปแต่โดยดี (ส่วนมากแขกขี้งกคะ 75 บาท ขาดทุนย่อยยับสิ)
คืองี้ เดี๋ยวจะมาเล่าเหตุผลว่าทำไมถึงพยายามบอกปัด ปฏิเสธโดยสิ้นเชิง… ต่อ

เดินเข้ามาอีกนิด เลี้ยวซ้ายก็จะเจอกับห้องขายตั๋วแล้ว นี่ไทยแลนด์หรือไชน่าเนี้ย

เข้ามาจะมีโถงเล็กๆ ให้เราเลี้ยวซ้ายก่อนจ๊ะ ไปทำอะไรนะหรือ…

เราต้องมาเช็คเครื่องแต่งกายให้เรียบร้อยก่อน นี่วังนะจ๊ะ จะมาตามใจชอบได้ไงกัน!! เลี้ยวซ้ายมาจะเป็นโซนขายผ้านุ่ง 50 บาทสำหรับคนอยากเข้าแต่แต่งตัวผิดระเบียบ ถัดไปก็จะเป็นห้องน้ำ (เดี๋ยวจะมาเล่าวีรกรรมพี่จีนในห้องน้ำในตอนท้าย)

เช็คโลดทั้งผู้หญิงผู้ชาย…
ผู้ชายใส่กางเกงเห็นขนหน้าแข้งขึ้นมานิดนึงก็ต้องนุ่งผ้านะคะ (55555)
วันนี้ชินนุ่งเล็กกิ้งมาคะ (มันเป็นสไตล์อะนะ) ซึ่งแน่นอนว่าไม่ผ่าน และรู้อยู่แล้ว เลยเตรียมไอเท็มมาด้วย นั่นก็คือ
“กระโปรงนักศึกษายาวถึงตาตุ่มก๊ะ 5555 (แต่ก็ไม่ถึงนักหรอก พอดีสูงคะ)”
และผู้หญิงใส่ยีนส์ขายาวมาใช่ว่าจะรอดนะคะ “ผู้หญิงต้องใส่กระโปรงเท่านั้น” คะ

ทีนี้ย้อนกลับมาทางเดินแล้วตรงมา ก็จะเป็นห้องขายตั๋ว ฝากของและขายของฝาก ก็ต่อคิวซื้อให้เรียบร้อย ตรงนี้ก่อนซื้อให้เตรียมบัตรนักศึกษา บัตรประชาชน สารพัดบัตรขึ้นมาให้เรียบร้อย

บัตรสีฟ้าคือครึ่งราคา 75 บาท (สำหรับบัตรนึกษากับผู้สูงอายุ) และสีเขียวคือบัตรผู้ใหญ่ 150 บาทคะ

และก็จะได้โบว์ชัวร์ประวัติไว้อ่านควบคู่ 1 ฉบับ
ส่วนบัตรชาวต่างชาติคือบัตรสีม่วงจร้า แต่ราคาเท่าบัตรผู้ใหญ่คนไทยนะ แต่ทำไมถึงแตกต่างเดี๋ยวเรามาดูกัน
หลังจากตรงนี้ให้เราฝากมือถือ กระเป๋าตังสรรพสิ่งให้เรียบร้อยตรงนี้อีกครั้ง พกไปแค่บัตรเข้ากับโบว์ชัวร์พอ
(เดี๋ยวออกมาค่อยมาเอาไปถ่าย)

“I’m ready… เรียบร้อยทุกระเบียบนิ้ว ออกเดินทางได้”

ยิ่งใกล้ยิ่งสวย
ถึงตอนนี้แหละคะจะมาเฉลยว่าบัตรแต่ละสีต่างกันอย่างไร
สีม่วง คือ ชาวต่างชาติ
สีฟ้าและเขียว คือ คนไทย
เดินมาเรื่อยๆ และนี่ก็คือทางเข้า

(รูปนี้ถ่ายตอนออกมาแล้ว ที่โล่งไม่มีคนเพราะเที่ยงครึ่งพอดี ทัวร์พาลูกทัวร์ไปทานเข้าเที่ยงหมดแล้ว ถ้าตอนขาเขานี่แถวยาวออกไปนอกแอเรียวังเลยคะขอบอก คนจะเยอะตอนเปิดให้เข้าช่งเช้า กับทานข้าวเที่ยงเสร็จแล้วคะ ตอนที่ออกมานี่ก็มีทัวร์มาต่อแถวรอคิวรอบบ่ายแล้ว 1 คิว)
จะมีทั่งหมด 3 แถวเนอะ
ตรงกลางจะเป็นช่องสำหรับ “ชาวบัตรสีม่วง”
ซ้ายจะเป็นช่องสำหรับ “ชาวบัตรสีฟ้าและเขียว”
และขวาจะเป็นช่อง “ทางออก”
ดังนั้นใครถือบัตรสีม่วงก็จงต่อคิวรวมกับพี่ทัวร์จีนซะนะคะ ข่อยขอใช้ทางพิเศษที่สร้างเพื่อคนไทยก่อน เดินเริด เชิด พริ้ว สุดๆ ฮ่าๆ (ตอนเดินเนี้ย พี่จีนนางต่อแถวยืนเหงื่อแตกมองจิกตาแรงมากคะ อารมณ์ว่าอยากมุดรั้วและเดินตามมาด้วย)
__
ต่อจากนี้ก็จะเป็นบรรยากาศภายในที่ไม่สามารถถ่ายรูปได้ พิพิธภัณฑ์จะมีทั้งหมดสองชั้น เราจะได้ขึ้นไปข้างบนเพื่อชมงานศิลป์แผ่นดินซึ่งเป็นผลงานของสถาบันสิริกิติ์ สวนจิตรลดา มูลนิธิส่งเสริมวิชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชานีนาถ โดยเราจะได้ชมใกล้ชิดที่สุด (ห้ามจับต้องนะจ้ะ)
ก่อนจะขึ้นสำหรับคนที่มาเองเขาจะมีรีโมทไว้สำหรับฟังคำบรรยาย โดยแต่ละจุดที่โชว์เขาจะมีตัวเลขติดไว้ แค่เรากดเลขลงในรีโมต ก็จะมีคำบรรยายอธิบายของชิ้นนั้นอย่างละเอียดให้เราฟัง (เดี๋ยวเขาจะมีสอนวิธีใช้ก่อนมอบนะ ไม่ต้องกลัว)
ชั้นบนเมื่อขึ้นมาแล้วจะแบ่งเป็นส่วนหน้าและส่วนหลัง แสดงผลงานมากมาย พิพิธภัณฑ์จัดเป็นแบบ One way (เข้าทางออกทาง) ดังนั้นค่อยๆดูไปตามทาง อย่าเร่งรีบ ถ้าไม่อยากย้อนกลับไปกลับมา ชั้นนี้จะเป็นของชิ้นใหญ่เบ้งๆทั้งนั้น งดงามตระการตามากๆ เกิดมาชาตินี้ต้องเห็นเป็นบุญตาซักครั้งเนอะ
พอมาถึงตรงนี้ระหว่างยืนรอหม่อมย่าดูงานตรงบันไดทางลงนิทรรศการชั้นสอง ก็มีป้าจีนมาทักอีกราย พร้อมรัวจีนใส่เหมือนจะถามอะไรบางอย่าง (แน่นอนว่าฟังไม่ออก) จึงยกแขนทำท่าอุลตร้าแมน (แขนไขว้กันเป็นกากบาท) พร้อมพูดว่า “โน ไชนิส!!!” (หวังว่านางคงจะเข้าใจคะ)
เสร็จแล้วลงมาอีกทาง ด้านล่างจะเป็นรวมผลงานพวกตุ๊กตา ผ้า เหรียญ หิน สวยงามมากๆแค่ชิ้นเล็กลงมา พอดูเสร็จหมดก็จะถึงทางออกอีกที
ไม่ต้องกลัวเมื่อยนะคะ จะมีที่ให้นั่งพักตลอดทางเดือน แค่ต้องบู๊กับพี่จีนหน่อยเท่านั้นเอง
(เพราะนั่งๆอยู่ถ้าพวกนางอยากนั่ง นั่งก็จะนั่ง มาเบียดๆแม้ว่ามันจะนั่งไม่ได้แล้วก็เถอะ…)
__
ออกมาแล้ววววววววว อลังการมากก๊ะ บอกได้แค่นี้จริงๆ หาเวลาไปดูซะนะ
ต่อมาก็รีบกลับไปเอากล้องทันที เพื่อที่จะออกมาถ่ายรูป

เป้าหมายต่อไปคือถ่ายรูปให้สะใจ ได้มุ่งหน้าไปสู่เรือนยอดบรมมังคลานุสรณีย์ (ข้างๆพระที่นั่งอนันตสมาคม) สีทองๆสวยๆที่อยู่ในพื้นที่เดียวกันอย่างฉับไว
เรือนยอดบรมมังคลานุสรณีย์ เป็นเรือนยอด 9 ยอด ตามรัชกาล ซึ่งนับเป็นเรือนยอดที่สูงสุดในประวัติศาสตร์ศิลปะไทย สร้างเพื่อเฉลิมพระเกียรติในหลวงครองราชย์ 70 ปี ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ สามารถใกล้ชิดได้ขนาดนี้จะข้ามไปได้อย่างไร!!!
(บริเวณนี้ไม่มีพี่จีนด้วยนะคะ พวกนางโดนไกด์ต้อนไปทานข้าวหมดแล้วก๊ะ)
เต็มที่!!!

เก็บกดมาก นี่แค่น้ำจิ้ม แต่พอแค่นี้ดีกว่า…
(ไม่ค่อยสวยนะคะ กล้องไอโฟนกับรีบถ่ายมากๆ หม่อมย่าไม่อินคะ)
เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจ เราก็ได้เดินทางสู่…..
ห้องน้ำ!!! (ใครทานข้าวอยู่ขออภัย)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ห้องน้ำที่สวยงาม พื้นหินอ่อนอันขาวสะอาด สถาปัตยกรรมที่สวยงาม…. กับพี่จีน….. เข้าไปนี่ลอยตุ๊บป่องแทบทุกห้อง กลื่นที่สุดบรรยาย (ห้องที่ตุ๊บป่อง) มันช่างขัดกันเสียเหลือเกิน พร้อมกับเจ้าหน้าที่ที่ขะมักเขม้นกับการทำความสะอาด บ่นพี่จีน พร้อมน้ำตาคลอไปพร้อมๆกัน
ขี้เสร็จแล้วก็ไม่กด มันยากตรงไหนวะกดส้วมเนี้ย (อันนี้ชินแล้ว)
น้ำลายใส่กระจก… (ห๊ะ..)
ทิ้งขยะข้างถังขยะ…. (เอ่อ…)
และอันนี้พีคสุด
ไปเปลียนกางเกงซะ!!! (นางจีนคนนี้ขี้รดกางเกงคะ และไม่ยอมถอดออก แม่บ้านก็สั่งมันให้ถอด มันก็ไม่ถอดเปลี่ยน จะใส่เข้าไปพิพิธภัณฑ์ทั้งแบบนี้) สงสารผู้คนในนั้นจริมๆ ไม่รู้นางจะไปรอดถึงด่านไหน
อะไรที่คนไทยไม่ทำ มันทำหมดแหละคะ… สั้นๆจากชินนี่
(คนจีนดีๆมีนะคะ อย่าเหมารวม…)
พอสังเขปนะคะ…
จากตรงนี้ใครหิวน้ำมีตู้กดน้ำดื่มอัตโนมัตินะคะ มีที่เดียวในบริเวณนี้ ใครหิวน้ำไปกดซื้อได้
หลังจากนั้นก็ไปโซนของฝาก

ก็จะขายพวกโปสการ์ด เสื้อผ้า แก้ว ปากกา ผ้าพันคอ เข็มขัด บลาๆ บรรยากาศดี คนน้อย เดินสะดวกดีคะ
(แนะนำไม่รู้จะซื้ออะไร แสตมป์พระที่นั่งอนันตสมาคมสวยมากคะ ว่าถ้าผ่านไปจะกลับไปซื้อมาเพิ่ม)

ได้นางกวักมาใบนึงคะ 5555
น่าแปลกมากที่สถานที่ท่องเที่ยวสวยๆในเมืองไทยมีแต่ชาวต่างชาติ แต่กลับมีคนไทยแค่ประมาณ 5% เอง.. (ทำไมเนอะ) เป็นอันจบพิธีการแด่เพียงเท่านี้ ใครยังไม่ได้ไปรีบไปซะนะ
[CR] ศิลป์แผ่นดินครั้งที่ 6 งานแสดงทรัพย์สมบัติแผ่นดินไทยที่หาดูที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว
งานศิลป์แผ่นดินจัดที่พระที่นังอนันตสมาคม ติดกับพระที่นั่งวิมานเมฆและเขาดิน เอาตรงๆถ่ายรูปแค่ข้างนอกก็คุ้มค่ามากแล้ว มีเพื่อนชวนเพื่อน มีแฟนชวนแฟนก๊ะ (ฝรั่ง ญี่ปุ่น ไทย เทษ ชวนมันมาให้หมด มาดูความงามของงานฝีมือไทยกัน!!!)
รายละเอียดงานเช็คได้ที่นี่เลย
http://www.artsofthekingdom.com/th
ก่อนอื่น ฝากเพจหน่อยนะก๊ะ >.<
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ชินเริ่มออกเดินทางจากบ้านมาถึงพระที่นั่งอนันตสมาคมประมาณ 10 โมง 15 นาที ซึ่งเป็นเวลาเปิดให้เข้าชมไม่นานนัก และเวลานี้ก็มีทัวร์มาลงรอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทางเข้าพระที่นั่งอนันตสมาคมเนี้ยมีทางเข้าหลายทาง ทางด้านหน้าติดกับพระบรมรูปทรงม้านั้นเป็นทางเข้าของกรุ๊ปทัวร์พี่จีนเขานะ ถ้าไม่อยากเสียอารมณ์แต่แรกเริ่มก็ตามชินนี่มาซะดีๆ หึหึ
เริ่มแรกให้เราจับจุดมาทางเข้าเขาดินก่อน (ประตูที่มีซุ้มสัตว์เยอะๆ) ตรงกันข้ามจะเป็นพระที่นั่งวิมานเมฆ เข้าตรงประตูที่เข้าพระที่นั่งวิมานเมฆนั่นแหละ ทางเข้าจะมีพี่ยามยืนเฝ้า ถามเขา เขาจะบอกทางเราเอง
หลังจากเข้ามาเรื่อยๆจะเจอสามแยก จะมีพี่ยามวอคุยกันเป็นระยะๆ เขาจะให้เราเลี้ยวซ้าย เดินมาเรื่อยๆก็จะเจอพระที่นั่งอนันตสมาคมแล้ว..
ทำไมถึงให้เข้าทางนี้ เพราะห้องฝากกระเป๋ากับที่ซื้อตั๋วอยู่ทางประตูนี้นะสิ!! (55555) แค่นี้ก็ไม่ต้องไปเสียอารมณ์เดินผ่านทัวร์พี่จีนอันแสนอึดอัดเจี๊ยวจ๊าวให้เสียอารมณ์อีกแล้ว
นี่คือที่ฝากกระเป๋า ข้างในตรงที่ขายตั๋วก็มีที่ฝากนะ แต่ตรงนี้ใหญ่กว่ามาก แนะนำให้ฝากกระเป๋าใหญ่ๆที่นี่ก่อน เช่น เป้ กระเป๋าถือ จะได้ไม่วุ่นวาย ส่วนของจุ๊กจิ๊กเช่นมือถือ กระเป๋าตังค่อยไปฝากข้างในรวมกันอีกที เพราะข้างในทัวร์ก็เหมาช่องฝากของเกือบหมดละ
คนไทยกับชาวต่างชาติมักจะมาลงเอยที่นี่กันหมด…
รายชื่อสิ่งของที่ห้ามนำเข้าพิพิธภัณฑ์ คือถือรอบๆบริเวณได้ แต่เอาเข้าข้างในไม่ได้ก๊ะ ดังนั้นฝากไว้แต่ตรงนี้โดยดี เอาไปแค่กล้องกับกระเป๋าตังพอ
พอเดินออกมาจากที่ฝากของ ก็จะเจอป้ายเตือนอีก 1 แผ่นใหญ่ว่าให้นำเข้าแต่ของเล็กและมีค่าเท่านั้น ของชิ้นใหญ่เช่น กระเป๋า ร่ม รบกวนเก็บไว้ในรถนะจ๊ะ
พอถึงตรงนี้ผ่านรั้วเข้าไปก้าวแรก (จริงๆ) ก็ได้พบกับเหตุการพิเศษบางอย่าง (มักจะเกิดกับชินบ่อยๆ เนื่องจากหน้าตากับหุ่นไม่ค่อยเหมือนคนไทยเท่าไหร่) ซึ่งก็มาผู้หญิงแถบตะวันออกกลาง 2 คนเดินเข้ามาทาบทามชินทันที (เดาเอาเพราะพวกนางโพกผ้าและหน้าตาออกแขกก๊ะ)
เจ๊แขก : พูดภาษาอังกฤษได้ไหมคะ? (แปลให้แล้วก๊ะ)
ชิน : ได้คะ
เจ๊แขก : คุณกำลังจะเข้าพิพิธภัณฑ์ใช่ไหม ช่วยเราหน่อยได้ไหม เราซื้อตั๋วมาแต่ว่าจะไม่เข้าแล้ว ถ้าคุณจะเข้าช่วยซื้อตั๋วพวกเราที
ชิน : อ่า คงจะไม่ได้หรอก พวกเราเป็นคนไทยไม่ใช่ต่างชาติจ้ะ แล้วย่าๆของเราก็ได้ราคาพิเศษสำหรับผู้สูงอายุด้วยนะ
เจ๊แขก : เท่าไหร่อะคะ?
ชิน : 75 THB Kaaaaa
โซซอรี่ แล้วพวกนางก็ยอมถอยไปแต่โดยดี (ส่วนมากแขกขี้งกคะ 75 บาท ขาดทุนย่อยยับสิ)
คืองี้ เดี๋ยวจะมาเล่าเหตุผลว่าทำไมถึงพยายามบอกปัด ปฏิเสธโดยสิ้นเชิง… ต่อ
เดินเข้ามาอีกนิด เลี้ยวซ้ายก็จะเจอกับห้องขายตั๋วแล้ว นี่ไทยแลนด์หรือไชน่าเนี้ย
เข้ามาจะมีโถงเล็กๆ ให้เราเลี้ยวซ้ายก่อนจ๊ะ ไปทำอะไรนะหรือ…
เราต้องมาเช็คเครื่องแต่งกายให้เรียบร้อยก่อน นี่วังนะจ๊ะ จะมาตามใจชอบได้ไงกัน!! เลี้ยวซ้ายมาจะเป็นโซนขายผ้านุ่ง 50 บาทสำหรับคนอยากเข้าแต่แต่งตัวผิดระเบียบ ถัดไปก็จะเป็นห้องน้ำ (เดี๋ยวจะมาเล่าวีรกรรมพี่จีนในห้องน้ำในตอนท้าย)
เช็คโลดทั้งผู้หญิงผู้ชาย…
ผู้ชายใส่กางเกงเห็นขนหน้าแข้งขึ้นมานิดนึงก็ต้องนุ่งผ้านะคะ (55555)
วันนี้ชินนุ่งเล็กกิ้งมาคะ (มันเป็นสไตล์อะนะ) ซึ่งแน่นอนว่าไม่ผ่าน และรู้อยู่แล้ว เลยเตรียมไอเท็มมาด้วย นั่นก็คือ
“กระโปรงนักศึกษายาวถึงตาตุ่มก๊ะ 5555 (แต่ก็ไม่ถึงนักหรอก พอดีสูงคะ)”
และผู้หญิงใส่ยีนส์ขายาวมาใช่ว่าจะรอดนะคะ “ผู้หญิงต้องใส่กระโปรงเท่านั้น” คะ
ทีนี้ย้อนกลับมาทางเดินแล้วตรงมา ก็จะเป็นห้องขายตั๋ว ฝากของและขายของฝาก ก็ต่อคิวซื้อให้เรียบร้อย ตรงนี้ก่อนซื้อให้เตรียมบัตรนักศึกษา บัตรประชาชน สารพัดบัตรขึ้นมาให้เรียบร้อย
บัตรสีฟ้าคือครึ่งราคา 75 บาท (สำหรับบัตรนึกษากับผู้สูงอายุ) และสีเขียวคือบัตรผู้ใหญ่ 150 บาทคะ
และก็จะได้โบว์ชัวร์ประวัติไว้อ่านควบคู่ 1 ฉบับ
ส่วนบัตรชาวต่างชาติคือบัตรสีม่วงจร้า แต่ราคาเท่าบัตรผู้ใหญ่คนไทยนะ แต่ทำไมถึงแตกต่างเดี๋ยวเรามาดูกัน
หลังจากตรงนี้ให้เราฝากมือถือ กระเป๋าตังสรรพสิ่งให้เรียบร้อยตรงนี้อีกครั้ง พกไปแค่บัตรเข้ากับโบว์ชัวร์พอ
(เดี๋ยวออกมาค่อยมาเอาไปถ่าย)
“I’m ready… เรียบร้อยทุกระเบียบนิ้ว ออกเดินทางได้”
ยิ่งใกล้ยิ่งสวย
ถึงตอนนี้แหละคะจะมาเฉลยว่าบัตรแต่ละสีต่างกันอย่างไร
สีม่วง คือ ชาวต่างชาติ
สีฟ้าและเขียว คือ คนไทย
เดินมาเรื่อยๆ และนี่ก็คือทางเข้า
(รูปนี้ถ่ายตอนออกมาแล้ว ที่โล่งไม่มีคนเพราะเที่ยงครึ่งพอดี ทัวร์พาลูกทัวร์ไปทานเข้าเที่ยงหมดแล้ว ถ้าตอนขาเขานี่แถวยาวออกไปนอกแอเรียวังเลยคะขอบอก คนจะเยอะตอนเปิดให้เข้าช่งเช้า กับทานข้าวเที่ยงเสร็จแล้วคะ ตอนที่ออกมานี่ก็มีทัวร์มาต่อแถวรอคิวรอบบ่ายแล้ว 1 คิว)
จะมีทั่งหมด 3 แถวเนอะ
ตรงกลางจะเป็นช่องสำหรับ “ชาวบัตรสีม่วง”
ซ้ายจะเป็นช่องสำหรับ “ชาวบัตรสีฟ้าและเขียว”
และขวาจะเป็นช่อง “ทางออก”
ดังนั้นใครถือบัตรสีม่วงก็จงต่อคิวรวมกับพี่ทัวร์จีนซะนะคะ ข่อยขอใช้ทางพิเศษที่สร้างเพื่อคนไทยก่อน เดินเริด เชิด พริ้ว สุดๆ ฮ่าๆ (ตอนเดินเนี้ย พี่จีนนางต่อแถวยืนเหงื่อแตกมองจิกตาแรงมากคะ อารมณ์ว่าอยากมุดรั้วและเดินตามมาด้วย)
__
ต่อจากนี้ก็จะเป็นบรรยากาศภายในที่ไม่สามารถถ่ายรูปได้ พิพิธภัณฑ์จะมีทั้งหมดสองชั้น เราจะได้ขึ้นไปข้างบนเพื่อชมงานศิลป์แผ่นดินซึ่งเป็นผลงานของสถาบันสิริกิติ์ สวนจิตรลดา มูลนิธิส่งเสริมวิชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชานีนาถ โดยเราจะได้ชมใกล้ชิดที่สุด (ห้ามจับต้องนะจ้ะ)
ก่อนจะขึ้นสำหรับคนที่มาเองเขาจะมีรีโมทไว้สำหรับฟังคำบรรยาย โดยแต่ละจุดที่โชว์เขาจะมีตัวเลขติดไว้ แค่เรากดเลขลงในรีโมต ก็จะมีคำบรรยายอธิบายของชิ้นนั้นอย่างละเอียดให้เราฟัง (เดี๋ยวเขาจะมีสอนวิธีใช้ก่อนมอบนะ ไม่ต้องกลัว)
ชั้นบนเมื่อขึ้นมาแล้วจะแบ่งเป็นส่วนหน้าและส่วนหลัง แสดงผลงานมากมาย พิพิธภัณฑ์จัดเป็นแบบ One way (เข้าทางออกทาง) ดังนั้นค่อยๆดูไปตามทาง อย่าเร่งรีบ ถ้าไม่อยากย้อนกลับไปกลับมา ชั้นนี้จะเป็นของชิ้นใหญ่เบ้งๆทั้งนั้น งดงามตระการตามากๆ เกิดมาชาตินี้ต้องเห็นเป็นบุญตาซักครั้งเนอะ
พอมาถึงตรงนี้ระหว่างยืนรอหม่อมย่าดูงานตรงบันไดทางลงนิทรรศการชั้นสอง ก็มีป้าจีนมาทักอีกราย พร้อมรัวจีนใส่เหมือนจะถามอะไรบางอย่าง (แน่นอนว่าฟังไม่ออก) จึงยกแขนทำท่าอุลตร้าแมน (แขนไขว้กันเป็นกากบาท) พร้อมพูดว่า “โน ไชนิส!!!” (หวังว่านางคงจะเข้าใจคะ)
เสร็จแล้วลงมาอีกทาง ด้านล่างจะเป็นรวมผลงานพวกตุ๊กตา ผ้า เหรียญ หิน สวยงามมากๆแค่ชิ้นเล็กลงมา พอดูเสร็จหมดก็จะถึงทางออกอีกที
ไม่ต้องกลัวเมื่อยนะคะ จะมีที่ให้นั่งพักตลอดทางเดือน แค่ต้องบู๊กับพี่จีนหน่อยเท่านั้นเอง
(เพราะนั่งๆอยู่ถ้าพวกนางอยากนั่ง นั่งก็จะนั่ง มาเบียดๆแม้ว่ามันจะนั่งไม่ได้แล้วก็เถอะ…)
__
ออกมาแล้ววววววววว อลังการมากก๊ะ บอกได้แค่นี้จริงๆ หาเวลาไปดูซะนะ
ต่อมาก็รีบกลับไปเอากล้องทันที เพื่อที่จะออกมาถ่ายรูป
เป้าหมายต่อไปคือถ่ายรูปให้สะใจ ได้มุ่งหน้าไปสู่เรือนยอดบรมมังคลานุสรณีย์ (ข้างๆพระที่นั่งอนันตสมาคม) สีทองๆสวยๆที่อยู่ในพื้นที่เดียวกันอย่างฉับไว
เรือนยอดบรมมังคลานุสรณีย์ เป็นเรือนยอด 9 ยอด ตามรัชกาล ซึ่งนับเป็นเรือนยอดที่สูงสุดในประวัติศาสตร์ศิลปะไทย สร้างเพื่อเฉลิมพระเกียรติในหลวงครองราชย์ 70 ปี ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ สามารถใกล้ชิดได้ขนาดนี้จะข้ามไปได้อย่างไร!!!
(บริเวณนี้ไม่มีพี่จีนด้วยนะคะ พวกนางโดนไกด์ต้อนไปทานข้าวหมดแล้วก๊ะ)
เต็มที่!!!
เก็บกดมาก นี่แค่น้ำจิ้ม แต่พอแค่นี้ดีกว่า…
(ไม่ค่อยสวยนะคะ กล้องไอโฟนกับรีบถ่ายมากๆ หม่อมย่าไม่อินคะ)
เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจ เราก็ได้เดินทางสู่…..
ห้องน้ำ!!! (ใครทานข้าวอยู่ขออภัย)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จากตรงนี้ใครหิวน้ำมีตู้กดน้ำดื่มอัตโนมัตินะคะ มีที่เดียวในบริเวณนี้ ใครหิวน้ำไปกดซื้อได้
หลังจากนั้นก็ไปโซนของฝาก
ก็จะขายพวกโปสการ์ด เสื้อผ้า แก้ว ปากกา ผ้าพันคอ เข็มขัด บลาๆ บรรยากาศดี คนน้อย เดินสะดวกดีคะ
(แนะนำไม่รู้จะซื้ออะไร แสตมป์พระที่นั่งอนันตสมาคมสวยมากคะ ว่าถ้าผ่านไปจะกลับไปซื้อมาเพิ่ม)
ได้นางกวักมาใบนึงคะ 5555
น่าแปลกมากที่สถานที่ท่องเที่ยวสวยๆในเมืองไทยมีแต่ชาวต่างชาติ แต่กลับมีคนไทยแค่ประมาณ 5% เอง.. (ทำไมเนอะ) เป็นอันจบพิธีการแด่เพียงเท่านี้ ใครยังไม่ได้ไปรีบไปซะนะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น