[CR] ศิลป์แผ่นดินครั้งที่ 6 งานแสดงทรัพย์สมบัติแผ่นดินไทยที่หาดูที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว

เอาตรงๆไม่เคยไปงานศิลป์แผ่นดินมาก่อน นี่ก็ครั้งที่ 6 แล้ว คุณย่าชวนมาเลยตอบตกลงทันที
งานศิลป์แผ่นดินจัดที่พระที่นังอนันตสมาคม ติดกับพระที่นั่งวิมานเมฆและเขาดิน เอาตรงๆถ่ายรูปแค่ข้างนอกก็คุ้มค่ามากแล้ว มีเพื่อนชวนเพื่อน มีแฟนชวนแฟนก๊ะ (ฝรั่ง ญี่ปุ่น ไทย เทษ ชวนมันมาให้หมด มาดูความงามของงานฝีมือไทยกัน!!!)

รายละเอียดงานเช็คได้ที่นี่เลย
http://www.artsofthekingdom.com/th

ก่อนอื่น ฝากเพจหน่อยนะก๊ะ >.<
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


ชินเริ่มออกเดินทางจากบ้านมาถึงพระที่นั่งอนันตสมาคมประมาณ 10 โมง 15 นาที ซึ่งเป็นเวลาเปิดให้เข้าชมไม่นานนัก และเวลานี้ก็มีทัวร์มาลงรอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทางเข้าพระที่นั่งอนันตสมาคมเนี้ยมีทางเข้าหลายทาง ทางด้านหน้าติดกับพระบรมรูปทรงม้านั้นเป็นทางเข้าของกรุ๊ปทัวร์พี่จีนเขานะ ถ้าไม่อยากเสียอารมณ์แต่แรกเริ่มก็ตามชินนี่มาซะดีๆ หึหึ

เริ่มแรกให้เราจับจุดมาทางเข้าเขาดินก่อน (ประตูที่มีซุ้มสัตว์เยอะๆ) ตรงกันข้ามจะเป็นพระที่นั่งวิมานเมฆ เข้าตรงประตูที่เข้าพระที่นั่งวิมานเมฆนั่นแหละ ทางเข้าจะมีพี่ยามยืนเฝ้า ถามเขา เขาจะบอกทางเราเอง

หลังจากเข้ามาเรื่อยๆจะเจอสามแยก จะมีพี่ยามวอคุยกันเป็นระยะๆ เขาจะให้เราเลี้ยวซ้าย เดินมาเรื่อยๆก็จะเจอพระที่นั่งอนันตสมาคมแล้ว..


ทำไมถึงให้เข้าทางนี้ เพราะห้องฝากกระเป๋ากับที่ซื้อตั๋วอยู่ทางประตูนี้นะสิ!! (55555) แค่นี้ก็ไม่ต้องไปเสียอารมณ์เดินผ่านทัวร์พี่จีนอันแสนอึดอัดเจี๊ยวจ๊าวให้เสียอารมณ์อีกแล้ว


นี่คือที่ฝากกระเป๋า ข้างในตรงที่ขายตั๋วก็มีที่ฝากนะ แต่ตรงนี้ใหญ่กว่ามาก แนะนำให้ฝากกระเป๋าใหญ่ๆที่นี่ก่อน เช่น เป้ กระเป๋าถือ จะได้ไม่วุ่นวาย ส่วนของจุ๊กจิ๊กเช่นมือถือ กระเป๋าตังค่อยไปฝากข้างในรวมกันอีกที เพราะข้างในทัวร์ก็เหมาช่องฝากของเกือบหมดละ



คนไทยกับชาวต่างชาติมักจะมาลงเอยที่นี่กันหมด…


รายชื่อสิ่งของที่ห้ามนำเข้าพิพิธภัณฑ์ คือถือรอบๆบริเวณได้ แต่เอาเข้าข้างในไม่ได้ก๊ะ ดังนั้นฝากไว้แต่ตรงนี้โดยดี เอาไปแค่กล้องกับกระเป๋าตังพอ


พอเดินออกมาจากที่ฝากของ ก็จะเจอป้ายเตือนอีก 1 แผ่นใหญ่ว่าให้นำเข้าแต่ของเล็กและมีค่าเท่านั้น ของชิ้นใหญ่เช่น กระเป๋า ร่ม รบกวนเก็บไว้ในรถนะจ๊ะ

พอถึงตรงนี้ผ่านรั้วเข้าไปก้าวแรก (จริงๆ) ก็ได้พบกับเหตุการพิเศษบางอย่าง (มักจะเกิดกับชินบ่อยๆ เนื่องจากหน้าตากับหุ่นไม่ค่อยเหมือนคนไทยเท่าไหร่) ซึ่งก็มาผู้หญิงแถบตะวันออกกลาง 2 คนเดินเข้ามาทาบทามชินทันที (เดาเอาเพราะพวกนางโพกผ้าและหน้าตาออกแขกก๊ะ)

เจ๊แขก : พูดภาษาอังกฤษได้ไหมคะ? (แปลให้แล้วก๊ะ)
ชิน : ได้คะ
เจ๊แขก : คุณกำลังจะเข้าพิพิธภัณฑ์ใช่ไหม ช่วยเราหน่อยได้ไหม เราซื้อตั๋วมาแต่ว่าจะไม่เข้าแล้ว ถ้าคุณจะเข้าช่วยซื้อตั๋วพวกเราที
ชิน : อ่า คงจะไม่ได้หรอก พวกเราเป็นคนไทยไม่ใช่ต่างชาติจ้ะ แล้วย่าๆของเราก็ได้ราคาพิเศษสำหรับผู้สูงอายุด้วยนะ
เจ๊แขก : เท่าไหร่อะคะ?
ชิน : 75 THB Kaaaaa

โซซอรี่ แล้วพวกนางก็ยอมถอยไปแต่โดยดี (ส่วนมากแขกขี้งกคะ 75 บาท ขาดทุนย่อยยับสิ)
คืองี้ เดี๋ยวจะมาเล่าเหตุผลว่าทำไมถึงพยายามบอกปัด ปฏิเสธโดยสิ้นเชิง… ต่อ


เดินเข้ามาอีกนิด เลี้ยวซ้ายก็จะเจอกับห้องขายตั๋วแล้ว นี่ไทยแลนด์หรือไชน่าเนี้ย


เข้ามาจะมีโถงเล็กๆ ให้เราเลี้ยวซ้ายก่อนจ๊ะ ไปทำอะไรนะหรือ…



เราต้องมาเช็คเครื่องแต่งกายให้เรียบร้อยก่อน นี่วังนะจ๊ะ จะมาตามใจชอบได้ไงกัน!! เลี้ยวซ้ายมาจะเป็นโซนขายผ้านุ่ง 50 บาทสำหรับคนอยากเข้าแต่แต่งตัวผิดระเบียบ ถัดไปก็จะเป็นห้องน้ำ (เดี๋ยวจะมาเล่าวีรกรรมพี่จีนในห้องน้ำในตอนท้าย)


เช็คโลดทั้งผู้หญิงผู้ชาย…

ผู้ชายใส่กางเกงเห็นขนหน้าแข้งขึ้นมานิดนึงก็ต้องนุ่งผ้านะคะ (55555)
วันนี้ชินนุ่งเล็กกิ้งมาคะ (มันเป็นสไตล์อะนะ) ซึ่งแน่นอนว่าไม่ผ่าน และรู้อยู่แล้ว เลยเตรียมไอเท็มมาด้วย นั่นก็คือ
“กระโปรงนักศึกษายาวถึงตาตุ่มก๊ะ 5555 (แต่ก็ไม่ถึงนักหรอก พอดีสูงคะ)”
และผู้หญิงใส่ยีนส์ขายาวมาใช่ว่าจะรอดนะคะ “ผู้หญิงต้องใส่กระโปรงเท่านั้น” คะ


ทีนี้ย้อนกลับมาทางเดินแล้วตรงมา ก็จะเป็นห้องขายตั๋ว ฝากของและขายของฝาก ก็ต่อคิวซื้อให้เรียบร้อย ตรงนี้ก่อนซื้อให้เตรียมบัตรนักศึกษา บัตรประชาชน สารพัดบัตรขึ้นมาให้เรียบร้อย


บัตรสีฟ้าคือครึ่งราคา 75 บาท (สำหรับบัตรนึกษากับผู้สูงอายุ) และสีเขียวคือบัตรผู้ใหญ่ 150 บาทคะ



และก็จะได้โบว์ชัวร์ประวัติไว้อ่านควบคู่ 1 ฉบับ

ส่วนบัตรชาวต่างชาติคือบัตรสีม่วงจร้า แต่ราคาเท่าบัตรผู้ใหญ่คนไทยนะ แต่ทำไมถึงแตกต่างเดี๋ยวเรามาดูกัน
หลังจากตรงนี้ให้เราฝากมือถือ กระเป๋าตังสรรพสิ่งให้เรียบร้อยตรงนี้อีกครั้ง พกไปแค่บัตรเข้ากับโบว์ชัวร์พอ
(เดี๋ยวออกมาค่อยมาเอาไปถ่าย)


“I’m ready… เรียบร้อยทุกระเบียบนิ้ว ออกเดินทางได้”



ยิ่งใกล้ยิ่งสวย

ถึงตอนนี้แหละคะจะมาเฉลยว่าบัตรแต่ละสีต่างกันอย่างไร
สีม่วง คือ ชาวต่างชาติ
สีฟ้าและเขียว คือ คนไทย
เดินมาเรื่อยๆ และนี่ก็คือทางเข้า


(รูปนี้ถ่ายตอนออกมาแล้ว ที่โล่งไม่มีคนเพราะเที่ยงครึ่งพอดี ทัวร์พาลูกทัวร์ไปทานเข้าเที่ยงหมดแล้ว ถ้าตอนขาเขานี่แถวยาวออกไปนอกแอเรียวังเลยคะขอบอก คนจะเยอะตอนเปิดให้เข้าช่งเช้า กับทานข้าวเที่ยงเสร็จแล้วคะ ตอนที่ออกมานี่ก็มีทัวร์มาต่อแถวรอคิวรอบบ่ายแล้ว 1 คิว)

จะมีทั่งหมด 3 แถวเนอะ
ตรงกลางจะเป็นช่องสำหรับ “ชาวบัตรสีม่วง”
ซ้ายจะเป็นช่องสำหรับ “ชาวบัตรสีฟ้าและเขียว”
และขวาจะเป็นช่อง “ทางออก”
ดังนั้นใครถือบัตรสีม่วงก็จงต่อคิวรวมกับพี่ทัวร์จีนซะนะคะ ข่อยขอใช้ทางพิเศษที่สร้างเพื่อคนไทยก่อน เดินเริด เชิด พริ้ว สุดๆ ฮ่าๆ (ตอนเดินเนี้ย พี่จีนนางต่อแถวยืนเหงื่อแตกมองจิกตาแรงมากคะ อารมณ์ว่าอยากมุดรั้วและเดินตามมาด้วย)
__
ต่อจากนี้ก็จะเป็นบรรยากาศภายในที่ไม่สามารถถ่ายรูปได้ พิพิธภัณฑ์จะมีทั้งหมดสองชั้น เราจะได้ขึ้นไปข้างบนเพื่อชมงานศิลป์แผ่นดินซึ่งเป็นผลงานของสถาบันสิริกิติ์ สวนจิตรลดา มูลนิธิส่งเสริมวิชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชานีนาถ โดยเราจะได้ชมใกล้ชิดที่สุด (ห้ามจับต้องนะจ้ะ)

ก่อนจะขึ้นสำหรับคนที่มาเองเขาจะมีรีโมทไว้สำหรับฟังคำบรรยาย โดยแต่ละจุดที่โชว์เขาจะมีตัวเลขติดไว้ แค่เรากดเลขลงในรีโมต ก็จะมีคำบรรยายอธิบายของชิ้นนั้นอย่างละเอียดให้เราฟัง (เดี๋ยวเขาจะมีสอนวิธีใช้ก่อนมอบนะ ไม่ต้องกลัว)

ชั้นบนเมื่อขึ้นมาแล้วจะแบ่งเป็นส่วนหน้าและส่วนหลัง แสดงผลงานมากมาย พิพิธภัณฑ์จัดเป็นแบบ One way (เข้าทางออกทาง) ดังนั้นค่อยๆดูไปตามทาง อย่าเร่งรีบ ถ้าไม่อยากย้อนกลับไปกลับมา ชั้นนี้จะเป็นของชิ้นใหญ่เบ้งๆทั้งนั้น งดงามตระการตามากๆ เกิดมาชาตินี้ต้องเห็นเป็นบุญตาซักครั้งเนอะ

พอมาถึงตรงนี้ระหว่างยืนรอหม่อมย่าดูงานตรงบันไดทางลงนิทรรศการชั้นสอง ก็มีป้าจีนมาทักอีกราย พร้อมรัวจีนใส่เหมือนจะถามอะไรบางอย่าง (แน่นอนว่าฟังไม่ออก) จึงยกแขนทำท่าอุลตร้าแมน (แขนไขว้กันเป็นกากบาท) พร้อมพูดว่า “โน ไชนิส!!!” (หวังว่านางคงจะเข้าใจคะ)
เสร็จแล้วลงมาอีกทาง ด้านล่างจะเป็นรวมผลงานพวกตุ๊กตา ผ้า เหรียญ หิน สวยงามมากๆแค่ชิ้นเล็กลงมา พอดูเสร็จหมดก็จะถึงทางออกอีกที
ไม่ต้องกลัวเมื่อยนะคะ จะมีที่ให้นั่งพักตลอดทางเดือน แค่ต้องบู๊กับพี่จีนหน่อยเท่านั้นเอง
(เพราะนั่งๆอยู่ถ้าพวกนางอยากนั่ง นั่งก็จะนั่ง มาเบียดๆแม้ว่ามันจะนั่งไม่ได้แล้วก็เถอะ…)
__

ออกมาแล้ววววววววว อลังการมากก๊ะ บอกได้แค่นี้จริงๆ หาเวลาไปดูซะนะ
ต่อมาก็รีบกลับไปเอากล้องทันที เพื่อที่จะออกมาถ่ายรูป


เป้าหมายต่อไปคือถ่ายรูปให้สะใจ ได้มุ่งหน้าไปสู่เรือนยอดบรมมังคลานุสรณีย์ (ข้างๆพระที่นั่งอนันตสมาคม) สีทองๆสวยๆที่อยู่ในพื้นที่เดียวกันอย่างฉับไว

เรือนยอดบรมมังคลานุสรณีย์ เป็นเรือนยอด 9 ยอด ตามรัชกาล ซึ่งนับเป็นเรือนยอดที่สูงสุดในประวัติศาสตร์ศิลปะไทย สร้างเพื่อเฉลิมพระเกียรติในหลวงครองราชย์ 70 ปี ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ สามารถใกล้ชิดได้ขนาดนี้จะข้ามไปได้อย่างไร!!!
(บริเวณนี้ไม่มีพี่จีนด้วยนะคะ พวกนางโดนไกด์ต้อนไปทานข้าวหมดแล้วก๊ะ)

เต็มที่!!!







เก็บกดมาก นี่แค่น้ำจิ้ม แต่พอแค่นี้ดีกว่า…
(ไม่ค่อยสวยนะคะ กล้องไอโฟนกับรีบถ่ายมากๆ หม่อมย่าไม่อินคะ)

เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจ เราก็ได้เดินทางสู่…..
ห้องน้ำ!!! (ใครทานข้าวอยู่ขออภัย)

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จากตรงนี้ใครหิวน้ำมีตู้กดน้ำดื่มอัตโนมัตินะคะ มีที่เดียวในบริเวณนี้ ใครหิวน้ำไปกดซื้อได้

หลังจากนั้นก็ไปโซนของฝาก

ก็จะขายพวกโปสการ์ด เสื้อผ้า แก้ว ปากกา ผ้าพันคอ เข็มขัด บลาๆ บรรยากาศดี คนน้อย เดินสะดวกดีคะ
(แนะนำไม่รู้จะซื้ออะไร แสตมป์พระที่นั่งอนันตสมาคมสวยมากคะ ว่าถ้าผ่านไปจะกลับไปซื้อมาเพิ่ม)


ได้นางกวักมาใบนึงคะ 5555

น่าแปลกมากที่สถานที่ท่องเที่ยวสวยๆในเมืองไทยมีแต่ชาวต่างชาติ แต่กลับมีคนไทยแค่ประมาณ 5% เอง.. (ทำไมเนอะ) เป็นอันจบพิธีการแด่เพียงเท่านี้ ใครยังไม่ได้ไปรีบไปซะนะ
ชื่อสินค้า:   งานศิลป์แผ่นดิน ครั้งที่ 6
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่