ตอนที่ 1
http://pantip.com/topic/35357835
เรื่องสั้นชนะการประกวดนิตยสารแพรว
รักหรือเข้าใจ
ดรัสวันต์
ตอนที่ 2
แผนการท่องเที่ยวในวันรุ่งขึ้น กำหนดไว้ว่าจะเที่ยว Field Museum และ Shadd’s Aquarium ในตอนเช้า ส่วนภาคบ่ายเป็น Museum of Science และปิดท้ายด้วยการชมแคมพัสของ University of Chicago ที่เลื่องชื่อด้วยสถาปัตยกรรมของสถาปนิกเอกของอเมริกา Frank Lloyd Wright
หัทยาแยกจากกลุ่มเมื่อใกล้สิบเอ็ดโมง วรลักษณ์สำทับก่อนจากกันว่า
“เย็นนี้อย่าลืมรีบกลับมานะ”
“ค่ะ ไหมจะรีบกลับ”
พอหญิงสาวหันหลังจากไป วรลักษณ์และภาวัตหันมาสบตากัน อย่างคนที่รู้ความนัยกัน
หญิงสาวลงจากรถที่ สเตท สตรีท ถนนสายหลักของดาวน์ทาวน์ชิคาโก หล่อนมาก่อนเวลานัดเพื่อจะได้มีโอกาสมาเดินเที่ยวคนเดียวเงียบๆ ดูความเป็นไปของดาวน์ทาวน์ เปรียบเทียบกับเมื่อ 5 ปี ก่อน ร้านค้าเล็กๆ อาจเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ แต่ห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ อย่าง Marshall Field’s และ Carson Pirie Scott ยังยืนยงอยู่คู่ชิคาโก
หัทยาอดไม่ได้ที่จะแวะเวียนเข้าไปชมสินค้า เมื่อผ่านเคาน์เตอร์ขายขนม หล่อนเกิดความคิดอย่างหนึ่งแล้วตัดสินใจซื้อช็อคโกแลตไส้ถั่วอัลมอนด์มากล่องหนึ่ง
Grand Park สวนสาธารณะคู่เมืองชิคาโก ทอดขนานไปตามริมฝั่งทะเลสาบมิชิแกน ฤดูร้อนเช่นนี้ ท้องฟ้าใส ทะเลสาบสีน้ำเงินสดและกุหลาบนานาพันธุ์ภายในบริเวณสวนต่างชูช่อออกดอกรับแสงอาทิตย์เจิดจ้า หัทยาหาที่นั่งใต้ต้นไม้ร่มครึ้ม ปล่อยใจให้เพลิดเพลินอยู่กับทิวทัศน์เพียงไม่นาน ก็เห็นณัฐวุธเดินตรงมา หล่อนรีบโบกมือให้
“หวังว่าผมคงไม่ได้มาเลทใช่ไหม” เขารีบออกตัว
“เปล่าค่ะ ไหมมาก่อนเวลา อยากมานั่งเล่นชมวิวเพลินๆ ที่นี่”
“จะทานกลางวันกันหรือยัง จวนเที่ยงแล้ว”
“ก็ดีค่ะ”
“เราไปไชน่าทาวน์กันไหม”
หัทยาอยากจะปฏิเสธ แต่อีกใจก็อยากตามใจเขาเพราะรู้ว่าเขาชอบทานอาหารจีนหรือไทยมากกว่าอาหารฝรั่ง ทั้งๆ ที่เขาใช้ชีวิตที่นี่มากว่า 10 ปีแล้ว และเชื่อแน่ว่าคงจะตั้งรกรากอยู่ที่นี่เป็นการถาวรอีกด้วย
หัทยาพยักหน้าตกลง ชายหนุ่มจึงเดินพาไปที่รถพร้อมทั้งยื่นมือมาช่วยถือถุง
“ซื้ออะไรมาครับ”
“ช็อคโกแลตค่ะ ของฝากหลานๆ ของคุณ”
“ไม่น่าลำบากเลย แต่ก็ขอบคุณนะ” เขากล่าวยิ้มๆ
“ไม่เป็นไรค่ะ ป่านนี้แกคงโตมากแล้วนะคะ”
“ฮะ โตมากจนหลอกไม่ได้แล้ว ฉลาดเป็นกรดเลย จนบางครั้งผมเองก็ถูกหลอก” น้ำเสียงตลอดจนท่าทางที่เขาเอ่ยถึงหลานทั้งสาม บ่งบอกถึงความรักใคร่เอ็นดูอย่างสุดซึ้ง....เหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง
แต่ก่อนนั้น หัทยาเคยคิดว่า หากหล่อนแต่งงานมีลูกกับเขา เขาจะแสดงความรักต่อหล่อนและต่อลูกมากเท่านี้ไหม ยิ่งเขาแสดงให้เห็นว่าเขารักและให้ความสำคัญต่อครอบครัวของเขามากเพียงใด ก็ยิ่งทำให้หล่อนรู้สึกราวกับเป็นส่วนเกินมากเท่านั้น
ระหว่างรับประทานอาหารกลางวัน เขาถามหล่อนขึ้นว่า
“ไหม...มี ‘ใคร’ แล้วหรือยัง”
หัทยาชะงัก มองใบหน้าที่เคยอยู่ในห้วงคำนึงมาช้านาน เขากล้าถามหล่อนตรงๆ อย่างนี้เลยหรือ
“ยังค่ะ” ตอบเสียงเบา แล้วกลั้นใจถามออกไปว่า “แน้ทล่ะคะ”
ดวงตาคมปลาบคู่นั้นมีรอยยิ้ม พร้อมกับคำตอบ “ยัง”
ทั้งสองสบตากันนิ่งนาน
“คงเป็นเพราะ ผมยังมีภาพของไหมอยู่เต็มหัวใจกระมัง”
หัทยารู้ว่าเขาปากหวานแต่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งแก้ม แม้จะเก้อเขินแต่หัทยาก็พยายามข่มแล้วชวนคุย
“แน้ทกลับเมืองไทยบ้างหรือเปล่าคะ”
“กลับฮะ เมื่อปีที่แล้ว”
“แล้วไม่พบใครถูกใจบ้างหรือ” หัทยารู้อยู่แก่ใจดีว่าสังคมไทยแคบๆ ที่นี่ คงมีตัวเลือกที่น้อยนิด
“ก็มีบ้าง” เขาแบ่งรับแบ่งสู้ “แต่ยังไม่เจอใครที่ถูกใจจริงๆ ”
หญิงสาวใช้ส้อมเขี่ยอาหารในจานไปมา ไม่รู้สึกเอร็ดอร่อยแต่อย่างใด เป็นเพราะความรู้สึกตื้อๆ ที่เกิดขึ้นในใจตอนนี้หรือไม่
“ไหมรักคนยาก ถ้ารัก...ก็หมายถึงรักมากและฝังใจ”
“ถ้าเช่นนั้น ผมก็เป็นผู้ชายที่โชคดีมากน่ะซิ” เขาถามยิ้มๆ อย่างภาคภูมิใจ
หัทยานึกในใจอย่างเยาะหยันว่า ‘ใช่แล้ว คุณโชคดีมากที่ได้รับความรักจากฉัน แต่คุณไม่เคยเห็นค่าของมันต่างหาก’
หญิงสาวรู้สึกว่าณัฐวุธกำลังหันเหเรื่องที่พูดไปสู่เรื่องความรักความหลังเก่าๆ มันทำให้หล่อนรู้สึกใจคอไม่ดี ตลอดเวลาที่ผ่านมาหล่อนทำใจให้ลืมความรักครั้งนั้นได้แล้ว และตอนนี้เธอคือหัทยาคนใหม่ที่เข้มแข็ง หญิงสาวจึงตัดบทว่า
“เราอย่าพูดถึงอดีตเลยค่ะ”
เมื่อคืนหล่อนนอนไม่หลับ เฝ้าคิดวนเวียนถึงเรื่องเหล่านี้ ดูท่าทีเขาอยากจะหวนกลับมา หัทยาเฝ้าถามใจตัวเองว่าหล่อนรู้สึกอย่างไร แต่ประสบการณ์ในชีวิตที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้น สอนให้หล่อนมีขอบเขตว่าจะตามใจตัวเองมากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะเรื่องนี้ หล่อนควรจะยั้งๆ ตัวเองไว้บ้าง
ทั้งสองจึงเปลี่ยนไปคุยถามถึงหน้าที่การงาน
เสร็จจากอาหารกลางวันมื้อนั้น ณัฐวุธอยากจะพาหล่อนเที่ยวและให้เลือกว่าอยากจะไปที่ใด
“อยากไปนอกเมืองค่ะ”
“ที่ไหนดีล่ะ” เขาหยุดคิดสักครู่จึงนึกออก “ไป Great America กันไหม” เขาหมายถึงสวนสนุกที่ใหญ่และมีชื่อเสียง ตั้งอยู่แถบชานเมืองชิคาโก
“แต่มันไกลไม่ใช่หรือคะ” หญิงสาวท้วงอย่างเกรงใจ จำได้ว่าสมัยเป็นแฟนกัน เขามักจะบ่นที่ต้องขับรถไปเที่ยวที่ไหนไกลๆ
“ไม่เป็นไรหรอก ผมอยากพาไหมไป หรือว่าต้องรีบกลับ”
“ถ้าไม่ค่ำเกินไป ก็ได้ค่ะ”
ระหว่างทาง หัทยาชวนคุยเรื่องงาน จึงได้ทราบว่า ณัฐวุธช่วยพี่สาวทำธุรกิจเกี่ยวกับการขายตั๋วเครื่องบิน เป็นงานอิสระที่ไม่ต้องผูกติดอยู่กับที่ทำงานนัก ชายหนุ่มจึงมีเวลาว่างมาพาหล่อนเที่ยว และรายได้ก็คงอยู่ในเกณฑ์สูง สังเกตได้จากการที่เขาเปลี่ยนมาใช้รถอเมริกันคันหรูกึ่งสปอร์ตรุ่นใหม่เอี่ยม
หัทยานำเทปเพลงชุดหนึ่งติดตัวมาด้วย หญิงสาวขออนุญาตเปิดเพลงนั้นๆ สักครู่เสียงเพลงที่ดังกระหึ่มขึ้น ทำให้ณัฐวุธหันมามองหน้า ยิ่งเพลงต่อๆ ไป ก็ยิ่งทำให้ชายหนุ่มจำได้ว่ามันเป็นเพลงฮิตของช่วงปีที่เขาและหล่อนกำลังหวานชื่น
……..that break up we had. Has made me lonesome and sad
I realized I love you ‘cause I want you back….
………..Reunited and it feels so good
Reunited ‘cause we understood.
ฝันเอย...อ่อนหวาน ฝันที่เฝ้าเพียรเก็บซ่อนไว้ในส่วนลึก ฝันที่จะได้ร่วมชีวิตกับเขาในดินแดนแห่งนี้
หัทยาลอบมองเสี้ยวหน้าคมคายน่าหลงใหลนั้นนิ่งนาน ช่วงตาลึกช่วยส่งให้จมูกโด่งเป็นสันยิ่งขึ้น หนวดเข้มเหนือริมฝีปากบางระเรื่อนั้นช่วยส่งให้ผิวหน้าขาวตัดกับไรเคราเขียวๆ บริเวณคาง ต่ำลงมาถึงช่วงไหล่กว้างและแขนแข็งแรงที่โผล่พ้นเสื้อยืดคอโปโลสีฟ้าสดใส หญิงสาวลอบผ่อนลมหายใจ สะท้านลึกๆ อยู่ในอก ณัฐวุธ มีพร้อมทุกประการที่ผู้หญิงปรารถนาและไหนจะความอ่อนโยน อาทร ช่างปรนนิบัติเอาใจ จนหัทยาต้องยอมรับกับตัวเองว่าเขาทำให้หล่อนอบอุ่นและมีความสุขเหลือเกินกับช่วงเวลาเหล่านั้นที่เคยรักกัน
แล้วเวลานี้....ดูเหมือนความรู้สึกอบอุ่นเช่นนั้นกำลังเกิดขึ้นอีกครั้ง จนอยากจะหยุดเวลาอยู่เพียงนี้ ไม่มีอดีต ไม่มีอนาคต
เรื่องสั้นชนะการประกวด : รักหรือเข้าใจ (2)
เรื่องสั้นชนะการประกวดนิตยสารแพรว
ดรัสวันต์
ตอนที่ 2
แผนการท่องเที่ยวในวันรุ่งขึ้น กำหนดไว้ว่าจะเที่ยว Field Museum และ Shadd’s Aquarium ในตอนเช้า ส่วนภาคบ่ายเป็น Museum of Science และปิดท้ายด้วยการชมแคมพัสของ University of Chicago ที่เลื่องชื่อด้วยสถาปัตยกรรมของสถาปนิกเอกของอเมริกา Frank Lloyd Wright
หัทยาแยกจากกลุ่มเมื่อใกล้สิบเอ็ดโมง วรลักษณ์สำทับก่อนจากกันว่า
“เย็นนี้อย่าลืมรีบกลับมานะ”
“ค่ะ ไหมจะรีบกลับ”
พอหญิงสาวหันหลังจากไป วรลักษณ์และภาวัตหันมาสบตากัน อย่างคนที่รู้ความนัยกัน
หญิงสาวลงจากรถที่ สเตท สตรีท ถนนสายหลักของดาวน์ทาวน์ชิคาโก หล่อนมาก่อนเวลานัดเพื่อจะได้มีโอกาสมาเดินเที่ยวคนเดียวเงียบๆ ดูความเป็นไปของดาวน์ทาวน์ เปรียบเทียบกับเมื่อ 5 ปี ก่อน ร้านค้าเล็กๆ อาจเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ แต่ห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ อย่าง Marshall Field’s และ Carson Pirie Scott ยังยืนยงอยู่คู่ชิคาโก
หัทยาอดไม่ได้ที่จะแวะเวียนเข้าไปชมสินค้า เมื่อผ่านเคาน์เตอร์ขายขนม หล่อนเกิดความคิดอย่างหนึ่งแล้วตัดสินใจซื้อช็อคโกแลตไส้ถั่วอัลมอนด์มากล่องหนึ่ง
Grand Park สวนสาธารณะคู่เมืองชิคาโก ทอดขนานไปตามริมฝั่งทะเลสาบมิชิแกน ฤดูร้อนเช่นนี้ ท้องฟ้าใส ทะเลสาบสีน้ำเงินสดและกุหลาบนานาพันธุ์ภายในบริเวณสวนต่างชูช่อออกดอกรับแสงอาทิตย์เจิดจ้า หัทยาหาที่นั่งใต้ต้นไม้ร่มครึ้ม ปล่อยใจให้เพลิดเพลินอยู่กับทิวทัศน์เพียงไม่นาน ก็เห็นณัฐวุธเดินตรงมา หล่อนรีบโบกมือให้
“หวังว่าผมคงไม่ได้มาเลทใช่ไหม” เขารีบออกตัว
“เปล่าค่ะ ไหมมาก่อนเวลา อยากมานั่งเล่นชมวิวเพลินๆ ที่นี่”
“จะทานกลางวันกันหรือยัง จวนเที่ยงแล้ว”
“ก็ดีค่ะ”
“เราไปไชน่าทาวน์กันไหม”
หัทยาอยากจะปฏิเสธ แต่อีกใจก็อยากตามใจเขาเพราะรู้ว่าเขาชอบทานอาหารจีนหรือไทยมากกว่าอาหารฝรั่ง ทั้งๆ ที่เขาใช้ชีวิตที่นี่มากว่า 10 ปีแล้ว และเชื่อแน่ว่าคงจะตั้งรกรากอยู่ที่นี่เป็นการถาวรอีกด้วย
หัทยาพยักหน้าตกลง ชายหนุ่มจึงเดินพาไปที่รถพร้อมทั้งยื่นมือมาช่วยถือถุง
“ซื้ออะไรมาครับ”
“ช็อคโกแลตค่ะ ของฝากหลานๆ ของคุณ”
“ไม่น่าลำบากเลย แต่ก็ขอบคุณนะ” เขากล่าวยิ้มๆ
“ไม่เป็นไรค่ะ ป่านนี้แกคงโตมากแล้วนะคะ”
“ฮะ โตมากจนหลอกไม่ได้แล้ว ฉลาดเป็นกรดเลย จนบางครั้งผมเองก็ถูกหลอก” น้ำเสียงตลอดจนท่าทางที่เขาเอ่ยถึงหลานทั้งสาม บ่งบอกถึงความรักใคร่เอ็นดูอย่างสุดซึ้ง....เหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง
แต่ก่อนนั้น หัทยาเคยคิดว่า หากหล่อนแต่งงานมีลูกกับเขา เขาจะแสดงความรักต่อหล่อนและต่อลูกมากเท่านี้ไหม ยิ่งเขาแสดงให้เห็นว่าเขารักและให้ความสำคัญต่อครอบครัวของเขามากเพียงใด ก็ยิ่งทำให้หล่อนรู้สึกราวกับเป็นส่วนเกินมากเท่านั้น
ระหว่างรับประทานอาหารกลางวัน เขาถามหล่อนขึ้นว่า
“ไหม...มี ‘ใคร’ แล้วหรือยัง”
หัทยาชะงัก มองใบหน้าที่เคยอยู่ในห้วงคำนึงมาช้านาน เขากล้าถามหล่อนตรงๆ อย่างนี้เลยหรือ
“ยังค่ะ” ตอบเสียงเบา แล้วกลั้นใจถามออกไปว่า “แน้ทล่ะคะ”
ดวงตาคมปลาบคู่นั้นมีรอยยิ้ม พร้อมกับคำตอบ “ยัง”
ทั้งสองสบตากันนิ่งนาน
“คงเป็นเพราะ ผมยังมีภาพของไหมอยู่เต็มหัวใจกระมัง”
หัทยารู้ว่าเขาปากหวานแต่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งแก้ม แม้จะเก้อเขินแต่หัทยาก็พยายามข่มแล้วชวนคุย
“แน้ทกลับเมืองไทยบ้างหรือเปล่าคะ”
“กลับฮะ เมื่อปีที่แล้ว”
“แล้วไม่พบใครถูกใจบ้างหรือ” หัทยารู้อยู่แก่ใจดีว่าสังคมไทยแคบๆ ที่นี่ คงมีตัวเลือกที่น้อยนิด
“ก็มีบ้าง” เขาแบ่งรับแบ่งสู้ “แต่ยังไม่เจอใครที่ถูกใจจริงๆ ”
หญิงสาวใช้ส้อมเขี่ยอาหารในจานไปมา ไม่รู้สึกเอร็ดอร่อยแต่อย่างใด เป็นเพราะความรู้สึกตื้อๆ ที่เกิดขึ้นในใจตอนนี้หรือไม่
“ไหมรักคนยาก ถ้ารัก...ก็หมายถึงรักมากและฝังใจ”
“ถ้าเช่นนั้น ผมก็เป็นผู้ชายที่โชคดีมากน่ะซิ” เขาถามยิ้มๆ อย่างภาคภูมิใจ
หัทยานึกในใจอย่างเยาะหยันว่า ‘ใช่แล้ว คุณโชคดีมากที่ได้รับความรักจากฉัน แต่คุณไม่เคยเห็นค่าของมันต่างหาก’
หญิงสาวรู้สึกว่าณัฐวุธกำลังหันเหเรื่องที่พูดไปสู่เรื่องความรักความหลังเก่าๆ มันทำให้หล่อนรู้สึกใจคอไม่ดี ตลอดเวลาที่ผ่านมาหล่อนทำใจให้ลืมความรักครั้งนั้นได้แล้ว และตอนนี้เธอคือหัทยาคนใหม่ที่เข้มแข็ง หญิงสาวจึงตัดบทว่า
“เราอย่าพูดถึงอดีตเลยค่ะ”
เมื่อคืนหล่อนนอนไม่หลับ เฝ้าคิดวนเวียนถึงเรื่องเหล่านี้ ดูท่าทีเขาอยากจะหวนกลับมา หัทยาเฝ้าถามใจตัวเองว่าหล่อนรู้สึกอย่างไร แต่ประสบการณ์ในชีวิตที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้น สอนให้หล่อนมีขอบเขตว่าจะตามใจตัวเองมากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะเรื่องนี้ หล่อนควรจะยั้งๆ ตัวเองไว้บ้าง
ทั้งสองจึงเปลี่ยนไปคุยถามถึงหน้าที่การงาน
เสร็จจากอาหารกลางวันมื้อนั้น ณัฐวุธอยากจะพาหล่อนเที่ยวและให้เลือกว่าอยากจะไปที่ใด
“อยากไปนอกเมืองค่ะ”
“ที่ไหนดีล่ะ” เขาหยุดคิดสักครู่จึงนึกออก “ไป Great America กันไหม” เขาหมายถึงสวนสนุกที่ใหญ่และมีชื่อเสียง ตั้งอยู่แถบชานเมืองชิคาโก
“แต่มันไกลไม่ใช่หรือคะ” หญิงสาวท้วงอย่างเกรงใจ จำได้ว่าสมัยเป็นแฟนกัน เขามักจะบ่นที่ต้องขับรถไปเที่ยวที่ไหนไกลๆ
“ไม่เป็นไรหรอก ผมอยากพาไหมไป หรือว่าต้องรีบกลับ”
“ถ้าไม่ค่ำเกินไป ก็ได้ค่ะ”
ระหว่างทาง หัทยาชวนคุยเรื่องงาน จึงได้ทราบว่า ณัฐวุธช่วยพี่สาวทำธุรกิจเกี่ยวกับการขายตั๋วเครื่องบิน เป็นงานอิสระที่ไม่ต้องผูกติดอยู่กับที่ทำงานนัก ชายหนุ่มจึงมีเวลาว่างมาพาหล่อนเที่ยว และรายได้ก็คงอยู่ในเกณฑ์สูง สังเกตได้จากการที่เขาเปลี่ยนมาใช้รถอเมริกันคันหรูกึ่งสปอร์ตรุ่นใหม่เอี่ยม
หัทยานำเทปเพลงชุดหนึ่งติดตัวมาด้วย หญิงสาวขออนุญาตเปิดเพลงนั้นๆ สักครู่เสียงเพลงที่ดังกระหึ่มขึ้น ทำให้ณัฐวุธหันมามองหน้า ยิ่งเพลงต่อๆ ไป ก็ยิ่งทำให้ชายหนุ่มจำได้ว่ามันเป็นเพลงฮิตของช่วงปีที่เขาและหล่อนกำลังหวานชื่น
……..that break up we had. Has made me lonesome and sad
I realized I love you ‘cause I want you back….
………..Reunited and it feels so good
Reunited ‘cause we understood.
ฝันเอย...อ่อนหวาน ฝันที่เฝ้าเพียรเก็บซ่อนไว้ในส่วนลึก ฝันที่จะได้ร่วมชีวิตกับเขาในดินแดนแห่งนี้
หัทยาลอบมองเสี้ยวหน้าคมคายน่าหลงใหลนั้นนิ่งนาน ช่วงตาลึกช่วยส่งให้จมูกโด่งเป็นสันยิ่งขึ้น หนวดเข้มเหนือริมฝีปากบางระเรื่อนั้นช่วยส่งให้ผิวหน้าขาวตัดกับไรเคราเขียวๆ บริเวณคาง ต่ำลงมาถึงช่วงไหล่กว้างและแขนแข็งแรงที่โผล่พ้นเสื้อยืดคอโปโลสีฟ้าสดใส หญิงสาวลอบผ่อนลมหายใจ สะท้านลึกๆ อยู่ในอก ณัฐวุธ มีพร้อมทุกประการที่ผู้หญิงปรารถนาและไหนจะความอ่อนโยน อาทร ช่างปรนนิบัติเอาใจ จนหัทยาต้องยอมรับกับตัวเองว่าเขาทำให้หล่อนอบอุ่นและมีความสุขเหลือเกินกับช่วงเวลาเหล่านั้นที่เคยรักกัน
แล้วเวลานี้....ดูเหมือนความรู้สึกอบอุ่นเช่นนั้นกำลังเกิดขึ้นอีกครั้ง จนอยากจะหยุดเวลาอยู่เพียงนี้ ไม่มีอดีต ไม่มีอนาคต