
• เกิดมาไม่เคยไปเที่ยวเมืองนอกแล้วขับรถเองเลยสักครั้ง
• เอาจริงๆ แค่เที่ยวตจว. ยังไม่เคยเช่ารถขับเองเล้ยยยยย
• จะด้วยขี้เกียจ หรือกลัวขับรถชาวบ้านแล้วซวยก็ตาม
• เอาเป็นว่าความคิดนี้หายไปเมื่อเมียเดินมาบอกว่า
เมีย : เธอๆ ปีนี้เราไปขับรถเที่ยวฮอกไกโดกันมะ ไม่หนาวมากนะ ขับง่าย
ผม : เอาสิ!
• ภาพตัดไปอีกที ผมยืนอยู่ที่หน้าเคาท์เตอร์ใบขับขี่ระหว่างประเทศ ขนส่งหมอชิต
• หลังจากรับบัตรคิว ยื่นเอกสาร จ่ายตังค์ ใบขับขี่ก็มาอยู่ในมือเรียบร้อย
• เสร็จเร็วกว่าที่คิดแฮะ มันง่ายกว่ามาต่อใบขับขี่ซะอีก
• ไหนๆ จะเป็นการขับรถเที่ยวเองแล้ว ก็ขอลองเก็บเมืองเด่นๆ ให้เท่าที่ขับไปไหว
แพลนการเดินทางก็ประมาณนี้ฮะ
BKK > New Chitose Sapporo airport > รับรถที่ Nippon car outlet > Noboribetsu >
Lake Toya > Otaru > Sapporo > Asahikawa > Biei > Furano
• ทริปนี้ผมและภรรยาแบ่งหน้าที่กันชัดเจนมากครับ
ภรรยา รับหน้าที่หาข้อมูล จองตั๋ว, จองที่พัก ,จองรถ ,ระบุพิกัด GPS, หาที่เที่ยว เรียกว่าทุกสิ่งอัน
ผม รับหน้าที่ค่าใช้จ่ายฮะ
• Hokkaido เป็นเมืองที่ขับรถเที่ยวไม่ยากเลยครับ
• สว. ไปได้ วัยรุ่นไปดี ทริปนี้มีผู้ร่วมทางคือผม แฟน ป๊า ม๊า และน้องชายแฟน
• ทั้งหมด 5 ชีวิต ขับไปใน Toyota Wish 1 คัน
• พูดถึงรถ ขอพูดถึงวิธีการจองรถสักนิดนะฮะ
• คือถ้าจะเน้นถูก แบบที่ผมเน้นเนี่ย ขอแนะนำเว็บ
http://www2.tocoo.jp/en
• เมียอ่านมาหลายกระทู้ละฮะ พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า Nippon Car เวิร์คสุด
• เวลาจอง ให้ดูรายละเอียดให้ดีนะครับ เช่น รถ 7 ที่นั่ง จริงๆ มันคือนั่งได้ 5 คน ถ้าจะนั่ง 7 แม่มจะเบียดเบียนกันมากๆ
• หรือพวก Navigation ก็ควรติ๊กช่อง Multi-Language ไว้ด้วยฮะ มันจะพูดอังกฤษกับเราได้ ไม่งั้นญี่ปุ่นล้วนๆ
• ตั๋วทางด่วน ถ้าคุณขับทะลุ ทะลวงไปหลายเมือง, เหมือนผม, คำนวณดูแล้วยังไงก็คุ้มกว่าจ่ายเป็นด่านๆ แน่นอนฮะ ซื้อโลดดดด
• เกริ่นกันประมาณนี้ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังไปเป็นเมืองๆ เลยละกันนะครับ
|| BANGKOK ||
• ผมเปิด email ดูเอกสารเพื่อความมั่นใจว่า เราออกเดินทางวันคืนพุธ ตี 1
• เอาล่ะ วันนี้วันจันทร์ ยังมีเวลาเก็บของวันพุธอีกทั้งวัน เหลือๆ
• ตอนบ่าย แฟนโทรมาบอกว่า...เธอๆ เก็บของเสร็จยัง เราออกคืนวันอังคารนะ
• ผม : ห๊ะ?!? มันไม่ใช่คืนพุธ ตอนตี 1 หรอกหรอ?
แฟน : ใช่ ก็วันพุธ ตี 1 ก็คือคืนวันอังคารไงงงง
ผม : ที่รัก...ช่วยเก็บของให้หน่อยจิๆๆๆ
|| HONG KONG ||

• ทริปนี้พวกเราบิน Cathay Pacific, มีเปลี่ยน Flight ทีนึงที่ Hong Kong
• ระหว่างรอก็หลับยาวๆ ได้เลยฮะ 3 ชั่วโมงแน่ะ
• ช่วงที่ผมไปนี่คือก่อนจะ High Season แค่ 2 สัปดาห์
• ทราบข้อมูลจากผู้รู้ภายหลังว่า ช่วงที่เค้ามากันคือ ปลายๆ เมษา - ต้น พฤษภา
Hokkaido จะเข้า Spring พอดี
• คือหัวอกมนุษย์เงินเดือนนะฮะ ลาได้แค่ช่วงสงกรานต์นี่แหละ จะเอาตรง High Season เป๊ะ
วันลาก็ไม่พออี๊กกก
• จะว่าไปข้อดีของการมา Mid Season เยี่ยงนี้ก็คือ
• ขึ้นเครื่องปุ๊บ...โห คนอย่างโล่ง
• คนมันน้อยแบบ เหลือที่ว่างครึ่งลำ ย้ายที่นั่งกันตามใจชอบ
• มีฝรั่งนอนยืดขาไป 3 ที่นั่ง อย่างกะบิน Business Class
• ข้อดีข้อถัดไป การขับรถที่นี่ Fin เฟร่ออออ รถก็น้อย, แต่เอาจริงๆ ผมไม่ชัวร์ว่า ฤดูพีครถมันจะเยอะรึเปล่า ยังไม่เคยมาช่วงนั้นนะครัช ใครเคยรบกวนบอกโหน่ย
• สิ่งที่ตามกันมาก็คือ ไปไหน คนก็โล่ง…
โลกแม่มเป็นของเราอ่ะ ทุกอย่างคิวน้อยๆ รอไม่นาน สวรรค์ชัดๆ
• ช่วงตอนที่ผมไป มันเหมือนเป็นรอยต่อคาบเกี่ยวระหว่าง Winter ไป Spring
• มีความสับสนคือ หิมะยังกองอยู่เต็มพื้น แต่มันไม่ใช่ฤดูหนาว
• ใบไม้ก็ยังไม่เปลี่ยนสี ดังนั้นมันก็ยังไม่ใช่ฤดูใบไม้ผลิ
• ผมขอเรียกช่วงฤดูลูกผสมตีมึนนี้ว่า ‘Winpring’ ละกันนะฮะ
• Winpring นี่มีข้อดีคร่าวๆ ดังที่ได้กล่าวไป แต่ข้อควรระวังมันก็มีคือ
มันจะจัดเสื้อผ้างงๆ นิดนึง
• คนไทยเราพอรู้ว่าจะต้องเจอหิมะ ก็จะมีความจัดเต็มนิสนุง
• เอาจริงๆ มันก็ไม่ได้หนาวขนาดนั้น มันไม่ได้แบบ 0 องศาด้วยซ้ำ
• แต่จะเปรี้ยวเอาแค่ Sweater ไปมันก็จะไม่พอ
• สรุปมันเลยกลายเป็นหอบเสื้อกันหนาวน้อย + กันหนาวมาก ไปพร้อมๆ กัน
• เป๋าตุงมากเลยล่ะฮะ
|| CHITOSE ||

• ตัดภาพมาที่สนามบิน Chitose
• สิ่งแรกที่พวกเราไปทำคือ ไปเอารถเช่า
• อย่างที่ได้เกริ่นไป พวกเราของ NIPPON RENT CAR ไว้
• ความดีงามคือพนักงานพูดอังกฤษได้อย่างเข้าอกเข้าใจ
คือค่อยๆ อธิบายช้าๆ กลัวเราจะงง, ซึ่งก็เกือบจะงงจริงๆ
• บนรถจะมีระบบ Navigation คล้ายๆ Google Map ซึ่งมันใช้ง่ายกว่าตรงที่
เราสามารถใส่เบอร์โทรของโรงแรม หรือสถานที่ๆ จะไป หรือพิมพ์ MAPCODE ของสถานที่นั้นๆ ได้หมด

• MAPCODE คือรหัสประมาณ 5-7 หลักของสถานที่ต่างๆ ใช้แทนการพิมพ์ชื่อสถานที่ยาวๆ ฮะ
• MAPCODE มีความแม่นยำสูงมากพอๆ กับการกรอกเลข Lat,Long เลยทีเดียว พนักงานเค้าว่าไว้งั้น
• ตอนจองรถ เค้าบอกว่า รถ 7 ที่นั่ง แนะนำนั่ง 5 คน
นั่นแปลว่า คุณจะได้รถขนาดประมาณ TOYOTA WISH
• กะให้ดีๆ นะฮะ 7 ที่นั่ง ก็จริง แต่แถวหลังต้องยกขึ้นเพื่อเก็บกระเป๋า
เหลือที่นั่งจริงๆ หน้า 2 หลัง 3 ก็แน่นละฮะ
• การขับรถที่ญี่ปุ่นง่ายกว่าที่คิดฮะ พวงมาลัยขับขวาเหมือนไทย
• ที่ไม่เหมือนคือแทบทุกคันนี่เคารพกฎจราจรกันจริงจัง
• ไม่เจอคนฝ่าไฟแดง แทบไม่มีคนขับเกิน speed limit
• ที่ซึ่งบ้านเค้าในเมือง limit ที่ 50 กม./ชม. !?!
• ใครชอบสโลว์ไลฟ์เชิญเลยฮะ
• ส่วนนอกเมืองหรือบนทางด่วนนี่ 80 กม./ชม.
• บ้านเราเหยียบกันไป 140 เฉยยยย
• โดยรวมคือชาวยุ่นค่อนข้างเคารพกฎ และมีมารยาทการขับรถสูงเลยฮะ
• ขับอยู่ 7 วันกระทั่งเสียงแตร ยังไม่ได้ยิน
• สิ่งแรกที่พวกเราทำหลังจากได้รถคือ หาของกิน!
• พนักงานแนะนำว่า ใกล้ๆ นี้มี Outlet ซึ่งมีร้านอาหารให้กินมากมาย ขับรถไปแค่ 5 นาทีถึง
• พวกเราพุ่งตรงไปที่โซนร้านอาหารทันที สายตาสะดุดตั้งแต่ร้านแรกด้วยป้ายนี้

• ด้วยความเชื่อโฆษณาสุดฤทธิ์ ก็สั่งเมนูตามป้ายนี้เลย บวกข้าวหน้าหมูซีอิ้วไปอีกหนึ่ง
• เนื้อสไลซ์บางๆ เกือบๆ สุก นุ่มและหอมกำลังดี ตัดรสด้วยครีมซอสโยเกิร์ต (มั้ง) รสชาติอมเปรี้ยว
เข้ากับเนื้อและไข่ที่โปะมาแบบไม่น่าเชื่อ
• ส่วนข้าวหน้าหมูก็ไม่เลว เป็นหมูสันนอก ติดมันนุ่มๆ หมักกับซอสจนเข้าเนื้อ
• อื้อหือออออ หย่อยมาก
• หรืออาจจะเพราะว่าผมหิวมากก็เป็นได้!?

• เสร็จจากของคาว เราไปต่อของหวาน
• ใกล้ๆ โรงแรมที่พัก มีห้าง Aeon อยู่ พวกเราลองไปสำรวจกันพบว่า
เช้ดดดด นี่มันแหล่งรวมของหวานชัดๆ
• ร้านแนะนำคือ Morimoto เป็นร้านขนมแนว Patisserie
• เนื่องจากร้านมีเมนูเยอะมาก เพื่อกระจายความเสี่ยง พวกเราเลยลองซื้อขนมหลายๆ อย่าง
แค่อย่างละชิ้นมาลองแกะกินกันดูก่อน

• เทคนิคนี้เวิร์คฮะ อันไหนอร่อยก็ซื้อเพิ่มเอา
• ขนมห่อเหลืองกับห่อเขียวที่เอามาลงนี่คือตัวเด่นของร้านฮะ
• ที่พักแรกที่เราใช้บริการคือ Hotel Wing International Chitose
• ทีเด็ดอยู่ที่อาหารเช้ารสมือคุณแม่ญี่ปุ่น
• สไตล์อาหารเป็นบุฟเฟ่ต์ญี่ปุ่นผสมฝรั่ง
• กับข้าวมีให้ตักมากมาย ปลาซอลมอน, ปลาซาบะ, เต้าหู้, ผักดอง, สลัด, ซุป
• Highlight คือไก่ทอด อร่อยมากกก ราดซอสกะหรี่คือดีงาม
• ซัดมื้อเช้ากันไปเต็มท้อง เราก็โบกมือลาโรงแรมนี้ไปแบบเสียดายหน่อยๆ
[CR] [CR] รีวิว ขับรถเที่ยวรอบเกาะ Hokkaido ในฤดู Winpring!?! (รูปเพียบ) by Singpaitour
• เกิดมาไม่เคยไปเที่ยวเมืองนอกแล้วขับรถเองเลยสักครั้ง
• เอาจริงๆ แค่เที่ยวตจว. ยังไม่เคยเช่ารถขับเองเล้ยยยยย
• จะด้วยขี้เกียจ หรือกลัวขับรถชาวบ้านแล้วซวยก็ตาม
• เอาเป็นว่าความคิดนี้หายไปเมื่อเมียเดินมาบอกว่า
เมีย : เธอๆ ปีนี้เราไปขับรถเที่ยวฮอกไกโดกันมะ ไม่หนาวมากนะ ขับง่าย
ผม : เอาสิ!
• ภาพตัดไปอีกที ผมยืนอยู่ที่หน้าเคาท์เตอร์ใบขับขี่ระหว่างประเทศ ขนส่งหมอชิต
• หลังจากรับบัตรคิว ยื่นเอกสาร จ่ายตังค์ ใบขับขี่ก็มาอยู่ในมือเรียบร้อย
• เสร็จเร็วกว่าที่คิดแฮะ มันง่ายกว่ามาต่อใบขับขี่ซะอีก
• ไหนๆ จะเป็นการขับรถเที่ยวเองแล้ว ก็ขอลองเก็บเมืองเด่นๆ ให้เท่าที่ขับไปไหว
แพลนการเดินทางก็ประมาณนี้ฮะ
BKK > New Chitose Sapporo airport > รับรถที่ Nippon car outlet > Noboribetsu >
Lake Toya > Otaru > Sapporo > Asahikawa > Biei > Furano
• ทริปนี้ผมและภรรยาแบ่งหน้าที่กันชัดเจนมากครับ
ภรรยา รับหน้าที่หาข้อมูล จองตั๋ว, จองที่พัก ,จองรถ ,ระบุพิกัด GPS, หาที่เที่ยว เรียกว่าทุกสิ่งอัน
ผม รับหน้าที่ค่าใช้จ่ายฮะ
• Hokkaido เป็นเมืองที่ขับรถเที่ยวไม่ยากเลยครับ
• สว. ไปได้ วัยรุ่นไปดี ทริปนี้มีผู้ร่วมทางคือผม แฟน ป๊า ม๊า และน้องชายแฟน
• ทั้งหมด 5 ชีวิต ขับไปใน Toyota Wish 1 คัน
• พูดถึงรถ ขอพูดถึงวิธีการจองรถสักนิดนะฮะ
• คือถ้าจะเน้นถูก แบบที่ผมเน้นเนี่ย ขอแนะนำเว็บ http://www2.tocoo.jp/en
• เมียอ่านมาหลายกระทู้ละฮะ พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า Nippon Car เวิร์คสุด
• เวลาจอง ให้ดูรายละเอียดให้ดีนะครับ เช่น รถ 7 ที่นั่ง จริงๆ มันคือนั่งได้ 5 คน ถ้าจะนั่ง 7 แม่มจะเบียดเบียนกันมากๆ
• หรือพวก Navigation ก็ควรติ๊กช่อง Multi-Language ไว้ด้วยฮะ มันจะพูดอังกฤษกับเราได้ ไม่งั้นญี่ปุ่นล้วนๆ
• ตั๋วทางด่วน ถ้าคุณขับทะลุ ทะลวงไปหลายเมือง, เหมือนผม, คำนวณดูแล้วยังไงก็คุ้มกว่าจ่ายเป็นด่านๆ แน่นอนฮะ ซื้อโลดดดด
• เกริ่นกันประมาณนี้ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังไปเป็นเมืองๆ เลยละกันนะครับ
|| BANGKOK ||
• ผมเปิด email ดูเอกสารเพื่อความมั่นใจว่า เราออกเดินทางวันคืนพุธ ตี 1
• เอาล่ะ วันนี้วันจันทร์ ยังมีเวลาเก็บของวันพุธอีกทั้งวัน เหลือๆ
• ตอนบ่าย แฟนโทรมาบอกว่า...เธอๆ เก็บของเสร็จยัง เราออกคืนวันอังคารนะ
• ผม : ห๊ะ?!? มันไม่ใช่คืนพุธ ตอนตี 1 หรอกหรอ?
แฟน : ใช่ ก็วันพุธ ตี 1 ก็คือคืนวันอังคารไงงงง
ผม : ที่รัก...ช่วยเก็บของให้หน่อยจิๆๆๆ
|| HONG KONG ||
• ทริปนี้พวกเราบิน Cathay Pacific, มีเปลี่ยน Flight ทีนึงที่ Hong Kong
• ระหว่างรอก็หลับยาวๆ ได้เลยฮะ 3 ชั่วโมงแน่ะ
• ช่วงที่ผมไปนี่คือก่อนจะ High Season แค่ 2 สัปดาห์
• ทราบข้อมูลจากผู้รู้ภายหลังว่า ช่วงที่เค้ามากันคือ ปลายๆ เมษา - ต้น พฤษภา
Hokkaido จะเข้า Spring พอดี
• คือหัวอกมนุษย์เงินเดือนนะฮะ ลาได้แค่ช่วงสงกรานต์นี่แหละ จะเอาตรง High Season เป๊ะ
วันลาก็ไม่พออี๊กกก
• จะว่าไปข้อดีของการมา Mid Season เยี่ยงนี้ก็คือ
• ขึ้นเครื่องปุ๊บ...โห คนอย่างโล่ง
• คนมันน้อยแบบ เหลือที่ว่างครึ่งลำ ย้ายที่นั่งกันตามใจชอบ
• มีฝรั่งนอนยืดขาไป 3 ที่นั่ง อย่างกะบิน Business Class
• ข้อดีข้อถัดไป การขับรถที่นี่ Fin เฟร่ออออ รถก็น้อย, แต่เอาจริงๆ ผมไม่ชัวร์ว่า ฤดูพีครถมันจะเยอะรึเปล่า ยังไม่เคยมาช่วงนั้นนะครัช ใครเคยรบกวนบอกโหน่ย
• สิ่งที่ตามกันมาก็คือ ไปไหน คนก็โล่ง…
โลกแม่มเป็นของเราอ่ะ ทุกอย่างคิวน้อยๆ รอไม่นาน สวรรค์ชัดๆ
• ช่วงตอนที่ผมไป มันเหมือนเป็นรอยต่อคาบเกี่ยวระหว่าง Winter ไป Spring
• มีความสับสนคือ หิมะยังกองอยู่เต็มพื้น แต่มันไม่ใช่ฤดูหนาว
• ใบไม้ก็ยังไม่เปลี่ยนสี ดังนั้นมันก็ยังไม่ใช่ฤดูใบไม้ผลิ
• ผมขอเรียกช่วงฤดูลูกผสมตีมึนนี้ว่า ‘Winpring’ ละกันนะฮะ
• Winpring นี่มีข้อดีคร่าวๆ ดังที่ได้กล่าวไป แต่ข้อควรระวังมันก็มีคือ
มันจะจัดเสื้อผ้างงๆ นิดนึง
• คนไทยเราพอรู้ว่าจะต้องเจอหิมะ ก็จะมีความจัดเต็มนิสนุง
• เอาจริงๆ มันก็ไม่ได้หนาวขนาดนั้น มันไม่ได้แบบ 0 องศาด้วยซ้ำ
• แต่จะเปรี้ยวเอาแค่ Sweater ไปมันก็จะไม่พอ
• สรุปมันเลยกลายเป็นหอบเสื้อกันหนาวน้อย + กันหนาวมาก ไปพร้อมๆ กัน
• เป๋าตุงมากเลยล่ะฮะ
|| CHITOSE ||
• ตัดภาพมาที่สนามบิน Chitose
• สิ่งแรกที่พวกเราไปทำคือ ไปเอารถเช่า
• อย่างที่ได้เกริ่นไป พวกเราของ NIPPON RENT CAR ไว้
• ความดีงามคือพนักงานพูดอังกฤษได้อย่างเข้าอกเข้าใจ
คือค่อยๆ อธิบายช้าๆ กลัวเราจะงง, ซึ่งก็เกือบจะงงจริงๆ
• บนรถจะมีระบบ Navigation คล้ายๆ Google Map ซึ่งมันใช้ง่ายกว่าตรงที่
เราสามารถใส่เบอร์โทรของโรงแรม หรือสถานที่ๆ จะไป หรือพิมพ์ MAPCODE ของสถานที่นั้นๆ ได้หมด
• MAPCODE คือรหัสประมาณ 5-7 หลักของสถานที่ต่างๆ ใช้แทนการพิมพ์ชื่อสถานที่ยาวๆ ฮะ
• MAPCODE มีความแม่นยำสูงมากพอๆ กับการกรอกเลข Lat,Long เลยทีเดียว พนักงานเค้าว่าไว้งั้น
• ตอนจองรถ เค้าบอกว่า รถ 7 ที่นั่ง แนะนำนั่ง 5 คน
นั่นแปลว่า คุณจะได้รถขนาดประมาณ TOYOTA WISH
• กะให้ดีๆ นะฮะ 7 ที่นั่ง ก็จริง แต่แถวหลังต้องยกขึ้นเพื่อเก็บกระเป๋า
เหลือที่นั่งจริงๆ หน้า 2 หลัง 3 ก็แน่นละฮะ
• การขับรถที่ญี่ปุ่นง่ายกว่าที่คิดฮะ พวงมาลัยขับขวาเหมือนไทย
• ที่ไม่เหมือนคือแทบทุกคันนี่เคารพกฎจราจรกันจริงจัง
• ไม่เจอคนฝ่าไฟแดง แทบไม่มีคนขับเกิน speed limit
• ที่ซึ่งบ้านเค้าในเมือง limit ที่ 50 กม./ชม. !?!
• ใครชอบสโลว์ไลฟ์เชิญเลยฮะ
• ส่วนนอกเมืองหรือบนทางด่วนนี่ 80 กม./ชม.
• บ้านเราเหยียบกันไป 140 เฉยยยย
• โดยรวมคือชาวยุ่นค่อนข้างเคารพกฎ และมีมารยาทการขับรถสูงเลยฮะ
• ขับอยู่ 7 วันกระทั่งเสียงแตร ยังไม่ได้ยิน
• สิ่งแรกที่พวกเราทำหลังจากได้รถคือ หาของกิน!
• พนักงานแนะนำว่า ใกล้ๆ นี้มี Outlet ซึ่งมีร้านอาหารให้กินมากมาย ขับรถไปแค่ 5 นาทีถึง
• พวกเราพุ่งตรงไปที่โซนร้านอาหารทันที สายตาสะดุดตั้งแต่ร้านแรกด้วยป้ายนี้
• ด้วยความเชื่อโฆษณาสุดฤทธิ์ ก็สั่งเมนูตามป้ายนี้เลย บวกข้าวหน้าหมูซีอิ้วไปอีกหนึ่ง
• เนื้อสไลซ์บางๆ เกือบๆ สุก นุ่มและหอมกำลังดี ตัดรสด้วยครีมซอสโยเกิร์ต (มั้ง) รสชาติอมเปรี้ยว
เข้ากับเนื้อและไข่ที่โปะมาแบบไม่น่าเชื่อ
• ส่วนข้าวหน้าหมูก็ไม่เลว เป็นหมูสันนอก ติดมันนุ่มๆ หมักกับซอสจนเข้าเนื้อ
• อื้อหือออออ หย่อยมาก
• หรืออาจจะเพราะว่าผมหิวมากก็เป็นได้!?
• เสร็จจากของคาว เราไปต่อของหวาน
• ใกล้ๆ โรงแรมที่พัก มีห้าง Aeon อยู่ พวกเราลองไปสำรวจกันพบว่า
เช้ดดดด นี่มันแหล่งรวมของหวานชัดๆ
• ร้านแนะนำคือ Morimoto เป็นร้านขนมแนว Patisserie
• เนื่องจากร้านมีเมนูเยอะมาก เพื่อกระจายความเสี่ยง พวกเราเลยลองซื้อขนมหลายๆ อย่าง
แค่อย่างละชิ้นมาลองแกะกินกันดูก่อน
• เทคนิคนี้เวิร์คฮะ อันไหนอร่อยก็ซื้อเพิ่มเอา
• ขนมห่อเหลืองกับห่อเขียวที่เอามาลงนี่คือตัวเด่นของร้านฮะ
• ที่พักแรกที่เราใช้บริการคือ Hotel Wing International Chitose
• ทีเด็ดอยู่ที่อาหารเช้ารสมือคุณแม่ญี่ปุ่น
• สไตล์อาหารเป็นบุฟเฟ่ต์ญี่ปุ่นผสมฝรั่ง
• กับข้าวมีให้ตักมากมาย ปลาซอลมอน, ปลาซาบะ, เต้าหู้, ผักดอง, สลัด, ซุป
• Highlight คือไก่ทอด อร่อยมากกก ราดซอสกะหรี่คือดีงาม
• ซัดมื้อเช้ากันไปเต็มท้อง เราก็โบกมือลาโรงแรมนี้ไปแบบเสียดายหน่อยๆ