สวัสดีคนเก่า และสวัสดีคนใหม่นะครับ
ก่อนอื่นต้องกราบขอโทษทุกคนจริงๆครับ ที่หายไปโดยไม่ได้บอกกล่าว ผมไม่มีอะไรแก้ตัวครับ นอกจากมรสุมชีวิตที่เข้ามา ทำให้พละกำลังทุกอย่างที่จะทำอะไรหลายๆอย่างมันหมดไป
ขอบอกก่อนเลยว่า เรื่องราวต่อจากที่ผมเล่าค้างไว้ล่าสุดนั้น ผมเขียนต่อไว้เยอะมากครับ แต่อย่างที่เล่าข้างบน คือจังหวะมรสุมชีวิตเข้ามา พร้อมกับคอมพิวเตอร์ติดไวรัส ทำให้ไฟล์ทุกอย่างที่เซฟเก็บไว้ หายไปหมด ผมก็เลยไม่ได้เริ่มเขียนใหม่สักที
จนเมื่อหลายวันก่อน เข้ามาพันทิปอีกครั้ง และพบว่าตัวเองเคยมอบความสุขให้กับหลายคนมากแค่ไหน และตัวเองได้สัญญากับหลายคนไว้ยังไง “ยังไงผมก็จะเขียนต่อ จะเล่าต่อให้ถึงที่สุด” มันทำให้ผมรู้สึกผิดที่ทิ้งทุกคนไว้แบบนี้
ดังนั้น ผมต้องขอโทษทุกคนนะครับ และขอกล่าวสวัสดีทุกคนใหม่อีกครั้ง ผมกลับมาแล้วครับ กลับมาตามสัญญา และจะทำหน้าที่ที่ค้างไว้ให้เสร็จสิ้นครับ
ปล.ผมไม่ได้กลับมาเรียกกระแสหรือคาดหวังให้ทุกคนชอบและติดตามผมใหม่อีกครั้งนะครับ ผมกลับมาทำตามสัญญาครับ
ปล2. สำหรับคนที่ลืมเรื่องเล่าผมเมื่อครั้งก่อนนู้นนนนน ก่อนพันทิปจะปรับโฉมซะอีก ผมขออนุญาติเอาไฟล์เก่าที่มีคนใจดีรวบรวมไว้ให้มาแปะ ให้โหลดไปรื้อฟื้นความจำนะครับ
http://goo.gl/5m68Vz
อ่า.... ยังไงดี เรื่องถึงไหนแล้วนะครับ อ้ออออออ!!! ผมกับเขาเป็นแฟนกันแล้วนี่หว่า 5555 งั้นก็มาต่อหลังจากนั้นเลยนะครับ
หลังจากคืนนั้น คืนที่สถานะของเราสองคนเปลี่ยนไปเรียบร้อยแล้ว
ผมกล้าเรียกเข้าได้เต็มปากและภาคภูมิใจว่า “แฟน” ในขณะที่เขาก็กล้าเรียกผมว่า “แฟน” เหมือนกัน
และมันก็จะดูน่ารักมุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งกิงก่องแก้วมากเลยใช่มั้ยครับ ถ้าเราสองคนทำตัวประหนึ่งคู่รัก เค้า ตัวเอง เธอ ชั้น
แต่เปล่าเลย..... เราสองคนยังเรียกกัน กุ เมิง ปกติเหมือนเดิม จะมีที่ต่างไปก็แค่...
“แฟนกุทำไมหล่อจังวะ!”
“แฟนกุสูงล่ำจังเลย”
“แฟนกุนี่สุภาพบุรุษสุด”
“แฟนกุนี่ฉลาดที่สุด”
ในขณะที่อีกฝั่ง
“กุเป็นแฟนเมิงแล้วนะ ทำไมกุจะมาหาเมิงทุกวันไม่ได้” อ้าว! มาทุกวันก็เปลืองน้ำมันสิ บ้านเมิงไกลจะตาย
“กุเป็นแฟนเมิงแล้วนะ ทำไมกุซื้ออะไรให้เมิงกุต้องโดนด่าด้วย” ก็เมิงซื้อแต่ละอย่าง จำเป็นมั้ยหล่ะ จะซื้อน้ำหอม จะซื้อเสื้อผ้าแพงๆให้ มันใช่เรื่องมั้ย กุใส่เสื้อยืด 100 200 ก็ได้
“กุเป็นแฟนเมิงแล้วนะ ทำไมกุจะกอดกุจะจูบกุต้องขออนุญาต” แหมมมม เล่นทำอะไรไม่คิดเลยว่ากุทำไรอยู่ กุดอทเอก็มาหร่ะ กุจะฉี่ก็มาอีกหร่ะ
“กุเป็นแฟนเมิงแล้วนะ ทำไมกุจะมีอะไรกับเมิงทุกวันไม่ได้” ไอฟายยยยยยยยยยยยยยยยย!!!
นี่แหละครับ การเป็นแฟนของเราสองคน 5555555
เราทั้งสองแทบจะใช้ชีวิตปกติสุขเหมือนเดิมทุกอย่างครับ ไม่ต่างจากตอนที่สถานะเราคลุมเครือกันอยู่
ผมยังคงไปเรียน เล่นดอทเอ กินเบียร์กับเพื่อนๆ ดูหนังรอบดึก กินข้าวรอบดึก
ในขณะที่แฟนผม ก็ไปเรียน ทำงานที่บ้าน ดูแลพ่อแม่ เที่ยวกับเพื่อน ดูหนังรอบดึก กินข้าวรอบดึก
ชีวิตเด็กมหาลัยมีแฟน ยังคงวนเวียนไปในแบบเดิมๆ ไม่รู้จะเล่าอะไรเหมือนกัน 555
เรื่องเล่าของผม (แนวนิ้ว) ผมมาเล่าต่อให้จบครับ [Y]
ก่อนอื่นต้องกราบขอโทษทุกคนจริงๆครับ ที่หายไปโดยไม่ได้บอกกล่าว ผมไม่มีอะไรแก้ตัวครับ นอกจากมรสุมชีวิตที่เข้ามา ทำให้พละกำลังทุกอย่างที่จะทำอะไรหลายๆอย่างมันหมดไป
ขอบอกก่อนเลยว่า เรื่องราวต่อจากที่ผมเล่าค้างไว้ล่าสุดนั้น ผมเขียนต่อไว้เยอะมากครับ แต่อย่างที่เล่าข้างบน คือจังหวะมรสุมชีวิตเข้ามา พร้อมกับคอมพิวเตอร์ติดไวรัส ทำให้ไฟล์ทุกอย่างที่เซฟเก็บไว้ หายไปหมด ผมก็เลยไม่ได้เริ่มเขียนใหม่สักที
จนเมื่อหลายวันก่อน เข้ามาพันทิปอีกครั้ง และพบว่าตัวเองเคยมอบความสุขให้กับหลายคนมากแค่ไหน และตัวเองได้สัญญากับหลายคนไว้ยังไง “ยังไงผมก็จะเขียนต่อ จะเล่าต่อให้ถึงที่สุด” มันทำให้ผมรู้สึกผิดที่ทิ้งทุกคนไว้แบบนี้
ดังนั้น ผมต้องขอโทษทุกคนนะครับ และขอกล่าวสวัสดีทุกคนใหม่อีกครั้ง ผมกลับมาแล้วครับ กลับมาตามสัญญา และจะทำหน้าที่ที่ค้างไว้ให้เสร็จสิ้นครับ
ปล.ผมไม่ได้กลับมาเรียกกระแสหรือคาดหวังให้ทุกคนชอบและติดตามผมใหม่อีกครั้งนะครับ ผมกลับมาทำตามสัญญาครับ
ปล2. สำหรับคนที่ลืมเรื่องเล่าผมเมื่อครั้งก่อนนู้นนนนน ก่อนพันทิปจะปรับโฉมซะอีก ผมขออนุญาติเอาไฟล์เก่าที่มีคนใจดีรวบรวมไว้ให้มาแปะ ให้โหลดไปรื้อฟื้นความจำนะครับ http://goo.gl/5m68Vz
อ่า.... ยังไงดี เรื่องถึงไหนแล้วนะครับ อ้ออออออ!!! ผมกับเขาเป็นแฟนกันแล้วนี่หว่า 5555 งั้นก็มาต่อหลังจากนั้นเลยนะครับ
หลังจากคืนนั้น คืนที่สถานะของเราสองคนเปลี่ยนไปเรียบร้อยแล้ว
ผมกล้าเรียกเข้าได้เต็มปากและภาคภูมิใจว่า “แฟน” ในขณะที่เขาก็กล้าเรียกผมว่า “แฟน” เหมือนกัน
และมันก็จะดูน่ารักมุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งกิงก่องแก้วมากเลยใช่มั้ยครับ ถ้าเราสองคนทำตัวประหนึ่งคู่รัก เค้า ตัวเอง เธอ ชั้น
แต่เปล่าเลย..... เราสองคนยังเรียกกัน กุ เมิง ปกติเหมือนเดิม จะมีที่ต่างไปก็แค่...
“แฟนกุทำไมหล่อจังวะ!”
“แฟนกุสูงล่ำจังเลย”
“แฟนกุนี่สุภาพบุรุษสุด”
“แฟนกุนี่ฉลาดที่สุด”
ในขณะที่อีกฝั่ง
“กุเป็นแฟนเมิงแล้วนะ ทำไมกุจะมาหาเมิงทุกวันไม่ได้” อ้าว! มาทุกวันก็เปลืองน้ำมันสิ บ้านเมิงไกลจะตาย
“กุเป็นแฟนเมิงแล้วนะ ทำไมกุซื้ออะไรให้เมิงกุต้องโดนด่าด้วย” ก็เมิงซื้อแต่ละอย่าง จำเป็นมั้ยหล่ะ จะซื้อน้ำหอม จะซื้อเสื้อผ้าแพงๆให้ มันใช่เรื่องมั้ย กุใส่เสื้อยืด 100 200 ก็ได้
“กุเป็นแฟนเมิงแล้วนะ ทำไมกุจะกอดกุจะจูบกุต้องขออนุญาต” แหมมมม เล่นทำอะไรไม่คิดเลยว่ากุทำไรอยู่ กุดอทเอก็มาหร่ะ กุจะฉี่ก็มาอีกหร่ะ
“กุเป็นแฟนเมิงแล้วนะ ทำไมกุจะมีอะไรกับเมิงทุกวันไม่ได้” ไอฟายยยยยยยยยยยยยยยยย!!!
นี่แหละครับ การเป็นแฟนของเราสองคน 5555555
เราทั้งสองแทบจะใช้ชีวิตปกติสุขเหมือนเดิมทุกอย่างครับ ไม่ต่างจากตอนที่สถานะเราคลุมเครือกันอยู่
ผมยังคงไปเรียน เล่นดอทเอ กินเบียร์กับเพื่อนๆ ดูหนังรอบดึก กินข้าวรอบดึก
ในขณะที่แฟนผม ก็ไปเรียน ทำงานที่บ้าน ดูแลพ่อแม่ เที่ยวกับเพื่อน ดูหนังรอบดึก กินข้าวรอบดึก
ชีวิตเด็กมหาลัยมีแฟน ยังคงวนเวียนไปในแบบเดิมๆ ไม่รู้จะเล่าอะไรเหมือนกัน 555