Aleppo ก่อนและหลังสงครามกลางเมืองในซีเรีย

Aleppo หนึ่งในเมืองเก่าแก่ที่มีคนอยู่มานานมากแห่งหนึ่งของโลก
วันที่ 19 กรกฏาคม 2012 เริ่มมีการปะทะกันภายในคนในชาติซีเรีย
จนลุกลามกลายเป็นสงครามกลางเมืองใน  Aleppo
รัฐบาลซีเรียปราบปรามกบฎด้วยความรุนแรง
ทั้งการทิ้งระเบิดจากเฮลิคอปเตอร์และยิงด้วยจรวดนำวิถี
ตลอดการยิงกระสุนปืนใหญ่เข้าทำลายแบบไม่เลือกสถานที่
ทำให้มีคนตายและบาดเจ็บหลายหมื่นคน
คนจำนวนมากต้องอพยพหนีตายไปประเทศข้างเคียง

ภัยพิบัติสงครามครั้งนี้ทำลายเมืองมรดกโลกของ UNESCO
พร้อมกับการปล้นวัตถุโบราณไปขายในตลาดมืดของพวกฉวยโอกาส
ตอนนี้ในเมืองบางส่วนอยู่ภายใต้การยึดครองของรัฐบาลซีเรีย
พอ ๆ กับบางส่วนอยู่ภายใต้การยึดครองของกองโจรก่อการร้ายหลายฝ่าย
ยังไม่มีฝ่ายไหนที่ชนะศึกครั้งนี้แบบเด็ดขาดในเมืองแห่งนี้

ที่มา  https://goo.gl/lPeJSn


#1




#2




#3




#4




#5




#6




#7




#8




#9




#10




#11




#12




#13




#14




#15




#16




#17




#18




#19




#20




#21




#22




#23




#24




#25




#26




#27




#28










สงครามกลางเมือง Aleppo เมืองขนาดใหญ่ที่สุดของซีเรีย
มีการรบระหว่าง Free Syrian Army, Islamic Front People's Defence Units
และกองกำลังติดอาวุธ Sunni ที่ต่อต้านรัฐบาลซีเรีย Shia
กองโจรแยกกันปกครอง/แย่งกันหาทรัพยากร แต่ต้องรบกับ
กองทัพรัฐบาลซีเรีย Shia ที่มีกลุ่ม Hezbollah และกองกำลังติดอาวุธ Shiite หนุนหลัง

การรบเริ่มตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายน 2012  เป็นพื้นที่อีกแห่งของสงครามกลางเมืองในซีเรีย
ขอบเขตและพื้นที่การรบได้ชื่อว่า สงครามเพื่อมาตุภูมิ หรือ Syria's Stalingrad

Stalingrad เมืองที่มีการรบกันอย่างหนักที่สุดระหว่างรัสเซียกับนาซีเยอรมันนีในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
บ้านเรือนพังพินาศมากมายพร้อมกับความตายของทั้งสองฝ่าย  แต่รัสเซียตายมากกว่านาซีเยอรมันนีเพราะความอดหยาก
ทำให้ตอนรัสเซียบุกยึดเยอรมันนีได้จึงมีการฆ่าคนเยอรมันนีและข่มขืนสตรีเยอรมันนีล้างแค้นแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน
ทำให้ผู้ชายเยอรมันนีแทบสูญพันธุ์ไปในตอนนั้น  จนต้องนำเข้าคนตุรกีมาใช้แรงงานในประเทศจนเป็นปัญหาทุกวันนี้

แต่ประวัติศาสตร์เรื่องแบบนี้ไม่มีใครอยากเขียนบันทึกไว้อย่างเป็นทางการ  
เพราะสันดานอันธพาลไม่มีใครรับได้  กับเหยื่อคนชั่วมักก้มหน้ายอมรับชะตากรรม



มีรายงานข่าวว่ากองทัพซีเรียได้ทิ้งระเบิดจากเฮลิคอปเตอร์แบบตามอำเภอใจ
นอกเหนือจากการยิงขีปนาวุธและปืนใหญ่แบบปูพรมเข้าใส่ย่านชุมชนต่าง ๆ
เป็นสาเหตุให้มีคนตายคนบาดเจ็บหลายพันคน คนอีกนับแสนต้องอพยพหนีตายจากเมืองนี้
ขณะเดียวกัน องค์กรสิทธิมนุษยชนที่ตั้งสำนักงานอยู่ในลอนดอน  ประเทศอังกฤษ
ได้ประณามกลุ่ม  Free Syrian Army  ที่โจมตีทหารรัฐบาลซีเรียด้วยก๊าซพิษ

มีการตั้งข้อสังเกตว่าการรบในซีเรียกับอีรัค
เป็นสงครามตัวแทนระหว่างสองนิกายที่ขัดแย้งกันมานาน
ศาสนาอิสลามนิกายสุหนี่ที่เซาว์ดี้เป็นแกนนำหนุนหลังกำลังเงิน/อาวุธ
กับศาสนาอิสลามนิกายชีอะห์ที่อิหร่านเป็นแกนนำหนุนหลังกำลังเงิน/อาวุธ
ส่วนประเทศมหาอำนาจกับผู้ค้าอาวุธสงครามขายความตายให้กับทุกฝ่ายที่ต้องการ





สรุปย่อจาก  https://goo.gl/lPeJSn





หมายเหตุ



องค์กรสิทธิมนุษยชนในลอนดอน ประเทศอังกฤษ
แผนกดูแลผู้ลี้ภัย/นักโทษการเมืองชาวแอฟริกา
J. K. Rowling  ผู้เขียนเรื่อง Harry Porter
เคยทำงานอยู่ที่นี่ทำหน้าที่เป็นผู้รับฟังเรื่องราว
และคัดกรองผู้ที่สมควรจะได้รับสิทธิผู้ขอลี้ภัยในอังกฤษ

เธอได้ซึมซับเรื่องราวความโหดร้ายที่คนทำกับคนด้วยกัน
ภัยสงครามกลางเมืองในประเทศ การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
การสูญเสียบ้านเกิด และต้องหนีตายจากบ้านเกิด
ความอ้างว้างเปล่าเปลี่ยว ความเหงา ความเศร้า
การพลัดพรากจากคนรัก ครอบครัวและบ้านเกิด

จนช่วงที่เธอตกงานต้องอาศัยเงินยังชีพรัฐบาล
เลี้ยงดูบุตรสาวคนเดียวหลังหย่ากับสามีชาวพุทธเกศ(โปรตุเกส)
เธอได้นำความทรงจำเรื่องราวเหล่านี้
มาเขียนไว้ในหนังสือ Harry Porter บรรยายถึง
ตัวดูดวิญญาณ คือ ความทรงจำที่โหดร้าย
ที่ทำให้ท้อแท้ถดถอยและหมดกำลังใจในการต่อสู้
มาจากประสบการณ์เรียนรู้ของเธอตอนทำงานกับตอนตกงาน
เรื่องนี้เธอปาฐกถาตอนไปรับปริญญากิติมศักดิ์ที่  Harvard

แต่เธอเชื่อมั่นว่า  ขอให้มนุษย์อย่าท้อแท้และอย่าถอดใจ
ต้องมีสักวันที่ชัยชนะแสนงดงามจะมาให้ครอบครอง

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
J.K. Rowling Speaks at Harvard Commencement

บทปาฐกถาที่ Harvard  :  http://goo.gl/FtftJJ






Credit :  Bulent Kilic, AFP/Getty Images

เรื่องเดิม http://pantip.com/topic/30371800  สงครามกลางเมืองซีเรีย-หมดผู้สืบทอด
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่