หลังจากได้เห็นหลายๆคนในพันทิปได้แชร์ประสบการณ์การมาขับรถ Uber หรือว่า Grabcar ไปแล้ว ด้วยปัจจัยหลายๆอย่างไม่ว่าจะเป็น การคิดค่าโดยสารแบบเหมาจ่าย การที่ต้องเติมเงินเข้าระบบของ Grab ทำให้ผมจึงลองอยากขับ Uber ดูก่อน และอีกอย่างคือปกติก็นั่ง Uber บ่อยกว่าอยู่แล้ว ทำให้เข้าใจระบบมากกว่า ด้วยฟีลหลายๆอย่างต่างกันพอสมควร
เรื่องวิธีการสมัครน่าจะดูจากรีวิวอื่นๆได้อยู่แล้ว กรอกข้อมูล ส่งเอกสาร ถ้าอยากให้สะดวกไปที่ศูนย์Uber ตรงอาคาร BU Place แถวรัชดาเลยก็ได้ เพราะยังไงก็ต้องไปตรวจประวัติหลังจากเริ่มขับแล้วอยู่ดี
มาถึงประสบการณ์การขับกันบ้าง จริงๆแล้วก็ค่อนข้างสนุกในช่วงแรก ขับไปไม่ได้คิดต้นทุนซักเท่าไร ลืมบอกไปว่าส่วนใหญ่ขับตอนบ่ายๆถึงเย็น เป็นสาเหตุให้ไม่ค่อยชอบGrabเท่าไร เพราะ บางทีถ้าติดหนักๆก็กลัวไม่คุ้มเหมือนกัน ตอนนี้ Incentive หลักที่ได้อยู่ตอนนี้คือ ครบ 50 เที่ยว ได้ 3,000 บาทในเดือนแรก
ณ ตอนที่เขียนรีวิวอยู่ก็ยังไม่ครบ 50 เที่ยวเลย ขับช่วงแรกๆจะจับจังหวะค่อนข้างยากหน่อย ส่งเสร็จแล้วไปไหนต่อดี รอตรงไหนจะเพิ่มรอบได้เร็วๆ เทคนิคผมคือ วันแรกๆจะไปที่เดิม เพื่อศึกษาพฤติกรรมของคนนั่ง พอวนไป loop เดิมบ่อยๆ ก็จะเริ่มจับทางได้ แต่ถ้าวันไหนโดนเรียกไปไกลๆ ก็จะลองวนๆแถวนั้นประมาณ 15 นาที แล้วก็ค่อยตีรถกลับเข้าเมือง ระหว่างทางก็จะเจอลูกค้าบ้าง
ปัญหาที่เจอบ่อยตอนนี้คือ บางทีขึ้นทางด่วนแต่ระบบบอกว่าไม่ขึ้น หรือบางทีไม่ได้ขึ้น แต่ระบบก็เก็บ ลูกค้าก็จะโทรกลับมาโวยเหมือนกัน ซึ่ง Uber ไม่มี call center ต้องส่งเมลอย่างเดียว ดีอย่างคือเค้าตอบค่อนข้างไว บางครั้งวิ่งรอบดึกๆ ก็ยังตอบ ไม่รู้ว่านอนกันรึเปล่า 5555
ปัญหาอื่นๆ ก็ยังไม่ค่อยเจอ ช่วงนี้ก็ยังดีที่มีรับประกันชั่วโมง เช่นถ้าแบบวิ่งแล้วได้ไม่ถึงเท่านี้ก็จะมีทบให้ เรื่องข้อตกลงเอาจริงๆ ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจมากเท่าไร รอระบบมันคิดให้อย่างเดียว
หลังจากครบ 50 เที่ยวแล้ว ก็จะคิดดูก่อนว่าทำต่อดีไหม คงดูเรื่อง incentive เป็นหลัก เพราะมาคิดจริงๆแล้ว ค่าโดยสารอย่างเดียว ไม่ค่อยคุ้มเท่าไร รถไม่ได้ติดแก๊ส แต่ยังดีที่เป็น eco car
ขอยกคำที่เคยอ่านจากพี่คนนึงในพันทิปมาบอกอีกทีละกัน “อย่าออกจากงานประจำมาทำ” ถึงผมยังไม่ได้ทำงานแบบจริงจังแต่ก็รู้สึกว่า มันสนุกดีนะ ที่ทำในเวลาว่าง แบบเลิกงานแล้วมาทำชิวๆ แต่ถ้าทำเป็นงานหลัก มันน่าจะมีความเครียดที่เข้ามา แบบ ผมต้องทำรอบให้ถึงเท่านั้น เท่านี้ แล้วมันอาจจะไม่มีความสุข
เพราะตอนนี้จริงๆผมทำมัน แล้วมีความสุขนะ ได้เจอคนอื่น พูดคุย สนุกดี คนนั่งส่วนใหญ่ก็มีมารยาทดี ซะส่วนใหญ่ บางทีแบบแนวนักเรียนจะยัดกันมา 5 คน ซึ่งรถผมเล็ก บอกเขาดีๆ เขาก็เข้าใจนะ
โตขึ้นมา ก็ไม่เคยคิดว่าจะได้มาขับรถ ส่งคน พอได้มาทำแล้วมันก็ให้ประสบการณ์ที่ดีไปอีกแบบ มันเท่ดีนะที่ครั้งนึงเคยได้ทำอะไรอย่างนี้ คงไม่ได้คิดจะทำไปตลอดหรอก ผมว่าถ้ามีรถแล้วมีเวลาว่างบ้าง จะเป็นช่วงเสาร์ อาทิตย์ก็ได้ มาลองกันก็สนุกดีนะ เผื่ออาจจะเข้าใจฟีลคนขับแท็กซี่มากขึ้นด้วย
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านครับ
[CR] ประสบการณ์ครั้งหนึ่งในการมาขับ Uber
เรื่องวิธีการสมัครน่าจะดูจากรีวิวอื่นๆได้อยู่แล้ว กรอกข้อมูล ส่งเอกสาร ถ้าอยากให้สะดวกไปที่ศูนย์Uber ตรงอาคาร BU Place แถวรัชดาเลยก็ได้ เพราะยังไงก็ต้องไปตรวจประวัติหลังจากเริ่มขับแล้วอยู่ดี
มาถึงประสบการณ์การขับกันบ้าง จริงๆแล้วก็ค่อนข้างสนุกในช่วงแรก ขับไปไม่ได้คิดต้นทุนซักเท่าไร ลืมบอกไปว่าส่วนใหญ่ขับตอนบ่ายๆถึงเย็น เป็นสาเหตุให้ไม่ค่อยชอบGrabเท่าไร เพราะ บางทีถ้าติดหนักๆก็กลัวไม่คุ้มเหมือนกัน ตอนนี้ Incentive หลักที่ได้อยู่ตอนนี้คือ ครบ 50 เที่ยว ได้ 3,000 บาทในเดือนแรก
ณ ตอนที่เขียนรีวิวอยู่ก็ยังไม่ครบ 50 เที่ยวเลย ขับช่วงแรกๆจะจับจังหวะค่อนข้างยากหน่อย ส่งเสร็จแล้วไปไหนต่อดี รอตรงไหนจะเพิ่มรอบได้เร็วๆ เทคนิคผมคือ วันแรกๆจะไปที่เดิม เพื่อศึกษาพฤติกรรมของคนนั่ง พอวนไป loop เดิมบ่อยๆ ก็จะเริ่มจับทางได้ แต่ถ้าวันไหนโดนเรียกไปไกลๆ ก็จะลองวนๆแถวนั้นประมาณ 15 นาที แล้วก็ค่อยตีรถกลับเข้าเมือง ระหว่างทางก็จะเจอลูกค้าบ้าง
ปัญหาที่เจอบ่อยตอนนี้คือ บางทีขึ้นทางด่วนแต่ระบบบอกว่าไม่ขึ้น หรือบางทีไม่ได้ขึ้น แต่ระบบก็เก็บ ลูกค้าก็จะโทรกลับมาโวยเหมือนกัน ซึ่ง Uber ไม่มี call center ต้องส่งเมลอย่างเดียว ดีอย่างคือเค้าตอบค่อนข้างไว บางครั้งวิ่งรอบดึกๆ ก็ยังตอบ ไม่รู้ว่านอนกันรึเปล่า 5555
ปัญหาอื่นๆ ก็ยังไม่ค่อยเจอ ช่วงนี้ก็ยังดีที่มีรับประกันชั่วโมง เช่นถ้าแบบวิ่งแล้วได้ไม่ถึงเท่านี้ก็จะมีทบให้ เรื่องข้อตกลงเอาจริงๆ ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจมากเท่าไร รอระบบมันคิดให้อย่างเดียว
หลังจากครบ 50 เที่ยวแล้ว ก็จะคิดดูก่อนว่าทำต่อดีไหม คงดูเรื่อง incentive เป็นหลัก เพราะมาคิดจริงๆแล้ว ค่าโดยสารอย่างเดียว ไม่ค่อยคุ้มเท่าไร รถไม่ได้ติดแก๊ส แต่ยังดีที่เป็น eco car
ขอยกคำที่เคยอ่านจากพี่คนนึงในพันทิปมาบอกอีกทีละกัน “อย่าออกจากงานประจำมาทำ” ถึงผมยังไม่ได้ทำงานแบบจริงจังแต่ก็รู้สึกว่า มันสนุกดีนะ ที่ทำในเวลาว่าง แบบเลิกงานแล้วมาทำชิวๆ แต่ถ้าทำเป็นงานหลัก มันน่าจะมีความเครียดที่เข้ามา แบบ ผมต้องทำรอบให้ถึงเท่านั้น เท่านี้ แล้วมันอาจจะไม่มีความสุข
เพราะตอนนี้จริงๆผมทำมัน แล้วมีความสุขนะ ได้เจอคนอื่น พูดคุย สนุกดี คนนั่งส่วนใหญ่ก็มีมารยาทดี ซะส่วนใหญ่ บางทีแบบแนวนักเรียนจะยัดกันมา 5 คน ซึ่งรถผมเล็ก บอกเขาดีๆ เขาก็เข้าใจนะ
โตขึ้นมา ก็ไม่เคยคิดว่าจะได้มาขับรถ ส่งคน พอได้มาทำแล้วมันก็ให้ประสบการณ์ที่ดีไปอีกแบบ มันเท่ดีนะที่ครั้งนึงเคยได้ทำอะไรอย่างนี้ คงไม่ได้คิดจะทำไปตลอดหรอก ผมว่าถ้ามีรถแล้วมีเวลาว่างบ้าง จะเป็นช่วงเสาร์ อาทิตย์ก็ได้ มาลองกันก็สนุกดีนะ เผื่ออาจจะเข้าใจฟีลคนขับแท็กซี่มากขึ้นด้วย
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านครับ