หักครึ่งของเงินเดือนเรา ให้แม่ ถือว่าถูกต้องไหมครับ

ผมจะขอเล่าพื้นฐานครอบครัวผมให้ฟังนะครับ
ครอบครัวผมทำธุระกิจส่วนตัว(ขอไม่บอกนะครับว่าธุรกิจอะไร) รายได้ที่ได้ต่อเดือนไม่คงที่ซักเดือนครับ นั่นเป็นผลทำให้เกิดการกู้หนี้ยืมสิน
จนหนี้ทั้งบ้าน เยอะขึ้นเป็นจำนวนเลข 6 หลักแล้วหล่ะครับ คือ เริ่มตั้งแต่ผม เด็กๆอายุ 2-3 ขวบ ถ้าตามที่แม่เล่าก็เริ่มมีหนี้เพราะซื้อรถครอบครัว
คือ จนตอนนี้ผม อายุ 20 หนี้ก็ไม่ได้หายไปอ่ะครับ เหมือนจะเท่าเดิม
งั้นขอเข้าเรื่องนะครับ ที่แน่กว่านั้น เรื่องมันเกิดเมื่อตอนผมเข้าเรียนมหาลัย พอเรียนได้ถึงปี 2 เทอม 1 อาทิตย์แรกของการเริ่มเรียนเลยครับ วันนั้นเป็นวันที่ผมเสียใจและผิดหวัง เหมือนเราเป็นตัวถ่วงให้ครอบครัว แม่มาบอกผมว่า "ดร็อบเรียนไหมลูก แม่ไม่มีเงินค่าข้าวให้ลูกกินแต่ละวันแล้วนะ" คือ พอผมได้ยินประโยคนี้ ผมกลั้นร้องไห้ไม่อยู่ ผมนึกถึงตอนผมเข้าเรียน ปี 1 ใหม่ๆ เหมือนทุกๆอย่างจะไปได้สวยนะ ทุกอย่างลงตัว ธุรกิจของแม่ก็ด้วย แต่มันก็มีหลายสาเหตุนะ ที่แม่พูดแบบนั้น สาเหตุหลักๆก็คือ จ่ายค่ารถ ค่าบ้าน ฯลฯ แล้วก็ไม่เหลือ บางเดือน ติดค่างวดรถ  ติดมาสองสามเดือน

ตกมาวันรุ่งขึ้น ผมตัดสินใจไม่ไปเรียน แล้วออกหางาน ตั้งแต่ เดือนสิงหา จนถึง พฤศจิกายน 2015 ผมได้งานด้านภาพยนต์ ได้ไปช่วยเป็นผู้ช่วยผู้กำกับบ้าง ได้ไปเป็นคนตัดต่อวิดิโอบ้าง เวลาไปทำก็ได้วัน พันกว่า ทุกอย่างเอาให้แม่หมดเลย แต่ก็คิดๆอยู่นะครับ ให้ก็เหมือนไม่ได้ให้อ่ะครับ เพราะตอนที่ยังไม่ได้เงินค่าจ้าง ผมก็ใช้เงินครอบครัวไป โอเค ผมเลยเปลี่ยนเส้นทางชีวิต เพราะงานเดิมก็บั่นทอนสุขภาพกายและสุขภาพจิตมาก ก็เลยผลันตัวเอง ไปทำงานเสิร์พโรงแรม ได้ เดือนละ ไม่ถึง 9 พันบาท เพราะเรามีแค่วุติ ม.6 ก็พอไหวครับ ยังไงมันก็ดีกว่าไม่มีงานทำอ่ะนะ พอได้เดือนแรก ก็ให้แม่ทั้งหมดเลยครับ จนเข้าเดือนที่6 ผมตกลงกับแม่ ว่าจะขอเริ่มเก็บเงินเพื่ออนาคตตัวเอง ตอนแรกผมคิดจะไม่ให้แม่แล้ว คิดๆไป ทำไมเราเนรคุณขนาดนั้นวะ

เพราะก่อนหน้าที่จะทำงานโรงแรม ผมขอตกลงกับแม่ว่า พอทำงานโรงแรม เงินเดือนที่ผมให้ทั้งหมด ผมขอคืนเดือนละ 5พันได้ไหม ตอนแรกแม่ก็บอกว่าโอเคแหละ ได้เลย เพราะช่วงนั้น แม่ก็ไม่มีเงินทุนเอาไว้ทำงานพอดี บังเอิญมีงานหลักแสนเข้าบ้าน โอเค๊ ผมก็ช่วยบ้าน เอาเงินเดือนทั้งหมดของเราให้ทุกเดือน เป็นเวลา 5 เดือน โดยเข้าใจว่า พอถึงช่วงหนึ่งแม่จะคืนให้เรา ผมก็อยากมีเงินเก็บ ไว้ทำตามฝันของเรา แต่พองานหลักแสนของแม่เสร็จ แม่ก็เอาเงินที่ได้ ไปหักลบกลบหนี้ จนพูดได้ว่า ไม่เหลือติดกระเป๋าซักบาท ผมก็ถามแม่ด้วยความผอดหวัง "อะไรอ่ะแม่ ทำไมไม่เหลือสักบาทเลย งานหลักแสนนะแม่" แม่ก็บอกมาว่า "แม่เอาไปกลบหนี้เจ้าหนี้ที่นึงได้หมดแล้วหนึ่งที่ มันก็ดีกว่าแม่ลบหนี้ตัวเองไม่ได้" ผมก็ทำหน้าเศร้าๆผิดหวังนะ ไม่รู้ว่าถ้าเป็นคนอื่นเค้าจะผิดหวังเหมือนผมไหม สรุปแล้ว แม่ขอผม 5เดือนที่แม่จะให้เดือนละ 5พัน แม่ไม่มีให้นะ แม่ขอไม่ให้ได้ไหม ผมเลยเศร้าอ่ะ คือ ผมก็ไม่ได้เรียนอยุ่แล้ว ผมก็อยากตั้งตัวอ่ะ งั้นแสดงว่า ก็เหมือนผมเริ่มทำงานใหม่อีกครั้งใช่ไหม เอาตรงๆก็น้อยใจนะครับ ทำไรไม่ได้ พอจะขอคืน ก็เหมือนบาปป่ะครับ จนทะเลาะกับครอบครัวหลายครั้งเพราะเรื่องนี้ ผมคิดจะปลีกตัวไปอยู่หอพักใกล้ที่ทำงาน แต่คิดไปคิดมา ก็ไม่ได้ไป เพราะค่าใช้จ่าย ถ้าไปอยู่หอคงจ่ายเยอะกว่าอยู่บ้าน

ผมก็เลยขอตกลงกับแม่อีกทีครับ ว่า ถ้าเข้าเดือนที่ 6 ผมขอแบ่งกับแม่ครึ่งนึงนะครับ แล้วที่ผ่านมา 5 เดือน แม่ไม่ต้องให้ผมก็ได้  
คือที่ผมคิดจะให้ครึ่งนึง ผมจะขออธิบายละกัน ในครึ่งนึงที่ให้แม่ มีค่าอะไรบ้าง ( ค่าผ่อนคอม1300 + ค่าน้ำมันรถ60 + ค่ากินค่าจ่ายตอนกลับมาบ้าน 900 + ค่าเน็ตมือถือตัวเอง300 + ที่เหลือก็ให้แม่ ให้ครบครึ่งนึงของเงินเดือนเรา)  นอกจากนั้น เราจะบริหารเอง ซึ่งที่ผ่านมา ผมก็คิดว่า โอเค เหมือนแม่จะเอาไปช่ายตามที่เราฟิกส์ไว้ในนั้นจริง แต่ก็ไม่เลยครับ สมมุติ ผมให้เงินปม่ไปวันนี้ ผ่านไปอีกสองวัน เงินก้อนนั้นไม่อยู่แล้ว ผมก็ถามแม่ แม่เอาไปจ่ายอะไร แม่ก็บอก เอาไปเป็นทุนหมุนงานต่อ เราก็ถามไปว่า แล้วแม่จะให้มันกลบกันไปกลับกันมาเหรอครับ ทำไมไม่มีวิธีที่ดีกว่านี้แล้วเหรอ แล้วก็ผ่านไปจนถึงกลางเดือน แม่ก็จะถามว่า ลูกมีเงินในธนาคารเหลือเท่าไหร่ แม่ขอยืม เป็นแบบนี้ จนเข้าเดือนที่7 แม่ก็พูดแบบนี้ครับ ผมก็ไม่รู้จะทำไงแล้วเนาะ ในเมื่อแม่ต้แงการความช่วยเหลือ เราก็ให้ แต่ในใจลึกๆ เราไม่ได้เต็มใจให้เลย เราอยากเก็บเงิน เราอยากมีอนาคต

คือผมก็ไม่รู้นะ ความคิดผม ในหัวผม ถ้ามองในสายตาpeople ผมเนรคุณแน่นอน  

ก่อนจะถึง เดือนที่ 8 ผมก็ไม่รู้จะเป็นไงกับชีวิตของผม

แต่ตอนนี้ ผมกลับมาทบทวนทุกๆอย่างนะ เหมือน ยุคของพ่อกับแม่ จะมีความผิดพลาดในการบริหารเงิน คือ ตั้งแต่ผมเด็กแล้วอ่ะ จนถึงตอนนี้ หนี้ก็มีเท่าเดิม อาจจะเยอะกว่าเดิมหน่อย คือ อาจจุเพราะ ส่งพี่ชายผมเรียน ส่งผมเรียน (ทั้งผมและพี่ชายก็เรียนไม่จบ เพราะเรื่องเงินทางบ้านไม่พอแหละครับ กยศ ก็เอาไม่อยู่ครับ ผมพูดจริงๆ ให้แม่หมดทุกเดือนตอนเรียนอ่ะครับ)

อยากถามพี่ๆน้องๆชาวพันธิบครับ ผมควรจะทำไงต่อครับ จะให้แม่ทั้งหมดเลย เหมือนที่เคยผ่านมา หรือจะให้แค่ครึ่ง แล้วเราเก็บอีกครึ่ง อันไหนจะดีกว่ากันครับ ได้โปรดแนะนำผมทีครับ ใครมีข้อคิดดีๆ นำมาฝากกันหน่อยนะครับ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
ปัญหาจขกท.ต้องแยกตอบเป็น 2 ข้อ

ข้อแรก-คุณงอแงจะเอาเงินคืน  
การงอแงแบบนี้ไม่เป็นผู้ใหญ่เลย เหมือนเด็กเอาแต่ใจ
พ่อแม่เสียเงินเลี้ยงเรามาทั้งชีวิต ถ้าเขาขอเงินทั้งหมดที่เลี้ยงเรามา เอาคืน  จะว่าไงกัน
ทางแก้ข้อนี้คือ คุณต้องหัดทำงบบัญชีการเงินให้กระจ่างครับ
แม่ยืมเท่าไหร่ ให้แม่เท่าไหร่ วันที่เท่าไหร่ ให้จดไว้
แล้วดูว่าเงินนั้นเอาทำประโยชน์บ้างมั้ยหรือหายเกลี้ยง
จดบันทึกไว้เพื่อมีหลักฐานในการยันกัน จะได้ไม่ต้องมางอแงง้องแง้งใส่กันอีก

ข้อ 2-คุณแม่บริหารเงินผิดพลาด คนเป็นลูกก็มีสิทธิที่จะจัดระเบียบการเงินครอบครัว
ไม่เกี่ยวกับว่าเป็นบุพการีแล้วลูกๆจะเตือนไม่ได้ ห้ามไม่ได้  
แต่เผอิญ คนเป็นลูกจะเตือนคุณพ่อคุณแม่ได้ต่อเมื่อตัวเอง "มีบารมี" พอ
คือมีความเป็นผู้ใหญ่ มีความคิด มีความน่าเชื่อถือเรื่องการเงิน พ่อแม่เราถึงจะยอมฟังครับ

เพราะฉะนั้นน้องเลิกงอแงง้องแง้งได้แล้วครับ แล้วทำตัวมีวุฒิภาวะเรื่องเงินทองให้ได้
จัดสรรปันส่วนรายได้ให้เป็นรูปธรรม ต้องจัดงบประมาณ และต้องมีกฎเกณฑ์ที่ชัดเจน

เงิน ถ้าเราไม่คุมเขาเขาก็คุมเราครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่