“สวัสดีค่ะ” คนเราส่วนใหญ่คงต้องผ่านชีวิตมัธยมกันมาบ้างล่ะเน้อะ ซึ่งเขาว่ากันว่าชีวิตมัธยมเป็นช่วงที่สนุกที่สุดในวัยรุ่นเลยก็ว่าได้ ฮ่าๆๆ ก็จริงๆแหละว่าป่าว มีหลากหลายโมเมนต์ บ้างก็แอบชอบรุ่นพี่ บ้างก็ชอบรุ่นน้อง บลาๆๆ แต่มีโมเมนต์นึงที่น้อยคนจะมีนั้นก้อคือ แอบชอบครูนั้นเอง อั้ยยะนี่แหละประเด็นของเรื่องนี้ เราก็เป็นอีกคนนึงนะที่เคยมีโมเมนต์นี้ เอาล่ะมาเริ่มกันเลยดีกว่า
อ้าววว เริ่มละนะ ...จะเริ่มละนะ ฮ่าๆๆ ล้อเล่นๆ มา!!! เรื่องก้อมีอยู่ว่า เช้าวันเปิดเทอมวันแรกของปีการศึกษาใหม่ซึ่งเด็กนักเรียนแต่ละคนก็ได้เจอเพื่อนๆและเม้ามอยกันอย่างสนุกสนานจากการไม่ได้เจอกันมานาน ซึ่งเราก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย จนถึงเวลาเข้าแถวหน้าเสาธงตอนเช้า ซึ่งเราก็ตื่นเต้นเป็นธรรมดาว่าอาจารย์ประจำชั้นคนใหม่จะเป็นใคร และแล้วเราก็เข้าแถวตามปกติอะนะ และก็มีอาจารย์ประจำชั้นมายืนที่หลังแถวของนักเรียนห้องตัวเอง เราก็ไม่พลาดที่จะหันไปมองว่าอาจารย์คนไหนเป็นประจำชั้น แต่ตาเจ้ากำนี่ก็ตาดีซะจริง มองไปเจอนักศึกษาฝึกสอนอยู่ห้อง 2/8 อ้อ เราลืมบอกไปว่าตอนนั้นเราอยู่ ม.2/4 อิอิ เด็กน้อยม.2เจอกูฝึกสอนหน้าตาดี อุ้ยจะเกิดรัยขึ้นก็ชอบอะดิ 555 ตอนแรกก็ยังไม่ชอบมากมายหรอกแค่ชอบมองเพราะอาจารย์แกน่ารักดี แต่แบบเสียดายนิดๆที่ห้องเราดันไม่ได้นักศึกษาฝึกสอนมาประจำชั้นสักคน อะโด่ววว แต่เราก็ยังมีเรื่องให้ฟินอยู่วิชาแรกของวันนี้ก็คือวิทยาศาสตร์ เราก็พากันวิ่งเล่นตามประสาเด็กๆ จนถึงเวลาที่อาจารย์มาที่ห้องเรียน เราก็พากันรีบกลับนั่งที่นั่งแต่สิ่งที่ตกใจก็คือ เฮ้ยยยย นั้นมันพี่นักศึกษาฝึกสอนหนิเดินตามอาจารย์สอนวิทย์เข้ามา อั้ยยะ อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น (มั้ย) หลังจากที่อาจารย์แนะนำตัวเสร็จอาจารย์ก็มอบหมายให้นักศึกษาฝึกสอนคนนี้เป็นคนที่สอนวิชานี้ตลอดทั้งเทอม หูยยยย ในใจเราดีใจสุดๆคิดอย่างน้อยในใจพี่เขาคงไม่โหดเท่าอาจารย์หรอก 555 พออาจารย์ฝึกสอนแนะนำตัว ด้วยความดื้อของพวกเราก็ไม่วายที่จะแซวอาจารย์แกสักหน่อย อะฮิ้วววว แต่ทำไมเรารู้สึกเห็นอะไรบางอย่างในตัวอาจารย์แก ม้ายยยยย!! แกเป็นเกย์ โอ้วววว แต่ไม่เป็นรัยเราก็แซวเหมือนเดิม ฮ่าๆๆ ลืมบอกไปว่าอาจารย์แกชื่ออะไร เอาเป็นชื่อสมมุติละกันเน้าะ แกชื่อว่า อาจารย์รถกระบะ ส่วนเราเอาเป็นชื่อว่า หมีพูห์ละกัน (เพราะหุ่นคล้ายๆหมีพูห์) เราก็เป็นคนชิวๆอะนะไม่ซีเรียส แต่เพื่อนๆว่าเราเป็นพวกอารมณ์ดีเกินเหตุ ฮ่าๆๆ แต่เราชอบทำให้คนอื่นยิ้มหัวเราะ เป็นเพราะงี้มั้งเพื่อนเลยว่าเราอารมณ์ดีเกินเหตุ เอาล่ะๆกลับมาต่อกันดีกว่า อาจารย์กระบะแกก็ถามความรู้เท่าไปก่อน เราก็ไม่พลาดที่จะตอบและหยอดมุขใส่ จนอาจารย์แกขำ นี่เราช่วยให้อาจารย์แกผ่อนคลายนะเนี่ยจะได้ไม่เกร็ง แฮร่ แกก็เลยถามว่าเราชื่ออะไร น่านไงเข้าทางๆก็เลยบอกไป อั้ยยะแกเล่นมุขกลับว่ะ แสดงว่าเราได้ทำให้อาจารย์กระบะจำได้ละ มันดีจริงๆนะความรู้สึกเนี่ยยย เพื่อนก็แซวใส่เห็นว่าเรากับอาจารย์กระบะกล้าเล่นมุขกันงี้ แหมะจะอะไรล่ะเราก็เขินอะดิ แต่ก็ไม่ได้แสดงออกมามากเท่าไหร่ ชั่วโมงแรกผ่านไปอย่างรวดเร็ว เราตื่นเต้นทุกครั้งวันไหนที่มีวิชาวิทย์ เวลาก็ผ่านมาเรื่อยๆเราก็ได้เจออาจารย์ทุกวัน ป่าวมีเรียนนะ เราชอบเดินผ่านตึกวิทย์บ่อยๆ ถ้าเจอก็ถึงว่าเป็นกำไร เรากับอาจารย์ก็สนิทกันเพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่สนิทเท่าอาจารย์ฝึกสอนอีก2คน ซึ่งไม่ได้สอนเรานะสอนเด็กม.1 แต่ก็เป็นเพื่อนกับอาจารย์กระบะนี่แหละ เราก็งงอยู่เหมือนกันทำไมเราไปสนิทกับอาจารย์2คนนี้มากกว่า ส่วนเรากับอาจารย์กระบะน่ะหรอ เป็นคู่กัดกันมากกว่าเจอกันทีไรกัดกันตลอด อย่าลืมนะว่าอาจารย์แกเป็นเกย์เรื่องจิกกัดย่อมมีเยอะกว่าผู้ชายส่วนใหญ่แน่นอน อาจารย์แกจะเรียกเราว่า “ยัยอ้วน” เราชอบนะที่อาจารย์แกเรียกอย่างนี้มันดูสนิทดี ถึงเราจะรู้ว่าอาจารย์แกเป็นเกย์เราก็หยุดความรู้สึกดีๆกับอาจารย์ไม่ได้เลย มันเปลี่ยนจากชอบกลายเป็นอะไรไม่รู้ เป็นชอบมากมั้ง และก็กลายเป็นความผูกพันโดยไม่รู้ตัว เรารู้สึกอยากเจออาจารย์ทุกวันชอบที่จะมาโรงเรียนและชอบเรียนวิชาที่อาจารย์สอน มีวันนึงอาจารย์สอบเก็บคะแนนหลังเรียน เราจำได้ว่าให้อธิบายการไหลเวียนเลือดในหัวใจ และวาดรูปหัวใจทั้งหมดนี้10คะแนน พวกเราก็พากันทำตามความเข้าใจจนหมดเวลา อีกสัปดาห์ต่อมาอาจารย์มาบอกคะแนนที่ทำไป ถึงกับอึ้งเราได้คะแนนเยอะที่สุดในห้องเราทำได้ 8คะแนน อาจารย์บอกว่าทั้งห้องเราอธิบายการไหลเวียนของเลือดได้ถูกคนเดียว ซึ่งเราได้รับคำชมจากอาจารย์ถึงแม้จะชมแบบกวนๆหน่อยก็ตามมันดีใจมากๆเลยแหละ เวลาได้ผ่านมาเรื่อยๆความสัมพันของเราทั้งคู่ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆแต่ไม่มีอะไรเกินเลยนะ แค่สนิทกันหยอกล้อกัน และสนิทมากกว่านักเรียนคนอื่นๆ อาจารย์แกจะชอบเรียกใช้เราและชอบเขกหัวเราก็ทำไม่แรงหรอกคงจะกวนๆนี่แหละ ใกล้ชิดกันบ่อยครั้งจนเรานั้นห้ามความรู้สึกตัวเองไม่ได้ไม่รู้ว่าเรียกว่าอะไรเหมือนกัน จนถึงวันสุดท้ายของการสอบปลายภาค ซึ่งมันหมายความว่าอาจารย์จะฝึกสอนที่นี่เสร็จและต้องไปฝึกสอนที่อื่น ความรู้สึกตอนนั้นมันช่างเศร้าแปลกๆยังงัยไม่รู้ มันรู้สึกไม่ดีเลยและน้ำตาก็ไหล จนปิดเทอมไปเราก็ไม่ได้เจออาจารย์อีกเลยแต่ดีที่เราสนิทกับอาจารย์อีก2คนซึ่งเป็นเพื่อนกับอาจารย์กระบะ เรามีเบอร์ของอาจารย์ทั้งสองจึงเป็นช่องทางถามถึงอาจารย์กระบะได้ อย่างน้อยก็ได้รู้ว่าอาจารย์อยู่ที่ไหนเป็นยังงัยบ้าง เราได้ซื้อตุ้กตาแทนตัวเองให้พวกอาจารย์ตอนที่ปิดเทอมโดยฝากให้อาจารย์กระบะด้วยและมีจดหมายให้กับพวกอาจารย์ ซึ่งอาจารย์กระบะก็ได้รับเรียบร้อย เวลาผ่านมา1ปีเรานึกถึงอาจารย์กระบะทุกวันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงยังนึกถึงอยู่ เวลาเดินผ่านตึกวิทย์ยิ่งทำให้นึกถึงวันเก่าๆ และความพยายามของเราก็เป็นผลเราเจอเฟสบุ๊คของอาจารย์กระบะแล้ว แต่เราไม่กล้าแอดไปนี่สิเพราะคิดว่าแกคงไม่รับ (คิดเอาเองอะนะ) เราก็ดูอาจารย์ผ่านเฟสมาตลอดและรู้ว่าอาจารย์แกสอนพิเศษอยู่ที่สถาบันกวดวิชาแห่งหนึ่ง และทางนั้นดันเป็นกลับบ้านของเราซะด้วยเราเลยเดินผ่านกับเพื่อนทุกเย็น มีวันนึงบังเอิญมากๆเราเดินผ่านตามปกติ แต่อาจารย์กระบะดันวิ่งออกมาจากโรงเรียนสอนพิเศษพอดี อาจารย์แกใส่ชุดลูกเสือเรากับเพื่อนนึกว่านักเรียน ฮ่าๆๆ เหมือนเด็กนักเรียนจริงๆนะตัดผมเกรียนเชียวขาวๆใส่แว่นจัดฟันพอเดินมาใกล้ๆเท่านั้นแหละ เย้ยยย นี่มันอาจารย์กระบะนี่หว่า เรากับเพื่อนรีบหันหลังทันทีด้วยความตกใจ อาจารย์วิ่งขึ้นรถ เรากับเพื่อนมองหน้ากันแบบยังตกใจอยู่และไม่นึกว่าอยู่ดีๆอาจารย์แกจะกดกระจกลงแล้วเรียกเรา “ยัยอ้วน” คำนั้นดังก้องในหัวสักพักแล้วหันไป ได้พูดกันนิดเดียวแล้วแกก็ขับรถออกไปสอนที่อื่นต่อ เราดีใจมากแทบจะกรี้ดออกมาแต่ก็ทำเป็นเฉยๆไว้ ฮ่าๆๆ ความคิดถึงของเราที่มีต่ออาจารย์ก็ยังมีทุกวัน และทุกปีในวันไว้ครูเราโทรไปตลอดซึ่งมีความสุขทุกครั้งที่โทรไปซึ่งเราได้คำอวยพรจากอาจารย์และได้ยินเสียงของอาจารย์แกด้วย มีอย่างนึงที่ทำให้เราไม่เคยลืมอาจารย์แกได้เลยนั้นก็เพราะว่าในเมษาของทุกปีเรามีของให้อาจารย์แกตลอด บ้างก็ผ้าพันคอถักเอง ของนู้นนี่นั้นที่เห็นแล้วนึกถึงแกก็จะซื้อให้แก อย่างน้อยก็ได้เจอปีละครั้ง เฮ้อออ หลายปีต่อมาเราก็ยังคงรู้สึกเหมือนเดิมและทำแบบเดิมๆทุกปี จนถึงม.5 เทอม2 เราตัดสินใจที่จะแอดเฟสอาจารย์ไป แต่ประเด็นมันอยู่ตรงที่เราได้สมัครเฟสใหม่ขึ้นมาแต่เฟสนี้เราเป็นผู้ชายนะ คงจะพอนึกออกใช่มั้ยว่าทำไมต้องเป็นผู้ชาย ถ้าจำไม่ได้เดี๋ยวบอกใหม่ก็ได้ ก็เพราะว่าอาจารย์แกเป็นเกย์ไง ถ้าเราเป็นผู้ชายแกก็จะรับแอดโดยง่ายดาย หลังจากที่สมัครเสร็จเราก็อัพอายุของเราเพิ่มขึ้น5ปี พร้อมกับขอรูปน้องชายเพื่อน น้องเขาก็ให้นะไม่ว่าอะไร แต่เราก็ไม่ลงให้เห็นหน้าน้องสักรูปหรอกเกรงใจน้อง (เกรงใจตอนนี้ทันมั้ย) แต่สิ่งที่คาดไม่ถึงนี่ดิ อ้าวววว ดันมีผู้ชายมาแอดซะงั้นแถมมาจีบอีก โอ้วมายก๊อต!!! ทำไมพอปลอมเป็นผู้ชายแล้วมันฮ็อตอย่างนี้ เหอะๆพอเป็นผู้หญิงล่ะเฟสนี่เงียบเชียว เราก็ไม่รอช้าที่จะแอดเฟสอาจารย์ไป ตามคาดดดด อาจารย์รับแอดอย่างรวดเร็ว เราก็ตัดสินใจอยู่นานว่าจะทำไงต่อดี จนสุดท้ายเราก็ตัดสินใจทักแชทอาจารย์ไป โดยตอนแรกก็ทักขอบคุณที่รับแอด แล้วพออาจารย์ตอบเราก็เริ่มที่จะเป็นฝ่ายถามก่อน ถามไปปุ๊บ ได้คำตอบสุดช็อคกลับมาว่ารัยรู้มั้ยให้ทาย ฮ่าๆๆ อาจารย์แกบอกว่า “จะมาจีบเราหรอ” ช็อคมั้ยล่ะเรา ถึงกับนิ่งเลยน่ะสิ อาจารย์เชื่อหมดเปลือกว่าเราเป็นผู้ชายจริงๆ เราก็คุยกับอาจารย์ไปเรื่อยๆเรามีความสุขมากเลยที่ได้คุยกับอาจารย์ ถึงแม้ว่าจะเป็นความสุขแบบปลอมๆ เราคิดไม่ถึงหรอกนะ ณ จุดๆนั้นว่ามันผิดมั้ย แต่ทำไปเพราะอารมณ์ล้วนๆ เรากับอาจารย์ก็คุยกันได้สักพักจนอาจารย์เหมือนจะชอบเราในเฟสผู้ชายนี้ขึ้นมาจริงๆ อาจารย์เริ่มที่จะนัดพบเรา เราก็บ่ายเบี่ยงไปเรื่อย เป็นอย่างนี้มาสักระยะนึง จนเรารู้สึกว่ามันเริ่มไม่โอเคแล้วอะก่อนที่จะพากันเจ็บไปมากกว่านี้ มันไม่ได้เจ็บแค่คนที่ถูกหลอกนะ คนที่เป็นคนหลอกอย่างเราก็เจ็บ เจ็บตรงที่คนที่เราชอบดันชอบตัวปลอมของเรา เราเลยตัดสินใจที่จะหายไป เราหายไปสักพัก อาจารย์แกทักมาตลอด แต่เราไม่อ่านไม่ตอบกลัวว่ามันจะเลยเถิดไปมากกว่านี้ หลายสัปดาห์ผ่านไปเราตัดสินใจเข้าไปเปิดอ่านแชท แต่ดันเจอแจ็คพอตซะงั้น อาจารย์ทักมาพอดี เราไม่รู้จะทำไงเราเลยตอบแกไป เราโดนแกว่าให้ที่หายไป เราไม่โกรธแกหรอกเพราะเราไม่มีสิทธิ์ คนผิดทั้งหมดมันคือเรา แต่เราไม่กล้าที่จะบอกอาจารย์แกไปว่าความจริงเป็นยังงัย ใช่เรากลัว เรากลัวว่าถ้าอาจารย์รู้ความจริงแล้วอาจารย์แกจะเกลียดเรา ซึ่งมันก็ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว เราเลยตัดสินใจที่จะเป็นคนไปเอง โดยเราขออาจารย์อย่าบล็อกเฟสเราได้มั้ย เราขอแค่ได้เห็นผ่านเฟสแค่นี้ก็พอ และเราก็จบกันด้วยดี จนถึงตอนนี้เราก็ยังคงส่องเฟสของอาจารย์อยู่อย่างเงียบๆ ถ้าถามว่าจะบอกความจริงมั้ยน่ะหรอ เราก็ไม่รู้หรอกนะว่าจะเป็นเมื่อไหร่ แต่เราก็ไม่กล้าจริงๆ ถึงตอนนี้ก็ 8ปีแล้วที่เราชอบอาจารย์กระบะ เป็น8ปีที่ความรู้สึกยังเหมือนเดิม ไม่เคยเปลี่ยน
อย่างนี้แหละเน้อะที่เขาว่ากันว่าถ้าเริ่มต้นด้วยการโกหกมันก็ไม่มีความสุขหรอก อย่าทำแบบนี้นะคะ มันไม่ได้ดีกับใครเลย เจ็บทั้งคนที่เราโกหกและเราเองก็เจ็บ ถึงว่านี่เป็นความผิดพลาดและหวังว่าผู้ที่ได้อ่านเรื่องนี้จะเอาไปเป็นสิ่งเตือนใจก่อนจะโกหกหรือหลอกลวงอะไรใครลงไปนะคะ
ปล.เราว่าพวกคุณที่อ่านอยู่ต้องเกลียดเราไม่มากก็น้อยอะนะ เราขอโทษพวกคุณด้วยที่ทำให้ผิดหวัง ขอโทษจริงๆ
แอบรักครู (ฝึกสอน)
อ้าววว เริ่มละนะ ...จะเริ่มละนะ ฮ่าๆๆ ล้อเล่นๆ มา!!! เรื่องก้อมีอยู่ว่า เช้าวันเปิดเทอมวันแรกของปีการศึกษาใหม่ซึ่งเด็กนักเรียนแต่ละคนก็ได้เจอเพื่อนๆและเม้ามอยกันอย่างสนุกสนานจากการไม่ได้เจอกันมานาน ซึ่งเราก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย จนถึงเวลาเข้าแถวหน้าเสาธงตอนเช้า ซึ่งเราก็ตื่นเต้นเป็นธรรมดาว่าอาจารย์ประจำชั้นคนใหม่จะเป็นใคร และแล้วเราก็เข้าแถวตามปกติอะนะ และก็มีอาจารย์ประจำชั้นมายืนที่หลังแถวของนักเรียนห้องตัวเอง เราก็ไม่พลาดที่จะหันไปมองว่าอาจารย์คนไหนเป็นประจำชั้น แต่ตาเจ้ากำนี่ก็ตาดีซะจริง มองไปเจอนักศึกษาฝึกสอนอยู่ห้อง 2/8 อ้อ เราลืมบอกไปว่าตอนนั้นเราอยู่ ม.2/4 อิอิ เด็กน้อยม.2เจอกูฝึกสอนหน้าตาดี อุ้ยจะเกิดรัยขึ้นก็ชอบอะดิ 555 ตอนแรกก็ยังไม่ชอบมากมายหรอกแค่ชอบมองเพราะอาจารย์แกน่ารักดี แต่แบบเสียดายนิดๆที่ห้องเราดันไม่ได้นักศึกษาฝึกสอนมาประจำชั้นสักคน อะโด่ววว แต่เราก็ยังมีเรื่องให้ฟินอยู่วิชาแรกของวันนี้ก็คือวิทยาศาสตร์ เราก็พากันวิ่งเล่นตามประสาเด็กๆ จนถึงเวลาที่อาจารย์มาที่ห้องเรียน เราก็พากันรีบกลับนั่งที่นั่งแต่สิ่งที่ตกใจก็คือ เฮ้ยยยย นั้นมันพี่นักศึกษาฝึกสอนหนิเดินตามอาจารย์สอนวิทย์เข้ามา อั้ยยะ อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น (มั้ย) หลังจากที่อาจารย์แนะนำตัวเสร็จอาจารย์ก็มอบหมายให้นักศึกษาฝึกสอนคนนี้เป็นคนที่สอนวิชานี้ตลอดทั้งเทอม หูยยยย ในใจเราดีใจสุดๆคิดอย่างน้อยในใจพี่เขาคงไม่โหดเท่าอาจารย์หรอก 555 พออาจารย์ฝึกสอนแนะนำตัว ด้วยความดื้อของพวกเราก็ไม่วายที่จะแซวอาจารย์แกสักหน่อย อะฮิ้วววว แต่ทำไมเรารู้สึกเห็นอะไรบางอย่างในตัวอาจารย์แก ม้ายยยยย!! แกเป็นเกย์ โอ้วววว แต่ไม่เป็นรัยเราก็แซวเหมือนเดิม ฮ่าๆๆ ลืมบอกไปว่าอาจารย์แกชื่ออะไร เอาเป็นชื่อสมมุติละกันเน้าะ แกชื่อว่า อาจารย์รถกระบะ ส่วนเราเอาเป็นชื่อว่า หมีพูห์ละกัน (เพราะหุ่นคล้ายๆหมีพูห์) เราก็เป็นคนชิวๆอะนะไม่ซีเรียส แต่เพื่อนๆว่าเราเป็นพวกอารมณ์ดีเกินเหตุ ฮ่าๆๆ แต่เราชอบทำให้คนอื่นยิ้มหัวเราะ เป็นเพราะงี้มั้งเพื่อนเลยว่าเราอารมณ์ดีเกินเหตุ เอาล่ะๆกลับมาต่อกันดีกว่า อาจารย์กระบะแกก็ถามความรู้เท่าไปก่อน เราก็ไม่พลาดที่จะตอบและหยอดมุขใส่ จนอาจารย์แกขำ นี่เราช่วยให้อาจารย์แกผ่อนคลายนะเนี่ยจะได้ไม่เกร็ง แฮร่ แกก็เลยถามว่าเราชื่ออะไร น่านไงเข้าทางๆก็เลยบอกไป อั้ยยะแกเล่นมุขกลับว่ะ แสดงว่าเราได้ทำให้อาจารย์กระบะจำได้ละ มันดีจริงๆนะความรู้สึกเนี่ยยย เพื่อนก็แซวใส่เห็นว่าเรากับอาจารย์กระบะกล้าเล่นมุขกันงี้ แหมะจะอะไรล่ะเราก็เขินอะดิ แต่ก็ไม่ได้แสดงออกมามากเท่าไหร่ ชั่วโมงแรกผ่านไปอย่างรวดเร็ว เราตื่นเต้นทุกครั้งวันไหนที่มีวิชาวิทย์ เวลาก็ผ่านมาเรื่อยๆเราก็ได้เจออาจารย์ทุกวัน ป่าวมีเรียนนะ เราชอบเดินผ่านตึกวิทย์บ่อยๆ ถ้าเจอก็ถึงว่าเป็นกำไร เรากับอาจารย์ก็สนิทกันเพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่สนิทเท่าอาจารย์ฝึกสอนอีก2คน ซึ่งไม่ได้สอนเรานะสอนเด็กม.1 แต่ก็เป็นเพื่อนกับอาจารย์กระบะนี่แหละ เราก็งงอยู่เหมือนกันทำไมเราไปสนิทกับอาจารย์2คนนี้มากกว่า ส่วนเรากับอาจารย์กระบะน่ะหรอ เป็นคู่กัดกันมากกว่าเจอกันทีไรกัดกันตลอด อย่าลืมนะว่าอาจารย์แกเป็นเกย์เรื่องจิกกัดย่อมมีเยอะกว่าผู้ชายส่วนใหญ่แน่นอน อาจารย์แกจะเรียกเราว่า “ยัยอ้วน” เราชอบนะที่อาจารย์แกเรียกอย่างนี้มันดูสนิทดี ถึงเราจะรู้ว่าอาจารย์แกเป็นเกย์เราก็หยุดความรู้สึกดีๆกับอาจารย์ไม่ได้เลย มันเปลี่ยนจากชอบกลายเป็นอะไรไม่รู้ เป็นชอบมากมั้ง และก็กลายเป็นความผูกพันโดยไม่รู้ตัว เรารู้สึกอยากเจออาจารย์ทุกวันชอบที่จะมาโรงเรียนและชอบเรียนวิชาที่อาจารย์สอน มีวันนึงอาจารย์สอบเก็บคะแนนหลังเรียน เราจำได้ว่าให้อธิบายการไหลเวียนเลือดในหัวใจ และวาดรูปหัวใจทั้งหมดนี้10คะแนน พวกเราก็พากันทำตามความเข้าใจจนหมดเวลา อีกสัปดาห์ต่อมาอาจารย์มาบอกคะแนนที่ทำไป ถึงกับอึ้งเราได้คะแนนเยอะที่สุดในห้องเราทำได้ 8คะแนน อาจารย์บอกว่าทั้งห้องเราอธิบายการไหลเวียนของเลือดได้ถูกคนเดียว ซึ่งเราได้รับคำชมจากอาจารย์ถึงแม้จะชมแบบกวนๆหน่อยก็ตามมันดีใจมากๆเลยแหละ เวลาได้ผ่านมาเรื่อยๆความสัมพันของเราทั้งคู่ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆแต่ไม่มีอะไรเกินเลยนะ แค่สนิทกันหยอกล้อกัน และสนิทมากกว่านักเรียนคนอื่นๆ อาจารย์แกจะชอบเรียกใช้เราและชอบเขกหัวเราก็ทำไม่แรงหรอกคงจะกวนๆนี่แหละ ใกล้ชิดกันบ่อยครั้งจนเรานั้นห้ามความรู้สึกตัวเองไม่ได้ไม่รู้ว่าเรียกว่าอะไรเหมือนกัน จนถึงวันสุดท้ายของการสอบปลายภาค ซึ่งมันหมายความว่าอาจารย์จะฝึกสอนที่นี่เสร็จและต้องไปฝึกสอนที่อื่น ความรู้สึกตอนนั้นมันช่างเศร้าแปลกๆยังงัยไม่รู้ มันรู้สึกไม่ดีเลยและน้ำตาก็ไหล จนปิดเทอมไปเราก็ไม่ได้เจออาจารย์อีกเลยแต่ดีที่เราสนิทกับอาจารย์อีก2คนซึ่งเป็นเพื่อนกับอาจารย์กระบะ เรามีเบอร์ของอาจารย์ทั้งสองจึงเป็นช่องทางถามถึงอาจารย์กระบะได้ อย่างน้อยก็ได้รู้ว่าอาจารย์อยู่ที่ไหนเป็นยังงัยบ้าง เราได้ซื้อตุ้กตาแทนตัวเองให้พวกอาจารย์ตอนที่ปิดเทอมโดยฝากให้อาจารย์กระบะด้วยและมีจดหมายให้กับพวกอาจารย์ ซึ่งอาจารย์กระบะก็ได้รับเรียบร้อย เวลาผ่านมา1ปีเรานึกถึงอาจารย์กระบะทุกวันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงยังนึกถึงอยู่ เวลาเดินผ่านตึกวิทย์ยิ่งทำให้นึกถึงวันเก่าๆ และความพยายามของเราก็เป็นผลเราเจอเฟสบุ๊คของอาจารย์กระบะแล้ว แต่เราไม่กล้าแอดไปนี่สิเพราะคิดว่าแกคงไม่รับ (คิดเอาเองอะนะ) เราก็ดูอาจารย์ผ่านเฟสมาตลอดและรู้ว่าอาจารย์แกสอนพิเศษอยู่ที่สถาบันกวดวิชาแห่งหนึ่ง และทางนั้นดันเป็นกลับบ้านของเราซะด้วยเราเลยเดินผ่านกับเพื่อนทุกเย็น มีวันนึงบังเอิญมากๆเราเดินผ่านตามปกติ แต่อาจารย์กระบะดันวิ่งออกมาจากโรงเรียนสอนพิเศษพอดี อาจารย์แกใส่ชุดลูกเสือเรากับเพื่อนนึกว่านักเรียน ฮ่าๆๆ เหมือนเด็กนักเรียนจริงๆนะตัดผมเกรียนเชียวขาวๆใส่แว่นจัดฟันพอเดินมาใกล้ๆเท่านั้นแหละ เย้ยยย นี่มันอาจารย์กระบะนี่หว่า เรากับเพื่อนรีบหันหลังทันทีด้วยความตกใจ อาจารย์วิ่งขึ้นรถ เรากับเพื่อนมองหน้ากันแบบยังตกใจอยู่และไม่นึกว่าอยู่ดีๆอาจารย์แกจะกดกระจกลงแล้วเรียกเรา “ยัยอ้วน” คำนั้นดังก้องในหัวสักพักแล้วหันไป ได้พูดกันนิดเดียวแล้วแกก็ขับรถออกไปสอนที่อื่นต่อ เราดีใจมากแทบจะกรี้ดออกมาแต่ก็ทำเป็นเฉยๆไว้ ฮ่าๆๆ ความคิดถึงของเราที่มีต่ออาจารย์ก็ยังมีทุกวัน และทุกปีในวันไว้ครูเราโทรไปตลอดซึ่งมีความสุขทุกครั้งที่โทรไปซึ่งเราได้คำอวยพรจากอาจารย์และได้ยินเสียงของอาจารย์แกด้วย มีอย่างนึงที่ทำให้เราไม่เคยลืมอาจารย์แกได้เลยนั้นก็เพราะว่าในเมษาของทุกปีเรามีของให้อาจารย์แกตลอด บ้างก็ผ้าพันคอถักเอง ของนู้นนี่นั้นที่เห็นแล้วนึกถึงแกก็จะซื้อให้แก อย่างน้อยก็ได้เจอปีละครั้ง เฮ้อออ หลายปีต่อมาเราก็ยังคงรู้สึกเหมือนเดิมและทำแบบเดิมๆทุกปี จนถึงม.5 เทอม2 เราตัดสินใจที่จะแอดเฟสอาจารย์ไป แต่ประเด็นมันอยู่ตรงที่เราได้สมัครเฟสใหม่ขึ้นมาแต่เฟสนี้เราเป็นผู้ชายนะ คงจะพอนึกออกใช่มั้ยว่าทำไมต้องเป็นผู้ชาย ถ้าจำไม่ได้เดี๋ยวบอกใหม่ก็ได้ ก็เพราะว่าอาจารย์แกเป็นเกย์ไง ถ้าเราเป็นผู้ชายแกก็จะรับแอดโดยง่ายดาย หลังจากที่สมัครเสร็จเราก็อัพอายุของเราเพิ่มขึ้น5ปี พร้อมกับขอรูปน้องชายเพื่อน น้องเขาก็ให้นะไม่ว่าอะไร แต่เราก็ไม่ลงให้เห็นหน้าน้องสักรูปหรอกเกรงใจน้อง (เกรงใจตอนนี้ทันมั้ย) แต่สิ่งที่คาดไม่ถึงนี่ดิ อ้าวววว ดันมีผู้ชายมาแอดซะงั้นแถมมาจีบอีก โอ้วมายก๊อต!!! ทำไมพอปลอมเป็นผู้ชายแล้วมันฮ็อตอย่างนี้ เหอะๆพอเป็นผู้หญิงล่ะเฟสนี่เงียบเชียว เราก็ไม่รอช้าที่จะแอดเฟสอาจารย์ไป ตามคาดดดด อาจารย์รับแอดอย่างรวดเร็ว เราก็ตัดสินใจอยู่นานว่าจะทำไงต่อดี จนสุดท้ายเราก็ตัดสินใจทักแชทอาจารย์ไป โดยตอนแรกก็ทักขอบคุณที่รับแอด แล้วพออาจารย์ตอบเราก็เริ่มที่จะเป็นฝ่ายถามก่อน ถามไปปุ๊บ ได้คำตอบสุดช็อคกลับมาว่ารัยรู้มั้ยให้ทาย ฮ่าๆๆ อาจารย์แกบอกว่า “จะมาจีบเราหรอ” ช็อคมั้ยล่ะเรา ถึงกับนิ่งเลยน่ะสิ อาจารย์เชื่อหมดเปลือกว่าเราเป็นผู้ชายจริงๆ เราก็คุยกับอาจารย์ไปเรื่อยๆเรามีความสุขมากเลยที่ได้คุยกับอาจารย์ ถึงแม้ว่าจะเป็นความสุขแบบปลอมๆ เราคิดไม่ถึงหรอกนะ ณ จุดๆนั้นว่ามันผิดมั้ย แต่ทำไปเพราะอารมณ์ล้วนๆ เรากับอาจารย์ก็คุยกันได้สักพักจนอาจารย์เหมือนจะชอบเราในเฟสผู้ชายนี้ขึ้นมาจริงๆ อาจารย์เริ่มที่จะนัดพบเรา เราก็บ่ายเบี่ยงไปเรื่อย เป็นอย่างนี้มาสักระยะนึง จนเรารู้สึกว่ามันเริ่มไม่โอเคแล้วอะก่อนที่จะพากันเจ็บไปมากกว่านี้ มันไม่ได้เจ็บแค่คนที่ถูกหลอกนะ คนที่เป็นคนหลอกอย่างเราก็เจ็บ เจ็บตรงที่คนที่เราชอบดันชอบตัวปลอมของเรา เราเลยตัดสินใจที่จะหายไป เราหายไปสักพัก อาจารย์แกทักมาตลอด แต่เราไม่อ่านไม่ตอบกลัวว่ามันจะเลยเถิดไปมากกว่านี้ หลายสัปดาห์ผ่านไปเราตัดสินใจเข้าไปเปิดอ่านแชท แต่ดันเจอแจ็คพอตซะงั้น อาจารย์ทักมาพอดี เราไม่รู้จะทำไงเราเลยตอบแกไป เราโดนแกว่าให้ที่หายไป เราไม่โกรธแกหรอกเพราะเราไม่มีสิทธิ์ คนผิดทั้งหมดมันคือเรา แต่เราไม่กล้าที่จะบอกอาจารย์แกไปว่าความจริงเป็นยังงัย ใช่เรากลัว เรากลัวว่าถ้าอาจารย์รู้ความจริงแล้วอาจารย์แกจะเกลียดเรา ซึ่งมันก็ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว เราเลยตัดสินใจที่จะเป็นคนไปเอง โดยเราขออาจารย์อย่าบล็อกเฟสเราได้มั้ย เราขอแค่ได้เห็นผ่านเฟสแค่นี้ก็พอ และเราก็จบกันด้วยดี จนถึงตอนนี้เราก็ยังคงส่องเฟสของอาจารย์อยู่อย่างเงียบๆ ถ้าถามว่าจะบอกความจริงมั้ยน่ะหรอ เราก็ไม่รู้หรอกนะว่าจะเป็นเมื่อไหร่ แต่เราก็ไม่กล้าจริงๆ ถึงตอนนี้ก็ 8ปีแล้วที่เราชอบอาจารย์กระบะ เป็น8ปีที่ความรู้สึกยังเหมือนเดิม ไม่เคยเปลี่ยน
อย่างนี้แหละเน้อะที่เขาว่ากันว่าถ้าเริ่มต้นด้วยการโกหกมันก็ไม่มีความสุขหรอก อย่าทำแบบนี้นะคะ มันไม่ได้ดีกับใครเลย เจ็บทั้งคนที่เราโกหกและเราเองก็เจ็บ ถึงว่านี่เป็นความผิดพลาดและหวังว่าผู้ที่ได้อ่านเรื่องนี้จะเอาไปเป็นสิ่งเตือนใจก่อนจะโกหกหรือหลอกลวงอะไรใครลงไปนะคะ
ปล.เราว่าพวกคุณที่อ่านอยู่ต้องเกลียดเราไม่มากก็น้อยอะนะ เราขอโทษพวกคุณด้วยที่ทำให้ผิดหวัง ขอโทษจริงๆ