ผมไม่เข้าใจ ทำไมเอะอะก็โทษพ่อแม่ เด็กโตแล้วมีความคิด ต้องรู้จักปรับปรุงตนเองสิ
เด็กนักเรียนตีกันโทษพ่อแม่
เด็กชิงสุกก่อนห่ามโทษพ่อแม่
เด็กเรียนไม่เก่งโทษพ่อแม่
เฮ้ย!!มันใช่เหรอ คนเราคิดเองเป็น ถ้าคิดไม่เป็นมันต้องเป็นเด็กเอ๋อ แบบนั้นโทษพ่อแม่ก็ไม่แปลก
พ่อแม่ที่ไหนบ้างไม่สอนลูกไม่ห้ามลูก แต่พอมันออกจากบ้านไปแล้วพ่อแม่จะรู้มั้ยครับ
อย่างเช่น มันขี่รถไปหาเพื่อน เพื่อนชวนไปแว๊น พ่อแม่จะรู้มั้ย ทั้งที่สอนแล้ว แต่ด้วยความกลัวเพื่อนดูถูก เด็กก็ทำ
อย่างนักเรียนตีกัน พอเลิกเรียน เด็กไปตีกันพ่อแม่จะรู้มั้ย มันไปตีกันก่อนกลับบ้าน พ่อแม่จะรู้ก็ตอนที่มีแผลกลับมาเท่านั้นไม่ใช่เหรอ
แล้วที่ตีกันเรื่องสถาบันนี่ เรื่องคู่อริ ทำไมครูไม่ตักเตือนล่ะครับ พ่อแม่จะไปรู้เรื่องสถาบัน เรื่องคู่อริมั้ย สมุติว่า ครูห้ามครูเตือนแล้ว สอนแล้ว ทำไมเด็กมันไม่ฟังล่ะ เด็กมันรู้ว่าอันไหนดีไม่ดี อยู่ที่ว่านิสัย มันจะเลือกด้านไหน เลือกด้วยตัวเองไม่ใช่เหรอ
อย่างในฮอโมนฯ นั่นล่ะ เรื่องจริงเลยล่ะ ปิดบังพ่อแม่บ้างล่ะ ขัดพ่อแม่บ้างล่ะ ฯลฯ ถ้าได้ดูจะรู้
ผมล่ะไม่ชอบเลยโทษพ่อแม่ตะพึดตะพือ โยนความผิดให้พ่อแม่อย่างเดียว เกินไปมั้ย
มันก็จริงที่มีพ่อแม่บางส่วนที่อวยลูกจนเป็นเทวดา แต่ผมก็ไม่อยากให้โทษพ่อแม่ทุกคน หรือโทษพ่อแม่อย่างเดียว
#น้องๆวัยรุ่น ถ้าเห็นโพสนี้ของพี่ พี่อยากให้คิดนะ พี่เชื่อว่าน้องๆหลายคนรักพ่อแม่ แต่ตอนนี้สังคมกำลังกดดันพ่อแม่ของน้องๆ จากข่าวหลายๆข่าว น้องๆอยากให้คนอื่นๆมานินทาพ่อแม่ว่าเลี้ยงลูกไม่ได้เรื่องเหรอครับ พี่รู้ว่าน้องๆคงไม่อยาก พี่อยากให้น้องที่รู้ว่าตัวเองยังไม่ดีพอ ปรับปรุงตัวใหม่นะครับ ไม่ต้องไปแค้นคนไม่ดี ไม่ต้องไปสนว่าเพื่อนๆจะว่าเป็นลูกแหง่ เพื่อนดีๆมีอีกเยอะ ถ้าจะไม่คบเราเพราะเป็นลูกแหง่ ก็แปลว่าเขาเองก็คงไม่รักพ่อแม่เขาเหมือนกัน พ่อแม่เรามีแค่ สองคนในโลก ไม่มีใครสามารถมาแทนได้ ทำตัวดีเพื่อท่านนะครับ อย่าให้ใครมาว่าพ่อแม่เราได้อีก ส่วนเพื่อนๆ เราก็คบแต่คนดีๆ เช่นกันถ้าเราเป็นคนดีแล้ว ก็มีคนอยากคบกับเราเองล่ะครับ
(ทำตัวดีในที่นี้ไม่ได้หมายถึง ต้องซื่อ ต้องใส นะครับ แต่หมายถึง ไม่รังแกใครก่อน ไม่ระรานใคร ไม่ติดยา ไม่ชิงสุกก่อนห่าม(ถ้าพลาดก็ต้องรู้จักป้องกัน) ไม่เป็นนักเลง(แต่อย่าให้ใครรังแก) ไม่ใช้เงินจนเกินตัว ซื้อเฉพาะของทีจำเป็น(หาเงินเองได้เเล้วก็ว่ากันอีกที) ตั้งใจเรียนช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าง)
พี่กล้าพูดเพราะพี่ผ่านมันมาแล้ว คำดูถูกจากคนรอบข้างที่มีต่อพ่อแม่ของพี่ ที่พี่ต้องเจอทุกวัน พี่ลบคำพวกนั้นออกไปจากพ่อแม่ของพี่แล้ว ไม่มีใครกล้ามาดูถูกพี่ได้อีก คนพวกนั้นยังไม่กล้ามองหน้าพี่เลย ทั้ง พ่อแม่มันไม่มีปัญญาเลี้ยงให้ดีได้หรอก ลูกมันจะเอาดีอะไรได้ เดี๋ยวลูกมันก็เรียนไม่จบ ต้องไปเป็นนักเลงเป็นโจร ขโมย ต้องติดยาค้ายา ฯลฯ มาตอนนี้ถึงพี่จะยังไม่รวย งานยังไม่มั่นคง แต่พี่ก็เรียนจบ ไม่ต้องเป็นนักเลง ไม่ติดยา ไม่กินเหล้า(กินไวน์บ้างเวลาไปช่วยงาน) ไม่สูบบุหรี่ ไม่มีใครสามารถมาดูถูกพ่อแม่พี่ได้อีก
อย่าคิดว่าเราทำคนเดียว แล้วคนอื่นๆไม่เห็นทำบ้าง จะมีใครเห็นบ้าง อันนี้ ช่างเขา นั่นมันก็ตกกับพ่อแม่เขา เราคำนึงถึงพ่อแม่เราเป็นอันดับแรกนะครับ พี่ขอฝากไว้เพียงเท่านี้
ขอเป็นหนึ่งเสียงไม่อยากให้โทษพ่อแม่ เรื่องการเลี้ยงดูเด็กวันรุ่นไม่ดี
เด็กนักเรียนตีกันโทษพ่อแม่
เด็กชิงสุกก่อนห่ามโทษพ่อแม่
เด็กเรียนไม่เก่งโทษพ่อแม่
เฮ้ย!!มันใช่เหรอ คนเราคิดเองเป็น ถ้าคิดไม่เป็นมันต้องเป็นเด็กเอ๋อ แบบนั้นโทษพ่อแม่ก็ไม่แปลก
พ่อแม่ที่ไหนบ้างไม่สอนลูกไม่ห้ามลูก แต่พอมันออกจากบ้านไปแล้วพ่อแม่จะรู้มั้ยครับ
อย่างเช่น มันขี่รถไปหาเพื่อน เพื่อนชวนไปแว๊น พ่อแม่จะรู้มั้ย ทั้งที่สอนแล้ว แต่ด้วยความกลัวเพื่อนดูถูก เด็กก็ทำ
อย่างนักเรียนตีกัน พอเลิกเรียน เด็กไปตีกันพ่อแม่จะรู้มั้ย มันไปตีกันก่อนกลับบ้าน พ่อแม่จะรู้ก็ตอนที่มีแผลกลับมาเท่านั้นไม่ใช่เหรอ
แล้วที่ตีกันเรื่องสถาบันนี่ เรื่องคู่อริ ทำไมครูไม่ตักเตือนล่ะครับ พ่อแม่จะไปรู้เรื่องสถาบัน เรื่องคู่อริมั้ย สมุติว่า ครูห้ามครูเตือนแล้ว สอนแล้ว ทำไมเด็กมันไม่ฟังล่ะ เด็กมันรู้ว่าอันไหนดีไม่ดี อยู่ที่ว่านิสัย มันจะเลือกด้านไหน เลือกด้วยตัวเองไม่ใช่เหรอ
อย่างในฮอโมนฯ นั่นล่ะ เรื่องจริงเลยล่ะ ปิดบังพ่อแม่บ้างล่ะ ขัดพ่อแม่บ้างล่ะ ฯลฯ ถ้าได้ดูจะรู้
ผมล่ะไม่ชอบเลยโทษพ่อแม่ตะพึดตะพือ โยนความผิดให้พ่อแม่อย่างเดียว เกินไปมั้ย
มันก็จริงที่มีพ่อแม่บางส่วนที่อวยลูกจนเป็นเทวดา แต่ผมก็ไม่อยากให้โทษพ่อแม่ทุกคน หรือโทษพ่อแม่อย่างเดียว
#น้องๆวัยรุ่น ถ้าเห็นโพสนี้ของพี่ พี่อยากให้คิดนะ พี่เชื่อว่าน้องๆหลายคนรักพ่อแม่ แต่ตอนนี้สังคมกำลังกดดันพ่อแม่ของน้องๆ จากข่าวหลายๆข่าว น้องๆอยากให้คนอื่นๆมานินทาพ่อแม่ว่าเลี้ยงลูกไม่ได้เรื่องเหรอครับ พี่รู้ว่าน้องๆคงไม่อยาก พี่อยากให้น้องที่รู้ว่าตัวเองยังไม่ดีพอ ปรับปรุงตัวใหม่นะครับ ไม่ต้องไปแค้นคนไม่ดี ไม่ต้องไปสนว่าเพื่อนๆจะว่าเป็นลูกแหง่ เพื่อนดีๆมีอีกเยอะ ถ้าจะไม่คบเราเพราะเป็นลูกแหง่ ก็แปลว่าเขาเองก็คงไม่รักพ่อแม่เขาเหมือนกัน พ่อแม่เรามีแค่ สองคนในโลก ไม่มีใครสามารถมาแทนได้ ทำตัวดีเพื่อท่านนะครับ อย่าให้ใครมาว่าพ่อแม่เราได้อีก ส่วนเพื่อนๆ เราก็คบแต่คนดีๆ เช่นกันถ้าเราเป็นคนดีแล้ว ก็มีคนอยากคบกับเราเองล่ะครับ
(ทำตัวดีในที่นี้ไม่ได้หมายถึง ต้องซื่อ ต้องใส นะครับ แต่หมายถึง ไม่รังแกใครก่อน ไม่ระรานใคร ไม่ติดยา ไม่ชิงสุกก่อนห่าม(ถ้าพลาดก็ต้องรู้จักป้องกัน) ไม่เป็นนักเลง(แต่อย่าให้ใครรังแก) ไม่ใช้เงินจนเกินตัว ซื้อเฉพาะของทีจำเป็น(หาเงินเองได้เเล้วก็ว่ากันอีกที) ตั้งใจเรียนช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าง)
พี่กล้าพูดเพราะพี่ผ่านมันมาแล้ว คำดูถูกจากคนรอบข้างที่มีต่อพ่อแม่ของพี่ ที่พี่ต้องเจอทุกวัน พี่ลบคำพวกนั้นออกไปจากพ่อแม่ของพี่แล้ว ไม่มีใครกล้ามาดูถูกพี่ได้อีก คนพวกนั้นยังไม่กล้ามองหน้าพี่เลย ทั้ง พ่อแม่มันไม่มีปัญญาเลี้ยงให้ดีได้หรอก ลูกมันจะเอาดีอะไรได้ เดี๋ยวลูกมันก็เรียนไม่จบ ต้องไปเป็นนักเลงเป็นโจร ขโมย ต้องติดยาค้ายา ฯลฯ มาตอนนี้ถึงพี่จะยังไม่รวย งานยังไม่มั่นคง แต่พี่ก็เรียนจบ ไม่ต้องเป็นนักเลง ไม่ติดยา ไม่กินเหล้า(กินไวน์บ้างเวลาไปช่วยงาน) ไม่สูบบุหรี่ ไม่มีใครสามารถมาดูถูกพ่อแม่พี่ได้อีก
อย่าคิดว่าเราทำคนเดียว แล้วคนอื่นๆไม่เห็นทำบ้าง จะมีใครเห็นบ้าง อันนี้ ช่างเขา นั่นมันก็ตกกับพ่อแม่เขา เราคำนึงถึงพ่อแม่เราเป็นอันดับแรกนะครับ พี่ขอฝากไว้เพียงเท่านี้