เยอรมัน ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ เมื่อเอาชนะ อิตาลี ได้จากการดวลจุดโทษ พร้อมพบผู้ชนะระหว่างฝรั่งเศสกับไอซ์แลนด์ ที่จะแข่งขันในวันอาทิตย์นี้
เกมฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป รอบก่อนรองชนะเลิศ เยอรมันตัดสินใจดร็อป จูเลียน แดร็กซ์เลอร์ และกลับไปใช้ระบบกองหลังสามคน
ในขณะที่อิตาลีใช้ สเตฟาโน สตูราโร ลงเล่นแทน ดาเนียเล เด รอสซี ที่ดูเหมือนจะไม่สมบูรณ์พอจะลงเล่น





นาทีที่ 26 เยอรมันหวุดหวิดจะได้ประตูนำไปก่อน จากจังหวะเปิดเข้ากลางที่ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ตัวสำรองที่ลงมาแทน ซามี เคดิรา ซึ่งได้รับบาดเจ็บ โหม่งเข้าไป ทว่ามิดฟิลด์จอมเก๋าของเยอรมันไปทำฟาวล์เสียก่อน
นาทีที่ 40 โจชัว คิมมิช เปิดบอลเข้ากลางให้มาริโอ โกเมซ เทคตัวขึ้นโหม่ง แต่กองหน้าวัย 30 ปีโหม่งหลุดกรอบไปแบบไม่มีลุ้น ก่อนที่อีก 2 นาทีต่อมา การต่อบอลสุดสวยของเยอรมันไปจบที่โธมัส มุลเลอร์ ที่ได้โอกาสปิดสกอร์ในกรอบเขตโทษ แต่แข้งสารพัดประโยชน์ของบาเยิร์น มิวนิค ยิงไม่เต็มเท้าและไปเข้ามือของบุฟฟอน
เกมมาสนุกในช่วงท้ายครึ่งแรก โบนุชชีวางบอลยาวให้จัคเครินี ที่ทะลุไปถึงเส้นหลังก่อนตบเข้ากลาง แต่บอลไปถึงสตูราโร ที่ยิงไปติดบล็อคกองหลัง ทำให้อิตาลีไม่ได้ประตู ก่อนที่จะหมดครึ่งแรกไปโดยไม่มีฝั่งไหนทำประตูได้
นาทีที่ 54 เยอรมันพลาดโอกาสได้ประตูขึ้นนำแบบเหลือเชื่อ เมื่อมาริโอ โกเมซ พักบอลให้ โธมัส มุลเลอร์ เป็นคนแตะบอลหลบกองหลังอิตาลี และสับไกยิงแบบเต็มข้อชนิดบุฟฟอนได้แต่เซฟด้วยสายตาแล้ว ทว่าฟลอเรนซี พุ่งเข้ามาบล็อคได้ทัน ทำให้ไม่ได้ประตูขึ้นนำ
ในนาทีที่ 65 เยอรมันก็ได้ประตูขึ้นนำในที่สุด จากการเปิดบอลยาวของนอยเออร์ที่เปิดบอลยาวมาถึงมาริโอ โกเมซ ที่พักบอลและไหลต่อมาให้เฮคเตอร์ที่เปิดบอลไปติดแนวรับอิตาลี ทว่าบอลมาเข้าทางเมซุต โอซิล ที่เข้าชาร์จตุงตาข่ายไม่มีเหลือ 1-0











อีก 1 นาทีต่อมา การต่อบอลเยอรมันก็เกือบทำให้อินทรีเหล็กได้ประตูขึ้นนำเป็น 2 -0 โดยในจังหวะสุดท้ายเมซุต โอซิล เปิดบอลให้ มาริโอ โกเมซ เป็นคนได้โอกาสปิดสกอร์ แต่คราวนี้บุฟฟอนโชว์ซูเปอร์เซฟได้แบบสุดเหลือเชื่อ
นาทีที่ 74 อิตาลีได้โอกาสตีเสมอ เมื่อ เด ชีโญ เปิดบอลมาให้กราเซียโน เปลเล ที่พุ่งเข้าชาร์จในกรอบเขตโทษด้วยเท้าซ้าย แต่บอลหลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 78 ขุนพลอัซซูรีได้ประตูตีเสมอ เมื่อเจโรม บัวเต็ง ไปเสียท่าทำแฮนด์บอลในกรอบเขตโทษ และเป็นทางด้านโบนุชชีที่รับบทสังหารจุดโทษในจังหวะดังกล่าว ซึ่งแนวรับของยูเวนตุสก็นิ่งเกินพอจะสังหารจุดโทษเข้าไป




เมื่อได้ประตูตีเสมอ อิตาลีก็เหมือนได้ใจ เมื่อเฮคเตอร์พลาดท่าเสียบอลทางกราบซ้าย ก่อนที่อิตาลีจะต่อบอลมาถึงเอแดร์เป็นคนปิดสกอร์ในจังหวะสุดท้าย แต่แนวรับเยอรมันยังช่วยสกัดไว้ได้ทัน
นาทีที่ 80 มัตเตีย เด ชีโญ ได้โอกาสตัดเข้ากลาง และสับไกยิงอย่างรวดเร็ว ทว่าบอลพุ่งหลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดาย
ครบ 90 นาที ทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มเติมไม่ได้ และเสมอกันไป 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที
นาทีที่ 107 ของการแข่งขัน จูเลียน แดร็กซ์เลอร์ ได้โอกาสยิงลูกโอเวอร์เฮดคิกจ่อๆ บอลหลุดออกนอกกรอบไป
ครบ 120 นาที ไม่มีฝ่ายไหนทำประตูเพิ่มเติมได้ ทำให้ต้องดวลจุดโทษตัดสิน


>>>Kroos <<<



>>>Müller <<<



>>>Özil<<<



>>>Draxler<<<



>>>Schweinsteiger<<<



>>>Hummels<<<



>>>Kimmich<<<



>>>Boateng<<<



>>>Hector<<<





ก่อนที่ เยอรมันจะยิงแม่นกว่าอิตาลี พร้อมเอาชนะไปด้วยสกอร์รวม 6 - 5 ผ่านเข้าไปพบฝรั่งเศสหรือไอซ์แลนด์ในรอบ 4 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ