รีวิว "เขาประทับช้าง เทรล" KPTC 2016 งานนี้พี่ไม่ได้มาเล่นๆ

กระทู้สนทนา
5.4.3.2.1... ขอให้นักวิ่งทุกคนโชคดีครับ ระยะ 32 กม.ปล่อยตัวไปแล้วววว บลาาๆๆ


เสียงรอบข้างเลือนลางลง ภาพในหัวของเราตอนนั้นตัดไปในวันที่เขาประทับช้างเทรลเปิดรับสมัคร เช้าวันนั้นเรารีบกลับมานั่งเปิดจอรอ
แต่แล้วด้วยความงี่เง่าของเราเองทำให้เราพลาด... “ใช่ เราพลาด”...เราพลาดหวังในวันนั้น เราสมัครไม่ทัน ทุกอย่างดูห่อเหี่ยว
ไม่สนชื่นตื่นตาเหมือนเมื่อเช้านี้ เราพยายามคุยกันว่า เอาเถอะ งานซ้อมก็ยังต้องซ้อมต่อไป ยังไงเราก็ต้องมีความหวังจากการขาย bib ของนักวิ่งคนไหนสักคนเป็นแน่


คนจะได้ไปมันก็ต้องได้ไป…

หลังจากนั้นไม่กี่วัน ร้านกล้วยในตำนานก็โพสต์ว่ามีโควต้าเพิ่มให้นักวิ่งอีก 200 คนในทุกๆระยะ แต่มีข้อแม้ว่าต้องมาสมัครที่หน้าร้านด้วยตัวเอง ไม่รอช้า เราคุยกันและตกลงกันว่าเราจะอยู่ทำงานในวันเสาร์คนเดียว ให้เพื่อนอีกคนไปต่อคิวสมัคร โดยที่มีพ่ออาสาไปขอรับบัตรคิวแทนเราอีกเบอร์ ทำงานเสร็จเราจะตามไป ถ้าไม่ได้ ให้เพื่อนสมัครของตัวเองไปเลย


ผลของวันนั้นคือ เราทั้งสามสมัครกันได้ครบทุกคน ขอบคุณพ่อที่โดดงานมาทำเพื่อลูก ตั้งแต่เด็ก...จนโต


เรื่องที่พัก


ครั้งนี้เราไม่มีตัวเลือกเลย เพราะที่พักทุกที่ที่มีพิกัดใกล้เคียงเต็มหมดแล้ว เราได้ที่พักมาแบบงงๆ เป็นหอพักของเด็กมหาวิทยาลัยที่เจ้าของห้องเก่าเป็นเด็กผู้ชาย เดาว่าน้องคงเรียนศิลปกรรมอยู่ เพราะดูจากงานศิลป์ที่ทำไว้ บอกเลยจัดว่าเด็ด อนาคตไกลแน่ๆ

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

กลับมาอยู่กับปัจจุบัน ตอนนี้เราพาตัวเองมาอยู่บนเส้นทางวิ่งเทรลของเขาประทับช้าง เส้นทางในตำนานที่ใครก็อยากสมัครให้ทัน นักวิ่งสายเทรลต้องมาสัมผัสสักครั้ง

เสียงฝีเท้าของบรรดานักวิ่งกับน้ำในกระเป๋าที่กระฉอกดังขึ้นมาแทนที่เสียงของกองเชียร์บนสแตนด์

ท้องฟ้าเริ่มสว่างขึ้นเรื่อยๆ สองข้างทางสวยกว่าที่คิดไว้

ต้นไม้สองข้างทางที่เพิ่งได้รับสายฝนชุ่มฉ่ำมาเมื่อวาน ทอสีเขียวตัดกับพื้นดินเหมือนเร่งให้เราวิ่งเร็วขึ้นเรื่อยๆ เพื่อตามไปดูว่าข้างหน้าจะมีอะไรให้ดูอีก

รูปที่ถ่ายออกมาบอกเลยว่าสวยไม่ได้ครึ่งนึงของสถานที่จริง แหม.. ติดอยู่นิดเดียวที่เราต้องชลอฝีเท้าลงเพราะข้างหน้าการจราจรติดขัดบ้างเป็นระยะ โถ่ ... เสียดายจริงๆ อมยิ้ม07



"เห้ย -ู ไม่คิดเลยนะ โตมาจะ 30 กว่าแล้ว ตอนเด็กๆไปสวนสัตว์ไม่เคยอยากถ่ายรูปกับอูฐ วันนี้ -ู มายืนถ่ายรูปกับอูฐในชุดวิ่งว่ะ"

เสียงพ่อหนุ่มนักวิ่งคนนึงตะโกนคุยกับเพื่อนที่กำลังถ่ายรูปให้อยู่ เราส่งยิ้มอ่อนๆให้ แล้วก็วิ่งต่อไปผ่านสวนสัตว์เพื่อเจอกับเขาลูกแรก



Heart rate ตอนที่ขึ้นเขานี่สุดกว่าตอนวิ่งอีก จังหวะของหัวใจมันพุ่งขึ้นพรวดพราด พาเราใจหายใจคว่ำ กว่าจะได้พักก็ตอนที่การจราจรติดขัด เพราะเส้นทางที่เป็นคอขวด แคบกว่าจำนวนคนที่มาวิ่งหลายเท่าตัว ทำให้ต่างคนต่างต้องหาจุดยืน จุดยึดเป็นของตัวเอง ปากก็พูดเล่นแซวคนนี้คนนั้น มันก็เป็นสีสันไปอีกแบบ เราใช้เวลายืนติดอยู่บนนั้น ค่อยๆขยับไปทีละนิดจะผ่านจุดที่แออัด จนมาถึงจุดชมวิวได้ก็ใช้เวลาประมาณเกือบครึ่งชั่วโมง
ถ้าสาวโสดหนุ่มโสดใช้เวลานี้สานสัมพันธ์กัน เราว่าคงได้มีแลกไลน์กันบ้างแหละ เจ้าคิกคัก







ช่วงอุโมงค์ลอดใต้ถนน จะมีจุดให้น้ำและแตงโมเย็นๆ ไว้รอให้เราได้ชาร์จแบต ที่นี่เราได้เจอพี่เสือ เพื่อนเก่าจากจอมบึงมาราธอน



ครั้งนั้นเราวิ่งคุยกันมาประมาณ 10 กว่าโล เราแวะทักทาย ถ่ายรูปแซวกันตามประสา พี่เสือเป็นประธานชมรม (ค)น (วิ่)ง (ย)าว จากขอนแก่น มีงานมาราธอนที่ไหน มีพี่เสือที่นั่น พี่เสือสามารถไปงานมาราธอนติดกันสอง-สามสัปดาห์ได้แบบชิวๆ ได้ยินว่าจบงานนี้เสร็จ อาทิตย์หน้าก็จะไปสุโขทัยมาราธอนอีก แหม...ฟิตอะไรปานนั้น

เราวิ่งไป คุยกับพี่เสือไปประมาณสองกิโลเห็นจะได้ พี่เสือแนะนำให้เรารู้จักเม้าท์มอยกับเพื่อนใหม่ตลอดทาง แล้วเราก็ขอตัวเร่งเครื่องวิ่งตามเพื่อนที่วิ่งนำหน้าไปก่อน







เราตามไปทันได้ถ่ายรูปคู่กันพอดีที่อุโมงค์ต้นไผ่ ก่อนที่เสียงโทรศัพท์จาก “ใหม่” เพื่อนของเราอีกคนที่วันนี้วิ่งระยะ 10 กิโลเมตรจะดังขึ้น

ขอบคุณภาพจาก IAMRunningThai&Sport

ใหม่บอกเราว่าใหม่จบ 10 กิโลเมตรแล้วนะ ใช้เวลาไป 2 ชั่วโมง เราดีใจที่ได้ยินแบบนั้น และที่ใหม่ลืมไม่ได้เลยคือ การบอกให้เราเตรียมตัวโพสต์ท่าสวยๆตอนเข้าเส้นชัย เสียงจากใหม่ทำให้เราสองคนมีแรงฮึดเฮือกสุดท้ายให้รีบเร่งฝีเท้าเพื่อไปเจอหน้าเพื่อนที่รออยู่ปลายทาง ในใจเราก็หวังว่าสักวัน เรา 3 คนจะได้มาวิ่งข้างกัน




ขอบคุณภาพจาก KSport Running
รูปเพื่อนของเราที่ไปรอที่เส้นชัย หน้าและตัวยังเด้ง สดใส นี่แสดงว่า 10 กิโลเมตรยังเหลือๆ ครั้งหน้า 21 กิโลเมตรไปเลยจ้าาาpompompompom
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เส้นทางประมาณสองกิโลเมตรสุดท้ายก่อนขึ้นเขาทำให้เรานึกถึงป่าไผ่ที่เกียวโต แต่วันนี้ป่าไผ่ที่เขาประทับช้างสวยกว่ามาก เราไม่มีรูปมาให้ดูนะ เพราะถึงตรงนี้ตากล้องส่วนตัวถ่ายวีดีโอพอดีจ้าา .. แต่เอาเถอะ ต่อให้ใครบอกยังไงว่าสวย สวยแค่ไหนก็อย่าไปเชื่อเลย มันไม่สวยเท่าได้มาเห็นด้วยตาตัวเองหรอก คิดดูสิ...น่ามหัศจรรย์แค่ไหนที่คนๆหนึ่ง จะสามารถแบกตัวเองด้วยสองขาขึ้น-ลงเขา 32 กิโลเมตร จนมาเจอกับความสวยงามที่แสนจะเป็นธรรมชาติ และมิตรภาพของเพื่อนๆนักวิ่งระหว่างทาง




ขอบคุณภาพจาก naisuan-indy


เราจับมือกันเข้าเส้นชัยตามที่เพื่อนของเราบอก รูปออกมาก็ดูน่ารักไปอีกแบบ *ขอบคุณเพื่อนของเรา "ใหม่" ที่อยู่รอถ่ายรูปหน้าเส้นชัยให้ทุกครั้ง ในทุกๆงานที่ไปด้วยกัน เราหายเหนื่อยทุกทีที่เห็นใหม่วิ่งเสร็จแล้วกินได้เยอะเหมือนเดิม


ขอสรุปเป็นข้อๆสำหรับงานเขาประทับช้างเทรลแล้วกันนะ

- เส้นทางถือว่าไม่ยากมากสำหรับมือใหม่ที่อยากจะลองเทรลแรก มีความลำบากให้เราจดจำแบบอยากกลับมาอีกครั้ง ไม่ใช่หนาวไส้จนต้องแผ่นหนี
- การรับสมัครต้องลุ้นกันเยอะหน่อย งานนี้ใครๆก็อยากมา เตรียมตัวกันให้พร้อมตั้งแต่วันนี้เลยก็ดีนะ
- กองเชียร์ น้องๆบนสแตนด์ มีกลิ่นอายของจอมบึงมาราธอนนิดๆ น่ารักดี
- เวลาปล่อยตัวของ 32 กิโลเมตร กับ 21 กิโลเมตรใกล้กันไปนิดนึง ทำให้เส้นทางจราจรบนเขาไม่สัมพันธ์กับจำนวนนักวิ่ง ก็เลยติดขัดบ้างบางจุด
- ช่วงขึ้นลงเขาไม่อันตรายมากนักถ้าไม่ผาดโผน ไม่ออกนอกเส้นทาง โชคดีวันนี้ฝนไม่ตก รวมถึงอากาศก็ไม่ได้ร้อนมากนัก อาจเป็นเพราะมีร่มเงาของต้นไม้มาช่วยไว้
- มีคนขึ้นเขาแล้วไปคว้าต้นไม้ที่มีหนามไว้ โชคดีที่ใส่ถุงมือ น่าจะไม่เป็นอะไรมาก แค่ต้องมีคนมาช่วยแงะถุงมือที่ติดอยู่กับหนามออก
- งานนี้ไม่ต้องกลัวหลงทางนะ มีริบบิ้นบอกทางเยอะมาก แถมยังมีเจ้าหน้าที่ น้องๆอาสาสมัครนั่งตากยุงคอยบอกทางให้อีก นับถือใจจริงๆ
- มีน้ำดื่มตลอดทางแบบไม่ต้องกลัวฮีท แทบไม่ต้องพกขวดน้ำหรือกระเป๋าไปเลย แตงโมเพียบ
- ทีมงาน อาสาสมัครดูแลให้การต้อนรับดี มีสเปรย์แทบทุกจุด ประมาณกิโลที่ 20 กว่าๆ มีรถเข็นให้นั่งพ่นสเปรย์ด้วยนะ มาเจอแบบนี้ก็หายเหนื่อย อยู่ที่ว่านั่งลงไปแล้วจะลุกขึ้นมาวิ่งต่อไหวมั้ย
- ห้องน้ำมีตลอดเกือบทุกจุดให้น้ำดื่ม สะอาดดีเพราะเป็นจุดบริการของอุทยานอยู่แล้ว มีอยู่จุดนึงที่อยู่ในป่าก็ไม่ได้รู้สึกไม่สะอาดและลำบากเลย ชอบมากที่สุดคือสองกิโลเมตรแรกเจอห้องน้ำเลย นี่สวรรค์เลยนะสำหรับเราที่ชอบตื่นเต้นจนปวดท้องเวลาออกสตาร์ทประจำ
- อาหารหลังแข่งมีพอถึงคนที่วิ่ง 6-7 ชั่วโมง อย่างพวกเราแบบเหลือๆ เติมได้ไม่อั้น
- รถรับส่งจากจุดจอดรถในช่วงเวลาเร่งรีบน้อยไปนิด แต่การยืนรอนานๆก็ทำให้เราเจอน้องภูมิจากทีม mountain goats ที่หล่อใสทะลุความมืดมาเชียว แหม...หน้านี่ยังกับไม่เคยตากแดด อิจฉาาา

โดยรวมตัวงานน่าประทับใจมากอยู่แล้ว บวกกับความภูมิใจที่ตัวเองทำได้ด้วย ก็ถือว่างานนี้ผ่าน จดลงปฏิทินได้เลยว่าต้องมาอีก เจอกันอีกทีปี 2017 นะ
"เขาประทับช้าง"


ถ้าอยากจะเข้ามาพูดคุยกัน เรามีเพจด้วยนะ ตอนนี้ในเพจยังไม่มีอะไรเลย
แต่ตั้งใจไว้ว่าจะทำไว้คุยกันเรื่องวิ่งและงานวิ่ง โดยเฉพาะการวิ่งเทรล
และเส้นทางวิ่งเล่น ถ้าสนใจเรื่องเดียวกันก็ฝากเข้าไปกดไลค์ได้
https://www.facebook.com/moosewalkingteam

ถ้าอยากดูแบบวีดีโอดูได้ที่นี่
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่