ข้อควรรู้ของรีวิวนี้
1. เราอยากเก็บกระทู้ไว้ดูในอนาคต
2. เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ที่เราเจอมาให้แก่เพื่อนๆหรือคนอื่นๆที่อยากไปเที่ยวแบบเรา
3. เราคิดว่า อาจจะพอช่วยเหลือคนที่เตรียมตัวจะไปกัมพูชา ไม่ให้ถูกโกงหรือพ้นจากเรื่องตุกติกกวนใจอันจะทำให้การท่องเที่ยวกร่อยได้
เพราะกระทู้เราจะลงสารพัดวิธีเอาตัวรอดที่เราใช้และได้ผล มาแบ่งปัน หรือทริกเล็กๆน้อยๆที่จะช่วยให้คนไทยไปเที่ยวได้อย่างปลอดภัยทั้งคนและเงินในกระเป๋า
4. เราโดนเพื่อนบังคับให้รับหน้าที่รีวิว 555+
5. อาจมีการใช้ภาษาวิบัติเพื่ออรรถรส ผู้ปกครอง ควรให้คำแนะนำ ผู้อ่านที่มีอายุเท่าไรก็ได้จะอ่านไม่อ่านกะแล้วแต่
6. เราจะใช้คำว่าเสียมราฐแทนเสียมเรียบนะ ความพอใจส่วนตัวล้วนๆ
7. รีวิวนี้อาจแบ่งเป็น 3-4 ตอน พยายามจะลงแบบละเอียดยิบ และเรื่อยๆ
8.เหตุการณ์อาจวกไปวนมาเล็กน้อย เขียนจากความจำล้วนๆ 555+
9.รูปที่ปรากฏจะเอามาจาก FB ของลำบากลำบนทัวร์เป็นหลัก อย่าได้งงถ้าจะมีลายน้ำ 3-4 ยี่ห้อ ^^
เอาละ หลังจากจับยามสามตามาพักใหญ่ๆ วันนี้ได้ฤกษ์มารีวิวการท่องเที่ยวต่างประเทศสักทีนึง (แลดูมีความไฮ) แต่ก็ใช่ว่าไกลอะไรมากมาย ซึ่งเป้าหมายที่ว่านั่นได้แก่!!!!
แท่น แท้ แล่ แล่น แท่น แท่น แท่น แท้น แท๊นนนนนนน
เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชาเองจ้า!!!
เรื่องมันเริ่มที่ว่ามีนาที่ผ่านมา เพื่อนถามว่าวันแรงงานจะไปไหนป่าวหยุดหลายวัน ด้วยความที่เราเป็นคนชอบอยู่บ้าน ก็เลยตอบว่าว่าง จะไปไหนว่ามาเลย (มีความย้อนแย้ง) เรากับเพื่อนก็เลือกสารพัด Destinations โดยเน้นในประเทศเป็นหลัก ก็พากันจองตั๋วเครื่องบินกันใหญ่โต ตานี้ พอลองกดจองแล้วค่าเครื่องช่วงนั้นก็ปาไปคนละ 4,000+ เห็นจะได้ อย่าประนั้นเลย แค่ค่าเครื่องก็จะเกินงบประมาณไปไกลแล้ว มนุษย์เงินเดือนไส้แห้งแบบเราๆคงไม่เหมาะก็เลยพับโครงการตามระเบียบ
แต่ไม่มีอะไรยากเกินพยายาม วลีนี้ยังคงใช้ได้เสมอ
เราตั้งโจทย์กันใหม่ ทำยังไงถึงจะไปเที่ยวหยุดยาวได้ในงบ 4-5,000 บาทได้
คราวนี้ไม่ยาก ด้วยอานิสงค์ใจประเสริฐลูกไก่ไปเกิดเป็นดาว เตรง เรง เตร่ง เตร๊ง เตรง เตร่ง เตรง เตง เต่ง +++
ไปไกลละพ่อคุ๊ณ ถถถถถ!!!!
กลับมากันก่อน ตานี้อานิสงค์จากเทรนด์การตั้งกระทู้โดยใช้จำนวนเงินขึ้นนำหน้บมากมายนั้น ก็เลยช่วยคลี่คลายปริศนาและตอบโจทย์เราได้ เรากับเพื่อนก็พากันหาข้อมูลและสรุปว่า ไปเขมรนี่แหละง่ายดี (ต่อไปขอใช้คำว่าเขมร แทนกัมพูชา)
ทำไมต้องเลือกเขมรละเธอ
1. เราอยากไปนครวัด อันนี้เป้นความฝันแต่เด็กๆของเราละ
2. ใกล้ๆ นั่งรถจากบ้านไปด่านชายแดน ไม่กี่ชั่วโมง (เราอยู่ภาคตะวันออก)
3. ค่าเดินทาง ค่าโรงแรม ค่าอาหาร อยู่ในงบไม่เกิน 5,000 บาทที่ตั้งไว้
ไม่กลัวโดนหลอกเหรอ
ในช่วงที่เราจะตัดสินใจไป จะมีกระทู้นึงที่เล่าถึงการไปเที่ยวเขมรแล้วโดนโกงหลายรูปแบบมากกกกกกกกกกกกก อันนี้ทำเพื่อนเราเซพอสมควร พากันกังวลกลัวโดนเหมือนเค้า
แต่เราบ่ยั้น 555+
เราบอกเพื่อนๆว่าก็ให้มองว่า อย่างน้อยเราก็รู้แล้วว่าจะสามารถโดนหลอกอะไรบ้างก็เก็บข้อมูลไว้ รับรองว่างานนี้ไม่พาไปโดนหลอกหรอก แล้วตัวเราเองก็สามารถพูดภาษาเขมรสูงได้ คงไม่โดนหลอกง่ายๆหรอกมั้ง!! (อันนี้คือข้อได้เปรียบอย่างมากในภายหลัง)
เพิ่มเติมเผื่อบางท่านอาจมีคำถามเกี่ยวกับคำว่าภาษาเขมรสูง
คืองี้กลุ่มคนที่สามารถพูดภาษาเขมรในปัจจุบันนี้มี 2 กลุ่มใหญ่ๆคือ
กลุ่มแรก คือชาวไทยเชื้อสายเขมรที่อาศัยอยู่บนที่ราบสูงโคราช อันประกอบไปด้วย บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศีรษะเกศ ซึ่งเรียกตัวเองว่าเขมรสูง (ขแม ลือ)
กลุ่มที่สอง คือชาวเขมรที่อาศัยอยู่ในประเทศกัมพูชา ก็จะเรียกว่าเขมรล่าง (ขแม กรอม) เพราะลักษณะภูมิประเทศจะอยู่ในแอ่งนั่นเอง
ถามว่า ภาษาของสองกลุ่มนี้ต่างกันยังไง ส่วนตัวนะ เราว่าอารมย์ประมาณคนไทยคุยกะคนลาว บางคำก็ใช้ร่วม แต่คำเฉพาะก็มีแยกต่างหากมากมาย แต่ยังพอสื่อสารกันได้เข้าใจอยู่ เคนะ จบปิ้ง
ตัดภาพเข้าเรื่องต่อ หลังจากระบุสถานที่แล้วก็ทำอะไรต่อละ
อันแรก ชวนเพื่อนๆก่อน เรามี ２ แล้ว เราต้องการอีก ２เท่านั้น ซึ่งเหตุผลไม่มีอะไรซับซ้อน เราลองดีดลูกคิด นับในใจ กดเครื่องคิดเลขได้ว่า ถ้าไป ４ คนค่าเดินทางก็จะถูกลงอีกเท่าตัวยั่นเอง งกไปอี๊ก 555+
ด้วยความมีชื่อเสียงของเรา (ตอนไหน) เราก็หาอีก ２ ผู้ร่วมชะตากรรมได้ไม่ยาก
พอคนครบก็จองโรงแรม อันนี้เลือกเอาตามสบายพักและเงินในกระเป๋าของแต่ท่านได้เลย เรื่องห้องพักเราไมค่อยซี เราเน้นถูก เพราะเราแต่ละคนเคยเดินป่าด้วยกันมาก่อน แล้วแต่ละคนนั้นเข้าขั้นสตรอง ไม่เรื่องมากเรื่องที่หลับที่นอนหรือใดๆ บวกกับโปรแกรมเรานั้นออกตั้งแต่ตี ４กลับเข้าห้อง １ทุ่ม เรามีความเห็นตรงกันว่าเอาถูกพอนอนได้ก็พอ โดยเน้นปลอดภัย ไม่ต้องกับกลางเมืองนัก (นอนไม่หลับนะจ๊ะ จะหาว่าไม่เตือน) โดย conditions ของเราก็แค่
ราคาไม่แพง
มีวายฟาย
มีอาหารเช้าให้
มีฝรั่งเยอะ (อันนี้ตะละแม่นางนึงในทริปนาง need)
และไม่อยู่ในกลางเมืองหรือผับสตรีท อันนี้สำคัญอย่างที่ยอกไปตะกี้ ถ้าคุณไปพักเกสท์เฮ้าย่านนั้น คุณจะหลับได้ประมาณตีสามไปแล้ว หรือบางแห่งก็คือสว่างคาตา อันนี้คนไทยที่ไปเจอมาเล่าให้ฟังว่านอนกันไม่หลับเพราะเพลงทะลุผนังกันเลยทีเดียว ก็เลยต้อง ออกมาเต้น เอ้า ออกมาเต้น เพลงพี่โต้ชี ริก ลอยมาแต่ไกลเลยทีเดียว
สรุปเรื่องที่พักเราได้แก่ Bou Savy guest house นั้นเอง
ที่อยู่ก็ตามนี้ :
http://www.bousavyguesthouse.com/
ที่พักจบไป เหลือเรื่องใหญ่อีกเรื่อง นั่นคือเรื่องรถ หลายท่านอาจทราบแล้วว่ารถที่มีให้บริการในเขมรนั้นมี สองแบบ
แบบแรกคือ taxi แต่…จงลืมคำว่า taxi ในสยามประเทศที่เรารู้จัก taxi ในเสียมราฐนั้น ในบ้านเราก็คือสามล้อเครื่องนั่นเอง ภาพมาเลยครัช
เครดิตภาพตามนี้ครับ (เนื่องจากเราทั้งแก๊งไม่มีใครเก็บภาพ taxi มาเลยสักคน ^^)
http://www.globaltravelmate.com/asia/cambodia/siem-reap/siem-reap-arrival/272-siem-reap-airport-transfers.html
แบบที่สอง รถยนต์ ที่นู้นเค้าจะเรียกทับศัพท์เลยว่า car โปรดจงจำให้แม่นเวลาติดต่อรถ เพราะราคาทั้งสองแบบนี้แตกต่างกันมาก หลายเคสที่เจอว่าเหมา taxi ได้สามล้อมาแทน (ไม่เจอเองหรอก คนรถเล่าให้ฟัง)
Car คงไม่ต้องแนบรูปเนาะ ^^
เราก็หาข้อมูลหลายแบบนะ กระทู้ไหนแนะนำคนขับดี หรืออะไรยังไง เราจดไว้หมด แต่เลือกติดต่อไว้ สามรายเพื่อต่อรองราคา ซึ่งเงื่อนไขของรถนี้เราเยอะมากกกกกกกกกกกกก แบบว่าคนขับไม่มีทางโกงเราได้เลย แต่สุดท้ายก็มีเจ้าที่ยอมตามเงื่อนไขของเรา นั่นคือพี่ยุทธนั่นเอง
เงื่อนไขเรามีดังนี้
เรื่องรถ อันนี้ขอทำความเข้าใจทุกท่านเลยว่า ในสามรายที่เราติดต่อไป ที่พันทิพมีคนมารีวิวไว้ว่าดีแบบนั้นแบบนี้ นอกจากพี่ยุทธไม่มีแล้ว
หมายความว่ายังไง คืออานิสงค์จากรีวิวของท่านทั้งหลายนั้น ทำให้คนขับเหล่านั้นผันตัวเองไปเป็นหัวคิวหมดแล้ว ซึ่งคราวนี้คนขับรถที่นั่นก็เหมือนบ้านเราคือ หลายมาตรฐานมาก เจอดีก็ดีไป เจอไม่ดีก็ตามรีวิวร้ายๆนั่นแหละ อันนี้ต้องต่อรองแล้วทำความเข้าใจดีๆตั้งแต่ก่อนมา ถ้ามาถึงแล้วขอเปลี่ยนขออะไรยากมาก
วันเดินทาง
เราวางแผนกันเดินทางคือ ไปวันที่ ５กลับวันที่ 8 พฤษภาคม
โดยตารางเรามีดังนี้
5-5-16
13.00 น.เดินทางถึงเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา
14.00 น.Check in ห้องพัก Bou Savy Guest House (Bed and Breakfast)
15.00 น.วัดที่ 1 ศาลพระองค์เจ๊ก-พระองค์จอม เพื่อความเป็นสิริมงคลตลอดการเดินทางเที่ยวเสียบเรียบ
15.15 น.วัดที่ 2 Wat Preah Prom Rath (ฟรี) Hight Light รูปปั้นพระนอนที่อยู่ด้านหลังพระพุทธรูปองค์ใหญ่
15.30 น.วัดที่ 3 Wat Thmei (ฟรี) Hight Light สถานที่เก็บโครงกระดูกจากเหตุการณ์คอมมิวมิสต์เขมร (Khmer Rouge)
16.00 น.เดินทางไปซื้อตั๋วสำหรับเข้าชมนครวัดนครธม สำหรับวันพรุ่งนี้ ตั๋วแบบ 3 วัน ราคา $40 (ประมาณ 1400 บาท) (1)
17.30 น.เดินทางไปชมพระอาทิตย์ตกดิน Phnom Bakheng ปราสาทพนมบาเค็ง
18.00 น.เดินทางกลับที่พัก
19.00 น.รับประทานอาหารเย็นและเดินเล่นย่าน Pub Street / Night Market
หมายเหตุ : - (1) สามารถซื้อ Pass ได้ที่ Official Entrance Booth เริ่มขายตั๋วของวันพรุ่งนี้เวลา 16.45 น. (ปิด 17.30 น.)
แผนก็คือแผนอะนะ ในความเป็นบริงมันเป็นอย่างนี้
10:30 กว่าจะพร้อมกันที่ด่านคลองลึก-อรัญประเทศได้ ก็ตามนั้นแหละ 555+
เราหาอะไรทานที่ Market factory salt (เรียนมากับอีเจี๊ยบ) โดยเพื่อนเราจาก กทม.มารออยู่ก่อนแล้ว 2 คน เราอีก 2 คนตามมาสมทบ ก็ทานข้าวในตลาดนั่นแหละ แถวทางรถไฟ ที่มี 7-11อยู่
ย้ำว่าให้หาอะไรทานรองท้องไปก่อน อย่าคิดหวังกับอาหารระหว่างทางที่คนรถจะพาไปจอด เพราะนั่นคือการตุกติกชนิดนึง ตุกติกยังไง คืองี้ ถ้าระหว่างทางเราบอกเค้าให้จอดทานข้าว คนรถเค้าจะพาจอดในร้านที่เค้ามี. Contact ไว้
สิ่งที่เราจะเจอคือ
1. เพิงขายข้าว
2. ราคาอาหารมหาโหด ที่ความเหมาะสมของราคาต่างกันราวระยะห่างระหว่างพื้นมหาสมุทรและดาวพฤหัส !!!
3. ราคาที่คุณจ่ายค่าข้าวไปนั้น เรารู้มาในภายหลังว่า เค้าแบ่งกันระหว่างร้ายและคนขับรถในอัตรา 50:50
ต่อจากนั้นก็ผ่านด่านฝั่งไทย ก็ไม่มีอะไรมาก แค่ตรวจหนังสือเดินทางตามปกติ ก็ผ่านไปได้ด้วยดีทั้ง 4 คน
พอเค้าเขตแดนกรุงละแวกแล้วไซร้ สิ่งที่ต้องเจอคือ
1.วินมอไซค์
2.คนใจดีพาทำวีซ่า
3.คนขับรถ
4.ขอทาน
ขอให้ปล่อยผ่านให้หมด อย่าสนอกสนใจหรือมีความเอ็นดูใดๆเด็ดขาด เพราะที่ๆคุณจะถูกโกงนั้นคือตรงนี้แหละ
trick : คำว่าไม่ในภาษาเขมรคือ "เต" พูดไปเหอะ เต เต เต ทำท่าทางประกอบและไม่ต้องสนใจ
เข้าถึงขอบขัณฑสีมากัมพูชาประเทศแล้ว เย้!!!!
ต่อจากนั้นก็การกรอกเอกสารเข้าเมือง อันนี้ก็ฟรีนะตัว หากใครเรียกรับตังค์แนะนำให้ถาม "Why" พร้อมกรูไปทั้งหมดที่มีที่หน้าเคาเตอร์ ร้อยทั้งร้อยต้องฟรี
trick : คนไทยผ่านฟรี ไม่ต้องวีซ่า ไม่เสียค่าอะไรทั้งนั้น ถ้าไปหลายคนช่วงทำพิธีการผ่านแดนให้รอกันก่อน เวลามีอะไรจะได้ช่วยกันโวยวายได้
สักบัดเดี๋ยวจะมาต่อนะครัช!!!
ไหม้เกรียมเสียมราฐ : 3 บุรุษกับ 1อิสตรีและ 24 ปราสาท ตอนที่ 1
1. เราอยากเก็บกระทู้ไว้ดูในอนาคต
2. เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ที่เราเจอมาให้แก่เพื่อนๆหรือคนอื่นๆที่อยากไปเที่ยวแบบเรา
3. เราคิดว่า อาจจะพอช่วยเหลือคนที่เตรียมตัวจะไปกัมพูชา ไม่ให้ถูกโกงหรือพ้นจากเรื่องตุกติกกวนใจอันจะทำให้การท่องเที่ยวกร่อยได้
เพราะกระทู้เราจะลงสารพัดวิธีเอาตัวรอดที่เราใช้และได้ผล มาแบ่งปัน หรือทริกเล็กๆน้อยๆที่จะช่วยให้คนไทยไปเที่ยวได้อย่างปลอดภัยทั้งคนและเงินในกระเป๋า
4. เราโดนเพื่อนบังคับให้รับหน้าที่รีวิว 555+
5. อาจมีการใช้ภาษาวิบัติเพื่ออรรถรส ผู้ปกครอง ควรให้คำแนะนำ ผู้อ่านที่มีอายุเท่าไรก็ได้จะอ่านไม่อ่านกะแล้วแต่
6. เราจะใช้คำว่าเสียมราฐแทนเสียมเรียบนะ ความพอใจส่วนตัวล้วนๆ
7. รีวิวนี้อาจแบ่งเป็น 3-4 ตอน พยายามจะลงแบบละเอียดยิบ และเรื่อยๆ
8.เหตุการณ์อาจวกไปวนมาเล็กน้อย เขียนจากความจำล้วนๆ 555+
9.รูปที่ปรากฏจะเอามาจาก FB ของลำบากลำบนทัวร์เป็นหลัก อย่าได้งงถ้าจะมีลายน้ำ 3-4 ยี่ห้อ ^^
เอาละ หลังจากจับยามสามตามาพักใหญ่ๆ วันนี้ได้ฤกษ์มารีวิวการท่องเที่ยวต่างประเทศสักทีนึง (แลดูมีความไฮ) แต่ก็ใช่ว่าไกลอะไรมากมาย ซึ่งเป้าหมายที่ว่านั่นได้แก่!!!!
แท่น แท้ แล่ แล่น แท่น แท่น แท่น แท้น แท๊นนนนนนน
เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชาเองจ้า!!!
เรื่องมันเริ่มที่ว่ามีนาที่ผ่านมา เพื่อนถามว่าวันแรงงานจะไปไหนป่าวหยุดหลายวัน ด้วยความที่เราเป็นคนชอบอยู่บ้าน ก็เลยตอบว่าว่าง จะไปไหนว่ามาเลย (มีความย้อนแย้ง) เรากับเพื่อนก็เลือกสารพัด Destinations โดยเน้นในประเทศเป็นหลัก ก็พากันจองตั๋วเครื่องบินกันใหญ่โต ตานี้ พอลองกดจองแล้วค่าเครื่องช่วงนั้นก็ปาไปคนละ 4,000+ เห็นจะได้ อย่าประนั้นเลย แค่ค่าเครื่องก็จะเกินงบประมาณไปไกลแล้ว มนุษย์เงินเดือนไส้แห้งแบบเราๆคงไม่เหมาะก็เลยพับโครงการตามระเบียบ
แต่ไม่มีอะไรยากเกินพยายาม วลีนี้ยังคงใช้ได้เสมอ
เราตั้งโจทย์กันใหม่ ทำยังไงถึงจะไปเที่ยวหยุดยาวได้ในงบ 4-5,000 บาทได้
คราวนี้ไม่ยาก ด้วยอานิสงค์ใจประเสริฐลูกไก่ไปเกิดเป็นดาว เตรง เรง เตร่ง เตร๊ง เตรง เตร่ง เตรง เตง เต่ง +++
ไปไกลละพ่อคุ๊ณ ถถถถถ!!!!
กลับมากันก่อน ตานี้อานิสงค์จากเทรนด์การตั้งกระทู้โดยใช้จำนวนเงินขึ้นนำหน้บมากมายนั้น ก็เลยช่วยคลี่คลายปริศนาและตอบโจทย์เราได้ เรากับเพื่อนก็พากันหาข้อมูลและสรุปว่า ไปเขมรนี่แหละง่ายดี (ต่อไปขอใช้คำว่าเขมร แทนกัมพูชา)
ทำไมต้องเลือกเขมรละเธอ
1. เราอยากไปนครวัด อันนี้เป้นความฝันแต่เด็กๆของเราละ
2. ใกล้ๆ นั่งรถจากบ้านไปด่านชายแดน ไม่กี่ชั่วโมง (เราอยู่ภาคตะวันออก)
3. ค่าเดินทาง ค่าโรงแรม ค่าอาหาร อยู่ในงบไม่เกิน 5,000 บาทที่ตั้งไว้
ไม่กลัวโดนหลอกเหรอ
ในช่วงที่เราจะตัดสินใจไป จะมีกระทู้นึงที่เล่าถึงการไปเที่ยวเขมรแล้วโดนโกงหลายรูปแบบมากกกกกกกกกกกกก อันนี้ทำเพื่อนเราเซพอสมควร พากันกังวลกลัวโดนเหมือนเค้า
แต่เราบ่ยั้น 555+
เราบอกเพื่อนๆว่าก็ให้มองว่า อย่างน้อยเราก็รู้แล้วว่าจะสามารถโดนหลอกอะไรบ้างก็เก็บข้อมูลไว้ รับรองว่างานนี้ไม่พาไปโดนหลอกหรอก แล้วตัวเราเองก็สามารถพูดภาษาเขมรสูงได้ คงไม่โดนหลอกง่ายๆหรอกมั้ง!! (อันนี้คือข้อได้เปรียบอย่างมากในภายหลัง)
เพิ่มเติมเผื่อบางท่านอาจมีคำถามเกี่ยวกับคำว่าภาษาเขมรสูง
คืองี้กลุ่มคนที่สามารถพูดภาษาเขมรในปัจจุบันนี้มี 2 กลุ่มใหญ่ๆคือ
กลุ่มแรก คือชาวไทยเชื้อสายเขมรที่อาศัยอยู่บนที่ราบสูงโคราช อันประกอบไปด้วย บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศีรษะเกศ ซึ่งเรียกตัวเองว่าเขมรสูง (ขแม ลือ)
กลุ่มที่สอง คือชาวเขมรที่อาศัยอยู่ในประเทศกัมพูชา ก็จะเรียกว่าเขมรล่าง (ขแม กรอม) เพราะลักษณะภูมิประเทศจะอยู่ในแอ่งนั่นเอง
ถามว่า ภาษาของสองกลุ่มนี้ต่างกันยังไง ส่วนตัวนะ เราว่าอารมย์ประมาณคนไทยคุยกะคนลาว บางคำก็ใช้ร่วม แต่คำเฉพาะก็มีแยกต่างหากมากมาย แต่ยังพอสื่อสารกันได้เข้าใจอยู่ เคนะ จบปิ้ง
ตัดภาพเข้าเรื่องต่อ หลังจากระบุสถานที่แล้วก็ทำอะไรต่อละ
อันแรก ชวนเพื่อนๆก่อน เรามี ２ แล้ว เราต้องการอีก ２เท่านั้น ซึ่งเหตุผลไม่มีอะไรซับซ้อน เราลองดีดลูกคิด นับในใจ กดเครื่องคิดเลขได้ว่า ถ้าไป ４ คนค่าเดินทางก็จะถูกลงอีกเท่าตัวยั่นเอง งกไปอี๊ก 555+
ด้วยความมีชื่อเสียงของเรา (ตอนไหน) เราก็หาอีก ２ ผู้ร่วมชะตากรรมได้ไม่ยาก
พอคนครบก็จองโรงแรม อันนี้เลือกเอาตามสบายพักและเงินในกระเป๋าของแต่ท่านได้เลย เรื่องห้องพักเราไมค่อยซี เราเน้นถูก เพราะเราแต่ละคนเคยเดินป่าด้วยกันมาก่อน แล้วแต่ละคนนั้นเข้าขั้นสตรอง ไม่เรื่องมากเรื่องที่หลับที่นอนหรือใดๆ บวกกับโปรแกรมเรานั้นออกตั้งแต่ตี ４กลับเข้าห้อง １ทุ่ม เรามีความเห็นตรงกันว่าเอาถูกพอนอนได้ก็พอ โดยเน้นปลอดภัย ไม่ต้องกับกลางเมืองนัก (นอนไม่หลับนะจ๊ะ จะหาว่าไม่เตือน) โดย conditions ของเราก็แค่
ราคาไม่แพง
มีวายฟาย
มีอาหารเช้าให้
มีฝรั่งเยอะ (อันนี้ตะละแม่นางนึงในทริปนาง need)
และไม่อยู่ในกลางเมืองหรือผับสตรีท อันนี้สำคัญอย่างที่ยอกไปตะกี้ ถ้าคุณไปพักเกสท์เฮ้าย่านนั้น คุณจะหลับได้ประมาณตีสามไปแล้ว หรือบางแห่งก็คือสว่างคาตา อันนี้คนไทยที่ไปเจอมาเล่าให้ฟังว่านอนกันไม่หลับเพราะเพลงทะลุผนังกันเลยทีเดียว ก็เลยต้อง ออกมาเต้น เอ้า ออกมาเต้น เพลงพี่โต้ชี ริก ลอยมาแต่ไกลเลยทีเดียว
สรุปเรื่องที่พักเราได้แก่ Bou Savy guest house นั้นเอง
ที่อยู่ก็ตามนี้ : http://www.bousavyguesthouse.com/
ที่พักจบไป เหลือเรื่องใหญ่อีกเรื่อง นั่นคือเรื่องรถ หลายท่านอาจทราบแล้วว่ารถที่มีให้บริการในเขมรนั้นมี สองแบบ
แบบแรกคือ taxi แต่…จงลืมคำว่า taxi ในสยามประเทศที่เรารู้จัก taxi ในเสียมราฐนั้น ในบ้านเราก็คือสามล้อเครื่องนั่นเอง ภาพมาเลยครัช
เครดิตภาพตามนี้ครับ (เนื่องจากเราทั้งแก๊งไม่มีใครเก็บภาพ taxi มาเลยสักคน ^^)
http://www.globaltravelmate.com/asia/cambodia/siem-reap/siem-reap-arrival/272-siem-reap-airport-transfers.html
แบบที่สอง รถยนต์ ที่นู้นเค้าจะเรียกทับศัพท์เลยว่า car โปรดจงจำให้แม่นเวลาติดต่อรถ เพราะราคาทั้งสองแบบนี้แตกต่างกันมาก หลายเคสที่เจอว่าเหมา taxi ได้สามล้อมาแทน (ไม่เจอเองหรอก คนรถเล่าให้ฟัง)
Car คงไม่ต้องแนบรูปเนาะ ^^
เราก็หาข้อมูลหลายแบบนะ กระทู้ไหนแนะนำคนขับดี หรืออะไรยังไง เราจดไว้หมด แต่เลือกติดต่อไว้ สามรายเพื่อต่อรองราคา ซึ่งเงื่อนไขของรถนี้เราเยอะมากกกกกกกกกกกกก แบบว่าคนขับไม่มีทางโกงเราได้เลย แต่สุดท้ายก็มีเจ้าที่ยอมตามเงื่อนไขของเรา นั่นคือพี่ยุทธนั่นเอง
เงื่อนไขเรามีดังนี้
เรื่องรถ อันนี้ขอทำความเข้าใจทุกท่านเลยว่า ในสามรายที่เราติดต่อไป ที่พันทิพมีคนมารีวิวไว้ว่าดีแบบนั้นแบบนี้ นอกจากพี่ยุทธไม่มีแล้ว
หมายความว่ายังไง คืออานิสงค์จากรีวิวของท่านทั้งหลายนั้น ทำให้คนขับเหล่านั้นผันตัวเองไปเป็นหัวคิวหมดแล้ว ซึ่งคราวนี้คนขับรถที่นั่นก็เหมือนบ้านเราคือ หลายมาตรฐานมาก เจอดีก็ดีไป เจอไม่ดีก็ตามรีวิวร้ายๆนั่นแหละ อันนี้ต้องต่อรองแล้วทำความเข้าใจดีๆตั้งแต่ก่อนมา ถ้ามาถึงแล้วขอเปลี่ยนขออะไรยากมาก
วันเดินทาง
เราวางแผนกันเดินทางคือ ไปวันที่ ５กลับวันที่ 8 พฤษภาคม
โดยตารางเรามีดังนี้
5-5-16
13.00 น.เดินทางถึงเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา
14.00 น.Check in ห้องพัก Bou Savy Guest House (Bed and Breakfast)
15.00 น.วัดที่ 1 ศาลพระองค์เจ๊ก-พระองค์จอม เพื่อความเป็นสิริมงคลตลอดการเดินทางเที่ยวเสียบเรียบ
15.15 น.วัดที่ 2 Wat Preah Prom Rath (ฟรี) Hight Light รูปปั้นพระนอนที่อยู่ด้านหลังพระพุทธรูปองค์ใหญ่
15.30 น.วัดที่ 3 Wat Thmei (ฟรี) Hight Light สถานที่เก็บโครงกระดูกจากเหตุการณ์คอมมิวมิสต์เขมร (Khmer Rouge)
16.00 น.เดินทางไปซื้อตั๋วสำหรับเข้าชมนครวัดนครธม สำหรับวันพรุ่งนี้ ตั๋วแบบ 3 วัน ราคา $40 (ประมาณ 1400 บาท) (1)
17.30 น.เดินทางไปชมพระอาทิตย์ตกดิน Phnom Bakheng ปราสาทพนมบาเค็ง
18.00 น.เดินทางกลับที่พัก
19.00 น.รับประทานอาหารเย็นและเดินเล่นย่าน Pub Street / Night Market
หมายเหตุ : - (1) สามารถซื้อ Pass ได้ที่ Official Entrance Booth เริ่มขายตั๋วของวันพรุ่งนี้เวลา 16.45 น. (ปิด 17.30 น.)
แผนก็คือแผนอะนะ ในความเป็นบริงมันเป็นอย่างนี้
10:30 กว่าจะพร้อมกันที่ด่านคลองลึก-อรัญประเทศได้ ก็ตามนั้นแหละ 555+
เราหาอะไรทานที่ Market factory salt (เรียนมากับอีเจี๊ยบ) โดยเพื่อนเราจาก กทม.มารออยู่ก่อนแล้ว 2 คน เราอีก 2 คนตามมาสมทบ ก็ทานข้าวในตลาดนั่นแหละ แถวทางรถไฟ ที่มี 7-11อยู่
ย้ำว่าให้หาอะไรทานรองท้องไปก่อน อย่าคิดหวังกับอาหารระหว่างทางที่คนรถจะพาไปจอด เพราะนั่นคือการตุกติกชนิดนึง ตุกติกยังไง คืองี้ ถ้าระหว่างทางเราบอกเค้าให้จอดทานข้าว คนรถเค้าจะพาจอดในร้านที่เค้ามี. Contact ไว้
สิ่งที่เราจะเจอคือ
1. เพิงขายข้าว
2. ราคาอาหารมหาโหด ที่ความเหมาะสมของราคาต่างกันราวระยะห่างระหว่างพื้นมหาสมุทรและดาวพฤหัส !!!
3. ราคาที่คุณจ่ายค่าข้าวไปนั้น เรารู้มาในภายหลังว่า เค้าแบ่งกันระหว่างร้ายและคนขับรถในอัตรา 50:50
ต่อจากนั้นก็ผ่านด่านฝั่งไทย ก็ไม่มีอะไรมาก แค่ตรวจหนังสือเดินทางตามปกติ ก็ผ่านไปได้ด้วยดีทั้ง 4 คน
พอเค้าเขตแดนกรุงละแวกแล้วไซร้ สิ่งที่ต้องเจอคือ
1.วินมอไซค์
2.คนใจดีพาทำวีซ่า
3.คนขับรถ
4.ขอทาน
ขอให้ปล่อยผ่านให้หมด อย่าสนอกสนใจหรือมีความเอ็นดูใดๆเด็ดขาด เพราะที่ๆคุณจะถูกโกงนั้นคือตรงนี้แหละ
trick : คำว่าไม่ในภาษาเขมรคือ "เต" พูดไปเหอะ เต เต เต ทำท่าทางประกอบและไม่ต้องสนใจ
เข้าถึงขอบขัณฑสีมากัมพูชาประเทศแล้ว เย้!!!!
ต่อจากนั้นก็การกรอกเอกสารเข้าเมือง อันนี้ก็ฟรีนะตัว หากใครเรียกรับตังค์แนะนำให้ถาม "Why" พร้อมกรูไปทั้งหมดที่มีที่หน้าเคาเตอร์ ร้อยทั้งร้อยต้องฟรี
trick : คนไทยผ่านฟรี ไม่ต้องวีซ่า ไม่เสียค่าอะไรทั้งนั้น ถ้าไปหลายคนช่วงทำพิธีการผ่านแดนให้รอกันก่อน เวลามีอะไรจะได้ช่วยกันโวยวายได้
สักบัดเดี๋ยวจะมาต่อนะครัช!!!