เอไอเอส รับใบอนุญาต 4 จี คลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิร์ตซ หลังชำระเงินงวดแรกแล้ว 8,600 ล้านบาท เผย ใบอนุญาตมีอายุ 15 ปี นับจากปี 59 ส่วนลูกค้าในระบบ 2 จี สามารถโอนใช้งานได้ทุกค่าย ก่อนซิมดับเที่ยงคืนวันนี้ (30 มิ.ย.)...
วันที่ 30 มิ.ย. 59 นายสมชัย เลิศสุทธิวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ เอไอเอส ในฐานะรักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค หรือ เอดับบลิวเอ็น พร้อมคณะผู้บริหาร มารับมอบใบอนุญาตคลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิร์ตซ หลังจากนำเช็กเงินสดจากธนาคารกรุงเทพ มาชำระเงินงวดแรก รวมภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 7 แล้ว ประมาณ 8,600 ล้านบาท จากวงเงินที่เคาะประมูล 75,654 ล้านบาท ซึ่งใบอนุญาตฯ มีอายุ 15 ปี นับจากปี 2559 ถึง 2574
นายสมชัย เลิศสุทธิวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอส พร้อมคณะมารับใบอนุญาตคลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิร์ตซ จาก กสทช.
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอส กล่าวว่า ลูกค้าที่ยังค้างอยู่ในระบบ 2จี คลื่น 900 เมกะเฮิร์ตซ มีทั้งหมด 3 แสน 7 หมื่นหมายเลข ซึ่งส่วนใหญ่ไม่มีการใช้งานแล้ว หากลูกค้าต้องการใช้งานต่อ สามารถโอนย้ายไปใช้งานได้ทุกค่าย ไม่เช่นนั้นซิมจะดับลง หลังเวลาเที่ยงคืนของวันนี้ (30 มิ.ย. 59)
ส่วนลูกค้า 2จี และ 3จี ในระบบ 1800 เมกะเฮิร์ตซ ประมาณ 6 ล้านเลขหมาย เมื่อสิ้นสุดสัญญาสัมปทานกับทีโอทีแล้ว เอไอเอส จะเปลี่ยนระบบมาให้บริการในคลื่น 900 เมกะเฮิร์ตซ ซึ่งจะทำให้ลูกค้าสามารถใช้งานต่อได้โดยไม่ต้องย้ายค่าย
ขณะที่ ปี 2559 เอไอเอส จะลงทุน 4 หมื่นล้านบาท เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิตอล สำหรับคลื่น 900 เมกะเฮิร์ตซ ที่เอไอเอสได้มานั้น จะนำมาแบ่งการใช้งานออกเป็น 2 ส่วน คือ ให้ทีโอทีเช่าใช่บริการโครงข่าย 2จี เดิม และให้บริการ 3จี และ 4จี โดยขึ้นอยู่กับพื้นที่การให้บริการ ซึ่งมีลูกค้าเดิมประมาณ 38 ล้าน 5 แสนเลขหมาย แต่การมีคลื่น 900 เข้ามา จะทำให้รองรับได้มากขึ้น ถึง 50 ล้านเลขหมาย โดยจะประกาศแผนการใช้งานอย่างเป็นทางการในเดือนสิงหาคมนี้
ด้าน นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า กสทช. จะนัดหารือผู้ประกอบการเพื่อกำกับคุณภาพ อัตราค่าบริการและการขยายโครงข่าย 4จี วันที่ 4กรกฎาคมนี้ โดยอัตราค่าบริการเสียง ต้องต่ำกว่า 69 สตางค์ต่อนาที และอินเทอร์เน็ตต้องต่ำกว่า 26 สตางค์ต่อเมกะไบร์ท และกสทช.จะนำเงินค่าประมูลคลื่น 900งวดแรก ของเอไอเอส กว่า 8,600 ล้านบาท และเงินค่าประมูลทีวีดิจิตอลงวดที่สามพร้อมค่าปรับ กว่า 8,890 ล้านบาท รวมมูลค่ากว่า 1 หมื่น 8,300 ล้านบาท นำส่งกระทรวงการคลังเพื่อเป็นรายได้แผ่นดินต่อไป.
ที่มา
http://www.thairath.co.th/content/651224 
AIS รับใบอนุญาต 4G คลื่นความถี่ 900MHz แล้ว มีอายุใช้ 15 ปี
วันที่ 30 มิ.ย. 59 นายสมชัย เลิศสุทธิวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ เอไอเอส ในฐานะรักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค หรือ เอดับบลิวเอ็น พร้อมคณะผู้บริหาร มารับมอบใบอนุญาตคลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิร์ตซ หลังจากนำเช็กเงินสดจากธนาคารกรุงเทพ มาชำระเงินงวดแรก รวมภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 7 แล้ว ประมาณ 8,600 ล้านบาท จากวงเงินที่เคาะประมูล 75,654 ล้านบาท ซึ่งใบอนุญาตฯ มีอายุ 15 ปี นับจากปี 2559 ถึง 2574
นายสมชัย เลิศสุทธิวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอส พร้อมคณะมารับใบอนุญาตคลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิร์ตซ จาก กสทช.
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอส กล่าวว่า ลูกค้าที่ยังค้างอยู่ในระบบ 2จี คลื่น 900 เมกะเฮิร์ตซ มีทั้งหมด 3 แสน 7 หมื่นหมายเลข ซึ่งส่วนใหญ่ไม่มีการใช้งานแล้ว หากลูกค้าต้องการใช้งานต่อ สามารถโอนย้ายไปใช้งานได้ทุกค่าย ไม่เช่นนั้นซิมจะดับลง หลังเวลาเที่ยงคืนของวันนี้ (30 มิ.ย. 59)
ส่วนลูกค้า 2จี และ 3จี ในระบบ 1800 เมกะเฮิร์ตซ ประมาณ 6 ล้านเลขหมาย เมื่อสิ้นสุดสัญญาสัมปทานกับทีโอทีแล้ว เอไอเอส จะเปลี่ยนระบบมาให้บริการในคลื่น 900 เมกะเฮิร์ตซ ซึ่งจะทำให้ลูกค้าสามารถใช้งานต่อได้โดยไม่ต้องย้ายค่าย
ขณะที่ ปี 2559 เอไอเอส จะลงทุน 4 หมื่นล้านบาท เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิตอล สำหรับคลื่น 900 เมกะเฮิร์ตซ ที่เอไอเอสได้มานั้น จะนำมาแบ่งการใช้งานออกเป็น 2 ส่วน คือ ให้ทีโอทีเช่าใช่บริการโครงข่าย 2จี เดิม และให้บริการ 3จี และ 4จี โดยขึ้นอยู่กับพื้นที่การให้บริการ ซึ่งมีลูกค้าเดิมประมาณ 38 ล้าน 5 แสนเลขหมาย แต่การมีคลื่น 900 เข้ามา จะทำให้รองรับได้มากขึ้น ถึง 50 ล้านเลขหมาย โดยจะประกาศแผนการใช้งานอย่างเป็นทางการในเดือนสิงหาคมนี้
ด้าน นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า กสทช. จะนัดหารือผู้ประกอบการเพื่อกำกับคุณภาพ อัตราค่าบริการและการขยายโครงข่าย 4จี วันที่ 4กรกฎาคมนี้ โดยอัตราค่าบริการเสียง ต้องต่ำกว่า 69 สตางค์ต่อนาที และอินเทอร์เน็ตต้องต่ำกว่า 26 สตางค์ต่อเมกะไบร์ท และกสทช.จะนำเงินค่าประมูลคลื่น 900งวดแรก ของเอไอเอส กว่า 8,600 ล้านบาท และเงินค่าประมูลทีวีดิจิตอลงวดที่สามพร้อมค่าปรับ กว่า 8,890 ล้านบาท รวมมูลค่ากว่า 1 หมื่น 8,300 ล้านบาท นำส่งกระทรวงการคลังเพื่อเป็นรายได้แผ่นดินต่อไป.
ที่มา http://www.thairath.co.th/content/651224