สวัสดีค่า  หลังจากฤดูใบไม้ร่วงผ่านพ้นไปแล้ว คราวนี้ก็ถึงช่วงของฤดูหนาวกันบ้าง ฤดูหนาวของที่นี่จะอยู่ในช่วงเดือน มิถุนายน- สิงหาคม อุณหภูมิก็จะต่างกันไปแล้วแต่สถานที่ โดยรวมแล้วเกาะใต้จะเย็นกว่าเกาะเหนือค่ะ ใครจะมาเที่ยวช่วงนี้ ก็เตรียมเสื้อผ้าหนาๆมาด้วยนะคะ


  ในรูปนี้เป็นความแตกต่างระหว่างฤดูใบไม้ผลิ กับช่วงต้นของฤดูหนาว


แล้วหิมะก็ค่อยๆทยอยลงมาเรื่อยๆ








อุณภูมิก็จะอยู่ประมาณ -2 ถึง 10 องศา  สําหรับปลานี่หนาวเลยทีเดียว บางทีแต่งตัวออกจากบ้านทีห่อยังกับแหนม เดินสวนกับฝรั่งใส่เสื้อกล้ามแล้วรู้สึกเหมือนโดนฝรั่งแอบขําในใจ   ใช่สิ.... ไม่หนาวมั่งก็แล้วไปวุ้ย

มาดูบรรยากาศกันต่อค่า





















ท้องทุ่งหญ้าสะท้อนแสงแดด วิบวับ



แวะพักทานกาแฟร้อนๆแก้หนาวกันซักหน่อย ร้านนี้บรรยากาศดีมากๆๆเลยค่า อยู่ระหว่างทางจาก Geraldine- Fairlie  หาง่ายค่ะมองเห็นชัดเจน แถมยังมีทัวร์เฮลิคอปเตอร์อีกด้วย


จุดชมวิว ณ ร้านกาแฟ ตรงนี้จะมีรถบัสมาจอดตลอดเวลาให้ลูกทัวร์ได้ลงไปถ่ายรูปกัน


ทานกาแฟเสร็จต่อด้วยพาย รส mince&cheese  กับ รส Salmon จากร้าน Fairlie  bakehouse ขอบอกว่าพายรสแซลมอนอร่อยมากๆๆๆ  แล้วก็ขนมโครนัทด้วยห้ามพลาดเลยค่ะ ปลาชอบกินพายร้านนี้มาก พยามจะกินไม่บ่อยนักเพื่อสุขภาพ พอเดินผ่านร้าน มองเข้าไปในร้าน เห็นพายเรียงอยู่ในตู้  พอรู้ตัวอีกทีก็เดินเข้าไปสั่งแล้ว
" one Salmon pie and cronut please "




หลังจากที่กินขนมหรือว่าพายไปแล้ว ปลาก็จะต้องรู้สึกอยากกินอะไรแซ่บๆขึ้นมาตลอดเลย อยู่ที่นี่หาซื้อปลาแซลมอลได้สะดวกดี
ซุปเปอร์มาเก็ทเมืองเล็กๆก็ยังมีขาย ซื้อมาแล้วก็จัดเลยค่า



เมืองที่ปลาอยู่ชื่อเมือง Fairlie ค่ะเป้นทางผ่านไป lake Tekapo  ห่างจาก Lake ไปประมาณ40กิโล ขับรถครึ่งชั่วโมงก็ถึง ที่นี่มีที่พักให้เลือกมากมายแล้วราคาก็ถูกกว่าที่ lakeด้วยค่ะ  ทั้งแบบ Motel , Holiday park , Bed and breakfast , farmstay ,shepherd( คือการพักแบบหนุ่มชาวฟาร์ม ที่พักก็จะเป็นประมาณในรูป)




หรือว่าจะเป็นบ้านป้าคนไทย พักแบบ Homestay คืนละ $35 รวมอาหารมื้อเย็นและอินเตอร์เนท ป้าใจดีและทําอาหารอร่อยมากๆ ลุงก็เล่นดนตรีเก่ง ใครเป็นคอดนตรีนี่ฟินแน่นอน



      อยู่ประเทศนี้ไปทางไหนก็เจอแต่วัว แล้วก็บ่อยครั้งที่เจอวัวเดินอยู่ข้างถนน หันดูรอบๆ ฮั่นแน่พังรั้วออกมาจากฟาร์มฝั่งนู้นแน่เลย วันนี้ก็เจออีกแล้ว  สามีหันมาบอกว่า " we gonna put these cows back ...this is farming way of helping "  รู้อยู่แล้วหละจ๊ะว่าต้องลงไปล้อมวัว
     ก้มไปดูรองเท้าที่ใส่มา เอ่อ... ผ้าใบสีสันสดใส กับพื้นขี้โคลน เอาน่า!! วัวตัวนึงต้องหลายดอล ถ้าหายไปเจ้าของฟาร์มคงเสียดายแย่ รองเท้าเดี๋ยวค่อยไปซักเอาก็ได้ปลาชอบความมีน้ำใจของคนที่นี่นะคะ ไม่รู้จักกันแต่ก็เต็มใจช่วย โดยไม่หวังผลตอบแทน โดยเฉพาะในสังคมของชาวเกษตรกร

ช่วยเสร็จแล้วมองหน้าแบบนี้ นี่คือขอบคุณใช่ไหม



แล้วก็สัตว์อีกอย่างที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ แกะ



ตัวนี้ขนฟูดีจังเลย


ใช้แรงงานเด็กบ้างอะไรบ้าง





บรรยากาศแถวทะเลสาปค่า



และปิดท้ายด้วยบรรยากาศตอนกลางคืนอันแสนจะเงียบสงบ หลังทุ่มนึงนี่ไม่มีร้านอะไรเปิดแล้วนะคะ นอกจากปั้มนํ้ามันที่เปิดถึงสามทุ่ม อยากกินก๋วยเตี๋ยวโว้ย





ถ้าใครอยากจะดูรูปเพิ่มเติม หรือว่าจะเม้ามอยอะไร ก็ไปดูกันได้ที่นี่นะคะ https://www.facebook.com/plaifahgallery/