สวัสดีครับ เพื่อนๆชาวพันทิปทุกคน นี่เป็นกระทู้แรกของผม ผมอยากจะเล่าประสบการณ์นี้ให้เพื่อนๆทุกคนทราบ เพื่อจะได้เป็นแนวทางในการตัดสินใจซื้อโทรศัพท์สักเครื่องหนึ่ง มาเริ่มกันเลย!!
ผมเป็นคนหนึ่งนะครับที่พึ่งจะเริ่มใช่โทรศัพท์ที่เป็นระบบ Android ครั้งแรก เพราะปกติจะใช้ของ IOS ตลอด ก่อนที่ผมจะซื้อผมก็ได้ศึกษาหาข้อมูลต่างๆนานา สุดท้ายก็เลือกเป็นเจ้า Samsung Galaxy S6 edge มาใช้ เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2559 ที่ศูนย์ MLINK สาขาเซนทรัลพระราม 9 ก็ใช้งานปกติตลอด ใช้งานจนมาถึงวันที่ 26 มิถุนายน 59 เวลาประมาณ 3 ทุ่ม ผมก็ใช้งานเครื่องปกติเหมือนทุกวัน ปรากฏว่าอยู่ดีๆเครื่องก็ค้างทำอะไรไม่ได้เลย กดปิดเครื่องก็ไม่ได้ เลยตัดสินใจโทรเข้าศูนย์บริการซัมซุง ก็มีเจ้าหน้าที่รับสายแล้วบอกให้กดรีเซทเครื่อง ปรากฏว่าเครื่องก็เปิดขึ้นมาแต่ก็ถึงแค่ โลโก้ซัมซุงแล้วก็ค้างไป เจ้าหน้าที่ก็ทำให้แบบนี้ซ้ำๆกันหลายๆรอบ จนเครื่องขึ้นเป็นโลโก้ Android แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเหมือนเดิม เจ้าหน้าที่แจ้งว่าอาจจะเป็นเพราะ แอปพลิเคชั่นบางตัวในตัวเครื่อง ที่ทำให้เครื่องไม่สามารถรันไปหน้าใช้งานได้ เจ้าหน้าที่ก็บอกให้ผมรีเซทอีก ทีนี้เครื่องกลับเปิดใช้งานได้ปกติ ผมรู้สึกโล่งใจมาก เพราะข้อมูลสำคัญอยู่ในนั้นหมด จึงกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่แบบยิ้มแย้มมาก แต่!! เครื่องมีอาการช้ามาก กระตุก ใช้งานได้ประมาณ 2 นาทีก็เกิดอาการดับไปอีก คราวนี้เลยตัดสินใจไว้เอาไปเช็คที่ศูนย์ Samsung วันรุ่งขึ้น
มาถึงวันที่ 27 มิถุนายน 59 เวลาประมาณ 17.30น. ผมได้นำเครื่องไปเช็คที่ศูนย์ Samsung สาขาฟอร์จูนพระราม 9
ชั้น 2 ปรากฏว่าที่ศูนย์ซัมซุงมีคนมาใช้บริการเยอะมาก ส่วนมากจะเป็นโทรศัพท์มือถือทั้งนั้น ก็เดินเข้าไปกดบัตรคิว แต่ไม่ได้นั่งรอนะครับ ยืนรอ เพราะไม่มีที่นั่งเลยคนเยอะยิ่งกว่าแจกของฟรีอีก รอคิวประมาณ 1 ชม.ได้ ก็มองบรรยกาศรอบๆในนั้นไปเรื่อยๆ ก็เห็น เจ้าหน้าที่แกะเครื่องของคนอื่นที่มีปัญหาที่เค้าเตอร์เลย แอบบงงนิดๆ ว่าแกะซ้อมกันแบบนี้เลยหรอ
พอถึงคิวก็นำเครื่องให้เจ้าหน้าที่ดู เค้าก็ไม่ได้เช็คอะไรมาก แค่กดนั้นนิดๆหน่อยๆ ก็แจ้งว่าเครื่องติด ROOT ไม่ได้อยู่ในประกัน ก็งงครับๆว่า ROOT คืออะไร เลยถามกลับเจ้าหน้าที่ไป ว่าคืออะไรครับ งง เค้าก็แจ้งว่า “เครื่องถูกลงโปรแกรมจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่ศูนย์ Samsung “ อ่าว งงไปใหญ่เลยที่นี้ เพราะเครื่องที่ซื้อมาไม่เคยซ้อมไม่เคยผ่านการลงโปรแกรมใดๆทั้งสิ้นก็แจ้งเจ้าหน้าไปแบบนี้ แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือ เจ้าหน้าที่แจ้งว่า “ไม่รู้ว่าคุณจะลงหรือไม่ลงโปรแกรมอะไรมา แต่ที่เห็นเครื่องแจ้งว่ามันติด ROOT” แล้วก็ไม่เช็คอะไรเพิ่มนอกจากคำนวณค่าใช้จ่ายในการส่งซ้อมให้ รวมเป็นเงิน 8000 กว่าบาท ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรกับราคาเพราะผมมั่นใจว่าเครื่องไม่ได้ผ่านการลงโปรแกรมอะไรทั้งนั้น ก็ถามกลับไปว่าค่าอะไรครับเค้าตอบว่าต้องเปลี่ยนบอร์ดใหม่ เคยถามกลับไปอีกว่าทำไมต้องเปลี่ยนบอร์ดใหม่ ทั้งๆที่คุณแจ้งเองว่า ซอฟแวร์ไม่สามารถทำให้ฮาร์ดแวร์เสียได้ แล้วมีความจำเป็นอะไรที่ต้องเปลี่ยนบอร์ด แต่ถ้าหากบอร์ดเสียจริงเครื่องทำไมยังเปิดติดละ
งงมาก
แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือได้รู้ว่า
มาตรฐานบริการการรับประกันของ Samsung เป็นแบบนี้นี่เอง ผมก็ไม่ยอมที่จะเสียเงิน 8000 กว่าบาทหรอก เพราะถ้าซ่อมมาแล้วเครื่องมีอาการแบบนี้อีกผมก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ้อมอีกหรอ ที่คุณบอกว่าไม่ได้อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน สรุปคือเครื่อง ราคาขนาดนี้ ใช้งานได้ 15 วัน ถือว่าคุ้มมากครับ Samsung
ผมขอให้คุณมาตอบหรือแก้ปัญหาส่วนนี้หน่อยนะครับ เพื่อที่ลูกค้าที่ซื้อสินค้าของคุณจะได้มั่นใจในมาตรฐาน ว่าเสียเงินราคานี้แล้วแต่สิ่งที่ได้มาไม่คุ้มเลย
เมื่อเทียบกับมือถือรุ่นอื่นที่ราคา สองสามพัน แต่ไม่มีปัญหาอะไรเลย ถ้า Samsung คิดที่จะทำซอฟแวร์เป็นของตัวเองก็ควรทดสอบให้มีประสิทธิภาพก่อน ก่อนที่จะเอาจำหน่ายสู่ตลาด คุณลองดูมือถือรุ่นผลไม้สิครับ หน้าจอผมแจกเป็นเส้นเดียว เค้าก็เปลี่ยนเครื่องใหม่ให้ผมแล้ว แต่ของคุณละเป็นแบบนั้นหรือเปล่า
ขอบคุณสมาชิกทุกคนนะครับที่เสียเวลามาอ่านกระทู้ของผม ซึ่งอย่างน้อยผมคิดว่าอาจจะเป็นประโยชน์กับคนที่มองหามือถือที่สวยแต่ดีไซด์ แต่ด้านประสิทธิภาพการทำงานหรอ ตามที่เป็นเลยครับ ไม่ต้องบอก
เพื่อนๆคนไหนเป็นเหมือนผม บ้าง มาแชร์ประสบการณ์ได้ครับ
หวังว่า Samsung Thailand จะมาเห็นแต่ตอบในส่วนนี้นะครับ
ขอบคุณครับ
Samsung S6 EDGE เครื่องดับเปิดไม่ติด!!
ผมเป็นคนหนึ่งนะครับที่พึ่งจะเริ่มใช่โทรศัพท์ที่เป็นระบบ Android ครั้งแรก เพราะปกติจะใช้ของ IOS ตลอด ก่อนที่ผมจะซื้อผมก็ได้ศึกษาหาข้อมูลต่างๆนานา สุดท้ายก็เลือกเป็นเจ้า Samsung Galaxy S6 edge มาใช้ เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2559 ที่ศูนย์ MLINK สาขาเซนทรัลพระราม 9 ก็ใช้งานปกติตลอด ใช้งานจนมาถึงวันที่ 26 มิถุนายน 59 เวลาประมาณ 3 ทุ่ม ผมก็ใช้งานเครื่องปกติเหมือนทุกวัน ปรากฏว่าอยู่ดีๆเครื่องก็ค้างทำอะไรไม่ได้เลย กดปิดเครื่องก็ไม่ได้ เลยตัดสินใจโทรเข้าศูนย์บริการซัมซุง ก็มีเจ้าหน้าที่รับสายแล้วบอกให้กดรีเซทเครื่อง ปรากฏว่าเครื่องก็เปิดขึ้นมาแต่ก็ถึงแค่ โลโก้ซัมซุงแล้วก็ค้างไป เจ้าหน้าที่ก็ทำให้แบบนี้ซ้ำๆกันหลายๆรอบ จนเครื่องขึ้นเป็นโลโก้ Android แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเหมือนเดิม เจ้าหน้าที่แจ้งว่าอาจจะเป็นเพราะ แอปพลิเคชั่นบางตัวในตัวเครื่อง ที่ทำให้เครื่องไม่สามารถรันไปหน้าใช้งานได้ เจ้าหน้าที่ก็บอกให้ผมรีเซทอีก ทีนี้เครื่องกลับเปิดใช้งานได้ปกติ ผมรู้สึกโล่งใจมาก เพราะข้อมูลสำคัญอยู่ในนั้นหมด จึงกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่แบบยิ้มแย้มมาก แต่!! เครื่องมีอาการช้ามาก กระตุก ใช้งานได้ประมาณ 2 นาทีก็เกิดอาการดับไปอีก คราวนี้เลยตัดสินใจไว้เอาไปเช็คที่ศูนย์ Samsung วันรุ่งขึ้น
มาถึงวันที่ 27 มิถุนายน 59 เวลาประมาณ 17.30น. ผมได้นำเครื่องไปเช็คที่ศูนย์ Samsung สาขาฟอร์จูนพระราม 9
ชั้น 2 ปรากฏว่าที่ศูนย์ซัมซุงมีคนมาใช้บริการเยอะมาก ส่วนมากจะเป็นโทรศัพท์มือถือทั้งนั้น ก็เดินเข้าไปกดบัตรคิว แต่ไม่ได้นั่งรอนะครับ ยืนรอ เพราะไม่มีที่นั่งเลยคนเยอะยิ่งกว่าแจกของฟรีอีก รอคิวประมาณ 1 ชม.ได้ ก็มองบรรยกาศรอบๆในนั้นไปเรื่อยๆ ก็เห็น เจ้าหน้าที่แกะเครื่องของคนอื่นที่มีปัญหาที่เค้าเตอร์เลย แอบบงงนิดๆ ว่าแกะซ้อมกันแบบนี้เลยหรอ
พอถึงคิวก็นำเครื่องให้เจ้าหน้าที่ดู เค้าก็ไม่ได้เช็คอะไรมาก แค่กดนั้นนิดๆหน่อยๆ ก็แจ้งว่าเครื่องติด ROOT ไม่ได้อยู่ในประกัน ก็งงครับๆว่า ROOT คืออะไร เลยถามกลับเจ้าหน้าที่ไป ว่าคืออะไรครับ งง เค้าก็แจ้งว่า “เครื่องถูกลงโปรแกรมจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่ศูนย์ Samsung “ อ่าว งงไปใหญ่เลยที่นี้ เพราะเครื่องที่ซื้อมาไม่เคยซ้อมไม่เคยผ่านการลงโปรแกรมใดๆทั้งสิ้นก็แจ้งเจ้าหน้าไปแบบนี้ แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือ เจ้าหน้าที่แจ้งว่า “ไม่รู้ว่าคุณจะลงหรือไม่ลงโปรแกรมอะไรมา แต่ที่เห็นเครื่องแจ้งว่ามันติด ROOT” แล้วก็ไม่เช็คอะไรเพิ่มนอกจากคำนวณค่าใช้จ่ายในการส่งซ้อมให้ รวมเป็นเงิน 8000 กว่าบาท ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรกับราคาเพราะผมมั่นใจว่าเครื่องไม่ได้ผ่านการลงโปรแกรมอะไรทั้งนั้น ก็ถามกลับไปว่าค่าอะไรครับเค้าตอบว่าต้องเปลี่ยนบอร์ดใหม่ เคยถามกลับไปอีกว่าทำไมต้องเปลี่ยนบอร์ดใหม่ ทั้งๆที่คุณแจ้งเองว่า ซอฟแวร์ไม่สามารถทำให้ฮาร์ดแวร์เสียได้ แล้วมีความจำเป็นอะไรที่ต้องเปลี่ยนบอร์ด แต่ถ้าหากบอร์ดเสียจริงเครื่องทำไมยังเปิดติดละ
งงมาก
แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือได้รู้ว่า
มาตรฐานบริการการรับประกันของ Samsung เป็นแบบนี้นี่เอง ผมก็ไม่ยอมที่จะเสียเงิน 8000 กว่าบาทหรอก เพราะถ้าซ่อมมาแล้วเครื่องมีอาการแบบนี้อีกผมก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ้อมอีกหรอ ที่คุณบอกว่าไม่ได้อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน สรุปคือเครื่อง ราคาขนาดนี้ ใช้งานได้ 15 วัน ถือว่าคุ้มมากครับ Samsung
ผมขอให้คุณมาตอบหรือแก้ปัญหาส่วนนี้หน่อยนะครับ เพื่อที่ลูกค้าที่ซื้อสินค้าของคุณจะได้มั่นใจในมาตรฐาน ว่าเสียเงินราคานี้แล้วแต่สิ่งที่ได้มาไม่คุ้มเลย
เมื่อเทียบกับมือถือรุ่นอื่นที่ราคา สองสามพัน แต่ไม่มีปัญหาอะไรเลย ถ้า Samsung คิดที่จะทำซอฟแวร์เป็นของตัวเองก็ควรทดสอบให้มีประสิทธิภาพก่อน ก่อนที่จะเอาจำหน่ายสู่ตลาด คุณลองดูมือถือรุ่นผลไม้สิครับ หน้าจอผมแจกเป็นเส้นเดียว เค้าก็เปลี่ยนเครื่องใหม่ให้ผมแล้ว แต่ของคุณละเป็นแบบนั้นหรือเปล่า
ขอบคุณสมาชิกทุกคนนะครับที่เสียเวลามาอ่านกระทู้ของผม ซึ่งอย่างน้อยผมคิดว่าอาจจะเป็นประโยชน์กับคนที่มองหามือถือที่สวยแต่ดีไซด์ แต่ด้านประสิทธิภาพการทำงานหรอ ตามที่เป็นเลยครับ ไม่ต้องบอก
เพื่อนๆคนไหนเป็นเหมือนผม บ้าง มาแชร์ประสบการณ์ได้ครับ
หวังว่า Samsung Thailand จะมาเห็นแต่ตอบในส่วนนี้นะครับ
ขอบคุณครับ