บ้านเราอยู่ในตำบลนึงทางภาคใต้ คนที่อยู่ในหมู่บ้านเราจะนิสัยคล้าย ๆ กันหมด คือ ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน จะต้องรู้ให้ได้ว่าบ้านไหนรวย บ้านไหนจน
บ้านไหนเป็นหนี้ คนไหน ผัวใคร เมียใครรู้หมด ชอบเล่นไพ่ เล่นหวย ถ้าใครบอกว่าบ้านไหนดี หรือ คนไหนดี จะหาข้อคัดค้านมาจนได้ว่าไม่ได้รวยจริงมั่งล่ะ ไม่ได้ดีจริงหรอก ชอบนินทามาเป็นอันดับหนึ่ง การนั่งจับกลุ่มคุยกัน นั่นหมายถึงต้องนินทาใครอยู่แน่นอน ชอบแย่งกันพูดเรื่องของตัวเอง ผัวตัวเอง ลูกตัวเอง ชอบว่าถ้าใครดำ ใครขี้เหร่ ก็โดนทับถม ใครดูดีหน่อย แต่งตัวสวยหน่อย ก็โดนมองด้วยหางตา ไม่ค่อยมีใครชมใคร ชอบกระแนะกระแหนคนรวย คนดี ด่าได้แม้กระทั่งเด็กเล็ก ที่เพิ่งเกิดได้ไม่นาน ไม่กล้าพูดอะไรกันตรง ๆ ชอบว่าลับหลัง ไม่ยอมรับอะไรใหม่ๆ ยึดติด ยังมีการคลุมถึงชน คือ ยิ่งกว่าละครหลังข่าวหลายเท่าเลยค่ะ เวลามีอะไรที่เป็นส่วนรวม เพื่อช่วยกันพัฒนา ก็ไม่ออกความเห็นอะไร แต่พอใครทำอะไรก็คอยหาเรื่องคอยด่าลับหลังกัน หมู่บ้านเราก็เลยไม่ค่อยมีอะไรดี เหมือนหมู่บ้านอื่นที่เค้าได้เป็นหมู่บ้านดีเด่นระดับจังหวัดไปหลายทีแล้ว ที่เรารู้เพราะเราฟังเยอะ ชอบมีคนมาเล่าให้เราฟังเองโดยเราไม่ต้องถาม เราเองไปอยู่กรุงเทพฯ 14 ปี ตั้งแต่เรียนปวช. 1 แต่แม่ให้กลับมาอยู่บ้านก็เลยต้องมา ตอนอยู่ กรุงเทพฯ เราไม่เคยเจออะไรแบบนี้เลย ปกติกลับบ้านแค่ปิดเทอม เราไม่ค่อยออกไปไหนหรอกเพราะเราเบื่อผู้คนแถวนี้ ไปงานศพ งานแต่ง งานบวช ทุกคนก็แย่งกันพูดเรื่องตัวเอง ชอบเห็นว่าการได้ตำหนิติติงคนอื่นเป็นเรื่องสนุก ชอบสอนเด็กให้ก้าวร้าว เด็กคนไหน พูดมาก พูดทะลึ่ง ตีเด็กคนอื่น พูดไม่เพราะกลับได้รับการชมเชย ว่าเป็นเด็กเก่ง ส่วนเด็กเรียบร้อยแบบลูกเราก็โง่ไป เราไม่แปลกใจเลยที่ หลาย ๆคนที่อยู่ ตำบลเรา พอได้เรียนจบหรือไปอยู่ที่อื่นแล้ว จะไม่ค่อยกลับมาอยู่บ้านกัน ไปแล้วไปเลยทั้งนั้น เลยสงสัยว่ามันเป็นเฉพาะที่นี่ หรือ ทั้งประเทศเราก็เป็นแบบนี้หมดคะ
อยากรู้ค่ะสังคม ตจว.ที่อื่นเป็นแบบบ้านเรามั๊ย
บ้านไหนเป็นหนี้ คนไหน ผัวใคร เมียใครรู้หมด ชอบเล่นไพ่ เล่นหวย ถ้าใครบอกว่าบ้านไหนดี หรือ คนไหนดี จะหาข้อคัดค้านมาจนได้ว่าไม่ได้รวยจริงมั่งล่ะ ไม่ได้ดีจริงหรอก ชอบนินทามาเป็นอันดับหนึ่ง การนั่งจับกลุ่มคุยกัน นั่นหมายถึงต้องนินทาใครอยู่แน่นอน ชอบแย่งกันพูดเรื่องของตัวเอง ผัวตัวเอง ลูกตัวเอง ชอบว่าถ้าใครดำ ใครขี้เหร่ ก็โดนทับถม ใครดูดีหน่อย แต่งตัวสวยหน่อย ก็โดนมองด้วยหางตา ไม่ค่อยมีใครชมใคร ชอบกระแนะกระแหนคนรวย คนดี ด่าได้แม้กระทั่งเด็กเล็ก ที่เพิ่งเกิดได้ไม่นาน ไม่กล้าพูดอะไรกันตรง ๆ ชอบว่าลับหลัง ไม่ยอมรับอะไรใหม่ๆ ยึดติด ยังมีการคลุมถึงชน คือ ยิ่งกว่าละครหลังข่าวหลายเท่าเลยค่ะ เวลามีอะไรที่เป็นส่วนรวม เพื่อช่วยกันพัฒนา ก็ไม่ออกความเห็นอะไร แต่พอใครทำอะไรก็คอยหาเรื่องคอยด่าลับหลังกัน หมู่บ้านเราก็เลยไม่ค่อยมีอะไรดี เหมือนหมู่บ้านอื่นที่เค้าได้เป็นหมู่บ้านดีเด่นระดับจังหวัดไปหลายทีแล้ว ที่เรารู้เพราะเราฟังเยอะ ชอบมีคนมาเล่าให้เราฟังเองโดยเราไม่ต้องถาม เราเองไปอยู่กรุงเทพฯ 14 ปี ตั้งแต่เรียนปวช. 1 แต่แม่ให้กลับมาอยู่บ้านก็เลยต้องมา ตอนอยู่ กรุงเทพฯ เราไม่เคยเจออะไรแบบนี้เลย ปกติกลับบ้านแค่ปิดเทอม เราไม่ค่อยออกไปไหนหรอกเพราะเราเบื่อผู้คนแถวนี้ ไปงานศพ งานแต่ง งานบวช ทุกคนก็แย่งกันพูดเรื่องตัวเอง ชอบเห็นว่าการได้ตำหนิติติงคนอื่นเป็นเรื่องสนุก ชอบสอนเด็กให้ก้าวร้าว เด็กคนไหน พูดมาก พูดทะลึ่ง ตีเด็กคนอื่น พูดไม่เพราะกลับได้รับการชมเชย ว่าเป็นเด็กเก่ง ส่วนเด็กเรียบร้อยแบบลูกเราก็โง่ไป เราไม่แปลกใจเลยที่ หลาย ๆคนที่อยู่ ตำบลเรา พอได้เรียนจบหรือไปอยู่ที่อื่นแล้ว จะไม่ค่อยกลับมาอยู่บ้านกัน ไปแล้วไปเลยทั้งนั้น เลยสงสัยว่ามันเป็นเฉพาะที่นี่ หรือ ทั้งประเทศเราก็เป็นแบบนี้หมดคะ