เปิดเอกสารลับ อเมริกันชี้เป้าระเบิด “โยะโกะฮะมะ” ในสงครามโลก


ภาพจาก อาซาฮี ชิมบุน

  
        เอกสารลับของกองทัพสหรัฐฯ ชี้ว่าเมืองโยะโกะฮะมะและเกียวโต เป็นเป้าหมายหลักในการถูกถล่มด้วยระเบิดปรมาณูในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ก่อนที่สหรัฐฯจะเปลี่ยนเป้าหมายไปยังเมืองนางาซากิในภายหลัง
      
        เอกสารลับของกองทัพสหรัฐฯ เปิดเผยเป้าหมายในการโจมตีญี่ปุ่นด้วยระเบิดปรมาณู โดยเมืองฮิโรชิมะ คือเป้าหมายอันดับ 1 ตามมาด้วยเกียวโตและโยะโกะฮะมะ  นักประวัติศาสตร์ชาวญี่ปุ่นได้ค้นพบเอกสารชิ้นนี้ในหอจดหมายเหตุแห่งชาติของสหรัฐฯ และกำลังวิเคราะห์ว่า เหตุใดเมืองอุตสาหกรรมใหญ่อย่างโยะโกะฮะมะ และอดีตเมืองหลวงอย่างเกียวโต ถึงได้รอดพ้นจากการถูกถล่มด้วยระเบิดนิวเคลียร์?

        รัฐบาลสหรัฐฯได้วางแผนหาเป้าหมายโจมตีญี่ปุ่นด้วยระเบิดปรมาณูตั้งแต่ราวเดือนเมษายน ปี 1945 โดยใช้ชื่อยุทธศาสตร์ “แมนฮัตตัน โปรเจค” ภายใต้การนำของพลเอกเลสลีย์ กรูฟ
      
        พื้นที่เป้าหมายที่ฝ่ายสหรัฐฯจะทิ้งระเบิดนั้นจะพื้นที่เส้นผ่านศูนย์กลางไม่น้อยกว่า 4.8 กิโลเมตร ตั้งอยู่ระหว่างกรุงโตเกียวและเมืองนางซากิ และต้องมีความสำคัญทางยุทธศาสตร์
      
        ฝ่ายอเมริกาตั้งเป้าไว้แต่แรกว่าจะใช้ญี่ปุ่นเป็นที่ทดลองระเบิดนิวเคลียร์เป็นครั้งแรก จึงต้องทิ้งระเบิดในเขตเมืองที่มีประชาชนหนาแน่น เพื่อประเมินศักยภาพในการทำลายล้างของระเบิดปรมาณู และได้คัดเลือกเมือง 17 เมืองไว้ในบัญชี เช่น คาวะซะกิ, โยะโกะฮะมะ, นาโงยะ, โอซากา, เกียวโต, ฮิโรชิมะ, ฟุกุโอกะ และ นางาซากิ เป็นต้น
      
        อย่างไรก็ตาม ภายหลังการประชุมของฝ่ายเสนาธิการ สหรัฐฯได้เลือกเมืองฮิโรชิมะ เป็นเป้าหมายอันดับ 1 เกียวโต อันดับ 2 และโยะโกะฮะมะ อันดับ 3
        
        โยะโกะฮะมะเป็นเมืองอุตสาหกรรมสำคัญและเป็นฐานการผลิตเครื่องบินรบ รวมทั้งอาวุธและเครื่องจักรต่างๆ ทั้งใช้ในการสงครามและหล่อเลี้ยงเศรษฐกิจญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมีท่าเรือและโรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่ด้วย โดยในช่วงสงคราม อุตสาหกรรมต่างๆได้ย้ายออกจากกรุงโตเกียวที่ถูกโจมตีทางอากาศอย่างหนักมายังโยะโกะฮะมะ

        อย่างไรก็ตาม ในการประชุมครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 28พฤษภาคม สหรัฐฯได้ถอดโยะโกะฮะมะออกจากบัญชีเป้าหมาย และให้เมืองนีงะตะเป็นเป้าหมายอันดับ 3 แทน
      
        นักประวัติศาสตร์ชาวญี่ปุ่น ประเมินว่าที่โยะโกะฮะมะรอดพ้นจากการถูกถล่มด้วยระเบิดปรมาณู เนื่องจากตัวเมืองทอดยาวไปตามชายฝั่งทะเล และไม่เข้าเงื่อนไขมีพื้นที่เส้นผ่านศูนย์กลางไม่น้อยกว่า 4.8 กิโลเมตร
      
        นอกจากนี้ โยะโกะฮะมะยังมีระบบป้องกันทางอากาศที่ดีเยี่ยม การโจมตีเมืองต้องใช้เครื่องบินรบ B-29 มากกว่า 500ลำซึ่งฝ่ายสหรัฐฯยากที่จะระดมเครื่องบินจำนวนมากเช่นนี้ได้ในวันดีเดย์ รวมทั้งฝ่ายสหรัฐฯ จะถูกตอบโต้อย่างหนักหน่วงจนอาจไม่สามารถทิ้งระเบิดเมืองได้

        ไม่กี่วันก่อนกำหนดการดีเดย์ ฝ่ายได้ถอดเกียวโตออกจากเป้าหมาย เพราะเกรงว่าจะถูกวิจารณ์อย่างหนักหากโจมตีเมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่น และทำลายสิ่งก่อสร้างทางประวัติศาสตร์จนย่อยยับ
      
        6 สิงหาคม 1945 ระเบิดปรมาณูลูกแรกถูกทิ้งลงที่เมืองฮิโรชิมะตามแผนของสหรัฐฯ และอีก 3วันต่อมา นักบินของสหรัฐฯได้รับคำสั่งให้ไปทิ้งระเบิดลูกที่ 2 ที่เมืองโคคุระ แต่เนื่องจากทัศนวิสัยไม่ดี ทำให้จำต้องเปลี่ยนแผนกะทันหันไปถล่มเมืองนางาซากิแทน.




เครื่องบินรบของสหรัฐฯลงจอดที่โยะโกะฮะมะ หลังญี่ปุ่นยอมแพ้สงคราม


อ่าวโยะโกะฮะมะในปัจจุบัน

ข่าวจาก : MGR Online
http://manager.co.th/Japan/ViewNews.aspx?NewsID=9590000061546
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่