สวัสดีครับนี่เป็นกระทู้เเรกบนพันทิปของผม
วันนี้จะมารีวิวการท่องเที่ยวเเนวประหยัดจากภาคเหนือ(เชียงใหม่) สู่เเดนใต้(สมุย)
และทั้งหมดเป็นภาพถ่ายจากกล้องโทรศัพท์มือถือ ถ้าภาพไม่สวยยังไงขออภัยด้วยนะครับ
ค่าใช้จ่ายโดยประมาณในการเดินทางจากเชียงใหม่ของผมในครังนี้ (ไม่รวมค่าอาหารและของฝากนะครับ)
1. ค่าเครื่องบินไทยสมายจากเชียงใหม่ไปลงสุวรรณภูมิ 990 บาท
2. ค่ารถทัวร์ของ บ.รุ่งเรื่อง จากสนามบินสุวรรณภูมิไปพัทยาเหนือ 120 บาท
3. ค่ารถตู้จากพัทยาเหนือไปสนามมบินอูตะเภา 50 บาท
4. ค่าเครื่องบินบางกอกแอร์เวย์ไปสมุย 580 บาท (โปรโมชั่น 48ปีบางกอกแอร์เวย์)
5. ค่าเท็กซี่ไปที่พัก 100 บาท
6. ค่าที่พักที่ Euro hostel 2 คืน ราคา 300 บาท
7. ค่าเช่ารถมอไชต์และค่าน้ำมัน 1 วัน 140 บาท (ราคานี้หารสองกับเพื่อน)
8. ค่าเรือเรือสปีดโบ๊ทไป-กลับ เกาะสมุย-พะงัน 1000 บาท
9. ค่าเครื่องดื่มในงานฟูมูลปาร์ตี้ 100 บาท
10. ค่าแท็กชี่ไปสนามบิน สมุย 100 บาท
11. ค่าเครื่องบินจากสมุยไปเชียงใหม่ 680 บาท
รวมๆเเล้วค่าเดินทางอยู่ที่ 4160 บาท สำหรับคนไทยแบบเราๆอาจได้ส่วนลดเพิ่มเติมจากค่าเรือสปีดโบ๊ทนะครับ
สำหรับเพื่อนๆที่อยากประหยัดกว่านี้มีเรือช้าออกไปเกาะพะงันเที่ยวละ 100 บาทครับ ช่วยประหยัดได้เยอะมากๆเลย
จุดเริ่มต้นมันอยู่ที่ว่าเมื่อช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สายการบินบางกอกแอร์เวย์ได้ฉลอง 48 ปีด้วยการปล่อยตั๋วโปรโมชั่นในราคา 480บาทออกมา หลังจากได้ทราบข่าวมาผมก็ไม่รอช้าที่จะหาข้อมูลครับ และข้อมูลที่ได้มาคือ เส้นทาง สมุย-เชียงใหม่ คือเส้นทางที่คุ้มที่สุด แต่เเล้วโชคชะตาก็ไม่เป็นใจให้ผมซึ่งผมจองไม่ทันในเส้นทาง เชียงใหม่-สมุย เลยหันไปจองพัยา(อู่ตะเภา)-สมุย แทน
จุดเริ่มต้นทั้งหมดของการเดินในครั้งนี้เริ่มมาจากตั๋ว 2 ใบนี้
เช้าวันที่ 18 มิถุนายน มาเริ่มกันที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่เลยนะครับ ด้วยความที่ว่าต้องไปส่งเพื่อนด้วยผมจึงต้องไปถึงสนามบินประมาณเกือบๆ6โมงเช้า สนามบินยังดูโล่งๆ เค้าเตอร์เช็คอินยังไม่ค่อยเปิดกันเลยครับ
หลังจากเช็คอินเรียบร้อยเเล้วเราก็ได้ตั๋วใบนี้มารอที่เกทเตรียมพร้อมออกเดินทางในเวลา 7.20 น. มุ่งหน้าสู่สุวรรณภูมิครับทีเเรกผมคิดว่าจะจองหางเเดงไปลงที่อู่ตะเภาแต่ราคาชัดไปที่ 1200 บาท แม่เจ้าา เลยจองไทยยิ้มไปที่ราคา 990 บาทเพราะคุ้มกว่าบวกกับการเดินทางไปอู่ตะเภาอีกนิดหน่อย
หลังจากนั้นก็ขึ้นรถบัสมาถึงเครื่องเเล้วครับ พนักงานการบินไทยยิ้มตลอดเลยครับ น่ารักมากๆ ลืมบอกไปว่าเครื่องบินลำนี้ชื่อว่า "กรุงเทพมหานคร"
มาถึงที่นั่งเเล้วครับ ผมไปเช็คอินรู้สึกว่าจะเป็นคนที่3 เลยก็ว่าได้ เลยขอที่นั่งเเถว 34A มามันว่าพอดี เหตุผลที่ต้องเลือกแถว34เพราะเคยอ่านเจอในกระทู้นึงท่านเขียนว่าแถว 34-35 ของไทยยิ้มมันกว้างมากๆถ้าไม่นับรวมแถวประตูฉุกเฉิน เลยลองจัดซะหน่อย แต่มันก็กว้างจริงๆ
เรื่องดีๆก็ไม่ลืมที่จะเก็บมาแบ่งปันเพื่อนๆครับผู้โดยสารกำลังถ่ายรูปกันอยู่สามคน พนักงานเห็นจึงอาสาถ่ายรูปให้ผู้โดยสาร เผลอยิ้มไปอีกครั้งบนเครื่องของไทยยิ้ม
พอ Take off ขึ้นไปสักพัก พนักงานก็นำถุงใบนี้ และน้ำมาเเจก พร้อมกับน้ำส้ม ชา และ กาเเฟ ที่ตามมาติดๆ
และนี่ก็คืออาหารข้างในครับ อร่อยพอสมควร จริงๆแล้วแอบกินไปชิ้นนึง ฮ่าๆ
พอเครื่องแลนด์เสร็จเเล้วก็เดินๆออกมาประตู8 ชื้อตั๋วของ บ.รุ่งเรืองไปลงพัทยาเหนือ เพื่อที่ตะไปอู่ตะเภา!! ที่เเรกก็ไม่รู้อะไรหรอกครับไปยืนงงๆ อยู่ตรงนั้นสักพัก ก็ไปต่อคิวเพื่อถาม!! ตั้งใจไปถามว่ามีรถไปอู่ตะเภาไหม? เเล้วพี่ๆแนะนำให้ชื้อตั๋วไปลงไปลงพัทยาเหนือ ระหว่างทางเจอคุณลุงฝรั่งคนนึง คาดว่าน่าจะเป็นคนฝรั่งเศส ในรถเจอคนต่างชาติเป็นส่วนมากนะครับคุยลุงเขาทักมาถามว่าพัทยากลางลงที่ไหน ก็เลยได้คุย หลังจากได้โอกาสก็ชวนคุยไปเลยครับ อย่าไปกลัวว 55555555
ปล.ขอยืมรูปมาจาก เว็ปใชต์ของ บ.รุ่งเรื่องนะครับ
พอลงพัทยาเหนือเเล้วจะมีรถตู้ไประยองมารอ ราคา 50 บาท
ขอโทษที่ไม่ได้ถ่ายมานะครับเพราะเเบตจะหมด!!! กลัวไม่มีที่ติดต่อกับใคร หลังจากนั้นรถจะพาเราไปลง แยกตลาดศรีประพัฒน์ เพราะรถตู้ต้องเลี้ยวไปทางน้ัน ด้วยความที่ขี้งก!! ไม่ใช่ๆ กลัวเงินไม่พอ แบบนี้ดูดีกว่า เลย เดิน!!! ใช่ครับเดินไปอู่ตะเภาโดยให้พี่กูเกิลนำทาง ไกลมากกก
และเเล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นกูเกิลพาไปเจอทางปิด!! กลับไม่ได้เพราะว่า เดินมาไกลมากกกก กระเป๋าหนักคิดในใจว่าไม่หันกลับเเน่นอน!! เลยตัดสินใจ เอาว๊ะ จะปืน!! 555555
พอปืนข้ามรั้วแล้วเดินต่อไปได้ประมาณ ห้าหกก้าวก็มีเสียงรถยนต์มาจอดเทียบข้างๆ พร้อมกับลดกระจกลงมาถามว่า "น้องไปไหนครับ"
ผมก็ตอบกลับไปว่า "ไปอู่ตะเภาครับ" และเเล้วคุณลุงก็อาสาพาไปส่ง พอคุยๆไปสักพักคุณลุงก็บอกว่าคุณลุงเป็นทหาร ที่จริงคุณลุงจะไปทำงานเเต่ก็เลยไปส่งได้เพราะเดินมันไกล อีกชั่วโมงจะถึงหรือปล่าวก็ไม่รู้ ฮ่าๆ เราก็ขอบคุณคุณลุงยกใหญ่ แต่ก็
ขอขอบคุณ คุณลุงทหารอีกครั้งนะครับ
และเเล้วเราก็มาถึงอู่ตะเภาโดยสวัสดิภาพเเละได้เวลาเช็คอินพอดี ผมมาถึงอู่ตะเภาเวลาประมาณ 15.10 น. เเละจัดการเช็คอินให้เรียบร้อยเเละ ก็ได้เวลาชาร์จแบตฟื้นคืนชีพของโทรศัพย์ที่ทำทำว่าจะดับมาเป็นเวลานาน
พอเช็คอินเสร็จผมได้บร์อดดิ้งพาสใบนี้มา ราคาตั๋วที่ผมได้ได้มาคือ 480 บาท เนื่องในโอกาสฉลอง 48 ปีของบางกอกแอร์เวย์ครับ ราคาปกติเส้นทางนี้อยู่ที่ประมาณ 3890 บาท ราคาดังกล่าวยังไม่รวมภาษีสนามบินนะครับ ส่วนภาษีสนามบินของอู่ตะเภา บวกเพิ่มอีก 100 บาทครับผู้โดยสารส่วนใหญ่ในเส้นทางนี้จะเป็นชาวต่างชาติ
ได้เวลารอเครื่องตามสไตล์บางกอกแอร์เวย์ครับ มีน้ำและขนมให้ทานอร่อยๆด้วย
17.00 เครื่องมาเเล้ว แต่ขอโทษด้วยนะครับที่ไม่ได้ถ่ายภาพมาเพราะเป็นกฎของทางราชการ แต่อยากเล่าบรรยากาศให้ฟังว่าพอเครื่องกำลังถอยออกจากหลุมจอด พนักงานภาคพื้นก็รวมตัวกันโบกมือลา เพื่อส่งผู้โดยสาร ทำเอาซะซึ้งเลยย

พอเครื่องขึ้นได้สักพักก็เห็นบรรยากาศเป็นท้องทะเล แต่ผมก็ไม่มั่นใจว่าเกาะที่เห็นคือเกาะอะไร
พอเครื่องบินไต่ระดับได้สักพักก็มีพนักงานนำอาหารมาเสริฟ อร่อยใช้ได้เลยครับ ผมทานซะหมดเกลี้ยงเลยย เเล้วก็ตามมาด้วย น้ำส้ม ชา เช่นเคย
พอกินอิ่มแล้วก็นอนหลับ ตกใจตื่นขึ้นมาเครื่องของเราก็บินผ่าน เกาะพงันพร้อมกับเเสงสีส้มจากดวงอาทิตย์ที่ไกล้จะลับขอบฟ้าพอดี ผมก็ไม่พลาดที่จะถือโทรศัพย์ขึ้นมาถ่ายเก็บไว้
พอเครื่องแลนด์เสร็จเเล้วก็มีรถมารับแบบนี้ครับ บรรยากาศที่สมุยเป็น โอเพ่นแอร์ สวยมากๆอารมณ์ประมาณรีสอร์ทเลย
พอลงเครื่องเสร็จแล้วก็เดินออกมาหน้าสนามบินและด้วยความรู้สึกส่วนตัวที่ว่า ขึ้นรถจากสนามบินไปต้องเเพงเเน่ๆ เลยเดินออกไปที่สามแยกสนามบินอีกนิดหน่อยเเล้วไปเรียกรถตรงนั้น เลยเสียค่าเเท็กชี่ไป 100 บาท
พอถึงที่พักเราก็ไปจัดการเรื่องห้องพักที่จองไว้ก่อนอยู่เเล้วเป็นโฮสเทล พี่พนักงานต้อนรับใจดีมากกกเเนะนำทุกอย่างแถมยังลดค่าเรือให้อีกก คุยกันจนสนิทอย่างกับญาติ พักไม่ผิดที่จริงๆ เราจัดการจองไปสองคืน จ่ายไป สามร้อยยยบาท (มีประกันท่านละ200 บาทนะครับ)
ในขณะที่จัดการกับที่พักเสร็จเรียบร้อยเเล้ว ก็รอๆ เพื่อนที่กำลังนั่งเรือจากฝั่งสุราษธานีมาถึงสมุยโดยการคุยกับเพื่อนต่างชาติที่พักอยู่ในห้องก่อนหน้านี้เเล้วผุ้หญิงจากประเทศไหนไม่รู้ 2 คน กับชายวัยกลางคนชาวอาเจนตินาอีก 1 คน มิตรภาพมีอยู่จริง ฮ่าๆ ประทับใจมาก การพักโฮสเทลก้เหมือนกับการเปิดโอกาสให้ตัวเองเจอเพื่อนใหม่ๆ ฮ่าๆ ปลื้มๆ

หลังจากเพื่อนมาถึงเราก็ไปเช่ารถขับไปหาข้าวกินกัน คันละ200บาท/24ชั่วโมง เห็นว่ามี150 ด้วยเเต่พวกเราหาไม่เจอ
เราไปกัน 4 คนเฉลี่ยนคน 140 บวกค่าน้ำมัน น้ำมันเหลือเฟือเลย
เช้าวันที่ 19 กว่าจะอาบน้ำทำธุระส่วนตัวเสร็จ ก็ปาไปที่ 10 โมงเช้า พวกเราก็พากันขับรถเที่ยวแต่เที่ยวได้ประมาณครึ่งเกาะเอาภาพรวมๆ มาให้ชมละกันนะครับเดี่ยวมันจะมากเกินไป
สำหรับตอนเช้าเราไปไหว้พระครับ ในรูปนี้มีประมาณ 3 วันครับ มีวัดพระใหญ่ วัดปลายแหลม ที่มีชื่อเสียงในเกาะสมุย ถือว่าเอาฤกษ์เอาชัย พร้อมกับเเวะชื้อตั๋วเรือไปเกาะพะงันด้วย
และตอนบ่ายก็ไป point view หินตา หินยาย กับน้ำตกหน้าเมือง ด้วยความที่พวกเราขี้งก!! อีกละ 555 ประหยัดเงิน เลยไม่ยอมขึ้นรถไปน้ำตกหน้าเมือง แต่ยอมเดินเอาความสดใสของวัยหนุ่มเข้าสู้มันไกลมากๆ ประมาณ 20 นาทีและมีความชันและไปไม่ถึง ถึงเเค่น้ำตกเล็กๆแบบที่เห็นบวกด้วยเหตุผลที่ว่าต้องกลับไปขึ้นเรือก่อน 16.00 น. เลยต้องรีบกลับกัน เสียใจ


และจุดที่ชอบที่สุดคือจุดชมวิว คือมันสวยมากๆ จนต้องลองไปดูด้วยตัวเองแบบ 360 องศา 555555
เที่ยวไปเที่ยวมามองดูนาฬิกาอีกที 15.00 !! ต้องรีบกลับละครับเพราะเพื่อนต้องไปขึ้นเรือ 16.00 เพื่อไปพะงัน ลืมบอกไปครับ ค่าตั๋วเรือช้าไปพะงัน 100 บาทที่ท่าเรือบางรักนะครับที่เพื่อนต้องชื้อแบบนี้เพราะเขาจะกลับเข้าฝั่งสุราษธานีเลย เเละค่าเรือของผมคืออันนี้ที่พี่ที่พักลดราคาให้เเต่ขอไม่บอกว่าเท่าไหร่นะครับสำหรับรีวิวนี้ผมตีไปเลย 1000 บาท หลังจากขึ้นเรือแล้วจะได้ห้อยคอไว้(เดี่ยวหาย)เพราะเป็นไป-กลับ รับ-ส่งถึงที่พักเเละเป็นเรือสปีดโบ๊ท มีหลายรอบครับเลือกได้ตามสบาย ขากลับจากพะงันมาสมุยรอบสุดท้ายคือ 7.00น.
ผมออกจากที่พักประมาณ 18.00 ไปรอที่ท่าเรืออีกสักพัก 19.20 ถึงเกาะพะงันลงจากเรือจะได้จ่ายค่าเข้างาน100 บาทเเล้วจะได้ริชแบนนี้เป็นสิ่งตอบแทนครับ สวยๆเลย ผมชอบอยู่นะรู้สึกไม่เสียดาย 100 บาทเลย
[CR] เด็กเหนือเเต๊ๆแบกเป้เที่ยว สมุย & Full Moon Party 3คืน 4วัน ด้วยงบ 4800 บาท
วันนี้จะมารีวิวการท่องเที่ยวเเนวประหยัดจากภาคเหนือ(เชียงใหม่) สู่เเดนใต้(สมุย)
และทั้งหมดเป็นภาพถ่ายจากกล้องโทรศัพท์มือถือ ถ้าภาพไม่สวยยังไงขออภัยด้วยนะครับ
ค่าใช้จ่ายโดยประมาณในการเดินทางจากเชียงใหม่ของผมในครังนี้ (ไม่รวมค่าอาหารและของฝากนะครับ)
1. ค่าเครื่องบินไทยสมายจากเชียงใหม่ไปลงสุวรรณภูมิ 990 บาท
2. ค่ารถทัวร์ของ บ.รุ่งเรื่อง จากสนามบินสุวรรณภูมิไปพัทยาเหนือ 120 บาท
3. ค่ารถตู้จากพัทยาเหนือไปสนามมบินอูตะเภา 50 บาท
4. ค่าเครื่องบินบางกอกแอร์เวย์ไปสมุย 580 บาท (โปรโมชั่น 48ปีบางกอกแอร์เวย์)
5. ค่าเท็กซี่ไปที่พัก 100 บาท
6. ค่าที่พักที่ Euro hostel 2 คืน ราคา 300 บาท
7. ค่าเช่ารถมอไชต์และค่าน้ำมัน 1 วัน 140 บาท (ราคานี้หารสองกับเพื่อน)
8. ค่าเรือเรือสปีดโบ๊ทไป-กลับ เกาะสมุย-พะงัน 1000 บาท
9. ค่าเครื่องดื่มในงานฟูมูลปาร์ตี้ 100 บาท
10. ค่าแท็กชี่ไปสนามบิน สมุย 100 บาท
11. ค่าเครื่องบินจากสมุยไปเชียงใหม่ 680 บาท
รวมๆเเล้วค่าเดินทางอยู่ที่ 4160 บาท สำหรับคนไทยแบบเราๆอาจได้ส่วนลดเพิ่มเติมจากค่าเรือสปีดโบ๊ทนะครับ
สำหรับเพื่อนๆที่อยากประหยัดกว่านี้มีเรือช้าออกไปเกาะพะงันเที่ยวละ 100 บาทครับ ช่วยประหยัดได้เยอะมากๆเลย
จุดเริ่มต้นมันอยู่ที่ว่าเมื่อช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สายการบินบางกอกแอร์เวย์ได้ฉลอง 48 ปีด้วยการปล่อยตั๋วโปรโมชั่นในราคา 480บาทออกมา หลังจากได้ทราบข่าวมาผมก็ไม่รอช้าที่จะหาข้อมูลครับ และข้อมูลที่ได้มาคือ เส้นทาง สมุย-เชียงใหม่ คือเส้นทางที่คุ้มที่สุด แต่เเล้วโชคชะตาก็ไม่เป็นใจให้ผมซึ่งผมจองไม่ทันในเส้นทาง เชียงใหม่-สมุย เลยหันไปจองพัยา(อู่ตะเภา)-สมุย แทน
จุดเริ่มต้นทั้งหมดของการเดินในครั้งนี้เริ่มมาจากตั๋ว 2 ใบนี้
เช้าวันที่ 18 มิถุนายน มาเริ่มกันที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่เลยนะครับ ด้วยความที่ว่าต้องไปส่งเพื่อนด้วยผมจึงต้องไปถึงสนามบินประมาณเกือบๆ6โมงเช้า สนามบินยังดูโล่งๆ เค้าเตอร์เช็คอินยังไม่ค่อยเปิดกันเลยครับ
หลังจากเช็คอินเรียบร้อยเเล้วเราก็ได้ตั๋วใบนี้มารอที่เกทเตรียมพร้อมออกเดินทางในเวลา 7.20 น. มุ่งหน้าสู่สุวรรณภูมิครับทีเเรกผมคิดว่าจะจองหางเเดงไปลงที่อู่ตะเภาแต่ราคาชัดไปที่ 1200 บาท แม่เจ้าา เลยจองไทยยิ้มไปที่ราคา 990 บาทเพราะคุ้มกว่าบวกกับการเดินทางไปอู่ตะเภาอีกนิดหน่อย
หลังจากนั้นก็ขึ้นรถบัสมาถึงเครื่องเเล้วครับ พนักงานการบินไทยยิ้มตลอดเลยครับ น่ารักมากๆ ลืมบอกไปว่าเครื่องบินลำนี้ชื่อว่า "กรุงเทพมหานคร"
มาถึงที่นั่งเเล้วครับ ผมไปเช็คอินรู้สึกว่าจะเป็นคนที่3 เลยก็ว่าได้ เลยขอที่นั่งเเถว 34A มามันว่าพอดี เหตุผลที่ต้องเลือกแถว34เพราะเคยอ่านเจอในกระทู้นึงท่านเขียนว่าแถว 34-35 ของไทยยิ้มมันกว้างมากๆถ้าไม่นับรวมแถวประตูฉุกเฉิน เลยลองจัดซะหน่อย แต่มันก็กว้างจริงๆ
เรื่องดีๆก็ไม่ลืมที่จะเก็บมาแบ่งปันเพื่อนๆครับผู้โดยสารกำลังถ่ายรูปกันอยู่สามคน พนักงานเห็นจึงอาสาถ่ายรูปให้ผู้โดยสาร เผลอยิ้มไปอีกครั้งบนเครื่องของไทยยิ้ม
พอ Take off ขึ้นไปสักพัก พนักงานก็นำถุงใบนี้ และน้ำมาเเจก พร้อมกับน้ำส้ม ชา และ กาเเฟ ที่ตามมาติดๆ
และนี่ก็คืออาหารข้างในครับ อร่อยพอสมควร จริงๆแล้วแอบกินไปชิ้นนึง ฮ่าๆ
พอเครื่องแลนด์เสร็จเเล้วก็เดินๆออกมาประตู8 ชื้อตั๋วของ บ.รุ่งเรืองไปลงพัทยาเหนือ เพื่อที่ตะไปอู่ตะเภา!! ที่เเรกก็ไม่รู้อะไรหรอกครับไปยืนงงๆ อยู่ตรงนั้นสักพัก ก็ไปต่อคิวเพื่อถาม!! ตั้งใจไปถามว่ามีรถไปอู่ตะเภาไหม? เเล้วพี่ๆแนะนำให้ชื้อตั๋วไปลงไปลงพัทยาเหนือ ระหว่างทางเจอคุณลุงฝรั่งคนนึง คาดว่าน่าจะเป็นคนฝรั่งเศส ในรถเจอคนต่างชาติเป็นส่วนมากนะครับคุยลุงเขาทักมาถามว่าพัทยากลางลงที่ไหน ก็เลยได้คุย หลังจากได้โอกาสก็ชวนคุยไปเลยครับ อย่าไปกลัวว 55555555
ปล.ขอยืมรูปมาจาก เว็ปใชต์ของ บ.รุ่งเรื่องนะครับ
พอลงพัทยาเหนือเเล้วจะมีรถตู้ไประยองมารอ ราคา 50 บาท ขอโทษที่ไม่ได้ถ่ายมานะครับเพราะเเบตจะหมด!!! กลัวไม่มีที่ติดต่อกับใคร หลังจากนั้นรถจะพาเราไปลง แยกตลาดศรีประพัฒน์ เพราะรถตู้ต้องเลี้ยวไปทางน้ัน ด้วยความที่ขี้งก!! ไม่ใช่ๆ กลัวเงินไม่พอ แบบนี้ดูดีกว่า เลย เดิน!!! ใช่ครับเดินไปอู่ตะเภาโดยให้พี่กูเกิลนำทาง ไกลมากกก
และเเล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นกูเกิลพาไปเจอทางปิด!! กลับไม่ได้เพราะว่า เดินมาไกลมากกกก กระเป๋าหนักคิดในใจว่าไม่หันกลับเเน่นอน!! เลยตัดสินใจ เอาว๊ะ จะปืน!! 555555
พอปืนข้ามรั้วแล้วเดินต่อไปได้ประมาณ ห้าหกก้าวก็มีเสียงรถยนต์มาจอดเทียบข้างๆ พร้อมกับลดกระจกลงมาถามว่า "น้องไปไหนครับ"
ผมก็ตอบกลับไปว่า "ไปอู่ตะเภาครับ" และเเล้วคุณลุงก็อาสาพาไปส่ง พอคุยๆไปสักพักคุณลุงก็บอกว่าคุณลุงเป็นทหาร ที่จริงคุณลุงจะไปทำงานเเต่ก็เลยไปส่งได้เพราะเดินมันไกล อีกชั่วโมงจะถึงหรือปล่าวก็ไม่รู้ ฮ่าๆ เราก็ขอบคุณคุณลุงยกใหญ่ แต่ก็ ขอขอบคุณ คุณลุงทหารอีกครั้งนะครับ
และเเล้วเราก็มาถึงอู่ตะเภาโดยสวัสดิภาพเเละได้เวลาเช็คอินพอดี ผมมาถึงอู่ตะเภาเวลาประมาณ 15.10 น. เเละจัดการเช็คอินให้เรียบร้อยเเละ ก็ได้เวลาชาร์จแบตฟื้นคืนชีพของโทรศัพย์ที่ทำทำว่าจะดับมาเป็นเวลานาน
พอเช็คอินเสร็จผมได้บร์อดดิ้งพาสใบนี้มา ราคาตั๋วที่ผมได้ได้มาคือ 480 บาท เนื่องในโอกาสฉลอง 48 ปีของบางกอกแอร์เวย์ครับ ราคาปกติเส้นทางนี้อยู่ที่ประมาณ 3890 บาท ราคาดังกล่าวยังไม่รวมภาษีสนามบินนะครับ ส่วนภาษีสนามบินของอู่ตะเภา บวกเพิ่มอีก 100 บาทครับผู้โดยสารส่วนใหญ่ในเส้นทางนี้จะเป็นชาวต่างชาติ
ได้เวลารอเครื่องตามสไตล์บางกอกแอร์เวย์ครับ มีน้ำและขนมให้ทานอร่อยๆด้วย
17.00 เครื่องมาเเล้ว แต่ขอโทษด้วยนะครับที่ไม่ได้ถ่ายภาพมาเพราะเป็นกฎของทางราชการ แต่อยากเล่าบรรยากาศให้ฟังว่าพอเครื่องกำลังถอยออกจากหลุมจอด พนักงานภาคพื้นก็รวมตัวกันโบกมือลา เพื่อส่งผู้โดยสาร ทำเอาซะซึ้งเลยย
พอเครื่องขึ้นได้สักพักก็เห็นบรรยากาศเป็นท้องทะเล แต่ผมก็ไม่มั่นใจว่าเกาะที่เห็นคือเกาะอะไร
พอเครื่องบินไต่ระดับได้สักพักก็มีพนักงานนำอาหารมาเสริฟ อร่อยใช้ได้เลยครับ ผมทานซะหมดเกลี้ยงเลยย เเล้วก็ตามมาด้วย น้ำส้ม ชา เช่นเคย
พอกินอิ่มแล้วก็นอนหลับ ตกใจตื่นขึ้นมาเครื่องของเราก็บินผ่าน เกาะพงันพร้อมกับเเสงสีส้มจากดวงอาทิตย์ที่ไกล้จะลับขอบฟ้าพอดี ผมก็ไม่พลาดที่จะถือโทรศัพย์ขึ้นมาถ่ายเก็บไว้
พอเครื่องแลนด์เสร็จเเล้วก็มีรถมารับแบบนี้ครับ บรรยากาศที่สมุยเป็น โอเพ่นแอร์ สวยมากๆอารมณ์ประมาณรีสอร์ทเลย
พอลงเครื่องเสร็จแล้วก็เดินออกมาหน้าสนามบินและด้วยความรู้สึกส่วนตัวที่ว่า ขึ้นรถจากสนามบินไปต้องเเพงเเน่ๆ เลยเดินออกไปที่สามแยกสนามบินอีกนิดหน่อยเเล้วไปเรียกรถตรงนั้น เลยเสียค่าเเท็กชี่ไป 100 บาท
พอถึงที่พักเราก็ไปจัดการเรื่องห้องพักที่จองไว้ก่อนอยู่เเล้วเป็นโฮสเทล พี่พนักงานต้อนรับใจดีมากกกเเนะนำทุกอย่างแถมยังลดค่าเรือให้อีกก คุยกันจนสนิทอย่างกับญาติ พักไม่ผิดที่จริงๆ เราจัดการจองไปสองคืน จ่ายไป สามร้อยยยบาท (มีประกันท่านละ200 บาทนะครับ)
ในขณะที่จัดการกับที่พักเสร็จเรียบร้อยเเล้ว ก็รอๆ เพื่อนที่กำลังนั่งเรือจากฝั่งสุราษธานีมาถึงสมุยโดยการคุยกับเพื่อนต่างชาติที่พักอยู่ในห้องก่อนหน้านี้เเล้วผุ้หญิงจากประเทศไหนไม่รู้ 2 คน กับชายวัยกลางคนชาวอาเจนตินาอีก 1 คน มิตรภาพมีอยู่จริง ฮ่าๆ ประทับใจมาก การพักโฮสเทลก้เหมือนกับการเปิดโอกาสให้ตัวเองเจอเพื่อนใหม่ๆ ฮ่าๆ ปลื้มๆ
เราไปกัน 4 คนเฉลี่ยนคน 140 บวกค่าน้ำมัน น้ำมันเหลือเฟือเลย
สำหรับตอนเช้าเราไปไหว้พระครับ ในรูปนี้มีประมาณ 3 วันครับ มีวัดพระใหญ่ วัดปลายแหลม ที่มีชื่อเสียงในเกาะสมุย ถือว่าเอาฤกษ์เอาชัย พร้อมกับเเวะชื้อตั๋วเรือไปเกาะพะงันด้วย
และตอนบ่ายก็ไป point view หินตา หินยาย กับน้ำตกหน้าเมือง ด้วยความที่พวกเราขี้งก!! อีกละ 555 ประหยัดเงิน เลยไม่ยอมขึ้นรถไปน้ำตกหน้าเมือง แต่ยอมเดินเอาความสดใสของวัยหนุ่มเข้าสู้มันไกลมากๆ ประมาณ 20 นาทีและมีความชันและไปไม่ถึง ถึงเเค่น้ำตกเล็กๆแบบที่เห็นบวกด้วยเหตุผลที่ว่าต้องกลับไปขึ้นเรือก่อน 16.00 น. เลยต้องรีบกลับกัน เสียใจ
เที่ยวไปเที่ยวมามองดูนาฬิกาอีกที 15.00 !! ต้องรีบกลับละครับเพราะเพื่อนต้องไปขึ้นเรือ 16.00 เพื่อไปพะงัน ลืมบอกไปครับ ค่าตั๋วเรือช้าไปพะงัน 100 บาทที่ท่าเรือบางรักนะครับที่เพื่อนต้องชื้อแบบนี้เพราะเขาจะกลับเข้าฝั่งสุราษธานีเลย เเละค่าเรือของผมคืออันนี้ที่พี่ที่พักลดราคาให้เเต่ขอไม่บอกว่าเท่าไหร่นะครับสำหรับรีวิวนี้ผมตีไปเลย 1000 บาท หลังจากขึ้นเรือแล้วจะได้ห้อยคอไว้(เดี่ยวหาย)เพราะเป็นไป-กลับ รับ-ส่งถึงที่พักเเละเป็นเรือสปีดโบ๊ท มีหลายรอบครับเลือกได้ตามสบาย ขากลับจากพะงันมาสมุยรอบสุดท้ายคือ 7.00น.
ผมออกจากที่พักประมาณ 18.00 ไปรอที่ท่าเรืออีกสักพัก 19.20 ถึงเกาะพะงันลงจากเรือจะได้จ่ายค่าเข้างาน100 บาทเเล้วจะได้ริชแบนนี้เป็นสิ่งตอบแทนครับ สวยๆเลย ผมชอบอยู่นะรู้สึกไม่เสียดาย 100 บาทเลย